นายวิทยา บุรณศิริ ส.ส.พระนครศรีอยุธยา พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธาน วิปฝ่ายค้าน กล่าวถึงการเข้าพบกับนายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช เมื่อค่ำวันที่ 5 มี.ต.ว่า แม้นายเสนาะ จะเสนอให้เปิดอภิปรายทั่วไป แต่การยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจของพรรคเพื่อไทยยังคงดำเนินต่อไปตามกำหนดการเดิม
เท่าที่ได้คุยกับท่านเสนาะ ก็อยากให้ตั้งกระทู้ หรือยื่นญัตติขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาวิกฤตชาาติเพราะบ้านเมืองไปไม่ไหวแล้วและขณะนี้เหยื่อยังเข้าปากปลาไม่มิด ดังนั้น ควรรอให้ปลางับเหยื่อกินเบ็ดเสียก่อนซึ่งเหยื่อในความหมายของท่านเสนาะก็คือโครงการใหญ่ๆ ที่ขณะนี้เมื่อรัฐบาลทราบว่าฝ่ายค้านจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ ก็มีการชะลอโครงการไว้แล้ว อย่างไรก็ตามการอภิปรายของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เป็นข้อมูลเฉพาะอยู่แล้ว
นายวิทยา กล่าวว่า เข้าใจว่านายเสนาะ คงให้พรรคเพื่อไทยดำเนินการไป แต่หากจะให้พรรคประชาราชร่วมอภิปรายด้วยก็ควรให้เปิดอภิปรายทั่วไป เพราะนายเสนาะไม่เห็นด้วยกับที่มาของรัฐบาลตั้งแต่แรก ดังนั้นการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ ครั้งนี้พรรคประชาราชคงไม่ลงชื่อร่วมเสนอญัตติจะขอเป็นคนฟังเท่านั้น
ผมไม่ได้ถามว่าท่านเสนาะ ยังเหนียวแน่นกับทางฝ่ายค้าหรือไม่ แต่เชื่อว่า คงไม่มีอะไร เพราะนายเสนาะว่ารัฐบาลถึงขนาดนั้นและไม่ชอบรัฐบาลแล้วจะไปร่วมรัฐบาลได้อย่างไร ถ้าบอกว่าไม่ชอบแล้วไปร่วมกันก็ผิดปกติ
ผู้สื่อข่าวถามว่าการเสนอญัตติของพรรคเพื่อไทย จะให้ ส.ส.ของพรรคร่วมลงชื่อ ครบทั้ง 187 คนหรือไม่เพื่อแสดงความเป็นเอกภาพ นายวิทยา กล่าวว่า จะอย่างนั้นก็ได้ แต่ความจริงแค่ลงชื่อครบตามเกณฑ์ที่กำหนดก็ได้ ส่วนกรณีที่มี ส.ส.บางคน เสนอให้เลื่อนยื่นอภิปรายออกไปเป็นช่วงเดือนเมษายนนั้น คงไม่สามารถเลื่อนได้
นายสุนัย จุลพงษ์ธร ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ในฐานะคณะทำงาน เตรียมความพร้อมในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล กล่าวว่า เป็นเรื่องธรรมดาที่ ส.ส.พรรคเพื่อไทยหลายคนเสนอให้เลื่อนการยื่นญัตติอภิปรายฯออกไปหลังสงกรานต์ถือเป็นความเห็นที่แตกต่าง ขณะที่ ส.ส.อีกส่วนหนึ่งซึ่งเป็นทีมงานของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง หัวหน้าคณะทำงานเตรียมการอภิปรายฯเห็นว่า ถ้ามีความพร้อมก็ควรเดินหน้าต่อไป ไม่ควรรอให้ข้อมูลสมบูรณ์มากกว่านี้ ทั้งนี้ ตนเห็นด้วยกับทั้งสองฝ่าย เพราะมองว่าหากจะเลื่อนวันออกไปอีกหน่อย ก็ไม่น่าจะเป็นอะไร อย่างไรก็ตาม ไม่ควรเกินสมัยประชุมนี้ แต่ขอตนยืนยันว่า ข้อมูลเอกสารหลักฐานที่คณะทำงานได้เตรียมไว้ มีหลักฐาน 3 - 4 เรื่อง ซึ่งสามารถเอาผิดรัฐมนตรีได้ 3 - 4 คน ซึ่งในวันที่ 9 มี.ค. คณะกรรมการบริหารพรรคจะมีการประชุมกรอบ ในการอภิปรายในทุกเรื่อง ก่อนที่จะไปยื่นญัตติในวันที่ 11 มี.ค.นี้ แน่นอน
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ขณะนี้ฝ่ายค้านขาดเอกภาพ พรรคร่วมฝ่ายค้านอื่นมีความเห็นแตกต่างกันไป ดังนั้น ร.ต.อ.เฉลิม ควรแสดงภาวะความเป็นผู้นำ ด้วยการสร้างบารมีให้กับตัวเองในฐานะเป็นหัวหน้าทีมในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตนไม่อยากให้ร.ต.อ.เฉลิม เป็นเพียงแม่ทัพที่อุปโลกน์ขึ้นมา ซึ่งต้องได้รับการสนับสนุนพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ให้เป็นผู้ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นนายกรัฐมนตรี ในญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ
อีกทั้งยังต้องให้นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี เข้ามาช่วยล็อบบี้ นายเสนาะ ในการเข้าร่วมยื่นญัตติซักฟอก ขาดเพียงนายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี ที่น่าจะเป็นผู้แนะนำเทคนิคการอภิปรายในสภาให้กับร.ต.อ.เฉลิม ถ้าเป็นเช่นนั้นจะถือว่าร.ต.อ.เฉลิม ใช้อดีตนายกรัฐมนตรีถึง 3 คน เป็นตัวช่วย ตนจึงไม่แน่ใจว่า บทบาทของร.ต.อ.เฉลิม เป็นเพียงการออกแขก โหมโรง ปล่อยข่าวสร้างกระแสอภิปรายไม่ไว้วางใจเท่านั้นหรือ
ส่วนที่มีส.ส.พรรคเพื่อไทยเสนอให้เลื่อนการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ออกไปเป็นหลังเทศกาลสงกรานต์นั้น นายเทพไท กล่าวว่า เท่ากับว่าพรรคเพื่อไทย ไม่มีข้อมูลจนต้องไปหาข้อมูลเอาดาบหน้า เนื่องจากไม่มีประเด็น เอาแต่ประโคมข่าว และคอยหาข้อมูลจากข่าวหรือผู้หวังดี เหมือนลงเล่นฟุตบอลแต่ไม่มีโอกาสยิงประตู หวังแต่ลูกฟาวล์เท่านั้น ซึ่งตนอยากให้การอภิปรายมีคุณภาพในมือของฝ่ายค้านหัดขับอย่างพรรคเพื่อไทย อย่างไรก็ตามการที่นายเสนาะ ระบุอยากให้บ้านเมืองสงบนั้น ถือเป็นการเตือนพรรคเพื่อไทยว่ามือไม่พายอย่าเอาเท้าราน้ำ ตนอยากให้สังคมจับตามอบว่าญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ใครจะอภิปรายใครกันแน่นอน
นพ. บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ว่า การที่ กกต.ยืนยันว่าไม่พบเงินบริจาคเข้าพรรคประชาธิปัตย์ 250 ล้านบาทของนายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ์ ผู้บริหาร บริษัท ทีพีอไอ โพลีน และการใช้เงินกองทุนเพื่อสนับสนันพรรคการเมือง 28 ล้านบาทของพรรคประชาธิปัตย์ ไม่มีอะไรผิดปกติ ก็แสดงว่าข้อกล่าวหา ของฝ่ายค้านเป็นเพียงการใส่ร้ายปราศจาคมูลความจริงทั้งสิ้น และอาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ฝ่ายค้านเตรียมเลื่อนญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจออกไป เป็นหลังสงกรานต์ เพื่อให้สอดคล้องกับการที่กลุ่มเสื้อแดงจะชุมนุมใหญ่ในอีก 3 สัปดาห์ข้างหน้า พรรคประชาธิปัตย์เห็นว่าเป็นการดำเนินการที่ไม่ทำให้ประชาชนได้ประโยขน์อะไร
นพ.บุรณัชย์ กล่าวว่า อยากให้พรรคเพื่อไทยมีความชัดเจนในเรื่องตัวบุคคลที่จะได้รับโปรดเกล่าฯให้เป็นผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งหากพรรคเพื่อไทย มั่นใจในตัว ร.ต.อ.เฉลิม ก็อยากให้มั่นใจด้วยว่า พร้อมจะให้ร.ต.อ.เฉลิม เป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และควรที่จะพร้อมได้รับการตรวจสอบและรับผิดชอบต่อผลการกระทำของตนเอง ซึ่งจะถือเป็นเงื่อนไขสำคัญที่จะทำให้การเมืองเป็นปกต
เท่าที่ได้คุยกับท่านเสนาะ ก็อยากให้ตั้งกระทู้ หรือยื่นญัตติขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาวิกฤตชาาติเพราะบ้านเมืองไปไม่ไหวแล้วและขณะนี้เหยื่อยังเข้าปากปลาไม่มิด ดังนั้น ควรรอให้ปลางับเหยื่อกินเบ็ดเสียก่อนซึ่งเหยื่อในความหมายของท่านเสนาะก็คือโครงการใหญ่ๆ ที่ขณะนี้เมื่อรัฐบาลทราบว่าฝ่ายค้านจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ ก็มีการชะลอโครงการไว้แล้ว อย่างไรก็ตามการอภิปรายของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เป็นข้อมูลเฉพาะอยู่แล้ว
นายวิทยา กล่าวว่า เข้าใจว่านายเสนาะ คงให้พรรคเพื่อไทยดำเนินการไป แต่หากจะให้พรรคประชาราชร่วมอภิปรายด้วยก็ควรให้เปิดอภิปรายทั่วไป เพราะนายเสนาะไม่เห็นด้วยกับที่มาของรัฐบาลตั้งแต่แรก ดังนั้นการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ ครั้งนี้พรรคประชาราชคงไม่ลงชื่อร่วมเสนอญัตติจะขอเป็นคนฟังเท่านั้น
ผมไม่ได้ถามว่าท่านเสนาะ ยังเหนียวแน่นกับทางฝ่ายค้าหรือไม่ แต่เชื่อว่า คงไม่มีอะไร เพราะนายเสนาะว่ารัฐบาลถึงขนาดนั้นและไม่ชอบรัฐบาลแล้วจะไปร่วมรัฐบาลได้อย่างไร ถ้าบอกว่าไม่ชอบแล้วไปร่วมกันก็ผิดปกติ
ผู้สื่อข่าวถามว่าการเสนอญัตติของพรรคเพื่อไทย จะให้ ส.ส.ของพรรคร่วมลงชื่อ ครบทั้ง 187 คนหรือไม่เพื่อแสดงความเป็นเอกภาพ นายวิทยา กล่าวว่า จะอย่างนั้นก็ได้ แต่ความจริงแค่ลงชื่อครบตามเกณฑ์ที่กำหนดก็ได้ ส่วนกรณีที่มี ส.ส.บางคน เสนอให้เลื่อนยื่นอภิปรายออกไปเป็นช่วงเดือนเมษายนนั้น คงไม่สามารถเลื่อนได้
นายสุนัย จุลพงษ์ธร ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ในฐานะคณะทำงาน เตรียมความพร้อมในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล กล่าวว่า เป็นเรื่องธรรมดาที่ ส.ส.พรรคเพื่อไทยหลายคนเสนอให้เลื่อนการยื่นญัตติอภิปรายฯออกไปหลังสงกรานต์ถือเป็นความเห็นที่แตกต่าง ขณะที่ ส.ส.อีกส่วนหนึ่งซึ่งเป็นทีมงานของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง หัวหน้าคณะทำงานเตรียมการอภิปรายฯเห็นว่า ถ้ามีความพร้อมก็ควรเดินหน้าต่อไป ไม่ควรรอให้ข้อมูลสมบูรณ์มากกว่านี้ ทั้งนี้ ตนเห็นด้วยกับทั้งสองฝ่าย เพราะมองว่าหากจะเลื่อนวันออกไปอีกหน่อย ก็ไม่น่าจะเป็นอะไร อย่างไรก็ตาม ไม่ควรเกินสมัยประชุมนี้ แต่ขอตนยืนยันว่า ข้อมูลเอกสารหลักฐานที่คณะทำงานได้เตรียมไว้ มีหลักฐาน 3 - 4 เรื่อง ซึ่งสามารถเอาผิดรัฐมนตรีได้ 3 - 4 คน ซึ่งในวันที่ 9 มี.ค. คณะกรรมการบริหารพรรคจะมีการประชุมกรอบ ในการอภิปรายในทุกเรื่อง ก่อนที่จะไปยื่นญัตติในวันที่ 11 มี.ค.นี้ แน่นอน
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ขณะนี้ฝ่ายค้านขาดเอกภาพ พรรคร่วมฝ่ายค้านอื่นมีความเห็นแตกต่างกันไป ดังนั้น ร.ต.อ.เฉลิม ควรแสดงภาวะความเป็นผู้นำ ด้วยการสร้างบารมีให้กับตัวเองในฐานะเป็นหัวหน้าทีมในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตนไม่อยากให้ร.ต.อ.เฉลิม เป็นเพียงแม่ทัพที่อุปโลกน์ขึ้นมา ซึ่งต้องได้รับการสนับสนุนพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ให้เป็นผู้ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นนายกรัฐมนตรี ในญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ
อีกทั้งยังต้องให้นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี เข้ามาช่วยล็อบบี้ นายเสนาะ ในการเข้าร่วมยื่นญัตติซักฟอก ขาดเพียงนายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี ที่น่าจะเป็นผู้แนะนำเทคนิคการอภิปรายในสภาให้กับร.ต.อ.เฉลิม ถ้าเป็นเช่นนั้นจะถือว่าร.ต.อ.เฉลิม ใช้อดีตนายกรัฐมนตรีถึง 3 คน เป็นตัวช่วย ตนจึงไม่แน่ใจว่า บทบาทของร.ต.อ.เฉลิม เป็นเพียงการออกแขก โหมโรง ปล่อยข่าวสร้างกระแสอภิปรายไม่ไว้วางใจเท่านั้นหรือ
ส่วนที่มีส.ส.พรรคเพื่อไทยเสนอให้เลื่อนการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ออกไปเป็นหลังเทศกาลสงกรานต์นั้น นายเทพไท กล่าวว่า เท่ากับว่าพรรคเพื่อไทย ไม่มีข้อมูลจนต้องไปหาข้อมูลเอาดาบหน้า เนื่องจากไม่มีประเด็น เอาแต่ประโคมข่าว และคอยหาข้อมูลจากข่าวหรือผู้หวังดี เหมือนลงเล่นฟุตบอลแต่ไม่มีโอกาสยิงประตู หวังแต่ลูกฟาวล์เท่านั้น ซึ่งตนอยากให้การอภิปรายมีคุณภาพในมือของฝ่ายค้านหัดขับอย่างพรรคเพื่อไทย อย่างไรก็ตามการที่นายเสนาะ ระบุอยากให้บ้านเมืองสงบนั้น ถือเป็นการเตือนพรรคเพื่อไทยว่ามือไม่พายอย่าเอาเท้าราน้ำ ตนอยากให้สังคมจับตามอบว่าญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ใครจะอภิปรายใครกันแน่นอน
นพ. บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ว่า การที่ กกต.ยืนยันว่าไม่พบเงินบริจาคเข้าพรรคประชาธิปัตย์ 250 ล้านบาทของนายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ์ ผู้บริหาร บริษัท ทีพีอไอ โพลีน และการใช้เงินกองทุนเพื่อสนับสนันพรรคการเมือง 28 ล้านบาทของพรรคประชาธิปัตย์ ไม่มีอะไรผิดปกติ ก็แสดงว่าข้อกล่าวหา ของฝ่ายค้านเป็นเพียงการใส่ร้ายปราศจาคมูลความจริงทั้งสิ้น และอาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ฝ่ายค้านเตรียมเลื่อนญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจออกไป เป็นหลังสงกรานต์ เพื่อให้สอดคล้องกับการที่กลุ่มเสื้อแดงจะชุมนุมใหญ่ในอีก 3 สัปดาห์ข้างหน้า พรรคประชาธิปัตย์เห็นว่าเป็นการดำเนินการที่ไม่ทำให้ประชาชนได้ประโยขน์อะไร
นพ.บุรณัชย์ กล่าวว่า อยากให้พรรคเพื่อไทยมีความชัดเจนในเรื่องตัวบุคคลที่จะได้รับโปรดเกล่าฯให้เป็นผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งหากพรรคเพื่อไทย มั่นใจในตัว ร.ต.อ.เฉลิม ก็อยากให้มั่นใจด้วยว่า พร้อมจะให้ร.ต.อ.เฉลิม เป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และควรที่จะพร้อมได้รับการตรวจสอบและรับผิดชอบต่อผลการกระทำของตนเอง ซึ่งจะถือเป็นเงื่อนไขสำคัญที่จะทำให้การเมืองเป็นปกต