xs
xsm
sm
md
lg

เด้งผู้ว่าฯเชียงรายเข้ากรุมท.เสนาะžเย้ยข้อมูลซักฟอกเก่า

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

รายงานจากกระทรวงมหาดไทยแจ้งว่า เมื่อวานนี้(4 มี.ค.) นายวิชัย ศรีขวัญ รักษาการปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้ลงนามในคำสั่งให้นายไตรสิทธิ์ สินสมบูรณ์ทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย มาช่วยราชการกระทรวงมหาดไทย เป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 9 มี.ค.เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง โดยให้รองผู้ว่าฯเชียงราย อาวุโสอันดับ 1 รักษาราชการแทน
สำหรับสาเหตุการตัดสินใจของนายวิชัยในครั้งนี้ เพราะหลังจากได้หนังสือร้องเรียนจากข้าราชการในจ.เชียงราย จำนวนมากกว่าไม่สามารถทำงานร่วมกับ นายไตรสิทธิ์ได้ อีกทั้งประชาชนในพื้นที่ก็แสดงท่าทีต่อต้านเพราะไม่พอใจการทำงานของนายนายไตรสิทธิ์ จึงเกรงว่าจะเกิดปัญหาในการทำงาน ดังนั้น เพื่อเป็นการแก้ปัญหาจึงต้องมีการย้ายมาช่วยงานที่กระทรวงมหาดไทยเป็นการชั่วคราว
นอกจากนี้ยังพบว่านายไตรสิทธิ์ ไม่สามารถแก้ปัญหาความขัดแย้งของคนเสื้อแดงที่มีการรวมกลุ่มต่อต้านรัฐบาลหลายครั้ง ทำให้ฝ่ายการเมืองไม่พอใจอย่างมาก แต่เหตุผลการย้ายครั้งนี้ น่าจะเป็นเรื่องการทำงานในมากกว่า
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า นายไตรสิทธิ์ เป็นผู้ว่าฯเชียงราย เมื่อเดือนเม.ย.51 เพราะมีแรงสนับสนุนจากนายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตประธานสภา และแกนนำพรรคพรรคเพื่อไทย โดยโยกย้ายให้ออกจากตำแหน่งจากผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย สมัย ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เป็นรมว.มหาดไทย หลังจากถูกย้ายมาช่วยราชการที่กระทรวงมหาดไทยเป็นเวลานาน นอกจากนี้ ยังพบว่านายไตรสิทธิ์ เดิมชื่อนายไชยสิทธิ์ เพื่อแก้เคล็ดตามความเชื่อ ทั้งนี้นายไตรสิทธิ์ จะเกษียณข้าราชการในเดือนต.ค. 52
นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช กล่าวยืนยันอีกครั้งว่า บ้านเมืองขณะนี้อยู่ในภาวะวิกฤตและตกต่ำสุดๆ จึงอยากให้ทุกคนหันหน้าเข้าหากันช่วยแก้ปัญหาชาติ ความรู้สึกในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาเรื่องการอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้น ตนคิดแล้วคิดอีก เอาทั้งความรู้สึก ประสบการณ์และอนาคตของประเทศมารวมกัน เห็นว่าวิกฤตชาติครั้งนี้ไม่ใช่เวลาที่เราจะมาทะเลากัน หรือเอาชนะกันด้วยการใช้คำพูดแขวะกันเพื่อสร้างภาพ
นายเสนาะ กล่าวว่า ข้อมูลอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นเรื่องไร้สาระ โดยเฉพาะการนำเรื่องเก่าๆ เช่นเงินบริจาค 250 ล้านบาทเมื่อปี 2548 ปัญหา สปก.4-01 ซึ่งเรื่องจบไปกว่า 10 ปี จะเอามาพูดให้ได้อะไร ควรเอาเรื่องปัญหาเฉพาะหน้าว่าใครคิดี คิดไม่ดีกับประเทศมากกว่า และไม่จำเป็นต้องเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพราะมือในสภาก็เท่านั้น ทำไมไม่คิดอย่างสร้างสรรค์
ถ้าจะเอาความถูก ความชอบก็ควรเปิดอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติมให้ทุกฝ่ายได้พูดทั้ง ส.ส.ฝ่ายค้านและรัฐบาล โดยรัฐบาลต้องใจกว้างเปิดให้มีการถ่ายทอดสด ทั้งวิทยุและโทรทัศน์ ทุกเรื่องควรเอามาพูดในสภา ทั้งเรื่องการใข้อำนาจแบบ 2 มาตรฐานการแต่งตั้งองค์กรอิสระต่างๆ ถูกต้องหรือไม่ โดยให้ประชาชนและสื่อมวลชนตัดสินใครเอาความเท็จหรือความจริงมาพูด
นายเสนาะ กล่าวว่าหากพรรคเพื่อไทยเปิดอภปรายทั่วไปตนจะพูด ไม่อย่างนั้นก็จะเสียคน และฝากไปถึงนักกฎหมายคนหนึ่งในพรรคประชาธิปัตย์ ที่ออกมาพูดว่าจะนำเรื่องที่ดินอัลไพน์มาพูดนั้น เรื่องนี้ตนได้พูโและชี้แจงในสภามาแล้ว นายชวน หลีกภัย นายกฯในขณะนั้นก็ยืนยันแล้วว่าตนไม่ผิด
แนวคิดในการเปิดอภิปรายทั่วไปตนได้เสนอนายวิทยา บูรณศิริ ประธานวิปฝ่ายค้านไปแล้วเมื่อตอนที่มาพบผมวันที่ 3 มี.ค. ซึ่งนายวิทยาก็เห็นด้วยโดยบอกว่าจะนำไปบอกกับพรรคเพื่อไทย และเรื่องนี้ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดินก็เห็นดวย
ส่วนที่พรรคเพื่อไทยยังเดินหน้ายื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจและให้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เป็นนายกรัฐมนตรีนั้น นายเสนาะ กล่าวว่า ตนเรียนตรงๆ ว่ายังไม่ถึงเวลาของ ร.ต.อ.เฉลิม ควรมาร่วมกันอภิปรายทั่วไปจะดีกว่า หากพรรคเพื่อไทยไม่ยอมรับข้อเสนอ พรรคประชาราชก็จะไม่โหวตเพราะถ้าโหวตไปก็เสียมือเปล่า
นางสดศรี สัตยธรรม กกต. กล่าวถึงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ ตั้งข้อสงสัยเหตุใด กกต. มาพูดเรื่องการใช้จ่ายเงินกองทุนเพื่อพัฒนาพรรคการเมืองผิดประเภท ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2548 รวมไปถึงกรณีเงินบริจาค 258 ล้านบาทในช่วงนี้ ว่า เรื่องนี้เกิดขึ้นจากการที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) มาพบและสอบถามถึงเรื่องดังกล่าวตนจึงตอบไป และเมื่อสื่อมวลชนเห็นจึงนำเรื่องดังกล่าวมาถาม จึงได้บอกไปตามข้อเท็จจริง
นางสดศรี กล่าวว่า การเข้าพบครั้งนั้น เจ้าหน้าที่ดีเอสไอบอกว่าจะมอบข้อมูล เรื่องดังกล่าวให้ กกต. เพราะไม่มีอำนาจพิจารณาความผิดตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ดังนั้นขอยืนยันว่า ตนไม่ได้เป็นคนยกเรื่องขึ้นมา เพราะส่วนตัวแล้วไม่มีอคติกับพรรคใด
ขนาดดีเอสไอมาขอคนของเราไปเป็นที่ปรึกษา เรายังไม่ให้เลย เพราะ กกต. ยึดเรื่องความเป็นกลาง เราไม่ต้องการให้เรื่องเงินบริจาคและเงินกองทุนเพื่อพัฒนาพรรคการเมืองเป็นประเด็นทางการเมือง ระหว่างพรรคประชาธิปัตย์กับดีเอสไอ เราต้องพยายามไม่สัมภาษณ์ให้เป็นประเด็นทางการเมืองอย่างที่พรรคประชาธิปัตย์ให้ข่าว
นางสดศรี กล่าวว่า กกต.ไม่ได้อยากรับงานจากดีเอสไอ แต่เมื่อมีการร้องเข้ามา ดีเอสไอก็ถือเป็นโจทก์ เราต้องรับเอาไว้ และตั้งอนุกรรมการขึ้นมาพิจารณาว่า เรื่องดังกล่าวอยู่ในอำนาจของ กกต. ที่จะสอบหรือไม่ เรื่องนี้ดีเอสไอไม่ควรให้ข่าวว่า กกต. ต้องทำในเรื่องที่ดีเอสไอทำมาแล้ว
ไม่ทราบว่าดีเอสไอต้องการอะไรหรือไม่ เรื่องนี้เราไม่ได้เป็นคนร้องขอ ดีเอสไอเป็นคนส่งมาเอง จึงต้องถามว่า สาเหตุที่อธิบดีดีเอสไอส่งลูกน้องมานั้น มีจุดประสงค์อะไร คราวหน้า ถ้ามาจะไม่ให้พบแล้ว หรือหากจะพบก็จะให้สื่อเข้าไปดูด้วยว่าพูดอะไรกัน
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย แถลงภายหลังการประชุมคณะทำงานเตรียมการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลว่า เบื้องต้น ได้ข้อสรุปที่จะอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีในรัฐบาล 3 คน ประกอบด้วย นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง และนายอิสสระ สมชัย รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และคาดว่าวันที่ 10 มี.ค. จะได้ข้อสรุปเรื่องตัวรัฐมนตรีที่จะถูกอภิปรายเพิ่มเติมอีกครั้ง ก่อนดำเนินการยื่นถอดถอน และยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจต่อไป แต่ไม่เปิดเผยตัวผู้อภิปรายของฝ่ายค้าน จะบอกในช่วงนาทีสุดท้ายก่อนการอภิปราย
ทั้งนี้ได้มอบหมายให้นายพีระพันธ์ พาลุสุข ส.ส.ยโสโร และนายมานิตย์ จิตต์จันทร์กลับ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทยร่างญันติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ส่วนการยื่นถอดถอนนายกรัฐมนตรีนั้น มอบหมายให้นายประเกียรติ นาสิมมา ส.ส.สัดส่วน ไปร่างญัตติมา แต่ยังบอกไม่ได้ว่าจะยื่นถอดถอนนายกรัฐมนตรีประเด็นใด เพราะเดี๋ยวจะกระทบจิตใจนายกฯ โดยจะให้นายพีระพันธุ์ และคณะไปยื่นถอดถอน ต่อประธานวุฒิสภา ภายในสัปดาห์หน้า หลังจากนั้นนายวิทยา บุรณศิริ ประธานวิปฝ่ายค้าน ไปยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจต่อประธานสภาฯ ซึ่งจะแบ่งเป็นการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ 1 ฉบับ และการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีอีก 1 ฉบับ
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยได้มอบหมายให้นายพีระพันธุ์ พาลุสุข ส.ส.ยโสธร พรรคเพื่อไทย และคณะ ไปยกร่างหนังสือยื่นถอดถอนนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรี เพื่อนำมาให้นายวิทยา บุรณศิริ ประธานวิปฝ่ายค้าน และคณะ ไปดำเนินการ ยื่นญัติอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี ดังนั้น ขอให้รัฐบาลปฏิบัติตามที่ได้รับปากว่าจะเปิดโอกาสให้ฝ่ายค้านได้อภิปรายอย่างเต็มที่ อย่ามีการประท้วงเป็นระยะระหว่างการอภิปราย โดยฝ่ายค้านจะอภิปรายอย่างกระชับ
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ไม่ขอให้ความเห็นกรณีที่พรรคร่วมฝ่ายค้าน ไม่ร่วมอภิปรายในครั้งนี้ เพราะพรรคเพื่อไทยมีมติยื่นถอดถอนและอภิปรายไม่ไว้วางใจ อย่างชัดเจนแล้ว และมีความพร้อมในทุกด้าน อย่างไรก็ตาม หวังว่าพรรคร่วมรัฐบาล เมื่อรับฟังคำอภิปรายจะหันกลับมาสนับสนุนฝ่ายค้าน
ส่วนกรณีที่นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช เสนอให้อภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมตินั้นร.ต.อ.เฉลิม ย้ำว่า พรรคมีมติไปแล้ว และไม่มีความเห็นต่อ ความเห็นของนายเสนาะ รวมถึงไม่ต้องการตอบโต้และไม่คัดค้าน แต่จะเก็บความเห็นไว้ในใจ เพราะนายเสนาะเป็นผู้ใหญ่ที่มีความอาวุโส
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่าการอภิปรายครั้งนี้ไม่แน่ใจว่าจะใช้เวลากี่วัน แต่โดยส่วนตัวอยากให้น้อยคนที่สุด ทั้งรัฐมนตรีที่จะอภิปราย รวมทั้งจำนวนส.ส.ฝ่ายค้านที่จะขึ้น อภิปราย โดยจะกระชับประเด็น เน้นเฉพาะเรื่องสำคัญ ส่วนการอภิปราย 2 วันจะเพียงพอหรือไม่ตนยังไม่อยากจะบอก ต้องดูประเด็นก่อน แต่มั่นใจว่าข้อมูลที่ตน มีอยู่ดีพอ แต่ถ้าหากสมาชิกพรรคบอกว่าไม่ได้เรื่อง จะลาออกจากประธานส.ส.พรรคทันที
กำลังโหลดความคิดเห็น