นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ขอบคุณครม.ที่ร่วมตอบคำถามในการ อภิปรายไม่ไว้วางใจฯ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา นายกฯเน้นให้ ครม.รับฟังข้อท้วงติงของพรรคฝ่ายค้านเพื่อนำมา ปรับใช้ในการปฏิบัติงาน และวันที่30มี.ค.นี้ รัฐบาลชุดนี้จะทำงานครบ 3 เดือน จึงขอให้ครม.ทบทวนความก้าวหน้าในการทำงานของแต่ละกระทรวงและให้เร่งรัดแก้ปัญหาวิกฤต เร่งช่วยประชาชนให้คลายความวิกฤต
รายงานข่าวแจ้งว่าในที่ประชุมครม.นายกรัฐมนตรียังขอให้ครม. สรุปผลการทำงานในรอบสามเดือนและหารือกับนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯในการ วางแผนประชาสัมพันธ์เพื่อแจ้งให้ประชาชนรับทราบว่า ผลการทำงานเป็นอย่างไร นโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลคืบหน้าเพียงใดด้วย โดยใช้สื่อของรัฐเผยแพร่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (24 มี.ค.) มีการประชุม ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ โดยมี นายชุมพล กาญจนะ ส.ส.สุราษฎร์ธานี ในฐานะประธาน ส.ส.เป็นประธานการประชุม
นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ในฐานะรองโฆษกพรรค แถลงว่า ที่ประชุมได้หารือถึงการลงคะแนนเสียงในญัตติอภิปราย ไม่ไว้ววางใจที่ผ่านมา โดย ส.ส.พรรคพอใจกับคะแนนที่ได้ทั้งหมด โดยเฉพาะคะแนน ของ นายกษิต ภิรมย์ รมว.การต่างประเทศ ที่ได้ 237 เสียง ซึ่งดีเกินคาดทั้งที่รัฐบาลควรจะได้คะแนน 234 เสียงเท่านั้น
ส่วนกรณีของนายเกียรติกร พากเพียรศิลป์ ส.ส.ปราจีนบุรี พรรคประชาธิปัตย์ซึ่งได้ประกาศลาออกจากวิปรัฐบาลหลังจากที่ได้งดออกสียงสนับสนุนนายกษิต ในที่ประชุมพรรคก็มีการพูดคุยถึงเช่นกัน โดยไม่มีการติดใจในการกระทำของ นายเกียรติกร เพราะถือเป็นเอกสิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญ โดยนายเกียรติกรได้ยืนยันว่ายังเห็นด้วยกับนโยบายของพรรคและรักพรรค แต่ได้รับการกดดันจากชาวบ้านในพื้นที่ จึงต้องงดออกเสียง
ส่วนกรณีของนายนาราชา สุวิทย์ ส.ส.สงขลาที่ขาดการประชุมในนัดการโหวต ลงคะแนนในการอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้น นายนาราชาไม่ได้ชี้แจงเหตุของการขาดการ ประชุมแต่ได้ยื่นใบลาการประชุมเป็นลายลักษณ์อักษรแล้ว ซึ่งที่ประชุมส่วนใหญ่ ไม่สบายใจ ทั้งนี้ต้องรอฟังผู้ใหญ่ของพรรคก่อน หลังจากที่ได้ดูเหตุผลในการขาดประชุมสภาฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีการขาดการลงมติไม่ไว้วางใจของนายนาราชา ถือเป็น เรื่องใหญ่ เพราะที่ผ่านมานายนาราชามักขาดการประชุมสภาฯและขาดการลงมติ อยู่เป็นประจำ ซึ่งได้มีการตักเตือนอยู่บ่อยครั้ง ทั้งนี้ กรณีดังกล่าวจะมีการหารือในระดับผู้ใหญ่ของพรรคอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม มาตรการของพรรคเบื้องต้น นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะเลขาธิการพรรค ได้ทำหนังสือตักเตือนเรื่องการขาดประชุมกับนายนาราชาเรียบร้อยแล้ว
ัดการ ส.ที่งดออกเสียงทำไมไม่ไปนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงภายหลังการประชุมใหญ่ สามัญประจำปีของพรรคว่า ที่ประชุม ได้มีการหารือกรณีที่ ส.ส.ของพรรคบางคน ใช้เอกสิทธิ์งดออกเสียงในการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีครั้งที่ผ่านมาโดยเห็นว่ากรณีดังกล่าว เป็นเจตนาของผู้ร่างรัฐธรรมนูญฉบับที่ไม่ต้องการ ให้พรรคการเมืองมีเอกภาพ ดังนั้นพรรคขอเรียกร้องนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ และพรรคร่วมรัฐบาล ให้ออกมา แสดงความจริงใจ ในการร่วมกันปฏิรูปการเมือง โดยแก้รัฐธรรมนูญในมาตราที่มีปัญหา
นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่าที่ประชุมจึงได้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมา 3 ชุด ประกอบด้วย 1.คณะกรรมการที่ดูแลเรื่องการอภิปรายในสภา 2.คณะกรรมการตรวจสอบ ข้อมูล เอกสาร และหลักฐาน และ3.คณะกรรมการดำเนินการ ร้องทุกข์กล่าวโทษ โดยนำผลการ อภิปรายไปขยายผล เพื่อพิจารณากรณีดังกล่าวต่อไป ทั้งนี้ ที่ประชุมได้มีการซักถามด้วยว่า มีการชักจูงจากพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ ซึ่งมีส.ส. 2-3 คน ได้ลุกขึ้น ชี้แจงว่า กรณีดังกล่าวเป็นเรื่องของบุญคุณและเป็นเรื่องเอกสิทธิ์ของส.ส. ตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งเรื่องนี้น่าจะได้ข้อยุติภายในสัปดาห์หน้า
ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคจะมีมาตรการบอยคอต 9 ส.ส.ของพรรค โดยไม่ให้ร่วม ประชุมหรือรับรู้เรื่องสำคัญๆ ของพรรคหรือไม่ นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า ขึ้นอยู่คณะกรรมการ 3 ชุดที่ตั้งขึ้นมาพิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการประชุมพรรคเพื่อไทย นายสุนัย จุลพงศธร ส.ส.สัดส่วน ที่งดลงมตินายชวรัตน์ กับนายบุญจง อ้างต่อที่ประชุมว่า เกิดจากรัฐธรรมนูญที่พิกลพิการ เปิดช่องให้ ส.ส.ใช้เอกสิทธิ์ในการลงมติ เพราะต้องการทำลายระบบพรรคการเมือง ส่งผลให้การลงมติสะเปะสะปะ แม้เสียงในรัฐบาลเองก็ไม่พึงพอใจ ขณะที่ฝ่ายค้านเองก็ยังตัดขาดจากฝ่ายที่ไป เข้าร่วมรัฐบาลไม่ได้เพราะยังมีความผูกพันกันอยู่
นายการุณ โหสกุล ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย กล่าวว่าในที่ประชุมพรรค ตนพร้อม ส.ส.ที่งดออกเสียงในญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย และนายบุญจงวงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย ได้ลุกขึ้นชี้แจงถึงเหตุผลต่อที่ประชุม โดยตนขอโทษต่อที่ประชุมในสิ่งที่ทำไป เพราะไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องร้ายแรง มารู้ทีหลังว่า พรรคมองว่าเป็นเรื่องที่ร้ายแรงสำหรับพรรค ซึ่งมีส.ส.ในพรรคบางส่วนลุกขึ้น ติเตียน แต่สุดท้ายก็เข้าใจดีว่าเป็นเหตุผลเฉพาะบุคคล และตนคงไม่มีอะไรแก้ตัว
เมื่อวันที่ 22 มี.ค.ที่ผ่านมาผมได้โทรศัพท์ไปหา ท่านอดีตนายกฯทักษิณ เพราะทราบว่าท่านไม่สบายใจกับเรื่องดังกล่าวมาก ซึ่ง ท่านได้สอบถาม ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด เท่าที่ฟังน้ำเสียงก็รู้สึกได้ว่าท่านโกรธ แต่ก็ไม่ได้กล่าวตำหนิอะไร
นายการุณ กล่าวว่าตนสนิทกับนายเนวิน ชิดชอบ แกนนำกลุ่มเพื่อนเนวิน ซึ่งหากมองในแง่ของอนาคตตนอาจเป็นตัวแทนหรือเป็นทูตตัวเล็กคอยประสานงาน เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างพรรคเพื่อไทยกับกลุ่มของนายเนวินให้ทำงานร่วมกันก็ได้
พ.ต.ท.สมชาย เพศประเสริฐ ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการ เรียกร้องให้ร.ต.ปรพล อดิเรกสาร ส.ส.สระบุรี พรรคเพื่อไทย แสดงความเป็น ลูกผู้ชายโดยลาออกจากการเป็น ส.ส.แล้วไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทยว่า ร.ต.ปรพลน่าจะ ลาออกจากการเป็นส.ส.เพื่อไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทยจะได้ทำงานอย่างเต็มที่ไม่ต้องมาเป็นอีแอบอยู่แบบนี้
ถ้า ร.ต.ปรพลเป็นลูกผู้ชายพอก็อย่าให้ตระกูลต้องเสียหายจากการกระทำของตัวเอง และเชื่อว่าถ้าหากลาออกสมาชิกพรรคเพื่อไทยก็จะปรบมือให้ด้วย อย่าทำตัวอย่างหนาตราช้างอยู่แบบนี้
ผู้สื่อข่าวถามว่า ส.ส.ที่ยังไม่แสดงตัวเป็นอีแอบแต่โหวตงดออกเสียงจะมีการ ดำเนินการอย่างไร พ.ต.ท.สมชาย กล่าวว่าคนอื่นๆ นั้นคณะกรรมการบริหารพรรคอยู่ระหว่างการ พิจารณา ซึ่งหลายคนให้เหตุผลก็พอรับฟังได้
ด้าน ร.ต.ปรพล อดิเรกสาร ส.ส.สระบุรี พรรคเพื่อไทย กล่าวตอบโต้ พ.ต.ท.สมชาย ว่าคนที่ออกมาพูดแบบนี้เป็นคนที่ไม่เคยอ่านรัฐธรรมนูญ และตนไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องลาออก เมื่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 162 ก็ระบุไว้ชัดเจนว่า ให้เอกสิทธิ์ส.ส.ในการโหวดอภิปราย และก็ไม่มีรัฐธรรมนูญข้อไหนเขียนว่า หากไม่ทำตามมติพรรคแล้วจะต้องลาออก อีกทั้งตนไม่ใช่อีแอบ เพราะเปิดเผยมาตั้งแต่แรกแล้วว่าจะอยู่กับพรรคภูมิใจไทย ซึ่งพ.ต.ท.สมชาย ไม่มีสิทธิ์ ที่จะมาไล่ตนออก เพราะได้รับเลือกมาจากประชาชน และพ.ต.ท.สมชาย ก็ไม่ใช่คนสระบุรี จึงไม่มีสิทธิ์ที่จะมาวิพากษ์วิจารณ์ตนด้วยซ้ำ
คนที่งดออกเสียงในพรรคเพื่อไทยมีอีก 9 คน ทำไมไม่ไปไล่เขาบ้าง และการที่ ส.ส.ออกมาแบบนี้ คนในพรรคก็รู้ๆ กันอยู่ว่าเพราะอะไร ทำไมไม่ดูตัวเองบ้าง เคยถามคนในพรรคเพื่อไทยหรือไม่ว่ามีปัญหาอย่างไรบ้าง ดีกว่าจะออกมาว่าคนอื่น
รายงานข่าวแจ้งว่าในที่ประชุมครม.นายกรัฐมนตรียังขอให้ครม. สรุปผลการทำงานในรอบสามเดือนและหารือกับนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯในการ วางแผนประชาสัมพันธ์เพื่อแจ้งให้ประชาชนรับทราบว่า ผลการทำงานเป็นอย่างไร นโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลคืบหน้าเพียงใดด้วย โดยใช้สื่อของรัฐเผยแพร่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (24 มี.ค.) มีการประชุม ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ โดยมี นายชุมพล กาญจนะ ส.ส.สุราษฎร์ธานี ในฐานะประธาน ส.ส.เป็นประธานการประชุม
นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ในฐานะรองโฆษกพรรค แถลงว่า ที่ประชุมได้หารือถึงการลงคะแนนเสียงในญัตติอภิปราย ไม่ไว้ววางใจที่ผ่านมา โดย ส.ส.พรรคพอใจกับคะแนนที่ได้ทั้งหมด โดยเฉพาะคะแนน ของ นายกษิต ภิรมย์ รมว.การต่างประเทศ ที่ได้ 237 เสียง ซึ่งดีเกินคาดทั้งที่รัฐบาลควรจะได้คะแนน 234 เสียงเท่านั้น
ส่วนกรณีของนายเกียรติกร พากเพียรศิลป์ ส.ส.ปราจีนบุรี พรรคประชาธิปัตย์ซึ่งได้ประกาศลาออกจากวิปรัฐบาลหลังจากที่ได้งดออกสียงสนับสนุนนายกษิต ในที่ประชุมพรรคก็มีการพูดคุยถึงเช่นกัน โดยไม่มีการติดใจในการกระทำของ นายเกียรติกร เพราะถือเป็นเอกสิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญ โดยนายเกียรติกรได้ยืนยันว่ายังเห็นด้วยกับนโยบายของพรรคและรักพรรค แต่ได้รับการกดดันจากชาวบ้านในพื้นที่ จึงต้องงดออกเสียง
ส่วนกรณีของนายนาราชา สุวิทย์ ส.ส.สงขลาที่ขาดการประชุมในนัดการโหวต ลงคะแนนในการอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้น นายนาราชาไม่ได้ชี้แจงเหตุของการขาดการ ประชุมแต่ได้ยื่นใบลาการประชุมเป็นลายลักษณ์อักษรแล้ว ซึ่งที่ประชุมส่วนใหญ่ ไม่สบายใจ ทั้งนี้ต้องรอฟังผู้ใหญ่ของพรรคก่อน หลังจากที่ได้ดูเหตุผลในการขาดประชุมสภาฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีการขาดการลงมติไม่ไว้วางใจของนายนาราชา ถือเป็น เรื่องใหญ่ เพราะที่ผ่านมานายนาราชามักขาดการประชุมสภาฯและขาดการลงมติ อยู่เป็นประจำ ซึ่งได้มีการตักเตือนอยู่บ่อยครั้ง ทั้งนี้ กรณีดังกล่าวจะมีการหารือในระดับผู้ใหญ่ของพรรคอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม มาตรการของพรรคเบื้องต้น นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะเลขาธิการพรรค ได้ทำหนังสือตักเตือนเรื่องการขาดประชุมกับนายนาราชาเรียบร้อยแล้ว
ัดการ ส.ที่งดออกเสียงทำไมไม่ไปนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงภายหลังการประชุมใหญ่ สามัญประจำปีของพรรคว่า ที่ประชุม ได้มีการหารือกรณีที่ ส.ส.ของพรรคบางคน ใช้เอกสิทธิ์งดออกเสียงในการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีครั้งที่ผ่านมาโดยเห็นว่ากรณีดังกล่าว เป็นเจตนาของผู้ร่างรัฐธรรมนูญฉบับที่ไม่ต้องการ ให้พรรคการเมืองมีเอกภาพ ดังนั้นพรรคขอเรียกร้องนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ และพรรคร่วมรัฐบาล ให้ออกมา แสดงความจริงใจ ในการร่วมกันปฏิรูปการเมือง โดยแก้รัฐธรรมนูญในมาตราที่มีปัญหา
นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่าที่ประชุมจึงได้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมา 3 ชุด ประกอบด้วย 1.คณะกรรมการที่ดูแลเรื่องการอภิปรายในสภา 2.คณะกรรมการตรวจสอบ ข้อมูล เอกสาร และหลักฐาน และ3.คณะกรรมการดำเนินการ ร้องทุกข์กล่าวโทษ โดยนำผลการ อภิปรายไปขยายผล เพื่อพิจารณากรณีดังกล่าวต่อไป ทั้งนี้ ที่ประชุมได้มีการซักถามด้วยว่า มีการชักจูงจากพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ ซึ่งมีส.ส. 2-3 คน ได้ลุกขึ้น ชี้แจงว่า กรณีดังกล่าวเป็นเรื่องของบุญคุณและเป็นเรื่องเอกสิทธิ์ของส.ส. ตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งเรื่องนี้น่าจะได้ข้อยุติภายในสัปดาห์หน้า
ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคจะมีมาตรการบอยคอต 9 ส.ส.ของพรรค โดยไม่ให้ร่วม ประชุมหรือรับรู้เรื่องสำคัญๆ ของพรรคหรือไม่ นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า ขึ้นอยู่คณะกรรมการ 3 ชุดที่ตั้งขึ้นมาพิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการประชุมพรรคเพื่อไทย นายสุนัย จุลพงศธร ส.ส.สัดส่วน ที่งดลงมตินายชวรัตน์ กับนายบุญจง อ้างต่อที่ประชุมว่า เกิดจากรัฐธรรมนูญที่พิกลพิการ เปิดช่องให้ ส.ส.ใช้เอกสิทธิ์ในการลงมติ เพราะต้องการทำลายระบบพรรคการเมือง ส่งผลให้การลงมติสะเปะสะปะ แม้เสียงในรัฐบาลเองก็ไม่พึงพอใจ ขณะที่ฝ่ายค้านเองก็ยังตัดขาดจากฝ่ายที่ไป เข้าร่วมรัฐบาลไม่ได้เพราะยังมีความผูกพันกันอยู่
นายการุณ โหสกุล ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย กล่าวว่าในที่ประชุมพรรค ตนพร้อม ส.ส.ที่งดออกเสียงในญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย และนายบุญจงวงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย ได้ลุกขึ้นชี้แจงถึงเหตุผลต่อที่ประชุม โดยตนขอโทษต่อที่ประชุมในสิ่งที่ทำไป เพราะไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องร้ายแรง มารู้ทีหลังว่า พรรคมองว่าเป็นเรื่องที่ร้ายแรงสำหรับพรรค ซึ่งมีส.ส.ในพรรคบางส่วนลุกขึ้น ติเตียน แต่สุดท้ายก็เข้าใจดีว่าเป็นเหตุผลเฉพาะบุคคล และตนคงไม่มีอะไรแก้ตัว
เมื่อวันที่ 22 มี.ค.ที่ผ่านมาผมได้โทรศัพท์ไปหา ท่านอดีตนายกฯทักษิณ เพราะทราบว่าท่านไม่สบายใจกับเรื่องดังกล่าวมาก ซึ่ง ท่านได้สอบถาม ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด เท่าที่ฟังน้ำเสียงก็รู้สึกได้ว่าท่านโกรธ แต่ก็ไม่ได้กล่าวตำหนิอะไร
นายการุณ กล่าวว่าตนสนิทกับนายเนวิน ชิดชอบ แกนนำกลุ่มเพื่อนเนวิน ซึ่งหากมองในแง่ของอนาคตตนอาจเป็นตัวแทนหรือเป็นทูตตัวเล็กคอยประสานงาน เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างพรรคเพื่อไทยกับกลุ่มของนายเนวินให้ทำงานร่วมกันก็ได้
พ.ต.ท.สมชาย เพศประเสริฐ ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการ เรียกร้องให้ร.ต.ปรพล อดิเรกสาร ส.ส.สระบุรี พรรคเพื่อไทย แสดงความเป็น ลูกผู้ชายโดยลาออกจากการเป็น ส.ส.แล้วไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทยว่า ร.ต.ปรพลน่าจะ ลาออกจากการเป็นส.ส.เพื่อไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทยจะได้ทำงานอย่างเต็มที่ไม่ต้องมาเป็นอีแอบอยู่แบบนี้
ถ้า ร.ต.ปรพลเป็นลูกผู้ชายพอก็อย่าให้ตระกูลต้องเสียหายจากการกระทำของตัวเอง และเชื่อว่าถ้าหากลาออกสมาชิกพรรคเพื่อไทยก็จะปรบมือให้ด้วย อย่าทำตัวอย่างหนาตราช้างอยู่แบบนี้
ผู้สื่อข่าวถามว่า ส.ส.ที่ยังไม่แสดงตัวเป็นอีแอบแต่โหวตงดออกเสียงจะมีการ ดำเนินการอย่างไร พ.ต.ท.สมชาย กล่าวว่าคนอื่นๆ นั้นคณะกรรมการบริหารพรรคอยู่ระหว่างการ พิจารณา ซึ่งหลายคนให้เหตุผลก็พอรับฟังได้
ด้าน ร.ต.ปรพล อดิเรกสาร ส.ส.สระบุรี พรรคเพื่อไทย กล่าวตอบโต้ พ.ต.ท.สมชาย ว่าคนที่ออกมาพูดแบบนี้เป็นคนที่ไม่เคยอ่านรัฐธรรมนูญ และตนไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องลาออก เมื่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 162 ก็ระบุไว้ชัดเจนว่า ให้เอกสิทธิ์ส.ส.ในการโหวดอภิปราย และก็ไม่มีรัฐธรรมนูญข้อไหนเขียนว่า หากไม่ทำตามมติพรรคแล้วจะต้องลาออก อีกทั้งตนไม่ใช่อีแอบ เพราะเปิดเผยมาตั้งแต่แรกแล้วว่าจะอยู่กับพรรคภูมิใจไทย ซึ่งพ.ต.ท.สมชาย ไม่มีสิทธิ์ ที่จะมาไล่ตนออก เพราะได้รับเลือกมาจากประชาชน และพ.ต.ท.สมชาย ก็ไม่ใช่คนสระบุรี จึงไม่มีสิทธิ์ที่จะมาวิพากษ์วิจารณ์ตนด้วยซ้ำ
คนที่งดออกเสียงในพรรคเพื่อไทยมีอีก 9 คน ทำไมไม่ไปไล่เขาบ้าง และการที่ ส.ส.ออกมาแบบนี้ คนในพรรคก็รู้ๆ กันอยู่ว่าเพราะอะไร ทำไมไม่ดูตัวเองบ้าง เคยถามคนในพรรคเพื่อไทยหรือไม่ว่ามีปัญหาอย่างไรบ้าง ดีกว่าจะออกมาว่าคนอื่น