บล.ฟิลลิปมั่นใจอนาคตธุรกิจกองทุนรวมสดใส แม้ได้รับผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจโลก ระบุนักลงทุนหันพึ่งมืออาชีพในกองทุนมากขึ้น หลังตลาดหุ้นผันผวน ดันยอด‘ฟิลลิป ฟันด์ ซูเปอร์มาร์ท’แค่ครึ่งเพิ่มกว่า 600 บัญชี พร้อมตั้งเป้าแตะ 2,000 บัญชีให้ได้ภายในปีนี้
นายสุชาย สุทัศน์ธรรมกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)เปิดเผยว่า ต้องยอมรับว่าในขณะนี้สถานการณ์การลงทุนทั่วโลกเป็นไปอย่างผันผวน หลังจากที่สหรัฐอเมริกาประสบวิกฤติสถาบันการเงิน ซึ่งส่งผลกระทบกับเศรษฐกิจทั่วโลก และส่งผลกระทบต่อการลงทุนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
“ผลพวงจากการเกิดวิกฤติสถาบันการเงินในสหรัฐฯ ส่งผลให้การลงทุนทั่วโลกปั่นป่วน การเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นผันผวน การเคลื่อนย้ายเงินทุนเป็นไปอย่างรวดเร็ว และจับทิศทางไม่ค่อยถูก ดังนั้น จะเห็นว่า ในช่วงที่ผ่านมามีนักลงทุนจำนวนมากที่หันเข้าหาการลงทุนผ่านกองทุนรวม ซึ่งมีผู้จัดการที่เป็นมืออาชีพคอยดูแลการลงทุนให้"นายสุชายกล่าว
ทั้งนี้ นักลงทุนจำนวนไม่น้อยต่างก็ต้องการข้อมูลทั้งในเชิงลึกและเชิงเปรียบเทียบ เพื่อการตัดสินใจเลือกกองทุน รวมถึงเลือกบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ซึ่งการแสวงหาข้อมูลที่มากขึ้นของนักลงทุนในภาวการณ์เช่นนี้ ทำให้บริการ ‘ฟิลลิป ฟันด์ ซูเปอร์มาร์ท’(Phillip Fund SuperMart) ได้รับการตอบรับและมีนักลงทุนสนใจใช้บริการมากขึ้นเรื่อยๆ หลังจากที่มีการเปิดให้บริการในช่วงที่ผ่านมา
สำหรับบริการ “ฟิลลิป ฟันด์ ซูเปอร์มาร์ท”นั้นจะเป็นการให้บริการซื้อขายสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนผ่านอินเทอร์เน็ตด้วยระบบบัญชีเดียว ผ่านเว็บไซต์ www.poems.in.th เพื่อให้นักลงทุนสามารถส่งคำสั่งซื้อขายหน่วยลงทุนได้อย่างสะดวกสบาย โดยได้รวบรวมหน่วยลงทุนจากกองทุนรวมไว้ครบทุกประเภทรวมมากกว่า 800 กองทุน จากบลจ. 20 แห่ง ซึ่งรวมทั้งกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) และกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) เพื่อให้ผู้ลงทุนสามารถเลือกสรรกองทุนให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ในการลงทุน
โดยจุดเด่นของบริการดังกล่าว อยู่ที่การให้บริการที่ครบวงจร ซึ่งผู้ลงทุนสามารถซื้อขายหรือสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนได้ด้วยตนเอง รวมทั้งสามารถติดตามผลตอบแทนการลงทุนในพอร์ตการลงทุนได้อย่างสะดวก รวมถึงการรวบรวมข้อมูลของทุกกองทุนรวม อาทิเช่น ข้อมูลเปรียบเทียบผลการดำเนินงาน กราฟแสดงการเคลื่อนไหวของราคาหรือมูลค่าสินทรัพย์ ประวัติการจ่ายเงินปันผล ผลการดำเนินงานในปัจจุบัน รายงานสรุปรวบรวมกองที่เด่นในแต่ละประเภทกองทุน รวมทั้งโปรโมชั่นต่างๆ ให้ผู้ลงทุนทราบอีกด้วย
นอกจากนี้ บริการดังกล่าวยังมีระบบช่วยคัดเลือกกองทุนที่มีคุณสมบัติตรงตามความต้องการและแสดงผลการดำเนินงานย้อนหลังของแต่ละกองทุนเป็นราย 3 เดือน 6 เดือนและ 12 เดือน ซึ่งจะช่วยให้นักลงทุนสามารถค้นหากองทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงสุดได้อย่างง่ายดาย โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมจากการซื้อขายผ่านธนาคาร หรือ บลจ.
นายสุชาย กล่าวอีกว่า จากสถานการณ์ดังกล่าวเชื่อว่า จะทำให้ภายในสิ้นปี 2551 นี้ บริการ ‘ฟิลลิป ฟันด์ ซูเปอร์มาร์ท’ น่าจะมีบัญชีซื้อขายได้ถึง 2,000 บัญชี หรือเพิ่มขึ้น 700 บัญชีจากครึ่งปีแรกที่ผ่านมาที่มีลูกค้ามาเปิดบัญชีซื้อขายไปแล้วจำนวน 1,300 บัญชี
โดย ธุรกิจกองทุนรวมหลังจากนี้น่าจะมีการเติบโตไปได้เรื่อยๆ ถึงแม้ในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมากองทุนจะมีขนาดเล็กลงไปมาก แต่ก็ยังให้ผลตอบแทนอยู่ในระดับที่น่าพอใจและค่อนข้างสม่ำเสมอโดยเฉพาะเมื่อเทียบกับดอกเบี้ยเงินฝาก ขณะเดียวกันการที่ตลาดเงิน-ตลาดทุนมีความผันผวนนักลงทุนก็หันมาให้มืออาชีพลงทุนแทนให้มากขึ้นเพื่อเป็นการลดความเสี่ยง
ส่วนกรณีที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ขอความร่วมมือให้ บลจ. เปิดเผยข้อมูลการลงทุนของกองทุนรวมทุกเดือนจากเดิมที่ให้เปิดเผยทุก 6 เดือนนั้น มองว่าเป็นสิ่งที่นักลงทุนจะได้ประโยชน์ เพื่อให้นักลงทุนมีข้อมูลที่ทันต่อเหตุการณ์และเพียงพอต่อการตัดสินใจลงทุนในกองทุนรวม ในภาวะที่ตลาดการเงินและการลงทุนทั่วโลกมีความความผันผวนจากวิกฤติการณ์ที่เกิดขึ้นกับสถาบันการเงินในหลายประเทศ อีกทั้งสามารถติดตามผลการดำเนินงานของกองทุนรวมได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งจะเพิ่มความมั่นใจให้กับนักลงทุนในการลงทุนผ่านกองทุนรวมมากยิ่งขึ้น
นายสุชาย สุทัศน์ธรรมกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)เปิดเผยว่า ต้องยอมรับว่าในขณะนี้สถานการณ์การลงทุนทั่วโลกเป็นไปอย่างผันผวน หลังจากที่สหรัฐอเมริกาประสบวิกฤติสถาบันการเงิน ซึ่งส่งผลกระทบกับเศรษฐกิจทั่วโลก และส่งผลกระทบต่อการลงทุนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
“ผลพวงจากการเกิดวิกฤติสถาบันการเงินในสหรัฐฯ ส่งผลให้การลงทุนทั่วโลกปั่นป่วน การเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นผันผวน การเคลื่อนย้ายเงินทุนเป็นไปอย่างรวดเร็ว และจับทิศทางไม่ค่อยถูก ดังนั้น จะเห็นว่า ในช่วงที่ผ่านมามีนักลงทุนจำนวนมากที่หันเข้าหาการลงทุนผ่านกองทุนรวม ซึ่งมีผู้จัดการที่เป็นมืออาชีพคอยดูแลการลงทุนให้"นายสุชายกล่าว
ทั้งนี้ นักลงทุนจำนวนไม่น้อยต่างก็ต้องการข้อมูลทั้งในเชิงลึกและเชิงเปรียบเทียบ เพื่อการตัดสินใจเลือกกองทุน รวมถึงเลือกบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ซึ่งการแสวงหาข้อมูลที่มากขึ้นของนักลงทุนในภาวการณ์เช่นนี้ ทำให้บริการ ‘ฟิลลิป ฟันด์ ซูเปอร์มาร์ท’(Phillip Fund SuperMart) ได้รับการตอบรับและมีนักลงทุนสนใจใช้บริการมากขึ้นเรื่อยๆ หลังจากที่มีการเปิดให้บริการในช่วงที่ผ่านมา
สำหรับบริการ “ฟิลลิป ฟันด์ ซูเปอร์มาร์ท”นั้นจะเป็นการให้บริการซื้อขายสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนผ่านอินเทอร์เน็ตด้วยระบบบัญชีเดียว ผ่านเว็บไซต์ www.poems.in.th เพื่อให้นักลงทุนสามารถส่งคำสั่งซื้อขายหน่วยลงทุนได้อย่างสะดวกสบาย โดยได้รวบรวมหน่วยลงทุนจากกองทุนรวมไว้ครบทุกประเภทรวมมากกว่า 800 กองทุน จากบลจ. 20 แห่ง ซึ่งรวมทั้งกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) และกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) เพื่อให้ผู้ลงทุนสามารถเลือกสรรกองทุนให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ในการลงทุน
โดยจุดเด่นของบริการดังกล่าว อยู่ที่การให้บริการที่ครบวงจร ซึ่งผู้ลงทุนสามารถซื้อขายหรือสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนได้ด้วยตนเอง รวมทั้งสามารถติดตามผลตอบแทนการลงทุนในพอร์ตการลงทุนได้อย่างสะดวก รวมถึงการรวบรวมข้อมูลของทุกกองทุนรวม อาทิเช่น ข้อมูลเปรียบเทียบผลการดำเนินงาน กราฟแสดงการเคลื่อนไหวของราคาหรือมูลค่าสินทรัพย์ ประวัติการจ่ายเงินปันผล ผลการดำเนินงานในปัจจุบัน รายงานสรุปรวบรวมกองที่เด่นในแต่ละประเภทกองทุน รวมทั้งโปรโมชั่นต่างๆ ให้ผู้ลงทุนทราบอีกด้วย
นอกจากนี้ บริการดังกล่าวยังมีระบบช่วยคัดเลือกกองทุนที่มีคุณสมบัติตรงตามความต้องการและแสดงผลการดำเนินงานย้อนหลังของแต่ละกองทุนเป็นราย 3 เดือน 6 เดือนและ 12 เดือน ซึ่งจะช่วยให้นักลงทุนสามารถค้นหากองทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงสุดได้อย่างง่ายดาย โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมจากการซื้อขายผ่านธนาคาร หรือ บลจ.
นายสุชาย กล่าวอีกว่า จากสถานการณ์ดังกล่าวเชื่อว่า จะทำให้ภายในสิ้นปี 2551 นี้ บริการ ‘ฟิลลิป ฟันด์ ซูเปอร์มาร์ท’ น่าจะมีบัญชีซื้อขายได้ถึง 2,000 บัญชี หรือเพิ่มขึ้น 700 บัญชีจากครึ่งปีแรกที่ผ่านมาที่มีลูกค้ามาเปิดบัญชีซื้อขายไปแล้วจำนวน 1,300 บัญชี
โดย ธุรกิจกองทุนรวมหลังจากนี้น่าจะมีการเติบโตไปได้เรื่อยๆ ถึงแม้ในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมากองทุนจะมีขนาดเล็กลงไปมาก แต่ก็ยังให้ผลตอบแทนอยู่ในระดับที่น่าพอใจและค่อนข้างสม่ำเสมอโดยเฉพาะเมื่อเทียบกับดอกเบี้ยเงินฝาก ขณะเดียวกันการที่ตลาดเงิน-ตลาดทุนมีความผันผวนนักลงทุนก็หันมาให้มืออาชีพลงทุนแทนให้มากขึ้นเพื่อเป็นการลดความเสี่ยง
ส่วนกรณีที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ขอความร่วมมือให้ บลจ. เปิดเผยข้อมูลการลงทุนของกองทุนรวมทุกเดือนจากเดิมที่ให้เปิดเผยทุก 6 เดือนนั้น มองว่าเป็นสิ่งที่นักลงทุนจะได้ประโยชน์ เพื่อให้นักลงทุนมีข้อมูลที่ทันต่อเหตุการณ์และเพียงพอต่อการตัดสินใจลงทุนในกองทุนรวม ในภาวะที่ตลาดการเงินและการลงทุนทั่วโลกมีความความผันผวนจากวิกฤติการณ์ที่เกิดขึ้นกับสถาบันการเงินในหลายประเทศ อีกทั้งสามารถติดตามผลการดำเนินงานของกองทุนรวมได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งจะเพิ่มความมั่นใจให้กับนักลงทุนในการลงทุนผ่านกองทุนรวมมากยิ่งขึ้น