ASTVผู้จัดการรายวัน- "พัชรวาท"ระบุมติของป.ป.ช. กระทบขวัญ กำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ แต่ไม่โกรธ ด้าน "สุเทพ"ปัดความรับผิดชอบ ระบุเหตุการณ์ 7 ตุลาฯ เกิดก่อนที่จะมาเป็นรัฐบาล ขณะที่ "เชาวริน" อ้างถ้า"สารวัตรจ๊าบ-น้องโบว์"ไม่ตายก็จะมีคนตายมากกว่านี้ แถมใส่ความพันธมิตรฯจะเผาสภา
พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมด่านตรวจในพื้นที่ สภ.แม่ลาว จ.เชียงราย ถึงกรณีป.ป.ช. เรียกไปรับทราบข้อกล่าวหา จากการใช้กำลังสลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม โดยยอมรับว่า ข้อกล่าวหาของป.ป.ช. มีผลกระทบต่อขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ของตน และผู้ใต้บังคับบัญชา แต่ไม่รู้สึกโกรธป.ป.ช.เพราะเป็นการทำตามขั้นตอนของกฎหมาย
ทั้งนี้ พล.ต.อ.พัชรวาท ระบุว่า ขณะนี้พล.ต.อ.วิโรจน์ พหลเวชช์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งถูกชี้มูลด้วย กำลังรวบรวมเอกสารและหลักฐานภาพถ่ายในหตุการณ์ทั้งหมด เพื่อเข้าชี้แจงและแก้ข้อกล่าวหา ตามข้อเท็จจริง
อย่างไรก็ตาม ขอย้ำว่าในวันนั้น ตำรวจปฏิบัติตามหน้าที่ ตามคำสั่งผู้บังคับบัญชาที่มีเอกสารเป็นลายลักษณ์อักษร และตำรวจไม่ได้ใช้ความรุนแรง หรือทำร้ายประชาชน
"เอกรัตน์"ให้ลูกร้องขอความเป็นธรรม
พล.ต.ต.เอกรัตน์ มีปรีชา รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) ซึ่งเป็น 1 ในตำรวจที่ถูกชี้มูลความผิด กล่าวยอมรับว่า นายวรรัตน์ มีปรีชา อายุ 24 ปี ซึ่งเป็นน้องของนายวศิน มีปรีชา หรือ "ตูมตาม" อดีตดารารุ่นเด็ก ซึ่งโพสต์ข้อความขอความเป็นธรรมให้กับตนเอง กรณีตำรวจยิงแก็สน้ำตาสลายการชุมนุมวันที่ 7 ตุลาคม ที่ผ่านมาในเว็บไซต์พันทิพย์นั้น เป็นบุตรชายคนเล็กของตนจริง
"คงไม่ต้องตรวจสอบว่า เป็นการแอบอ้างว่าเป็นบุคคลอื่น คงเป็นความรู้สึกของลูกที่เป็นห่วงพ่อซึ่งสามารถทำได้ ไม่ได้มีข้อความที่ทำให้ใครเสียหายแต่อย่างใด พร้อมปฏิเสธที่จะพูดถึงการสอบสวนดำเนินคดีความผิดในเรื่องนี้บอกเพียงว่าเชื่อมั่นในความยุติธรรมและความถูกต้อง" พล.ต.ต.เอกรัตน์กล่าว
"สุเทพ"อ้าง7 ตุลาฯเกิดก่อนรัฐบาล
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึง การที่ป.ป.ช. ออกมาตั้งข้อกล่าวหากับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในเหตุการณ์สลายการชุมนุม 7 ต.ค. 51 จะสามารถคลี่คลายให้กับประชาชนได้มากน้อยแค่ไหน ว่า ไม่ทราบเพราะเป็นเรื่องที่เกิดก่อนที่ตนจะเป็นรัฐบาล ไม่ใช่เรื่องที่ตนรับผิดชอบ และป.ป.ช.ก็เป็นอิสระ
เมื่อถามว่าขณะนี้เจ้าหน้าที่ที่ป.ป.ช. มีมติชี้มูลออกมา ยังปฏิบัติหน้าที่อยู่ รองนายกฯ กล่าวว่า ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย ส่วนบุคคลเหล่านี้เป็นบุคคลที่กลุ่มพันธมิตรฯ ขอให้เปลี่ยนตัวนั้น นายสุเทพ กล่าวว่า ตนทำตามกฎหมายทุกอย่าง ไม่มีการไปโอบอุ้มข้าราชการที่ยังปฏิบัติหน้าที่อยู่
"เพื่อไทย"ป้อง"สมชาย-บิ๊กจิ๋ว-ตร."
เมื่อเวลา 13.20 น.วานนี้ ที่พรรคเพื่อไทย ร.ต.ท.เชาวริน ลัทธศักดิ์ศิริ ส.ส.สัดส่วน และพ.ต.ท.สมชาย เพศประเสริฐ ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย แถลงถึงกรณีที่ ป.ป.ช. แจ้งข้อกล่าวหา นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และตำรวจ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการสลายการชุมนุม เมื่อวันที่ 7 ต.ค.51 โดย ร.ต.ท.เชาวริน กล่าวว่า การประชุมครม.นัดพิเศษเมื่อวันที่ 6 ต.ค.51 ที่สนามบินดอนเมือง ตนและพ.ต.ท.สมชาย นั่งอยู่ในที่ประชุมครม.ด้วย ซึ่งที่ประชุมครม. มีการพิจารณาเรื่องย้ายสถานที่แถลงนโยบายของรัฐบาลในวันที่ 7 ต.ค.51 โดยให้หาสถานที่ที่เหมาะสม ซึ่งไม่มีการสั่งการเกี่ยวกับการปฏิบัติ แต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้ยืนยันกับนายสมชาย ว่าไม่สามารถย้ายที่แถลงนโยบายได้ ต้องใช้รัฐสภาในการแถลงนโยบายเท่านั้น ดังนั้น นายสมชาย จึงมอบหมายให้ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตรองนายกรัฐมนตรี เดินทางไปที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล เพื่อดูว่าตำรวจมีการเตรียมการอย่างไรบ้าง ซึ่งตนและพ.ต.ท.สมชาย ก็ได้เดินทางไปกับ พล.อ.ชวลิตด้วย โดยพล.อ.ชวลิตไม่ได้สั่งการใดๆ เป็นเพียงการหารือสถานการณ์ทั่วไป แต่ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลให้เกิดความเรียบร้อย ดังนั้นการที่ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดนายสมชาย พล.อ.ชวลิต และเจ้าหน้าที่ รวมทั้งข้าราชการตำรวจจึงไม่ชอบอย่างยิ่ง
"สาก"อ้างพันธมิตรฯจะเผาสภา
"อดีตนายกฯและอดีตรองนายกฯไม่มีการสั่งการใดๆ ทั้งสิ้น ผมและพ.ต.ท.สมชาย ยืนยันได้ ดังนั้นถ้อยแถลงของป.ป.ช. จึงผิดจากข้อเท็จจริง และที่บอกว่า การเข้าไปในสภาทำให้มีการเสียชีวิตนั้น ก็บิดเบือนข้อมูล เพราะมีคนตายเพียง 2 คนเท่านั้น คนแรกขนระเบิดมาในรถแล้วระเบิดตายเอง ซึ่งหากวันนั้นระเบิดไม่ระเบิด สารวัตรคนนั้นไม่ตาย และเอาซีโฟร์เข้ามาที่บริเวณหน้าสภาได้ จะเกิดความเสียหายมากกว่านี้แน่นอน ส่วนเด็กผู้หญิงอายุ 20 เศษๆ ก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการชุมนุมที่หน้ารัฐสภา แต่คนเสื้อเหลืองพยายามรุกเข้าไปที่ บชน. ตำรวจก็ต้องรักษาพื้นที่ จึงมีการใช้แก๊สน้ำตาหรืออะไรก็แล้วแต่ ที่พวกเราทราบกันดี และไม่เกี่ยวกับ พล.อ.ชวลิต และท่านสมชาย" ร.ต.ท.เชาวรินกล่าว
ร.ต.ท.เชาวริน ยังกล่าวอีกว่า ที่มีผู้บาดเจ็บนั้น เพราะถ้าไม่เปิดทางให้ส.ส.ออกจากสภา เชื่อว่าจะมีการตายมากกว่านี้ แน่นอน เพราะคนเสื้อเหลืองปิดทางเข้าออกทุกทาง เสียงที่อยู่รอบสภาตะโกนว่า ฆ่ามันๆ และยังมียางอีกเป็นร้อยๆ เส้น ซึ่งคงจะมีการฆ่า และฌาปนกิจพวกตนไปด้วยอย่างแน่นอน เหล่านี้คือข้อเท็จจริงทั้งหมด ดังนั้นการที่ ป.ป.ช. ชี้มูล จึงเป็นการปฏิบัติโดยมิชอบ
พร้อมเป็นพยานให้"สมชาย-บิ๊กจิ๋ว"
ด้านพ.ต.ท.สมชาย กล่าวว่า ในที่ประชุม ครม.เมื่อวันที่ 6 ต.ค. 51 ทุกคนเห็นตรงกันว่า ควรย้ายสถานที่ในการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา แต่นายชัย บอกว่าไม่ได้ จึงต้องใช้รัฐสภาในการแถลงนโยบาย ยืนยันว่าในวันดังกล่าว นายสมชาย พูดชัดเจนว่าให้หลีกเลี่ยงการทำร้าย หรือปะทะกับฝูงชน ซึ่งตนพร้อมจะเป็นพยานให้ นอกจากนี้นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รมว.เกษตรฯ ในขณะนั้น ก็ชี้แจงต่อที่ประชุมด้วยว่า การปะทะกับฝูงชนนั้นไม่เกิดประโยชน์อะไร ดังนั้นการที่ป.ป.ช. ชี้มูลแบบนี้ ทำให้อาจจะถูกมองได้ว่าบ้านเมืองขาดความยุติธรรม คงจะอยู่กันลำบาก ยืนยันว่า ตนไม่ได้ออกมาปกป้องนายสมชาย แต่เอาเรื่องจริงออกมาพูดกัน
พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมด่านตรวจในพื้นที่ สภ.แม่ลาว จ.เชียงราย ถึงกรณีป.ป.ช. เรียกไปรับทราบข้อกล่าวหา จากการใช้กำลังสลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม โดยยอมรับว่า ข้อกล่าวหาของป.ป.ช. มีผลกระทบต่อขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ของตน และผู้ใต้บังคับบัญชา แต่ไม่รู้สึกโกรธป.ป.ช.เพราะเป็นการทำตามขั้นตอนของกฎหมาย
ทั้งนี้ พล.ต.อ.พัชรวาท ระบุว่า ขณะนี้พล.ต.อ.วิโรจน์ พหลเวชช์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งถูกชี้มูลด้วย กำลังรวบรวมเอกสารและหลักฐานภาพถ่ายในหตุการณ์ทั้งหมด เพื่อเข้าชี้แจงและแก้ข้อกล่าวหา ตามข้อเท็จจริง
อย่างไรก็ตาม ขอย้ำว่าในวันนั้น ตำรวจปฏิบัติตามหน้าที่ ตามคำสั่งผู้บังคับบัญชาที่มีเอกสารเป็นลายลักษณ์อักษร และตำรวจไม่ได้ใช้ความรุนแรง หรือทำร้ายประชาชน
"เอกรัตน์"ให้ลูกร้องขอความเป็นธรรม
พล.ต.ต.เอกรัตน์ มีปรีชา รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) ซึ่งเป็น 1 ในตำรวจที่ถูกชี้มูลความผิด กล่าวยอมรับว่า นายวรรัตน์ มีปรีชา อายุ 24 ปี ซึ่งเป็นน้องของนายวศิน มีปรีชา หรือ "ตูมตาม" อดีตดารารุ่นเด็ก ซึ่งโพสต์ข้อความขอความเป็นธรรมให้กับตนเอง กรณีตำรวจยิงแก็สน้ำตาสลายการชุมนุมวันที่ 7 ตุลาคม ที่ผ่านมาในเว็บไซต์พันทิพย์นั้น เป็นบุตรชายคนเล็กของตนจริง
"คงไม่ต้องตรวจสอบว่า เป็นการแอบอ้างว่าเป็นบุคคลอื่น คงเป็นความรู้สึกของลูกที่เป็นห่วงพ่อซึ่งสามารถทำได้ ไม่ได้มีข้อความที่ทำให้ใครเสียหายแต่อย่างใด พร้อมปฏิเสธที่จะพูดถึงการสอบสวนดำเนินคดีความผิดในเรื่องนี้บอกเพียงว่าเชื่อมั่นในความยุติธรรมและความถูกต้อง" พล.ต.ต.เอกรัตน์กล่าว
"สุเทพ"อ้าง7 ตุลาฯเกิดก่อนรัฐบาล
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึง การที่ป.ป.ช. ออกมาตั้งข้อกล่าวหากับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในเหตุการณ์สลายการชุมนุม 7 ต.ค. 51 จะสามารถคลี่คลายให้กับประชาชนได้มากน้อยแค่ไหน ว่า ไม่ทราบเพราะเป็นเรื่องที่เกิดก่อนที่ตนจะเป็นรัฐบาล ไม่ใช่เรื่องที่ตนรับผิดชอบ และป.ป.ช.ก็เป็นอิสระ
เมื่อถามว่าขณะนี้เจ้าหน้าที่ที่ป.ป.ช. มีมติชี้มูลออกมา ยังปฏิบัติหน้าที่อยู่ รองนายกฯ กล่าวว่า ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย ส่วนบุคคลเหล่านี้เป็นบุคคลที่กลุ่มพันธมิตรฯ ขอให้เปลี่ยนตัวนั้น นายสุเทพ กล่าวว่า ตนทำตามกฎหมายทุกอย่าง ไม่มีการไปโอบอุ้มข้าราชการที่ยังปฏิบัติหน้าที่อยู่
"เพื่อไทย"ป้อง"สมชาย-บิ๊กจิ๋ว-ตร."
เมื่อเวลา 13.20 น.วานนี้ ที่พรรคเพื่อไทย ร.ต.ท.เชาวริน ลัทธศักดิ์ศิริ ส.ส.สัดส่วน และพ.ต.ท.สมชาย เพศประเสริฐ ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย แถลงถึงกรณีที่ ป.ป.ช. แจ้งข้อกล่าวหา นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และตำรวจ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการสลายการชุมนุม เมื่อวันที่ 7 ต.ค.51 โดย ร.ต.ท.เชาวริน กล่าวว่า การประชุมครม.นัดพิเศษเมื่อวันที่ 6 ต.ค.51 ที่สนามบินดอนเมือง ตนและพ.ต.ท.สมชาย นั่งอยู่ในที่ประชุมครม.ด้วย ซึ่งที่ประชุมครม. มีการพิจารณาเรื่องย้ายสถานที่แถลงนโยบายของรัฐบาลในวันที่ 7 ต.ค.51 โดยให้หาสถานที่ที่เหมาะสม ซึ่งไม่มีการสั่งการเกี่ยวกับการปฏิบัติ แต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้ยืนยันกับนายสมชาย ว่าไม่สามารถย้ายที่แถลงนโยบายได้ ต้องใช้รัฐสภาในการแถลงนโยบายเท่านั้น ดังนั้น นายสมชาย จึงมอบหมายให้ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตรองนายกรัฐมนตรี เดินทางไปที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล เพื่อดูว่าตำรวจมีการเตรียมการอย่างไรบ้าง ซึ่งตนและพ.ต.ท.สมชาย ก็ได้เดินทางไปกับ พล.อ.ชวลิตด้วย โดยพล.อ.ชวลิตไม่ได้สั่งการใดๆ เป็นเพียงการหารือสถานการณ์ทั่วไป แต่ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลให้เกิดความเรียบร้อย ดังนั้นการที่ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดนายสมชาย พล.อ.ชวลิต และเจ้าหน้าที่ รวมทั้งข้าราชการตำรวจจึงไม่ชอบอย่างยิ่ง
"สาก"อ้างพันธมิตรฯจะเผาสภา
"อดีตนายกฯและอดีตรองนายกฯไม่มีการสั่งการใดๆ ทั้งสิ้น ผมและพ.ต.ท.สมชาย ยืนยันได้ ดังนั้นถ้อยแถลงของป.ป.ช. จึงผิดจากข้อเท็จจริง และที่บอกว่า การเข้าไปในสภาทำให้มีการเสียชีวิตนั้น ก็บิดเบือนข้อมูล เพราะมีคนตายเพียง 2 คนเท่านั้น คนแรกขนระเบิดมาในรถแล้วระเบิดตายเอง ซึ่งหากวันนั้นระเบิดไม่ระเบิด สารวัตรคนนั้นไม่ตาย และเอาซีโฟร์เข้ามาที่บริเวณหน้าสภาได้ จะเกิดความเสียหายมากกว่านี้แน่นอน ส่วนเด็กผู้หญิงอายุ 20 เศษๆ ก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการชุมนุมที่หน้ารัฐสภา แต่คนเสื้อเหลืองพยายามรุกเข้าไปที่ บชน. ตำรวจก็ต้องรักษาพื้นที่ จึงมีการใช้แก๊สน้ำตาหรืออะไรก็แล้วแต่ ที่พวกเราทราบกันดี และไม่เกี่ยวกับ พล.อ.ชวลิต และท่านสมชาย" ร.ต.ท.เชาวรินกล่าว
ร.ต.ท.เชาวริน ยังกล่าวอีกว่า ที่มีผู้บาดเจ็บนั้น เพราะถ้าไม่เปิดทางให้ส.ส.ออกจากสภา เชื่อว่าจะมีการตายมากกว่านี้ แน่นอน เพราะคนเสื้อเหลืองปิดทางเข้าออกทุกทาง เสียงที่อยู่รอบสภาตะโกนว่า ฆ่ามันๆ และยังมียางอีกเป็นร้อยๆ เส้น ซึ่งคงจะมีการฆ่า และฌาปนกิจพวกตนไปด้วยอย่างแน่นอน เหล่านี้คือข้อเท็จจริงทั้งหมด ดังนั้นการที่ ป.ป.ช. ชี้มูล จึงเป็นการปฏิบัติโดยมิชอบ
พร้อมเป็นพยานให้"สมชาย-บิ๊กจิ๋ว"
ด้านพ.ต.ท.สมชาย กล่าวว่า ในที่ประชุม ครม.เมื่อวันที่ 6 ต.ค. 51 ทุกคนเห็นตรงกันว่า ควรย้ายสถานที่ในการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา แต่นายชัย บอกว่าไม่ได้ จึงต้องใช้รัฐสภาในการแถลงนโยบาย ยืนยันว่าในวันดังกล่าว นายสมชาย พูดชัดเจนว่าให้หลีกเลี่ยงการทำร้าย หรือปะทะกับฝูงชน ซึ่งตนพร้อมจะเป็นพยานให้ นอกจากนี้นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รมว.เกษตรฯ ในขณะนั้น ก็ชี้แจงต่อที่ประชุมด้วยว่า การปะทะกับฝูงชนนั้นไม่เกิดประโยชน์อะไร ดังนั้นการที่ป.ป.ช. ชี้มูลแบบนี้ ทำให้อาจจะถูกมองได้ว่าบ้านเมืองขาดความยุติธรรม คงจะอยู่กันลำบาก ยืนยันว่า ตนไม่ได้ออกมาปกป้องนายสมชาย แต่เอาเรื่องจริงออกมาพูดกัน