ASTVผู้จัดการรายวัน – อายิฯ ชูนโยบายบุกตลาดเครื่องดื่มไทย ลั่นกลองรบสมรภูมิฟังก์ชันนัลดริงก์ จ่อควักเครื่องดื่มโนว์ฮาวแดนปลาดิบ 1-2 ตัว ชิงชิ้นเค้กตลาด 2,000 ล้านบาท โหมโรงปั้นเบรนฟิต – สกินฟิต ต้นปี ส่งหนังโฆษณาสร้างการรับรู้ ลุยเครื่องดื่มอาหารสมองและผิวเต็มสูบ ด้านคาลพิส แลคโตะ งัดกลยุทธ์เซเลบริตี้ มาร์เก็ตติ้ง หวังเกิดการจดจำตราสินค้า
นายพิเชียร คูสมิทธิ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อายิโนะโมะโต๊ะ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายฟังกชันนัลดริงก์สกิน ฟิต และเบรน ฟิต เปิดเผยว่า แผนการตลาดกลุ่มเครื่องดื่มปีนี้ บริษัทเปิดตัวเครื่องดื่มฟังก์ชันนัลดริงก์ใหม่ 1-2 ตัว เนื่องจากเป็นตลาดที่มีศักยภาพและกำลังมาแรงจากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ใส่ใจสุขสภาพมากขึ้น
นอกจากนี้อายิโนะโมะโต๊ะในประเทศญี่ปุ่นยังมีโนว์ฮาวที่แข็งแกร่งในกลุ่มเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ จึงเป็นอีกตลาดหนึ่งที่บริษัทต้องให้ความสำคัญ ซึ่งในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา บริษัทได้เปิดตัวฟังก์ชันนัลดริงก์รูปแบบช็อท ภายใต้แบรนด์เบรนฟิต หรืออาหารเสริมบำรุงสมอง เป็นสินค้าตัวแรกที่ออกมานำร่องเมื่อปี 2551 จากนั้นได้เปิดตัวสกิน ฟิต อาหารเสริมบำรุงผิว ลงสู่ตลาด
ล่าสุดสำหรับกลุ่มสินค้าฟังก์ชันนัลดริงก์ ภายใต้ “คาลพิส ฟิต ซีรีส์” คือเบรนฟิต และ สกินฟิตได้เปิดภาพยนตร์โฆษณาประชาสัมพันธ์ใหม่ 2 เรื่อง เพื่อสร้างการรับรู้ในวงกว้างแก่กลุ่มเป้าหมายตั้งแต่ต้นปี พร้อมกันนี้ได้เปิดตัวพรีเซ็นเตอร์สกิน ฟิต “วุ้นเส้น -วิริฒิพา ภักดีประสงค์” เพื่อสื่อสารถึงการเป็นอาหารเสริมสำหรับผิวและป้อนความข้อมูลความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ และเบรนฟิต นำผู้ประกาศข่าวช่อง 3 “ไก่-ภาษิต อภิญญาวาท” มาเป็นพรีเซ็นเตอร์
นายพิเชียร กล่าวว่า สำหรับการทำตลาดสินค้าใหม่ๆ ของบริษัทอย่างน้อยต้องใช้งบการตลาด 150-200 ล้านบาท และการใช้เซเลบริตี้มาเป็นพรีเซ็นเตอร์
เป็นกลยุทธ์หนึ่งที่ช่วยทำให้ผู้บริโภคสามารถจดจำแบรนด์ได้เร็วขึ้น
สำหรับเครื่องดื่มคาลพิสในญี่ปุ่นบริษัทมีสินค้ากว่า 100 ชนิด ขณะที่สินค้าในเซกเมนต์เครื่องดื่มพร้อมดื่มอายิโนะโมะโต๊ะยังไม่ได้ทำตลาดเมืองไทย มีเพียงแต่ในเซกเมนต์ช็อท
อย่างไรก็ตามเมื่อปีที่ผ่านมาบริษัทตั้งเป้าหมายสินค้ากลุ่มคาลพิส ฟิต ซีรีส์ ได้แก่ เบรนฟิต และ สกินฟิต มีส่วนแบ่งเพิ่มจาก 5% เป็น 10%ในตลาดฟังก์ชันนัลดริงก์มูลค่า 2,000 ล้านบาท โดยปัจจุบันคู่แข่งในตลาดเบรนฟิต คือ เปปทีน ของบริษัทโอสถสภา ส่วนสกิน ฟิต มีคู่แข่งคือ ไอ เฮลติ คิวเท็นของบริษัทสหพัฒน์ และบิวติ ช็อท ภายใต้บริษัททรัพย์อนันต์
รายงานสภาพตลาดฟังก์ชันนัลดริงก์มูลค่า 2,000 ล้านบาท ในปีนี้มีแนวโน้มว่าตลาดจะมีอัตราการเติบโต 100% หรือมีมูลค่า 4,000 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมามูลค่าตลาด 800 ล้านบาท เติบโต 100% โดยแบ่งเป็นเซกเมนต์เครื่องดื่มพร้อมดื่ม 1,000 ล้านบาท และเครื่องดื่มรูปแบบช็อท 1,000 ล้านบาท โดยปัจจุบันเชปเป้ บิวติ ดริ้งค์ เป็นผู้นำตลาดครองส่วนแบ่ง 45% บีอิ้ง 20% และอะมิโน โอเค รั้งอันดับ
3 มีส่วนแบ่ง 15%
นายพิเชียร กล่าวต่อถึง เครื่องดื่มรสนมเปรี้ยว “คาลพิส แลคโตะ” ว่า หลังจากเปิดตัวมาเกือบ 1 ปี บริษัทใช้กลยุทธ์เซเลบริตี้ มาร์เก็ตติ้ง เพื่อสร้างการรับรู้ในวงกว้างและเกิดการจดจำแบรนด์ โดยได้นำ “เคน-ธีรเดช” มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ ซึ่งหลังจากเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์สินค้าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดยมียอดขายเพิ่มขึ้น
สำหรับเป้าหมายเครื่องดื่มรสนมเปรี้ยวคาลพิส แลคโตะ หวังมีส่วนแบ่ง 3-5% ในตลาดเครื่องดื่มเพื่อความสดชื่น 1.4 หมื่นล้านบาท ทั้งนี้นโยบายของบริษัทวางให้เครื่องดื่มคาลพิสเป็นสินค้าเรือธง ที่สร้างรายได้ในกลุ่มเครื่องดื่ม โดยปีแรกบริษัทได้ตั้งเป้ามีรายได้ไม่ถึง 10% จากรายได้รวมเครื่องดื่ม และภายใน 3 ปี รายได้ 1 ใน 4 ของกลุ่มเครื่องดื่ม
นายพิเชียร คูสมิทธิ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อายิโนะโมะโต๊ะ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายฟังกชันนัลดริงก์สกิน ฟิต และเบรน ฟิต เปิดเผยว่า แผนการตลาดกลุ่มเครื่องดื่มปีนี้ บริษัทเปิดตัวเครื่องดื่มฟังก์ชันนัลดริงก์ใหม่ 1-2 ตัว เนื่องจากเป็นตลาดที่มีศักยภาพและกำลังมาแรงจากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ใส่ใจสุขสภาพมากขึ้น
นอกจากนี้อายิโนะโมะโต๊ะในประเทศญี่ปุ่นยังมีโนว์ฮาวที่แข็งแกร่งในกลุ่มเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ จึงเป็นอีกตลาดหนึ่งที่บริษัทต้องให้ความสำคัญ ซึ่งในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา บริษัทได้เปิดตัวฟังก์ชันนัลดริงก์รูปแบบช็อท ภายใต้แบรนด์เบรนฟิต หรืออาหารเสริมบำรุงสมอง เป็นสินค้าตัวแรกที่ออกมานำร่องเมื่อปี 2551 จากนั้นได้เปิดตัวสกิน ฟิต อาหารเสริมบำรุงผิว ลงสู่ตลาด
ล่าสุดสำหรับกลุ่มสินค้าฟังก์ชันนัลดริงก์ ภายใต้ “คาลพิส ฟิต ซีรีส์” คือเบรนฟิต และ สกินฟิตได้เปิดภาพยนตร์โฆษณาประชาสัมพันธ์ใหม่ 2 เรื่อง เพื่อสร้างการรับรู้ในวงกว้างแก่กลุ่มเป้าหมายตั้งแต่ต้นปี พร้อมกันนี้ได้เปิดตัวพรีเซ็นเตอร์สกิน ฟิต “วุ้นเส้น -วิริฒิพา ภักดีประสงค์” เพื่อสื่อสารถึงการเป็นอาหารเสริมสำหรับผิวและป้อนความข้อมูลความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ และเบรนฟิต นำผู้ประกาศข่าวช่อง 3 “ไก่-ภาษิต อภิญญาวาท” มาเป็นพรีเซ็นเตอร์
นายพิเชียร กล่าวว่า สำหรับการทำตลาดสินค้าใหม่ๆ ของบริษัทอย่างน้อยต้องใช้งบการตลาด 150-200 ล้านบาท และการใช้เซเลบริตี้มาเป็นพรีเซ็นเตอร์
เป็นกลยุทธ์หนึ่งที่ช่วยทำให้ผู้บริโภคสามารถจดจำแบรนด์ได้เร็วขึ้น
สำหรับเครื่องดื่มคาลพิสในญี่ปุ่นบริษัทมีสินค้ากว่า 100 ชนิด ขณะที่สินค้าในเซกเมนต์เครื่องดื่มพร้อมดื่มอายิโนะโมะโต๊ะยังไม่ได้ทำตลาดเมืองไทย มีเพียงแต่ในเซกเมนต์ช็อท
อย่างไรก็ตามเมื่อปีที่ผ่านมาบริษัทตั้งเป้าหมายสินค้ากลุ่มคาลพิส ฟิต ซีรีส์ ได้แก่ เบรนฟิต และ สกินฟิต มีส่วนแบ่งเพิ่มจาก 5% เป็น 10%ในตลาดฟังก์ชันนัลดริงก์มูลค่า 2,000 ล้านบาท โดยปัจจุบันคู่แข่งในตลาดเบรนฟิต คือ เปปทีน ของบริษัทโอสถสภา ส่วนสกิน ฟิต มีคู่แข่งคือ ไอ เฮลติ คิวเท็นของบริษัทสหพัฒน์ และบิวติ ช็อท ภายใต้บริษัททรัพย์อนันต์
รายงานสภาพตลาดฟังก์ชันนัลดริงก์มูลค่า 2,000 ล้านบาท ในปีนี้มีแนวโน้มว่าตลาดจะมีอัตราการเติบโต 100% หรือมีมูลค่า 4,000 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมามูลค่าตลาด 800 ล้านบาท เติบโต 100% โดยแบ่งเป็นเซกเมนต์เครื่องดื่มพร้อมดื่ม 1,000 ล้านบาท และเครื่องดื่มรูปแบบช็อท 1,000 ล้านบาท โดยปัจจุบันเชปเป้ บิวติ ดริ้งค์ เป็นผู้นำตลาดครองส่วนแบ่ง 45% บีอิ้ง 20% และอะมิโน โอเค รั้งอันดับ
3 มีส่วนแบ่ง 15%
นายพิเชียร กล่าวต่อถึง เครื่องดื่มรสนมเปรี้ยว “คาลพิส แลคโตะ” ว่า หลังจากเปิดตัวมาเกือบ 1 ปี บริษัทใช้กลยุทธ์เซเลบริตี้ มาร์เก็ตติ้ง เพื่อสร้างการรับรู้ในวงกว้างและเกิดการจดจำแบรนด์ โดยได้นำ “เคน-ธีรเดช” มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ ซึ่งหลังจากเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์สินค้าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดยมียอดขายเพิ่มขึ้น
สำหรับเป้าหมายเครื่องดื่มรสนมเปรี้ยวคาลพิส แลคโตะ หวังมีส่วนแบ่ง 3-5% ในตลาดเครื่องดื่มเพื่อความสดชื่น 1.4 หมื่นล้านบาท ทั้งนี้นโยบายของบริษัทวางให้เครื่องดื่มคาลพิสเป็นสินค้าเรือธง ที่สร้างรายได้ในกลุ่มเครื่องดื่ม โดยปีแรกบริษัทได้ตั้งเป้ามีรายได้ไม่ถึง 10% จากรายได้รวมเครื่องดื่ม และภายใน 3 ปี รายได้ 1 ใน 4 ของกลุ่มเครื่องดื่ม