ASTVผู้จัดการรายวัน – อายิฯ ชูนโยบายการตลาดเชิงรุกสวนกระแสเศรษฐกิจซบ ทุ่มงบ 500 ล้านบาท เดินหน้าขยายกำลังผลิต เบนเข็มลุยเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ปั้นคาลพิส แลคโตะ สินค้าเรือธง แทนกาแฟกระป๋องเบอร์ดี้ ชิงชิ้นเค้กเครื่องดื่มเพื่อความสดชื่น 1.4 หมื่นล้านบาท หวังปีแรกกวาดแชร์ 3-5%
นายพิเชียร คูสมิทธ์ กรรมการผู้จัดการบริหาร บริษัท อายิโนะโมะโต๊ะ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายกาแฟกระป๋องพร้อมดื่มเบอร์ดี้ ผลิตภัณฑ์ปรุงรสรสดีและเครื่องดื่มคาลพิส เปิดเผยว่า นโยบายปีนี้จะทำตลาดเชิงรุกท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นโอกาสทางการตลาด โดยทุ่มงบการตลาด 500 ล้านบาท ใกล้เคียงกับปีที่แล้ว มุ่งการใช้งบให้เกิดประสิทธิภาพมากขึ้น เน้นทำบีโลว์เดอะไลน์ และใช้สื่อโฆษณาเฉพาะเจาะจงแทนการใช้สื่อในวงกว้าง
ส่วนในแง่การออกสินค้าใหม่ปีนี้คงต้องระมัดระวังมากขึ้น โดยบริษัทเตรียมเปิดตัวสินค้าอีก 2 ตัว อย่างไรก็ตามผลประกอบการปีนี้ตั้งเป้าเติบโต 5% หรือ 18,900 ล้านบาท จากปีที่แล้ว 1.8 หมื่นล้านบาท เติบโตน้อยกว่า 10% แบ่งเป็นรายได้ กลุ่มเครื่องปรุงรส 50% กลุ่มเครื่องดื่ม 25% และที่เหลืออื่นๆ
ทั้งนี้บริษัทได้ทุ่มงบ 280 ล้านบาท แบ่งเป็นงบลงทุน 130 ล้านบาท ขยายกำลังการผลิตเครื่องดื่มเพิ่มขึ้นเท่าตัวที่บริษัท อายิโนะโมะโต๊ะ คาลพิส เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของบริษัทอายิโนะโมะโต๊ะ (ประเทศไทย) โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จอีก 1 ปี พร้อมกันนี้ยังได้จัดกลุ่มสินค้าใหม่ให้สินค้าเครื่องดื่มทุกประเภทยกเว้นกาแฟ เข้ามาอยู่ภายใต้ร่มธงของแบรนด์คาลพิส หลังจากก่อนหน้านี้เปิดตัวคาลพิส ฟิต ซีรี่ส์ ได้แก่ เบรนฟิต และสกินฟิต
ล่าสุดได้ทุ่มงบ 150 ล้านบาท เปิดตัวเครื่องดื่มคาลพิส แลคโตะ วางโพซิชันนิ่ง เครื่องดื่มรสนมเปรี้ยว ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีคู่แข่งทางตรง โดยเปิดตัวสินค้าลงตลาดเครื่องดื่มเพื่อความสดชื่นมูลค่า 1.4 หมื่นล้านบาท อาทิ เครื่องดื่มน้ำผลไม้ ชาพร้อมดื่ม และสปอร์ตดริงก์ ซึ่งปีนี้คาดว่าตลาดดังกล่าวเติบโต 10%
นายพิเชียร กล่าวว่า บริษัทวางให้คาลพิสเป็นสินค้าเรือธง ที่สร้างรายได้ในกลุ่มเครื่องดื่ม โดยปีแรกบริษัทได้ตั้งเป้ามีรายได้ไม่ถึง 10% จากรายได้รวมเครื่องดื่ม และภายใน 3 ปี รายได้ 1 ใน 4 ของกลุ่มเครื่องดื่ม จากปัจจุบันกาแฟกระป๋องพร้อมดื่มเบอร์ดี้เป็นสินค้าที่สร้างรายได้หลัก แต่การเติบโตเริ่มชะลอตัว อีกทั้งภาครัฐยังมีแนวทางจัดเก็บภาษีสรรพสามิตกาแฟพร้อมดื่ม ย่อมมีผลกระทบต่อราคาสินค้าที่ต้องปรับเพิ่มขึ้น และกระทบต่อการเติบโตของตลาดกาแฟกระป๋องพร้อมดื่มอย่างแน่นอน หลังจากเมื่อปีที่ผ่านมาต้นทุนเม็ดกาแฟ และบรรจุภัณฑ์กระป๋องปรับเพิ่มขึ้น เบอร์ดี้จึงได้ปรับราคากาแฟกระป๋องพร้อมดื่มจาก 12 บาท เป็น 13 บาท
ปัจจุบันเครื่องดื่มคาลพิสมีสินค้ากว่า 100 ชนิด ซึ่งภายใน 3 ปี บริษัทเปิดตัวสินค้าใหม่ 2 รายการ ล่าสุดเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาประชาสัมพันธ์ ดึงเต้ย-จรินทร์พร มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ โดยวางจำหน่ายขนาด 300 มล.ราคา 20 บาท
ทั้งนี้บริษัทตั้งเป้าหมายสินค้ากลุ่มคาลพิส ฟิต ซีรี่ส์ ได้แก่ เบรนฟิตและสกินฟิต มีส่วนแบ่งเพิ่มจาก 5% เป็น 10% ในตลาดฟังก์ชันนัลดริงก์ปีนี้ ส่วนเครื่องดื่มนมเปรี้ยวคาลพิส แลคโตะ ตั้งเป้ามีส่วนแบ่ง 3-5% ในตลาดเครื่องดื่มเพื่อความสดชื่น 1.4 หมื่นล้านบาท
นายพิเชียร คูสมิทธ์ กรรมการผู้จัดการบริหาร บริษัท อายิโนะโมะโต๊ะ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายกาแฟกระป๋องพร้อมดื่มเบอร์ดี้ ผลิตภัณฑ์ปรุงรสรสดีและเครื่องดื่มคาลพิส เปิดเผยว่า นโยบายปีนี้จะทำตลาดเชิงรุกท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นโอกาสทางการตลาด โดยทุ่มงบการตลาด 500 ล้านบาท ใกล้เคียงกับปีที่แล้ว มุ่งการใช้งบให้เกิดประสิทธิภาพมากขึ้น เน้นทำบีโลว์เดอะไลน์ และใช้สื่อโฆษณาเฉพาะเจาะจงแทนการใช้สื่อในวงกว้าง
ส่วนในแง่การออกสินค้าใหม่ปีนี้คงต้องระมัดระวังมากขึ้น โดยบริษัทเตรียมเปิดตัวสินค้าอีก 2 ตัว อย่างไรก็ตามผลประกอบการปีนี้ตั้งเป้าเติบโต 5% หรือ 18,900 ล้านบาท จากปีที่แล้ว 1.8 หมื่นล้านบาท เติบโตน้อยกว่า 10% แบ่งเป็นรายได้ กลุ่มเครื่องปรุงรส 50% กลุ่มเครื่องดื่ม 25% และที่เหลืออื่นๆ
ทั้งนี้บริษัทได้ทุ่มงบ 280 ล้านบาท แบ่งเป็นงบลงทุน 130 ล้านบาท ขยายกำลังการผลิตเครื่องดื่มเพิ่มขึ้นเท่าตัวที่บริษัท อายิโนะโมะโต๊ะ คาลพิส เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของบริษัทอายิโนะโมะโต๊ะ (ประเทศไทย) โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จอีก 1 ปี พร้อมกันนี้ยังได้จัดกลุ่มสินค้าใหม่ให้สินค้าเครื่องดื่มทุกประเภทยกเว้นกาแฟ เข้ามาอยู่ภายใต้ร่มธงของแบรนด์คาลพิส หลังจากก่อนหน้านี้เปิดตัวคาลพิส ฟิต ซีรี่ส์ ได้แก่ เบรนฟิต และสกินฟิต
ล่าสุดได้ทุ่มงบ 150 ล้านบาท เปิดตัวเครื่องดื่มคาลพิส แลคโตะ วางโพซิชันนิ่ง เครื่องดื่มรสนมเปรี้ยว ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีคู่แข่งทางตรง โดยเปิดตัวสินค้าลงตลาดเครื่องดื่มเพื่อความสดชื่นมูลค่า 1.4 หมื่นล้านบาท อาทิ เครื่องดื่มน้ำผลไม้ ชาพร้อมดื่ม และสปอร์ตดริงก์ ซึ่งปีนี้คาดว่าตลาดดังกล่าวเติบโต 10%
นายพิเชียร กล่าวว่า บริษัทวางให้คาลพิสเป็นสินค้าเรือธง ที่สร้างรายได้ในกลุ่มเครื่องดื่ม โดยปีแรกบริษัทได้ตั้งเป้ามีรายได้ไม่ถึง 10% จากรายได้รวมเครื่องดื่ม และภายใน 3 ปี รายได้ 1 ใน 4 ของกลุ่มเครื่องดื่ม จากปัจจุบันกาแฟกระป๋องพร้อมดื่มเบอร์ดี้เป็นสินค้าที่สร้างรายได้หลัก แต่การเติบโตเริ่มชะลอตัว อีกทั้งภาครัฐยังมีแนวทางจัดเก็บภาษีสรรพสามิตกาแฟพร้อมดื่ม ย่อมมีผลกระทบต่อราคาสินค้าที่ต้องปรับเพิ่มขึ้น และกระทบต่อการเติบโตของตลาดกาแฟกระป๋องพร้อมดื่มอย่างแน่นอน หลังจากเมื่อปีที่ผ่านมาต้นทุนเม็ดกาแฟ และบรรจุภัณฑ์กระป๋องปรับเพิ่มขึ้น เบอร์ดี้จึงได้ปรับราคากาแฟกระป๋องพร้อมดื่มจาก 12 บาท เป็น 13 บาท
ปัจจุบันเครื่องดื่มคาลพิสมีสินค้ากว่า 100 ชนิด ซึ่งภายใน 3 ปี บริษัทเปิดตัวสินค้าใหม่ 2 รายการ ล่าสุดเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาประชาสัมพันธ์ ดึงเต้ย-จรินทร์พร มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ โดยวางจำหน่ายขนาด 300 มล.ราคา 20 บาท
ทั้งนี้บริษัทตั้งเป้าหมายสินค้ากลุ่มคาลพิส ฟิต ซีรี่ส์ ได้แก่ เบรนฟิตและสกินฟิต มีส่วนแบ่งเพิ่มจาก 5% เป็น 10% ในตลาดฟังก์ชันนัลดริงก์ปีนี้ ส่วนเครื่องดื่มนมเปรี้ยวคาลพิส แลคโตะ ตั้งเป้ามีส่วนแบ่ง 3-5% ในตลาดเครื่องดื่มเพื่อความสดชื่น 1.4 หมื่นล้านบาท