เอเอฟพี -โจเซฟ ฟริตเซิล ผู้ต้องหาคดีกักขังและข่มขืนบุตรสาวเป็นเวลานานถึง 24 ปี ถูกนำตัวขึ้นพิจารณาคดีในศาลออสเตรียต่อเนื่องเป็นวันที่สองเมื่อวานนี้(17) โดยที่จะมีการซักถามจำเลยเพิ่มเติม รวมทั้งฉายดีโอเทปคำให้การของบุตรสาวที่ตกเป็นเหยื่อต่อจากวันแรก ทั้งนี้คาดหมายว่าศาลจะตัดสินคดีนี้ในวันศุกร์ (20)
ฟริตเซิลซึ่งอยู่ในวัย 73 ปี เริ่มถูกซักถามในวันจันทร์(16) หลังจากที่มีการเปิดวิดีโอเทปบางตอนที่เป็นคำให้การของอลิซาเบธ บุตรสาวผู้เคราะห์ร้าย ทั้งนี้การบันทึกวิดีโอคำให้การของเธอนี้ ก็เพื่อช่วยให้เธอไม่ต้องมาปรากฏตัวในศาล
คำให้การของเธอที่มีความยาวทั้งสิ้น 11 ชั่วโมง จะถูกนำมาฉายเป็นช่วงๆ ตลอดการพิจารณาคดีคราวนี้ซึ่งคาดว่าจะกินเวลา 1 สัปดาห์ และกระทำกันแบบปิดไม่ให้ผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้าฟัง เพื่อเป็นการคุ้มครองเหยื่อผู้เคราะห์ร้าย
ขณะเริ่มต้นการพิจารณาคดีเมื่อวันจันทร์ ฟริตเซิลได้แถลงยอมสารภาพผิดในข้อหาร่วมประเวณีกับบุตรสาว, ข่มขืน, กักขังหน่วงเหนี่ยว, และบังคับขู่เข็ญ แต่ปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ร้ายแรงที่สุด ซึ่งระบุว่าเขากระทำฆาตกรรม และปฏิบัติต่อผู้อื่นเยี่ยงทาส
ในระหว่างการแถลงเปิดคดี อัยการกล่าวว่าฟริตเซิลได้ใช้ลูกสาวคืออลิซาเบธ ซึ่งเวลานี้อยู่ในวัย 42 ปี "ราวกับเป็นของเล่น" โดยกระทำการล่วงละเมิดทางเพศต่อลูกสาวเป็นเวลานานถึงเกือบหนึ่งในสี่ของศตวรรษ ภายในห้องใต้ดินที่คับแคบจนมีบุตรด้วยกันถึง 7 คน
ส่วนทนายความของฟริตเซิลก็พยายามให้ภาพลูกความของตนว่าไม่ได้เป็นปีศาจร้าย และแย้งว่าฟริตเซิลเพียงแต่ต้องการมีครอบครัวที่สองนอกเหนือจากครอบครัวแรกที่เขาอยู่กินกับโรสแมรี ภรรยาที่ปัจจุบันอายุ 69 ปี
ตามเอกสารคำฟ้องที่มีความยาว 27 หน้า อัยการระบุว่าฟริตเซิลมีความผิดฐานฆาตกรรมด้วย เนื่องจากเขาปล่อยให้ลูกชายที่เพิ่งคลอดออกมาเสียชีวิตไปเมื่อปี 1996 ด้วย ซึ่งความผิดตามข้อกล่าวหานี้จะทำให้เขาได้รับโทษจำคุกตลอดชีวิต
ฝ่ายฟริตเซิลโต้แย้งว่าทารกดังกล่าวเสียชีวิตตั้งแต่ยังไม่คลอด เขาเลยตัดสินใจเผาศพทารกดังกล่าว เขาจึงไม่ได้กระทำฆาตกรรม รวมทั้งเขายังปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ว่าปฏิบัติต่อผู้อื่นเยี่ยงทาส ตลอดจนข่มขู่จะสังหารเหยื่อทั้งหมดในห้องใต้ดินเมื่อปีที่แล้ว
การพิจารณาไต่สวนคดีพ่อข่มขืนลูกสาวอย่างยาวนานนี้ นับเป็นคดีที่สะเทือนความรู้สึกของผู้คนจำนวนมาก จึงมีผู้สื่อข่าวหลายร้อยคนจากทั่วโลกเดินทางไปทำข่าวนี้ที่เมืองซานคต์ โพเอลเทน ซึ่งเป็นเมืองเล็กๆ ห่างราว 60 กิโลเมตร จาก อัมสเต็ตเตน อันเป็นเมืองที่เกิดเหตุโลกตะลึงคราวนี้
จนถึงเวลานี้ ยังไม่มีรายละเอียดเกี่ยวกับการพิจารณาคดีคราวนี้รั่วไหลออกมาจากการพิจารณาคดีอย่างปิดลับ โดยที่การไต่สวนของศาลจะมีขึ้นระหว่าง 9 โมงเช้าถึง 4 โมงเย็นในแต่ละวัน และคาดว่าจะมีการตัดสินคดีในวันศุกร์ (20) หรืออาจเร็วกว่านี้หนึ่งวัน
แอริค ฮูเบอร์-กุนสโทเฟอร์ รองผู้อำนวยการเรือนจำเมืองซานคต์ โพเอลเทน ซึ่งเป็นสถานที่คุมขังฟริตเซิล กล่าวว่า "เขา (ฟริตเซิล) ไม่ใช่คนผิดปกติแต่อย่างใด ถ้าหากเขายืนอยู่ตรงนี้คุณอาจไม่ทันสังเกตเห็นเขา... เขาเป็นคนสุภาพมาก"
ส่วนทนายความของฟริตเซิลก็ยืนยันว่าลูกความของเขามีความห่วงใยต่อผู้ที่เขาคุมขังไว้ในห้องใต้ดิน โดยบอกว่า "ถ้าหากคุณขังลูกสาวเพื่อจะมีเพศสัมพันธ์เท่านั้น คุณจะไม่ยอมมีลูกด้วยหรอก และคุณก็จะไม่หาหนังสือเรียน หรือต้นคริสต์มาสไปให้พวกเขา"
คริสเตียน บูร์ไคเซอร์ อัยการของคดีนี้ ก็พูดถึงอาชญากรรมของฟริตเซิลว่าเป็นเรื่อง "พิลึกพิลั่น" และบอกว่าฟริตเซิลนั้นข่มขืนลูกสาวต่อหน้าลูกๆ และ "ไม่ได้มีทีท่าว่ารู้สึกเสียใจหรือสำนึกว่าได้กระทำความผิด"
บูร์ไคเซอร์บอกว่า "เขา (ฟริตเซิล) ลงไปที่ห้องใต้ดิน ปิดไฟ ข่มขืน แล้วก็เปิดไฟ" บูร์ไคเซอร์เคยไปดูห้องใต้ดินดังกล่าว 2 ครั้ง และพบว่าเป็นห้องที่มีบรรยากาศเลวร้าย สภาพห้องอับชื้น ไม่มีเครื่องทำความร้อน ไม่มีน้ำร้อน ไม่มีอากาศบริสุทธิ์ ไม่มีแสงแดด และมีประตูกั้นไว้ถึง 8 บาน โดยประตู 3 บานเป็นแบบที่มีล็อกอิเล็กทรอนิกส์
อนึ่ง ลูกๆ ทั้ง 6 คนของอลิซาเบธ ฟริตเซิล รวมทั้งพี่น้องและแม่ของเธอต่างก็ปฏิเสธที่จะมาให้การใดๆ ต่อศาล ซึ่งก็ได้รับอนุญาตตามกฎหมายของออสเตรีย
ฟริตเซิลซึ่งอยู่ในวัย 73 ปี เริ่มถูกซักถามในวันจันทร์(16) หลังจากที่มีการเปิดวิดีโอเทปบางตอนที่เป็นคำให้การของอลิซาเบธ บุตรสาวผู้เคราะห์ร้าย ทั้งนี้การบันทึกวิดีโอคำให้การของเธอนี้ ก็เพื่อช่วยให้เธอไม่ต้องมาปรากฏตัวในศาล
คำให้การของเธอที่มีความยาวทั้งสิ้น 11 ชั่วโมง จะถูกนำมาฉายเป็นช่วงๆ ตลอดการพิจารณาคดีคราวนี้ซึ่งคาดว่าจะกินเวลา 1 สัปดาห์ และกระทำกันแบบปิดไม่ให้ผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้าฟัง เพื่อเป็นการคุ้มครองเหยื่อผู้เคราะห์ร้าย
ขณะเริ่มต้นการพิจารณาคดีเมื่อวันจันทร์ ฟริตเซิลได้แถลงยอมสารภาพผิดในข้อหาร่วมประเวณีกับบุตรสาว, ข่มขืน, กักขังหน่วงเหนี่ยว, และบังคับขู่เข็ญ แต่ปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ร้ายแรงที่สุด ซึ่งระบุว่าเขากระทำฆาตกรรม และปฏิบัติต่อผู้อื่นเยี่ยงทาส
ในระหว่างการแถลงเปิดคดี อัยการกล่าวว่าฟริตเซิลได้ใช้ลูกสาวคืออลิซาเบธ ซึ่งเวลานี้อยู่ในวัย 42 ปี "ราวกับเป็นของเล่น" โดยกระทำการล่วงละเมิดทางเพศต่อลูกสาวเป็นเวลานานถึงเกือบหนึ่งในสี่ของศตวรรษ ภายในห้องใต้ดินที่คับแคบจนมีบุตรด้วยกันถึง 7 คน
ส่วนทนายความของฟริตเซิลก็พยายามให้ภาพลูกความของตนว่าไม่ได้เป็นปีศาจร้าย และแย้งว่าฟริตเซิลเพียงแต่ต้องการมีครอบครัวที่สองนอกเหนือจากครอบครัวแรกที่เขาอยู่กินกับโรสแมรี ภรรยาที่ปัจจุบันอายุ 69 ปี
ตามเอกสารคำฟ้องที่มีความยาว 27 หน้า อัยการระบุว่าฟริตเซิลมีความผิดฐานฆาตกรรมด้วย เนื่องจากเขาปล่อยให้ลูกชายที่เพิ่งคลอดออกมาเสียชีวิตไปเมื่อปี 1996 ด้วย ซึ่งความผิดตามข้อกล่าวหานี้จะทำให้เขาได้รับโทษจำคุกตลอดชีวิต
ฝ่ายฟริตเซิลโต้แย้งว่าทารกดังกล่าวเสียชีวิตตั้งแต่ยังไม่คลอด เขาเลยตัดสินใจเผาศพทารกดังกล่าว เขาจึงไม่ได้กระทำฆาตกรรม รวมทั้งเขายังปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ว่าปฏิบัติต่อผู้อื่นเยี่ยงทาส ตลอดจนข่มขู่จะสังหารเหยื่อทั้งหมดในห้องใต้ดินเมื่อปีที่แล้ว
การพิจารณาไต่สวนคดีพ่อข่มขืนลูกสาวอย่างยาวนานนี้ นับเป็นคดีที่สะเทือนความรู้สึกของผู้คนจำนวนมาก จึงมีผู้สื่อข่าวหลายร้อยคนจากทั่วโลกเดินทางไปทำข่าวนี้ที่เมืองซานคต์ โพเอลเทน ซึ่งเป็นเมืองเล็กๆ ห่างราว 60 กิโลเมตร จาก อัมสเต็ตเตน อันเป็นเมืองที่เกิดเหตุโลกตะลึงคราวนี้
จนถึงเวลานี้ ยังไม่มีรายละเอียดเกี่ยวกับการพิจารณาคดีคราวนี้รั่วไหลออกมาจากการพิจารณาคดีอย่างปิดลับ โดยที่การไต่สวนของศาลจะมีขึ้นระหว่าง 9 โมงเช้าถึง 4 โมงเย็นในแต่ละวัน และคาดว่าจะมีการตัดสินคดีในวันศุกร์ (20) หรืออาจเร็วกว่านี้หนึ่งวัน
แอริค ฮูเบอร์-กุนสโทเฟอร์ รองผู้อำนวยการเรือนจำเมืองซานคต์ โพเอลเทน ซึ่งเป็นสถานที่คุมขังฟริตเซิล กล่าวว่า "เขา (ฟริตเซิล) ไม่ใช่คนผิดปกติแต่อย่างใด ถ้าหากเขายืนอยู่ตรงนี้คุณอาจไม่ทันสังเกตเห็นเขา... เขาเป็นคนสุภาพมาก"
ส่วนทนายความของฟริตเซิลก็ยืนยันว่าลูกความของเขามีความห่วงใยต่อผู้ที่เขาคุมขังไว้ในห้องใต้ดิน โดยบอกว่า "ถ้าหากคุณขังลูกสาวเพื่อจะมีเพศสัมพันธ์เท่านั้น คุณจะไม่ยอมมีลูกด้วยหรอก และคุณก็จะไม่หาหนังสือเรียน หรือต้นคริสต์มาสไปให้พวกเขา"
คริสเตียน บูร์ไคเซอร์ อัยการของคดีนี้ ก็พูดถึงอาชญากรรมของฟริตเซิลว่าเป็นเรื่อง "พิลึกพิลั่น" และบอกว่าฟริตเซิลนั้นข่มขืนลูกสาวต่อหน้าลูกๆ และ "ไม่ได้มีทีท่าว่ารู้สึกเสียใจหรือสำนึกว่าได้กระทำความผิด"
บูร์ไคเซอร์บอกว่า "เขา (ฟริตเซิล) ลงไปที่ห้องใต้ดิน ปิดไฟ ข่มขืน แล้วก็เปิดไฟ" บูร์ไคเซอร์เคยไปดูห้องใต้ดินดังกล่าว 2 ครั้ง และพบว่าเป็นห้องที่มีบรรยากาศเลวร้าย สภาพห้องอับชื้น ไม่มีเครื่องทำความร้อน ไม่มีน้ำร้อน ไม่มีอากาศบริสุทธิ์ ไม่มีแสงแดด และมีประตูกั้นไว้ถึง 8 บาน โดยประตู 3 บานเป็นแบบที่มีล็อกอิเล็กทรอนิกส์
อนึ่ง ลูกๆ ทั้ง 6 คนของอลิซาเบธ ฟริตเซิล รวมทั้งพี่น้องและแม่ของเธอต่างก็ปฏิเสธที่จะมาให้การใดๆ ต่อศาล ซึ่งก็ได้รับอนุญาตตามกฎหมายของออสเตรีย