รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ฉุน “สนธิ” ปูดข่าวคิงเพาเวอร์จ่ายเงิน ส.ส.พรรคหัวละแสนเพื่อตั้งรัฐบาล ชี้ต้องรับผิดชอบคำพูด เชื่อประชาชนมีวิจารณญาณ ตัดสินใจได้เองผิดหรือถูก ปัดไม่เคยล้วงลูกแต่งตั้งข้าราชการมหาดไทย หวังปูฐานเสียงเลือกตั้ง เป็นสิทธิฟ้องศาลปกครอง
วันนี้ (11 มี.ค.) นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง กล่าวถึงกรณีที่นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ออกมาระบุว่าบริษัท คิงเพาเวอร์ จ่ายเงินให้ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ คนละ 100,000 บาท ในการจัดตั้งรัฐบาลที่ผ่านมาว่า นายสนธิจะต้องรับผิดชอบคำพูดของตนเอง เชื่อว่าประชาชนมีวิจารณญาณ สามารถตัดสินใจว่าอะไรผิดหรือถูกเองได้
นายสุเทพกล่าวถึงการโยกย้ายข้าราชการกระทรวงมหาดไทยว่า ยืนยันว่าไม่มีการล้วงลูกจากฝ่ายการเมืองเพื่อเตรียมปูฐานเสียงสำหรับการเลือกตั้งครั้งต่อไปอย่างที่เป็นข่าว ทั้งหมดเป็นไปเพื่อประโยชน์ในการบริหารราชการ และหากมีข้าราชการบางรายไปฟ้องศาลปกครอง ก็ถือว่าเป็นสิทธิ์ที่สามารถดำเนินการได้
อย่างไรก็ตาม รองนายกรัฐมนตรีกล่าวปฏิเสธว่ายังไม่ได้รับหนังสือขอให้มีการเปลี่ยนตัวพนักงานสอบสวนคดีเหตุการณ์ 7 ตุลาคม แต่หากมีการเสนอมาก็จะต้องพิจารณาอีกครั้ง
นายสุเทพ เปิดเผยเพิ่มเติม กรณีนายสนธิ ระบุว่ามีการพูดกันในหมู่ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ว่ากลุ่มเพื่อนเนวินมีบุญคุณกับพรรคประชาธิปัตย์ ว่า นายสนธิคงพูดเอง ส.ส.ประชาธิปัตย์คงไม่ได้พูด ซึ่งตนไม่มีเวลาไปทะเลาะกับใคร เพราะวันนี้ทำงานจนจะเป็นลมอยู่แล้ว
ดีเดย์ 18 มี.ค.ปราบยาเสพติดบูรณาการ
ที่รัฐสภานายสุเทพ เทือกสุบรรณ กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลเตรียมดีเดย์ นโยบายปราบปรามยาเสพติด ว่า รัฐบาลจะดำเนินการในโครงการดังกล่าวอย่างเป็นรูปธรรมในวันที่ 18 มี.ค.นี้ โดยให้ทุกภาคส่วนบูรณาการ การทำงานให้สอดคล้องกันทุกฝ่าย เช่น พื้นที่รอบนอกตามแนวชายแดน มอบให้ทหารและตำรวจตระเวนชายแดน ดูแลรับผิดชอบ ส่วนการปราบปรามเครือข่ายผู้ค้ายาภายในเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ กระทรวงมหาดไทย รวมทั้ง กอ.รมน.จังหวัด ต้องไปเปิดยุทธการรณรงค์ให้ทุกครอบครัวและทุกภาคส่วน ทั้งนี้ รัฐบาลยืนยันว่าการแก้ไขปัญหายาเสพติดจะเป็นไปตามหลักกฎหมาย โดยไม่ใช้วิธีตัดตอนหรือโฆษณาชวนเชื่ออย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม รัฐบาลพยายามปราบปรามให้ยาเสพติดเหลือน้อยที่สุด ทั้งนี้ในเบื้องต้นจะเร่งทำงานให้เร็วที่สุด โดยยังไม่ตีกรอบเวลา
ส่วนจะขึ้นแบล็กลิสต์ผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่หรือไม่นั้น รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ถ้าพบว่าใครเป็นผู้ค้า ก็จะจับทันทีโดยไม่จำเป็นต้องทำแบล็กลิสต์