xs
xsm
sm
md
lg

ครม.ซื้อเวลาย้ายบินไทยโสภณอ้างไม่มีใครค้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ครม.เศรษฐกิจ ยังไม่สรุปย้าย "การบินไทย" จากดอนเมืองไปสุวรรณภูมิ สั่งทบทวนนโยบาย Singel Airport โดยให้ส่งเข้ามาใหม่ภายใน 2 สัปดาห์ ตั้งข้อสังเกต 3 ประเด็น เนื่องจากอยู่ระหว่างปรับโครงสร้าง ควรให้ผู้บริหารชุดใหม่เข้ามาตัดสินใจ เพื่อความเหมาะสม และไม่ควรฝืนความต้องการของลูกค้าคนไทย เพราะกำลังซื้อต่างประเทศหดตัว ด้านบอร์ดการบินไทย จ้อฝ่ายเดียว หลัง“แจ่มศรี” ได้แค่ยื่นหนังสือเรียกร้อง “กรณ์” กำหนดนโยบายเชิงรุก เพื่อให้แข่งขันเชิงพาณิชย์ได้ ขณะที่"โสภณ"เมิน"อภิสิทธิ์"ยันครม.เศรษฐกิจรับทราบย้ายเที่ยวบินการบินไทย ไม่มีใครคัดค้าน ดีเดย์ 29 มี.ค.ดอนเมืองไม่มีการบินไทย ส่วนการศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมเป็นเรื่อง Single Airport คนละประเด็นกับการย้ายเที่ยวบิน ย้ำอีกไม่ใช้นโยบายการบินไทยขอย้ายเอง อ้างสารพัดเหตุผล อยู่ดอนเมืองขาดทุน ปฎิเสธเอื้อคิงเพาเวอร์ ขณะที่แผน2 ย้ายวันทูโก นกแอร์ตาม เผยผู้โดยสารเกือบ 6 ล้านคนเม็ดเงินกว่า 500 ล้าน เข้ากระเป๋าคิงเพาเวอร์เจ้าของสัมปทานร้านค้า ด้านสหภาพฯ ขอพบผู้บริหารทบทวน ยันรมต.ไม่มีสิทธิ์สั่งการบินไทยเผยพนักงานจำปีสุดช้ำเตรียมย้ายที่อีกรอบตามนโยบาย การเมือง

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุม ครม.เศรษฐกิจ ได้พิจารณาปัญหาการย้ายบริการของการบินไทยไปสนามบินสุวรรณภูมิแล้ว และให้อยู่ในอำนาจการตัดสินใจของการบินไทยเอง แต่ที่ประชุมฯ ได้ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับการตัดสินใจของบริษัท ที่จะย้ายบริการไปสนามบินสุวรรณภูมิ ในที่ 29 มีนาคม 2552 นี้ ใน 2-3 ประเด็น ดังนี้
ประเด็นแรก การตัดสินใจครั้งนี้ ยังไม่มีความชัดเจนเกี่ยวกับนโยบาย Single Airport ขณะที่การบินไทย อยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างการบริหาร ที่ต้องมีการปรับเปลี่ยนผู้บริหารในเดือนเมษายน 2552 นี้ ดังนั้น ที่ประชุม ครม.เศรษฐกิจเห็นว่า ควรให้ผู้บริหารชุดใหม่เข้ามาตัดสินใจในเรื่องนี้ เพื่อความเหมาะสม
“คงต้องยอมรับว่า การตัดสินใจครั้งนี้ ฝืนความต้องการของผู้โดยสารคนไทย ดังนั้น เห็นว่าการดำเนินธุรกิจควรคำนึงถึงความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก แม้ฝ่ายบริหาร การบินไทย ตัดสินไปแล้ว แต่เราเห็นว่าเป็นการตัดสินใจโดยที่ไม่อิงกับนโยบายข้างหน้า ในเรื่องสนามบินเดียว”
นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า ที่ประชุม ครม.เศรษฐกิจ ได้มอบหมายให้กระทรวงคมนาคม กลับไปพิจารณาทบทวน รายละเอียดเกี่ยวกับนโยบาย Single Airport ให้ชัดเจน ทั้งในส่วนของผลกระทบ ข้อดี ข้อเสียระหว่างการให้บริการแบบ Single Airport และ Dual Airport ในประเด็นต่างๆ เช่น ยุทธศาสตร์การพัฒนาท่าอากาศยาน บทบาทของท่าอากาศยาน ความคุ้มค่า การลงทุนในอนาคต และผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม เป็นต้น และนำข้อสรุปกลับมาเสนอ ครม.เศรษฐกิจอีก 2 สัปดาห์
ส่วนการที่ ครม.เศรษฐกิจ วันนี้ ไม่สามารถลงมติเกี่ยวกับการย้ายบริการของการบินไทยไปสนามบินสุวรรณภูมิได้นั้น ไม่ได้กังวลว่าจะเป็นปัญหาทางการเมือง แต่ให้ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของบริษัท โดยที่รัฐบาลไม่สามารถไม่เกี่ยวข้องหรือชี้นำได้ เพียงแต่การตัดสินใจของบริษัท ควรคำนึงตามข้อสังเกตจาก ที่ประชุม ครม.เศรษฐกิจเท่านั้น

บอร์ดบินไทยอ้างไม่ได้ทิ้งทวน

นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ครม.ได้ให้ความเห็นว่า ประชาชนกว่า 80-90% ยังเห็นว่าการใช้สนามบินดอนเมืองมีความสะดวก และให้ข้อสังเกตที่ต้องคำนึงถึงประโยชน์ของลูกค้าเป็นสำคัญ อย่างไรก็ตามกรณีที่หลายฝ่ายมองว่า คณะกรรมการ(บอร์ด) การบินไทยอนุมัติทิ้งทวนก่อนที่จะเปลี่ยนบอร์ดใหม่ในเดือนเมษายนนี้นั้น ทางตัวแทนบอร์ดยืนยันในที่ประชุมว่า เป็นสิทธิของบอร์ดที่จะอนุมัติ เขามองว่า ไม่ได้เป็นการทิ้งทวนเป็นการตัดสินใจของเขา เขามองว่า การตัดสินใจอยู่ที่จุดคุ้มทุน จะประหยัดไปได้มากหากย้ายเที่ยวบินของบริษัทการบินไทย ซึ่งเรื่องนี้ ครม.เศรษฐกิจของให้การบินไทยมองประชาชนเป็นหลัก
“กรณีของความคุ้มค่า ที่ประชุมครม.บางท่านเสนอให้ชะลอการย้ายไปก่อน แต่การบินไทยก็ค้านว่า จะเกิดปัญหาในเรื่องของตารางเวลาเที่ยวบินที่ทำไปแล้ว โดยเฉพาะกับพันธมิตรการบินอย่างสตาร์ อัลไลแอนซ์ (Star Alliance) ที่ทำกันไปแล้ว หากเปลี่ยนแปลงจะทำให้เกิดความเสียหาย โดยเฉพาะในฤดูการท่องเที่ยวฤดูร้อนนี้”
นายพุทธิพงษ์ กล่าวต่อว่า นายกรัฐมนตรีได้ขอให้การบินไทยและกระทรวงคมนาคม ทำข้อมูลและให้สรุป นโยบาย Single Airport ให้ชัดเจน โดยให้ข้อสังเกต 3 ข้อ ประกอบด้วย 1.หากในอนาคตบอร์ดการบินไทยหรือรัฐบาลต่อไปมีแนวคิดที่จะกลับมาใช้สนามบินดอนเมืองอีกครั้ง โดยเฉพาะหากให้มีการดำเนินการการบินในประเทศ การบินไทยมีแผนรองรับที่จะตัดสินใจอย่างไร หรือรัฐบาลอาจมีนโยบายอื่นจะกลับมาใช้สนามบินดอนเมืองอีกครั้ง ซึ่งตรงนี้ไม่มีคำตอบที่ชัดเจน ดังนั้นการบินไทยจะมีการการแก้ไขปัญหาไปในทิศทางใด เพราะหากปรับมาใช้อีกจะไม่มีแผนรองรับ
2.การลงทุนในอนาคต ภาระหนี้ ซึ่งอยู่ระหว่างปรับโครงสร้าง ควรให้ผู้บริหารชุดใหม่เข้ามาตัดสินใจ เพื่อความเหมาะสม และไม่ควรฝืนความต้องการของลูกค้าคนไทย เพราะกำลังซื้อต่างประเทศหดตัว โดยให้นำกลับไปพิจารณาปรับปรุงให้เข้าสถานการณ์ความเป็นจริง
3.ประชาชนส่วนใหญ่ยังเห็นความสะดวกและคุ้นเคยที่จะใช้สนามบินดอนเมือง จะทำอย่างไรเพื่อไม่ให้เกิดความสับสน โดยเฉพาะควรจะมีตัวเลขประมาณการณ์ของผู้เดินทาง ที่อ้างว่ามีกว่า 40 ล้านคนต่อปีจะเพียงพอไหมหากยุบเหลือสนามบินเดียว โดยเฉพาะอาจจะกระทบกับการท่องเที่ยวของประเทศ หรือจะเกิน 50 ล้านคนต่อปีหรือไม่
นอกจากนั้นยังมีข้อสังเกตว่า สนามบินสุวรรณภูมิในเฟส 2 มีความคืบหน้าเพียงใด จะสามารถประกันว่าจะสร้างเสร็จใน 2 ปีหรือไม่และจะได้ผลตามที่ทั้งหมดบอร์ดการบินไทยได้รายงานปากเปล่าให้ ครม.เศรษฐกิจรับทราบ
สำหรับการประชุมในวาระเพื่อพิจารณาเรื่องของการย้ายเที่ยวบิน บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) จากท่าอากาศยานดอนเมืองกลับมายังท่าอากาศยานสุวรรรณภูมิ ของคณะกรรมการรัฐมนตรีเศรษฐกิจ วันนี้(11 มี.ค.) ที่มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ไม่ได้เชิญนางแจ่มศรี สุกโชติรัตน์ ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทย เข้าร่วมให้ข้อมูลด้วย เพียงแต่นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ในบริษัทการบินไทย ได้รับเรื่องที่สหภาพฯเรียกร้องกับนางแจ่มศรีเท่านั้น
“ที่ประชุมไม่ได้เปิดให้ประธานสหภาพฯเข้าให้ข้อมูล แต่รับข้อมูลจากผู้บริหารบริษัทการบินไทยเท่านั้น ซึ่งทั้งหมด ครม.เศรษฐกิจเห็นว่า เป็นเรื่องของธุรกิจ”

"โสภณ"ยันครม.รู้ย้ายบินไทย

นายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ ได้รับทราบการย้ายเที่ยวบินภายในประเทศของบริษัทการบินไทยจากท่าอากาศยานดอนเมืองกลับไปท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งเป็นไปตามที่การบินไทยขอ ซึ่งจะดำเนินการในวันที่ 29 มี.ค.นี้ ส่วนกรณีที่นายกฯให้นำข้อมูลไปเสนออีกครั้งใน 2 สัปดาห์นั้น เป็นเรื่องของนโยบายสนามบินเดียว (Single Airport) ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่ที่รัฐบาลต้องมีนโยบายออกมา ไม่เกี่ยวกับการย้ายเที่ยวบินของการบินไทย
“ยืนยันว่าหลังวันที่ 29 มี.ค. จะไม่มีเที่ยวบินภายในประเทศของการบินไทยให้บริการที่ดอนเมือง ส่วนกระทรวงคมนาคมจะต้องนำข้อมูลกลับไปชี้แจงกับรัฐบาลในส่วนของสนามบินเดียว เพราะการย้ายเที่ยวบินการบินไทยกลับสุวรรณภูมิไม่ได้เป็นการปิดดอนเมือง และกระทรวงคมนาคมต้องเร่งเจรจากับ นกแอร์และวันทูโก ซึ่งเป็ฯ 2 สายการบินที่บริการที่ดอนเมือง เพื่อให้ย้ายกลับไปที่สุวรรณภูมิเช่นกัน และเชื่อว่าจะสามารถทำความเข้าใจกันได้” นายโสภณ กล่าว
นายโสภณกล่าวว่า การย้ายเที่ยวบินของการบินไทยกลับไปสุวรรณภูมิเป็นผลมาจากการปรุมเชิงปฎิบัติการ (work shop) เพื่อฟื้นฟูกิจการการบิน ซึ่งได้เชิญผู้ประกอบการสายการบินและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาหารือได้ข้อสรุปหลักการสนับสนุนให้สุวรรณภูมิเป็นศูนย์กลางการบินในภูมิภาค ซึ่งการเป็นฮับต้องมีผู้โดยสาร100 ล้านคนต่อปี แต่ปัจจุบันสุวรรณภูมิมีผู้โดยสาร 40 กว่าล้านคนต่อปี ดังนั้นต้องส่งเสริมให้มีการใช้สุวรรณภูมิมากๆ ในขณะเดียวกันต้องลดค่าใช้จ่ายของการบินไทยและเพิ่มรายได้ ซึ่งคณะทำงานได้เสนอขอย้ายเที่ยวบินจากดอนเมืองกลับไปสุวรรณภูมิ
ซึ่งข้อเสนอนั้นมีเหตุผลรองรับเพราะการให้บริการที่ดอนเมืองทำให้การบินไทยขาดทุนเพราะมีรายได้ประมาณ 600 ล้านบาทต่อปี แต่มีค่าใช้ถึง640 ล้านบาทต่อปีซึ่งยังไม่รวมค่าเสียโอกาสในการหมุนเวียนการใช้เครื่องบินเพราะต้องแบ่งเครื่องบินมาใช้ที่ดอนเมือง ภาระค่าน้ำมันเชื้อเพลิงที่เพิ่มขึ้นจากการใช้เวลาบินมากขึ้นเพราะต้องรอการจัดจราจรขึ้นละในบริเวณจุดตัดอีก 109 ล้านบาทต่อปี
โดยการบินไทยมีผู้โดยสารภายในประเทศที่สุวรรณภูมิประมาณ 4 แสนคนต่อเดือนมีอัตราส่วนบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin Factor) ถึง 90% ขณะที่ดอนเมืองมีผู้โดยสารประมาณ 2 แสนคนต่อเดือนมี Cabin Factor เพียง 70% แต่กลับมาแข่งขันเพื่อแย่งตลาดเล็กที่ดอนเมืองแล้วทิ้งตลาดใหญ่ที่สุวรรณภูมิให้ไทยแอร์เอเชียได้ไป
“ในอดีตมีการพูดว่า การเมืองเข้าไปแทรกแซงทำให้การบินไทยลำบาก วันนี้การบินไทยเสนอมาว่า จะกลับไปสุวรรณภูมิจะช่วยลดรายจ่าย ผมเป็นรัฐมนตรีคมนาคมบอกไม่ให้ทำ ก็เท่ากับแทรกแซง และไม่ใช่การบินไทยเสนอมาแล้วจะเห็นด้วยเลย เรื่องนี้มีการประชุมและสุวรรณภูมิเองก็ยืนยันว่ารองรับได้”รมว.คมนาคมกล่าว

ส่วนข้อครหาว่า การย้ายเที่ยวบินการบินไทยกลับไปสุวรรณภูมิเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กลุ่มคิงเพาเวอร์ที่รับสัมปทานร้านค้าปลอดภาษีและพื้นที่เชิงพาณิชย์ในสุวรรณภูมินั้น นายโสภณกล่าวเพียงว่า ไม่เป็นความจริง ไม่มีอะไร คิงเพาเวอร์ก็ทำธุรกิจมาก่อนหน้าแล้วและย้ำว่า การย้ายเที่ยวบินของการบินไทยครั้งนี้เป็นเรื่องของการบินไทยที่ขอมา

สหภาพฯ พบผู้บริหารทบทวนย้ายกลับ

นางแจ่มศรี สุกโชติรัตน์ ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ บริษัทการบินไทย กล่าวภายหลังเข้าหารือกับ นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังกรณีการย้ายเที่ยวบินของการบินไทยจากดอนเมืองไปสุวรรณภูมิว่า รัฐบาลไม่มีนโยบายก้าวก่ายการบินไทย เพียงแต่มีการกำหนดนโยบายโดยรวมว่า จะเป็นสนามบินเดียว หรือ จะใช้ทั้ง 2 สนามบินซึ่งกระทรวงการคลัง ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ยืนยันว่า มีนโยบายเพื่อให้การบินไทย สามารถแข่งขันกับสายการบินอื่นได้ ส่วนการย้ายสนามบินไปยังสุวรรณภูมิขึ้นอยู่กับการบินไทยเอง ว่าพร้อมจะย้ายในวันที่ 29 มี.ค. หรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้กระทรวงการคลัง จะมีการหารือกับกระทรวงคมนาคม เพื่อให้เกิดความชัดเจนต่อไป
นอกจากนี้ สหภาพแรงงานฯ จะขอพบฝ่ายบริหารบริษัทเพื่อให้ทบทวนการย้ายเที่ยวบินกลับ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องของการบินไทยที่ผู้บริหารจะพิจารณาได้ว่าจะย้ายหรือไม่ย้าย รัฐมนตรีจะมาสั่งการไม่ได้

พนง.รับเคราะห์รัฐโลเลย้ายบ้านไม่ทัน

รายงานข่าวแจ้งว่า ปัจจุบัน การบินไทยมีพนักงานปฏิบัติการที่สนามบินดอนเมืองรวมกันทุกฝ่ายเกือบ 600 คน ซึ่งการย้ายเที่ยวบินกลับสุวรรณภูมิและความไม่แน่นอนของนโยบายที่เปลี่ยนแปลงทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนรัฐบาลและรัฐมนตรีกระทรวงคมนาคม ทำให้พนักงานได้รับความเดือดร้อนในเรื่องที่พัก เพราะก่อนหน้านี้ที่มีการเปิดสนามบินสุวรรณภูมิพนักงานการบินไทยได้ย้ายที่พักไปอยู่ใกล้กับสนามบินสุวรรณภูมิแล้ว แต่ไม่นานก็มีนโยบายให้ย้ายเที่ยวบินในประเทศบางส่วนกลับมาดอนเมือง เพราะต้องการแก้ปัญหาความแออัดและปัญหาความไม่พร้อมของสนามบินสุวรรณภูมิพนักงานที่ต้องปฏิบัติหน้าที่ที่ดอนเมืองก็ต้องหาเปลี่ยนแปลงเรื่องที่พัก เพื่อให้สะดวกในการทำงานที่ดอนเมืองอีก และเพียง 2 ปี จะย้ายกลับไปสุวรรณภูมิอีก พนักงานปรับตัวไม่ทัน
ในขณะที่ฝ่ายบริหารระบุว่า มีการขายตั๋วล่วงหน้า กับผู้โดยสารไปแล้วกว่าแสนใบนั้น ในหลักการสามารถใช้การประชาสัมพันธ์แจ้งได้ ไม่มีปัญหา และผู้โดยสารที่จองตั๋วล่วงหน้าไม่ได้หมายความจะใช้บริการทั้งหมด สามารถยกเลิกได้ การปรับเปลี่ยนการบินสามารถทำได้ ขึ้นกับการสื่อสารกับผู้โดยสาร

ดิ้นไม่หลุดเอื้อประโยชน์คิงเพาเวอร์

แหล่งข่าวจากบริษัทการบินไทยกล่าวว่า เรื่องการย้ายเที่ยวบินการบินไทยกลับไปสุวรรณภูมิ เป็นเรื่องที่เกิดจากนโยบายไม่ได้มาจากการบินไทยเพราะหากการบินไทยเห็นว่าไม่คุ้มขาดทุนควรเลิกไปนานแล้ว เพราะเรื่องนี้พูดกันมาตั้งแต่สมัยนายสันติ พร้อมพัฒน์ เป็นรมว.คมนาคม แต่ไม่ได้ผลักดันจริงจังแต่ได้เป็นนโยบายเร่งด่วนสมัยที่นายโสภณ ซารัมย์ เป็นรมว.คมนาคมหลังได้แต่งตั้งนายศรีสุข จันทรางศุ เป็นประธานคณะกรรมการฟื้นฟูการบินไทยที่มีปัญหาขาดทุนจากวิกฤติต่างๆ ก็ประกาศให้การบินไทยย้ายเที่ยวบินจากดอนเมืองกลับไปสุวรรณภูมิโดยอ้างว่าจะลดค่าใช้จ่าย
แหล่งข่าวกล่าวว่า นายศรีสุขเป็นอดีตประธานบอร์ดบริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือทอท. ซึ่งเป็นช่วงก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิและคัดเลือกผู้ประกอบการต่างๆภายในสนามบิน รวมถึงกลุ่มคิงเพาเวอร์ ที่เข้ามารับสัมปทานในสนามบินท่ามกลางข้อครหาว่าไม่โปร่งใส และถูกตรวจสอบเรื่องการเอื้อประโยชน์ทำสัญญาโดยหลีกเลี่ยงพ.ร.บ.ร่วมทุน 2535 ในยุคพลเอกสพรั่ง กัลยาณมิตรเป็นประธานบอร์ดทอท.
โดยคดีต่างๆ ของคิงเพาเวอร์ มีการไกล่เกลี่ยกันในสมัยที่นายทรงศักดิ์ ทองศรี อดีตรมช.คมนาคมซึ่งเป็นโควต้ารมต.ของกลุ่มเพื่อนเนวิน เช่นเดียวกับนายโสภณ ซึ่งภาคการเมืองเป็นที่รับรู้ว่า กลุ่มเพื่อนเนวินมีสายสัมพันธืกับกลุ่มคิงเพาเวอร์อย่างไร โดยเฉพาะช่วง พรรคประชาธิปัตย์ตั้งรัฐบาลกลุ่มเพื่อนเนวินใช้ พูลแมน ที่อยู่ในตึกคิงเพาเวอร์ซอยรางน้ำ เป็นศูนย์บัญชาการ
แหล่งข่าวกล่าวว่า ข้อครหากรณีการย้ายเที่ยวบินภายในประเทศของการบินไทยกลับไปสุวรรณภูมิเป็นการเอื้อประโยชน์เข้ากลุ่มคิงเพาเวอร์ อาจจะหาหลักฐานได้ยาก แต่สามารถคำนวนจากจำนวนผู้โดยสารของการบินไทยที่ดอนเมืองปีละ กว่า 2 ล้านคน ขณะที่จำนวนผู้โดยสารรวมในส่วนของ วันทูโกและนกแอร์จะมากถึง 5.751 ล้านคนต่อปี ซึ่งเป็นจำนวนที่เพิ่มขึ้นจากปี 2550 ถึง 80% หากมีการใช้จ่ายภายในสนามบินเพียงคนละ 100 บาท เม็ดเงินเกิดขึ้นจะมากถึง 500 ล้านบาทซึ่งที่ดอนเมือง ทอท.จะได้รับผลประโยชน์โดยตรงขณะที่หากโอนผู้โดยสารทั้งหมดมาที่สุวรรณภูมิ คิงเพาเวอร์จะได้รับประโยชน์ในฐานะผู้รับสัมปทานร้านค้าดิวตี้ฟรีและร้านค้าเชิงพาณิชย์ ส่วนทอท.จะได้รับจากส่วนแบ่งตามสัญญาอีกชั้นหนึ่ง

ยันเปิดจองตั๋วทั่วโลกเปลี่ยนไม่ได้

ก่อนหน้านี้นายโชคชัย ปัญญายงค์ ผู้อำนวยการใหญ่ ฝ่ายโครงการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท การบินไทย กล่าวว่า บริษัทต้องยืนยันตารางการบินฤดูร้อนที่ประกาศไปทั่วโลกแล้ว ซึ่งเริ่มวันที่ 29 มี.ค.2552 ว่าจะให้บริการที่สุวรรณภูมิ เพราะขณะนี้มีการจองตั๋วโดยสารเข้ามาเป็นแสนที่นั่งแล้ว จะเปลี่ยนแปลงไม่ได้

”วันทูโก”ยังไม่ย้าย

นายอุดม ตันติประสงค์ชัย ประธานบริหารสายการบินวันทูโก กล่าวว่า ขณะนี้สายการบินวันทูโกยืนยันว่า จะยังให้บริการเที่ยวบินที่สนามบินดอนเมือง แต่หากกระทรวงคมนาคมจะมาเจรจาให้ย้ายไปสุวรรณภูมิก็ต้องมีความชัดเจนว่า จะไม่มีนโยบายย้ายกลับมาดอนเมืองอีก โดยขณะนี้ยังไม่ได้รับการติดต่อจากนายโสภณ Iรมว.คมนาคมที่บอกว่าจะเจรจาให้ย้ายไปสุวรรณภูมิ

ไทยแอร์เอเชียหัวชนฝาไม่กลับดอนเมือง

นายทัศพล แบเลเว็ลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทยแอร์เอเชีย กล่าวยืนยันว่า ไทยแอร์เอเชียจะไม่ย้ายกลับไปสนามบินดอนเมืองอย่างแน่นอนไม่ว่าจะเกิดกรณีใดๆทั้งสิ้น เพราะ ตอนที่ย้ายจากสนามบินดอนเมืองมาอยู่ที่สนามบินสุวรรณภูมิขณะนั้น เป็นการขอความร่วมมือจากรัฐบาลและ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) เพื่อต้องการให้สุวรรณภูมิเป็น Single Airport
ส่วนการย้ายกลับไปสนามบินดอนเมืองอีกครั้งก็แล้วแต่ความสมัครใจ ซึ่งไทยแอร์เอเชีย ได้ทำหนังสือขอความชัดเจนไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวในขณะนั้นแล้วในเรื่องของการใช้สนามบิน 2 แห่ง  การขยายสุวรรณภูมิเฟส 2  เมื่อได้รับการยืนยันเรื่องของ Single Airport อีกครั้ง เราก็ตัดสินใจแน่วแน่ว่าจะไม่ย้ายจากสนามบินสุวรรณภูมิไปไหนทั้งสิ้น เพราะการย้ายสำนักงานแต่ละครั้ง ต้องใช้เงินสำหรับติดตั้งระบบเน็คเวิร์ดจำนวนมาก อย่างคราวที่ย้ายจากดอนเมืองมาสุวรรณภูมิ เราใช้เงินตัดตั้งระบบถึง 30 ล้านบาท อีกทั้งได้ให้นโยบายนี้แก่พนักงานกว่า 1,500 ชีวิตของไทยแอร์เอเชียด้วย เพื่อเขาจะได้วางแผนชีวิตได้ เช่นการซื้อบ้าน การเลือกโรงเรียนให้ลูก เป็นต้น
จากกรณีที่เกิดปัญหาการย้ายสนามบินของการบินไทยในครั้งนี้ และ ได้มีการโยงไทยแอร์เอเชียเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยนั้น ขอประกาศชัดเจนอีกครั้งว่า ไทยแอร์เอเชียจะขอทำธุรกิจให้เดินหน้าเพียงอย่างเดียวจะไม่ขอยุ่งเกี่ยวทางการเมืองทั้งสิ้น และขอแนะให้รัฐบาลควรที่จะหันมาเร่งขยายโครงการก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิเฟส 2 โดยเร่งด่วน เพื่อลดความแออัดของการใช้สนามบิน  รวมถึงการพิจารณาการก่อสร้างโลว์คอสต์ เทอร์มินัล(อาคารผู้โดยสารสำหรับสายการบินโลว์คอสต์) ให้อยู่ภายในสนามบินสุวรณภูมิด้วย
โดยเรื่องนี้ ไทยแอร์เอเชียได้นำเสนอมาตั้งแต่รัฐบาลชุดก่อน เพื่อเป็นการตอกย้ำนโยบาย Single Airport อย่างแท้จริง อีกทั้งเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้โดยสารที่ต่อเครื่องด้วย
“หากรัฐบาลยังเห็นว่าอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเป็นแรงสำคัญที่จะผลักดันการเติบโตของจีดีพีประเทศ ก็ควรให้ความสำคัญกับเรื่องการบริหารจัดการภายในสนามบิ เพื่อลดความแออัด รวมถึงพิจารณาสร้างโลว์คอสต์เทอร์มินัล “     
อย่างไรก็ตาม หากการบินไทยจะย้ายมาที่สนามบินสุวรรณภูมิ ก็ไม่ได้กระทบต่อลูกค้าของไทยแอร์เอเชีย เพราะมองว่า แต่ละสายการบินมีบุคคลิกและกลุ่มลูกค้าที่ชัดเจน และหัวใจสำคัญของการทำธุรกิจคือ กลยุทธ์ทางการตลาดที่แต่ละฝ่ายจะนำออกมาใช้ เพื่อดึงดูดลูกค้าให้มาใช้บริการ เส้นทางบินของไทยแอร์เอเชียภายในประเทศก็ไม่ได้ทับซ้อนกับการบินไทยมากนัก ต่างคนต่างทำตลาด  ส่วนเส้นทางต่างประเทศ การบินไทยจะเน้นระยะไกล ส่วนไทยแอร์เอเชีย เน้นระยะใกล้บินไม่เกิน 3.5-4 ชั่วโมง
“ ต้องการให้สหภาพฯการบินไทย มองสายการบินต่างชาติ เช่น  สายการบินอาหรับอิมิเรท  สิงคโปร์ แอร์ไลน์ เป็นคู่แข่ง มากกว่ามาเห็นว่าโลว์คอสต์ฯ อย่าง ไทย แอร์เอเชีย เป็นคู่แข่ง เพราะลูกค้าเราส่วนใหญ่เป็นกลุ่ม บี และซี ส่วนการบินไทยเป็นระดับ เอ ถึงเอบวก ”

ดึง“เช็ค2พันบาท”ทำแคมเปญ

นายทัศพล  กล่าวอีกว่า ล่าสุด ไทยแอร์เอเชีย อยู่ระหว่างการจัดทำโปรโมชัน เพื่อมารองรับมาตรการให้เงินช่วยเหลือ 2,000 บาท แก่ผู้มีรายได้น้อย โดยจะเริ่มจ่ายเช็คให้แก่ผู้มีสิทธิที่มาลงทะเบียนไว้ในวันที่ 26 มีนาคมนี้ เราก็จะเริ่มอัดแคมเปญทันที่ โดยเบื้องต้น จะให้ผู้ที่มีเช็คสามารถนำมาซื้อตั๋วโดยสารของไทยแอร์เอเชียได้ภายใต้แคมเปญและเงื่อนไขที่ทางสายการบินกำหนด  ซึ่งขณะนี้ทางสายการบินอยู่ระหว่างการเจรจากับธนาคารพาณิชย์ในเรื่องของการนำเช็คไปขึ้นเงิน รวมถึงรายละเอียดของแคมเปญ เร็วๆนี้จะได้ข้อสรุป
อย่างไรก็ตาม ภาพรวมจำนวนผู้โดยสารที่มาใช้บริการของสายการบินไทยแอร์เอเชียปัจจุบันเริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ ซึ่งอาจเป็นผลจากแคมเปญที่เราออกไปในแต่ละเดือนได้ผลตอบรับที่ดี  โดยบริษัทมีนโยบายออกแคมเปญถี่ขึ้นจากปีก่อน โดยจะออกเดือนละอย่างน้อย 2 ครั้ง  เพื่อจะได้สอดรับกับเป้าหมายที่ตั้งไว้ว่าปีนี้จะขนส่งผู้โดยสารให้ได้ถึง 5.2 ล้านคน  จากปี 51 ที่ได้ 4.2 ล้านคน  
ทางด้าน นายพาที สารสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินนกแอร์  กล่าวเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับไทยแอร์เอเชีย ว่า  สนับสนุนให้รัฐบาลลงทุนสร้างโลว์คอสต์  เทอร์มินัล  พร้อมออกมาตรการชัดเจนในเรื่องของการบริหารท่าอากาศยาน ด้วย  โดยนกแอร์ยังยืนยันว่า จะไม่ย้ายกลับสนามบินสุวรรณภูมิเช่นกัน เพราะค่าใช้จ่ายในการย้ายแต่ละครั้งต้องใช้เงินจำนวนมาก ซึ่งนกแอร์ก็ยังมีภาระหนี้สินที่ยังเหลืออีก 70 ล้านบาท ต้องเร่งใช้ให้หมด
กำลังโหลดความคิดเห็น