xs
xsm
sm
md
lg

MILL งวดสิ้น51ขาดทุนเกือบ100ล้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - มิลล์คอนสตีลฯ ขาดทุนเกือบ 100 ล้านบาท หรือขาดทุนเพิ่ม 194 % แม้รายได้จากการขายเพิ่ม เพราะหลังเกิดปัญหาวิกฤติการณ์เศรษฐกิจที่เกิดในสหรัฐอเมริกา ส่งผลกระทบต่อราคาสินค้าหลายประเภทที่อ้างอิงราคามาตรฐานสากลผันผวน เหล็กก่อสร้างปรับลด บริษัทต้องตั้งสำรองเผื่อการลดลงของมูลค่าสินค้าที่ราคาตลาดต่ำกว่าราคาทุนสูงถึง 448.84 ล้านบาท

นางภิรมย์ เศาภายน กรรมการ บริษัท มิลล์คอนสตีล อินดัสทรีส์ จำกัด (มหาชน) ( MILL) แจ้งผลการดำเนินงานงวดสิ้นปี 51 ว่าบริษัทมีผลขาดทุนสุทธิ 99.15 ล้านบาท ขณะที่งวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 105.56 ล้านบาท หรือขาดทุนเพิ่ม 193.93% และมีกำไรสุทธิในงบการเงินรวมสำหรับงวด 8 เดือนตั้งแต่ 30 เมษายน 51 ถึง 31 ธันวาคม 51 ที่เกิดจากการควบรวมกิจการกับบริษัท บี อาร์ พี สตีล จำกัด (เหล็กบูรพาอุตสาหกรรม ) เป็นเงินรวม 434.04 ล้านบาท โดยมีส่วนที่เป็นของบริษัทฯ 357.41 ล้านบาทและเป็นของผู้ถือหุ้นส่วนน้อยเท่ากับ 22.57 ล้านบาท

โดยบริษัทมีรายได้จากการขาย 7,521.68 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 3,239.51 ล้านบาท ในงวดบัญชีเดียวของปี 50 หรือเพิ่มขึ้น 4,282.17 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้น 132.19 % เนื่องจากบริษัทมีการจำหน่ายสินค้าได้มากขึ้นประกอบกับราคาขายของสินค้าในช่วงกลางปี สูงขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา และยังมีรายได้จากการขายของบริษัทย่อย 1,894.11 ล้านบาท

นอกจากนี้ ยังมีกำไรขั้นต้น 488.92 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 49.74 ตามสัดส่วนการขายที่เพิ่มขึ้น และมีค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเพิ่มขึ้น จากค่าใช้จ่ายในการขายและค่าใช้จ่ายในการจัดส่งสินค้าตามสัดส่วนของการขายที่เพิ่มขึ้น แต่เพิ่มในสัดส่วนที่ลดลงเมื่อเทียบกับการขายที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งมีต้นทุนทางการเงินเพิ่มเกิดจากดอกเบี้ยจ่ายและต้นทุนในการจัดหาเงินทุนหมุนเวียนเพื่อนำมาซื้อวัตถุดิบสำหรับการผลิตสินค้า

อย่างไรก็ดี เนื่องจากปัญหาวิกฤติการณ์ทางเศรษฐกิจที่เกิดในสหรัฐอเมริกา ที่มีผลกระทบต่อสภาวะเศรษฐกิจทั่วโลก และมีผล ต่อเนื่องมายังประเทศไทย ทำให้ราคาสินค้าหลายประเภท ที่มีการอ้างอิงราคามาตรฐานสากล มีความผันผวน สินค้าประเภทเหล็กก่อสร้างก็มีการปรับตัวลดลงด้วยเช่นกัน เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานบัญชี ฉบับที่36 ที่มีผลบังคับใช้ในปี 51 กำหนดให้ บริษัทต้องมีการตั้งสำรองเผื่อการลดลงของมูลค่าสินค้า เพื่อให้การบันทึกรายการทางบัญชี ถูกต้องตามมาตรฐานดังกล่าว บริษัทจึงได้ทำการตั้งสำรองค่าเผื่อการลดมูลค่าของสินค้า ที่ราคาตลาดต่ำกว่าราคาทุน ดังที่ปรากฏในงบการเงินเฉพาะกิจการเท่ากับ 281.07 ล้านบาท และ ในงบการเงินของบริษัทย่อยเท่ากับ 167.77 ล้านบาท รวมเป็นมูลค่าของการตั้งสำรองฯทั้งสิ้น 448.84 ล้านบาท

หากบริษัทฯไม่ต้องตั้งสำรองฯจำนวนดังกล่าว จะมีผลกำไรสุทธิจากการดำเนินงาน ในงบการเงินเฉพาะกิจการ 181.95 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิในงบการเงินรวมเฉพาะส่วนที่เป็นของบริษัท 806.29 ล้านบาท
กำลังโหลดความคิดเห็น