ASTVผู้จัดการรายวัน - “ไอเดียล แอพโพรช” เขย่าวงการตลาดเครื่องสำอางครั้งใหญ่ เปิดตัว “วิคเตอเรีย แจ็คสัน” ทุ่ม 15 ล้านบาททำตลาด หวังยอดขายปีแรก 100 ล้านบาท ผ่านช่องทางการขายรูปแบบใหม่ Exclusive Membership Program
นางสาวอิสรีย์ สุขสัมฤทธิ์ ผู้จัดการทั่วไป แผนกผลิตภัณฑ์ความงาม บริษัท ไอเดียล แอพโพรช จำกัด ผู้ทำตลาดผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางแบรนด์ “วิคเตอร์เรีย แจ็คสัน” เปิดเผยว่า บริษัทได้นำเข้าเครื่องสำอาง “วิคเตอร์เรีย แจ็คสัน” Victoria Jackson ซึ่งเป็นเครื่องสำอางชั้นนำจากอเมริกา ด้วยเมคอัพคอลเลคชั่นใหม่ กับสไตล์การแต่งหน้าสวยใสสไตล์ธรรมชาติ “no makeup-makeup” เพื่อตอบสนองความต้องการให้กับผู้หญิงไทยทุกคน ด้วยคุณสมบัติพิเศษไม่เหมือนใคร กับแพคเกจจิ้งดีไซน์ทันสมัย พกพาได้สะดวก ซึ่งจะทำให้สาวไทยสวยพร้อมความมั่นใจได้ทุกที่ทุกเวลา และทุกขั้นตอนใน 1 เดียวกับ ““วิคตอร์เรีย แจ็คสัน เซอร์ไววัล คิต”
“วิคเตอร์เรีย แจ็คสัน” เป็นเมคอัพอาร์ติสชื่อดังที่เหล่าดาราฮอลลีวู้ดให้การยอมรับมามากกว่า 15 ปี ด้วยการแต่งหน้าสวยสไตล์ธรรมชาติ ซึ่งเธอได้พัฒนาเครื่องสำอางภายใต้แบรนด์ชื่อของเธอ ซึ่งเป็นที่ยอมรับและได้รับความนิยมมากในอเมริกา รวมทั้งเป็นผู้บุกเบิกการขายสินค้าทาง TV จึงทำให้เครื่องสำอางแบรนด์ “วิคเตอร์เรีย แจ็คสัน” ตั้งแต่ปี 1989 ทำให้ยอดขายพุ่งขึ้นกว่า 500 ล้านดอลล่าร์ ทั้งในอเมริกาและตลาดต่างประเทศด้วย
“ในการทำตลาดของ “วิคเตอเรีย แจ็คสัน” ในเมืองไทย เราใช้งบทำตลาดในครั้งแรก 15 ล้านบาท พร้อมใช้กลยุทธ์ในการขายแบบ Exclusive Membership Program คือ การจำหน่ายจากการเชิญ และการแนะนำต่อ “Word Of Mount” ซึ่งขณะนี้เป็นที่นิยมใช้กันในประเทศอเมริกาและประเทศในแถบยุโรปโดย เฉพาะประเทศอังกฤษ และจะทำให้ราคาสินค้าของ วิคเตอเรีย แจ็คสัน ถูกกว่าสินค้าเคาน์เตอร์ แบรนด์กว่า 50% โดยในปีแรกบริษัทได้ตั้งเป้าหมายยอดขายไว้ที่ 100 ล้านบาท และในปีต่อไปค่าว่าจะมีอัตราการเติบโตไม่ต่ำกว่า 10-20 % เพราะเรามั่นใจในคุณภาพ และดีไซน์ของผลิตภัณฑ์ของ วิคเตอเรีย แจ็คสัน”
นางสาวอิสรีย์ กล่าวต่อไปว่า จากเศรษฐกิจที่ชะลอตัวเป็นผลมาจากปัจจัยลบในหลายด้าน และกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ถดถอย เหตุผลดังกล่าวทำให้ผู้บริโภคจำเป็นต้องเลือกซื้อสินค้าที่ประหยัดและเหมาะสมมากขึ้น โดยเฉพาะสินค้าฟุ่มเฟือยในกลุ่มเสริมความงาม ที่แม้ว่ายอดขายโดยรวมของธุรกิจนี้จะไม่ตก หากแต่สินค้าเครื่องสำอางในกลุ่มพรีเมี่ยมหรือเคาน์เตอร์แบรนด์กลับมีการเติบโตที่ลดลง เนื่องจากผู้บริโภคมีการปรับเปลี่ยนใช้สินค้าแบรนด์ที่มีราคาถูกลง หรือการสวิตชิ่งแบรนด์ ซึ่งตรงจุดนี้เองทำให้เราเล็งเห็นช่องทางที่น่าเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยอย่างจริงจัง ภายใต้แบรนด์ วิคเตอเรีย แจ็คสัน
สำหรับตลาดเครื่องสำอางในปัจจุบัน มีความหลากหลาย และมีการแข่งขันที่สูงขึ้น ด้วยมูลค่าตลาดรวมไม่ต่ำกว่า 30,000 ล้านบาท โดยในกลุ่มพรีเมียมในช่วงครึ่งปี 2551 (มกราคม-มิถุนายน) มีการเติบโตเพียง 4% เท่านั้น เพราะการซื้อสินค้าที่ลดลง โดยปัจจุบันมูลค่าตลาดเครื่องสำอางกลุ่มพรีเมียม มีมูลค่าสูงถึง 20,000 ล้านบาท แบ่งเป็นสินค้าสกินแคร์ 9,000 ล้านบาท ส่วนที่เหลืออีก 11,000 ล้านบาท เป็นกลุ่มเมกอัพและผลิตภัณฑ์น้ำหอม ขณะที่กลุ่มเครื่องสำอางขายตรงนั้นคาดว่าจะมีการเติบโตมากกว่า 10% เนื่องจากความต้องการของลูกค้าในตลาดมีสูงโดย เฉพาะในช่วงเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ซึ่งลูกค้าต้องการสินค้าที่ราคาถูกลง แต่ต้องการคุณภาพเท่าเดิม ซึ่งคาดว่าการเติบโตของสินค้ากลุ่มดังกล่าวยังคงมีอย่างต่อเนื่อง เหตุผลคือคนยังรักสวยรักงาม แม้ว่ากำลังซื้อจะลดลง แต่ก็พยายามมองหาสินค้าที่เหมาะสมกับตัวเองทั้งในแง่ราคาและคุณภาพ
นางสาวอิสรีย์ สุขสัมฤทธิ์ ผู้จัดการทั่วไป แผนกผลิตภัณฑ์ความงาม บริษัท ไอเดียล แอพโพรช จำกัด ผู้ทำตลาดผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางแบรนด์ “วิคเตอร์เรีย แจ็คสัน” เปิดเผยว่า บริษัทได้นำเข้าเครื่องสำอาง “วิคเตอร์เรีย แจ็คสัน” Victoria Jackson ซึ่งเป็นเครื่องสำอางชั้นนำจากอเมริกา ด้วยเมคอัพคอลเลคชั่นใหม่ กับสไตล์การแต่งหน้าสวยใสสไตล์ธรรมชาติ “no makeup-makeup” เพื่อตอบสนองความต้องการให้กับผู้หญิงไทยทุกคน ด้วยคุณสมบัติพิเศษไม่เหมือนใคร กับแพคเกจจิ้งดีไซน์ทันสมัย พกพาได้สะดวก ซึ่งจะทำให้สาวไทยสวยพร้อมความมั่นใจได้ทุกที่ทุกเวลา และทุกขั้นตอนใน 1 เดียวกับ ““วิคตอร์เรีย แจ็คสัน เซอร์ไววัล คิต”
“วิคเตอร์เรีย แจ็คสัน” เป็นเมคอัพอาร์ติสชื่อดังที่เหล่าดาราฮอลลีวู้ดให้การยอมรับมามากกว่า 15 ปี ด้วยการแต่งหน้าสวยสไตล์ธรรมชาติ ซึ่งเธอได้พัฒนาเครื่องสำอางภายใต้แบรนด์ชื่อของเธอ ซึ่งเป็นที่ยอมรับและได้รับความนิยมมากในอเมริกา รวมทั้งเป็นผู้บุกเบิกการขายสินค้าทาง TV จึงทำให้เครื่องสำอางแบรนด์ “วิคเตอร์เรีย แจ็คสัน” ตั้งแต่ปี 1989 ทำให้ยอดขายพุ่งขึ้นกว่า 500 ล้านดอลล่าร์ ทั้งในอเมริกาและตลาดต่างประเทศด้วย
“ในการทำตลาดของ “วิคเตอเรีย แจ็คสัน” ในเมืองไทย เราใช้งบทำตลาดในครั้งแรก 15 ล้านบาท พร้อมใช้กลยุทธ์ในการขายแบบ Exclusive Membership Program คือ การจำหน่ายจากการเชิญ และการแนะนำต่อ “Word Of Mount” ซึ่งขณะนี้เป็นที่นิยมใช้กันในประเทศอเมริกาและประเทศในแถบยุโรปโดย เฉพาะประเทศอังกฤษ และจะทำให้ราคาสินค้าของ วิคเตอเรีย แจ็คสัน ถูกกว่าสินค้าเคาน์เตอร์ แบรนด์กว่า 50% โดยในปีแรกบริษัทได้ตั้งเป้าหมายยอดขายไว้ที่ 100 ล้านบาท และในปีต่อไปค่าว่าจะมีอัตราการเติบโตไม่ต่ำกว่า 10-20 % เพราะเรามั่นใจในคุณภาพ และดีไซน์ของผลิตภัณฑ์ของ วิคเตอเรีย แจ็คสัน”
นางสาวอิสรีย์ กล่าวต่อไปว่า จากเศรษฐกิจที่ชะลอตัวเป็นผลมาจากปัจจัยลบในหลายด้าน และกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ถดถอย เหตุผลดังกล่าวทำให้ผู้บริโภคจำเป็นต้องเลือกซื้อสินค้าที่ประหยัดและเหมาะสมมากขึ้น โดยเฉพาะสินค้าฟุ่มเฟือยในกลุ่มเสริมความงาม ที่แม้ว่ายอดขายโดยรวมของธุรกิจนี้จะไม่ตก หากแต่สินค้าเครื่องสำอางในกลุ่มพรีเมี่ยมหรือเคาน์เตอร์แบรนด์กลับมีการเติบโตที่ลดลง เนื่องจากผู้บริโภคมีการปรับเปลี่ยนใช้สินค้าแบรนด์ที่มีราคาถูกลง หรือการสวิตชิ่งแบรนด์ ซึ่งตรงจุดนี้เองทำให้เราเล็งเห็นช่องทางที่น่าเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยอย่างจริงจัง ภายใต้แบรนด์ วิคเตอเรีย แจ็คสัน
สำหรับตลาดเครื่องสำอางในปัจจุบัน มีความหลากหลาย และมีการแข่งขันที่สูงขึ้น ด้วยมูลค่าตลาดรวมไม่ต่ำกว่า 30,000 ล้านบาท โดยในกลุ่มพรีเมียมในช่วงครึ่งปี 2551 (มกราคม-มิถุนายน) มีการเติบโตเพียง 4% เท่านั้น เพราะการซื้อสินค้าที่ลดลง โดยปัจจุบันมูลค่าตลาดเครื่องสำอางกลุ่มพรีเมียม มีมูลค่าสูงถึง 20,000 ล้านบาท แบ่งเป็นสินค้าสกินแคร์ 9,000 ล้านบาท ส่วนที่เหลืออีก 11,000 ล้านบาท เป็นกลุ่มเมกอัพและผลิตภัณฑ์น้ำหอม ขณะที่กลุ่มเครื่องสำอางขายตรงนั้นคาดว่าจะมีการเติบโตมากกว่า 10% เนื่องจากความต้องการของลูกค้าในตลาดมีสูงโดย เฉพาะในช่วงเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ซึ่งลูกค้าต้องการสินค้าที่ราคาถูกลง แต่ต้องการคุณภาพเท่าเดิม ซึ่งคาดว่าการเติบโตของสินค้ากลุ่มดังกล่าวยังคงมีอย่างต่อเนื่อง เหตุผลคือคนยังรักสวยรักงาม แม้ว่ากำลังซื้อจะลดลง แต่ก็พยายามมองหาสินค้าที่เหมาะสมกับตัวเองทั้งในแง่ราคาและคุณภาพ
