โอสถสภา ชี้โพรงภาครัฐโขกภาษีชา-กาแฟพร้อมดื่ม ยันชูกำลังจัดเก็บภาษีเต็มเพดานแล้ว ระบุ ตลาดชูกำลังซบเซา หลังโรงงานแห่ปิดตัว ปรับตัวชะลอการทำตลาดครึ่งปีแรก รอเศรษฐกิจฟื้นครึ่งปีหลัง อัดงบเต็มสูบ สิ้นปีหวังดันยอดขายชูกำลังโต 2% หรือไม่โต
นายธัชรินทร์ โอสถานุเคราะห์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท โอสถสภา จำกัด เปิดเผยว่า จากการที่ภาครัฐวางแนวทางการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตเพิ่มขึ้น ในกลุ่มชา-กาแฟพร้อมดื่ม และเครื่องดื่มชูกำลัง ซึ่งมองว่าน่าจะจัดเก็บเพิ่มในส่วนของชาและกาแฟพร้อมดื่มมากกว่าเครื่องดื่มชูกำลัง เนื่องจากปัจจุบันเครื่องดื่มชูกำลังถูกจัดเก็บภาษีเต็มเพดานแล้ว ขณะที่ ชา กาแฟ ยังไม่มีการจัดเก็บภาษีสรรพสามิต
สำหรับแผนการทำตลาดปีนี้ บริษัทชะลอการใช้งบการตลาดในส่วนของสื่อโฆษณาตามโทรทัศน์ วิทยุ สิ่งพิมพ์ และหันมาให้ความสำคัญกับกิจกรรมการตลาดแทนในช่วงครึ่งปีแรก เนื่องจากพบว่า ในช่วง 2 เดือนแรกยอดขายกลุ่มเครื่องดื่มชูกำลังของโอสภา โดยภาพรวมยังคงเติบโตเท่ากับปีที่ผ่านมา แต่ก็มีบางพื้นที่บางแห่งตกลง เพราะอยู่ในเขตโรงงานที่ปิดตัวลง เช่น จังหวัดอยุธยา ส่งผลกระทบต่อยอดขายบ้างเล็กน้อย
นายธัชรินทร์ กล่าวว่า บริษัทจะดำเนินการตลาดเชิงรุกในช่วงครึ่งปีหลัง เนื่องจากมีแนวโน้มว่าภาวะเศรษฐกิจจะเริ่มมีสัญญาณที่ดีขึ้น โดยบริษัทใช้งบประมาณการตลาดอย่างเต็ม ทั้งนี้ เพื่อกระตุ้นตลาดและรองรับกับกำลังการซื้อ ตลอดจนอารมณ์ซื้อของผู้บริโภคที่กลับคืนมาอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับเป้าหมายยอดขายของกลุ่มเครื่องดื่มชูกำลังในปีนี้ คงเติบโตได้อย่างมากไม่เกิน 2% หรืออาจะไม่มีการเติบโตเลย
ล่าสุด ทุ่มงบกว่า 30 ล้านบาท เป็นผู้สนับสนุนหลักในรายการ “เกมกลยุทธ์ ปี 2” รายการแฝงสารประโยชน์ทั้งเรื่องแนวคิด กลยุทธ์การตลาดและความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งผู้เข้าแข่งขันจะต้องใช้ความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์ที่มีอยู่ เพื่อให้คนดูได้รับความรู้ทางด้านการตลาดสามารถนำไปประยุกต์ใช้แก้ไขวิกฤตต่างๆ กับการปฏิบัติงานได้จริง
สำหรับเป้าหมายการทำรายการเกมกลยุทธ์ ซึ่งนับว่าเป็นการทำซีเอสอาร์รูปแบบใหม่ ที่ผ่านการนำเสนอผ่านทางรายการเรียลิตี้โชว์สู่สายตาประชาชนทั่วทั้งประเทศ คาดว่าส่งเสริมภาพลักษณ์ของบริษัทโอสถสภาและสร้างการรับรู้ในวงกว้าง ในการเป็นบริษัทที่มีทันสมัย และมีสินค้าหลากหลายนอกเหนือจากยาและเครื่องดื่มชูกำลัง แต่ยังมีสินค้าอุปโภคบริโภคหลากหลายแบรนด์ อาทิ ทเวลฟ์พลัส เบบี้มายด์
นายธัชรินทร์ โอสถานุเคราะห์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท โอสถสภา จำกัด เปิดเผยว่า จากการที่ภาครัฐวางแนวทางการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตเพิ่มขึ้น ในกลุ่มชา-กาแฟพร้อมดื่ม และเครื่องดื่มชูกำลัง ซึ่งมองว่าน่าจะจัดเก็บเพิ่มในส่วนของชาและกาแฟพร้อมดื่มมากกว่าเครื่องดื่มชูกำลัง เนื่องจากปัจจุบันเครื่องดื่มชูกำลังถูกจัดเก็บภาษีเต็มเพดานแล้ว ขณะที่ ชา กาแฟ ยังไม่มีการจัดเก็บภาษีสรรพสามิต
สำหรับแผนการทำตลาดปีนี้ บริษัทชะลอการใช้งบการตลาดในส่วนของสื่อโฆษณาตามโทรทัศน์ วิทยุ สิ่งพิมพ์ และหันมาให้ความสำคัญกับกิจกรรมการตลาดแทนในช่วงครึ่งปีแรก เนื่องจากพบว่า ในช่วง 2 เดือนแรกยอดขายกลุ่มเครื่องดื่มชูกำลังของโอสภา โดยภาพรวมยังคงเติบโตเท่ากับปีที่ผ่านมา แต่ก็มีบางพื้นที่บางแห่งตกลง เพราะอยู่ในเขตโรงงานที่ปิดตัวลง เช่น จังหวัดอยุธยา ส่งผลกระทบต่อยอดขายบ้างเล็กน้อย
นายธัชรินทร์ กล่าวว่า บริษัทจะดำเนินการตลาดเชิงรุกในช่วงครึ่งปีหลัง เนื่องจากมีแนวโน้มว่าภาวะเศรษฐกิจจะเริ่มมีสัญญาณที่ดีขึ้น โดยบริษัทใช้งบประมาณการตลาดอย่างเต็ม ทั้งนี้ เพื่อกระตุ้นตลาดและรองรับกับกำลังการซื้อ ตลอดจนอารมณ์ซื้อของผู้บริโภคที่กลับคืนมาอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับเป้าหมายยอดขายของกลุ่มเครื่องดื่มชูกำลังในปีนี้ คงเติบโตได้อย่างมากไม่เกิน 2% หรืออาจะไม่มีการเติบโตเลย
ล่าสุด ทุ่มงบกว่า 30 ล้านบาท เป็นผู้สนับสนุนหลักในรายการ “เกมกลยุทธ์ ปี 2” รายการแฝงสารประโยชน์ทั้งเรื่องแนวคิด กลยุทธ์การตลาดและความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งผู้เข้าแข่งขันจะต้องใช้ความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์ที่มีอยู่ เพื่อให้คนดูได้รับความรู้ทางด้านการตลาดสามารถนำไปประยุกต์ใช้แก้ไขวิกฤตต่างๆ กับการปฏิบัติงานได้จริง
สำหรับเป้าหมายการทำรายการเกมกลยุทธ์ ซึ่งนับว่าเป็นการทำซีเอสอาร์รูปแบบใหม่ ที่ผ่านการนำเสนอผ่านทางรายการเรียลิตี้โชว์สู่สายตาประชาชนทั่วทั้งประเทศ คาดว่าส่งเสริมภาพลักษณ์ของบริษัทโอสถสภาและสร้างการรับรู้ในวงกว้าง ในการเป็นบริษัทที่มีทันสมัย และมีสินค้าหลากหลายนอกเหนือจากยาและเครื่องดื่มชูกำลัง แต่ยังมีสินค้าอุปโภคบริโภคหลากหลายแบรนด์ อาทิ ทเวลฟ์พลัส เบบี้มายด์