xs
xsm
sm
md
lg

“เพื่อแม้ว” สั่นคลอน ตัวเลขรายรับปี 51 ติดลบ เทียบรายจ่ายสูงลิ่ว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พร้อมพงษ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย
“เพื่อไทย” ประชุมใหญ่สามัญประจำปี รับทราบงบดุลปี 51 พบขาดสภาพคล่องหนัก มีรายรับติดลบ ทั้งที่รายจ่ายสูงลิ่ว “พร้อมพงศ์” เผยตั้งกรรมการ 3 ชุด เอาผิด ส.ส.งูเห่า เบี่ยงเบนประเด็นกล่าวหาผิดที่รัฐธรรมนูญให้สิทธิ์ ส.ส.มากเกินไป จี้เร่งแก้รัฐธรรมนูญ พร้อมเล็งดึงข้อมูลอภิปรายยื่นตรวจสอบรัฐบาล

วันนี้ (24 มี.ค.) ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงภายหลังการประชุมใหญ่สามัญประจำปีของพรรค ว่า นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เป็นประธานในการประชุม พร้อมด้วยรองหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค และสมาชิกพรรคร่วมประชุมเกินกึ่งหนึ่งตามที่กฎหมายกำหนด เพื่อพิจารณาเรื่องรับรองงบดุลปี 2551 รับรองการตั้งผู้ตรวจสอบบัญชี 2551 และรับรองการดำเนินการแผนปี 2552-2553 ทั้งนี้ ได้มีการหารือกรณีที่ ส.ส.ของพรรคบางคนใช้เอกสิทธิ์งดออกเสียงในการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีครั้งที่ผ่านมาด้วย ซึ่งแสดงให้เห็นเจตนาของผู้ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ขึ้นมา ดังนั้นพรรคขอเรียกร้อง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ และพรรคร่วมรัฐบาล ให้ออกมาแสดงความจริงใจในการร่วมกันปฏิรูปการเมือง โดยแก้รัฐธรรมนูญในมาตราที่มีปัญหา เนื่องจากวันนี้เราเห็นจุดอ่อนแล้วก็ต้องรีบหาทางแก้ไขเพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้ ไม่อย่างนั้นการเมืองก็จะยิ่งอ่อนแอลง

นายพร้อมพงศ์ กล่าวอีกว่า เหตุการณ์ดังกล่าวไม่ได้เกิดกับพรรคเพื่อไทยเพียงพรรคเดียว พรรคประชาธิปัตย์เองก็มีเช่นกัน ตรงนี้เป็นผลพวงจากรัฐธรรมนูญปี 2550 ที่เกิดจากคมช. เป็นกับดักทางการเมือง ซึ่งที่ประชุมมีการพูดคุยกันด้วยเหตุด้วยผล โดยส.ส.บางท่านได้พูดคุยเพื่อทำความเข้าใจ แสดงความบริสุทธิ์ใจ ซึ่งถือว่าเป็นบทเรียนทางประวัติศาสตร์ ทั้งนี้ที่ประชุมจึงได้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมา 3 ชุด ประกอบด้วย 1.คณะกรรมการที่ดูแลเรื่องการอภิปรายในสภา 2.คณะกรรมการตรวจสอบข้อมูล เอกสาร และหลักฐาน และ 3.คณะกรรมการดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษ โดยนำผลการอภิปรายไปขยายผล เพื่อพิจารณากรณีดังกล่าวต่อไป ทั้งนี้ ที่ประชุมได้มีการซักถามด้วยว่า มีการชักจูงจากพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ ซึ่งมีส.ส. 2-3 คนได้ลุกขึ้นชี้แจงว่า กรณีดังกล่าวเป็นเรื่องของบุญคุณและเป็นเรื่องเอกสิทธิ์ของส.ส.ตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งเรื่องนี้น่าจะได้ข้อยุติภายในสัปดาห์หน้า

ส่วนกรณีที่มีการเสนอให้สถาบันพระปกเกล้าฯเป็นเจ้าภาพในการดำเนินการก่อนหน้านี้นั้น นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า มีการแอบพบกันของคน 3 กลุ่มเมื่อวันที่ 20 ก.พ.ที่ผ่านมา ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ซึ่งแสดงให้เห็นเจตนาหรือจิตที่ไม่บริสุทธิ์ตั้งแต่ต้น แล้วจะให้ฝ่ายค้านไปเออออห่อหมกด้วยได้อย่างไร ดังนั้นจะต้องมีความเป็นกลาง และให้พรรคการเมืองมีส่วนร่วม

ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคจะมีมาตรการบอยคอต 9 ส.ส.ของพรรค โดยไม่ให้ร่วมประชุมหรือรับรู้เรื่องสำคัญๆ ของพรรคหรือไม่ นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า ขึ้นอยู่คณะกรรมการ 3 ชุดที่ตั้งขึ้นมาพิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมใหญ่สามัญประจำปีของพรรคเพื่อไทยในวันที่ 24 มี.ค.ใช้ชื่อว่า “เพื่อไทย…เพื่ออนาคตประเทศไทย” โดยมี นายยงยุทธ เป็นประธานการประชุม มีคณะผู้บริหารพรรค ประธาน ส.ส.ภาคต่างๆ และสมาชิกพรรคเข้าร่วมประชุม ประมาณ 300 คน ทั้งนี้นายพายัพ ชินวัตร น้องชาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมาร่วมประชุมด้วย นอกจากนี้ ที่ประชุมยังมีการเปิดวิดีโอพรีเซ็นเตชันแนะนำจุดยืน แนวทางนโยบายของพรรคในการกอบกู้วิกฤตของชาติด้วย โดยย้ำว่าพรรคเพื่อไทยเป็นพรรคเพื่อประชาชน มีความมั่นคง แข็งแรง พร้อมทุกด้าน ซึ่งมีความยาวประมาณ 6 นาที

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ก่อนเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุมนั้น นายยงยุทธ ได้กล่าวขอบคุณสมาชิกที่ทำหน้าที่ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ รวมทั้งรองประธานสภาผู้แทนราษฎรทั้ง 2 คนที่ทำหน้าที่ได้อย่างราบรื่นสมบูรณ์ รวมทั้งยังขอบคุณ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้รับผิดชอบการอภิปรายครั้งนี้ด้วย รวมทั้งทีมอภิปรายทุกคน โดยระบุด้วยว่า พรรครู้สึกภาคภูมิใจในการทำหน้าที่ รวมถึง นายวิทยา บุรณศิริ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน(วิปฝ่ายค้าน)ที่ทำหน้าที่ด้วยความยากลำบาก แต่ทุกอย่างก็ผ่านพ้นได้ด้วยดี ขอบคุณทีมงาน ฝ่ายกฎหมาย และฝ่ายวิชาการ รวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้องด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ที่ประชุมมีมติรับรองรายงานการประชุมใหญ่วิสามัญของพรรค รวมทั้งรับรองงบดุลการเงินปี 2551 รายงานการดำเนินกิจการของพรรคในรอบปี 2551 ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 แผนการดำเนินงานของพรรคในปี 2553 ตามที่กฎหมายกำหนด สำหรับการสรุปงบนั้น รายรับซึ่งเป็นเงินบริจาคทั้งสิ้นจำนวน 300,000 บาท รวมดอกเบี้ย 548.42 บาท ส่วนยอดค่าใช้จ่ายทั้งสิ้นจำนวน 3,060,862.18 บาท เท่ากับว่า รายรับต่ำกว่าค่าใช้จ่าย 2,760,313.76 บาท
กำลังโหลดความคิดเห็น