xs
xsm
sm
md
lg

นายแบงก์หวั่นสินเชื่อชะลอยาวส่งสัญญาณดอกเบี้ยเงินฝากขาลง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน - กสิกรไทยชี้สินเชื่อในระบบแบงก์ครึ่งปีหลังเริ่มชะลอตัว และเริ่มเห็นสัญญาณลากยาวไปจนถึงต้นปีหน้า ฟุ้งกสิกรปล่อยสินเชื่อ 8 เดือนขยายตัวถึง 12% มั่นใจทำได้ตามเป้าเดิม 10-15% ขณะที่ไทยพาณิชย์ชี้อัตราดอกเบี้ยเงินฝากมีแนวโน้มลดลง หลังอัตราส่วนสินเชื่อต่อเงินฝากของแบงก์ใหญ่เริ่มลด ด้านผู้บริหารไทยธนาคารเผยกำไรไตรมาส 3 น่าจะดีกว่าไตรมาส 2 เหตุไม่ต้องสำรองเพิ่ม

นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK เปิดเผยว่า ทิศทางการปล่อยสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้น่าจะมีการชะลอตัวลง จากในช่วงครึ่งปีแรกที่มีการขยายตัวค่อนข้างดี และการชะลอตัวของสินเชื่อนั้นน่าจะยาวไปจนถึงต้นปีหน้า เนื่องจากเศรษฐกิจโลกรวมถึงภาคการส่งออกน่าจะมีการชะลอตัว ซึ่งจะเป็นผลต่อภาพรวมของเศรษฐกิจ

อย่างไรก็ตาม ในส่วนการปล่อยสินเชื่อของธนาคารยังเชื่อว่าจะสามารถทำได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 10-15% เนื่องจากในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมาสามารถปล่อยไปแล้วถึง 12%และแม้ว่าแนวโน้มสินเชื่อของระบบจะเริ่มปรับตัวลดลง แต่ในช่วง 4 เดือนที่เหลือก็ยังเชื่อว่าจะสามารถมีการปล่อยสินเชื่อได้ตามเป้าหมายอย่างแน่นอน สำหรับทิศทางอัตราดอกเบี้ยของไทยนั้นคงจะไม่สูงนัก เนื่องจากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของโลกไปในทิศทางลง อีกทั้งภาวะเงินเฟ้อได้ปรับตัวลงมามากพอสมควร ดังนั้นหากดูตามทิศทางแล้วก็ไม่มีแรงกดดันที่จะให้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก

SCBชี้ดบ.มีแนวโน้มลด

นายอดิศร เสริมชัยวงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายผลิตภัณฑ์เงินฝากและการลงทุน ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB กล่าวว่า แม้ในปีหน้าแนวโน้มของภาคส่งออกเริ่มแผ่วลงบ้าง แต่มองว่าการอุปโภคบริโภคและการลงทุนยังเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญอยู่ โดยโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐ (เมกะโปรเจกต์) จะเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายและการดูดซับสภาพคล่องในประเทศ และคาดว่าอัตราการขยายตัวสินเชื่อของระบบธนาคารพาณิชย์ไทยในปีหน้าก็อยู่ในระดับใกล้เคียงกับปีนี้

“ในช่วง 3-4 เดือนที่ผ่านมา แบงก์พาณิชย์ไทยมีการเร่งระดมเงินฝากค่อนข้างมาก โดยเฉพาะในเดือนส.ค.ที่ผ่านมาแบงก์หลายแห่งมียอดเงินฝากสูงระดับหลายหมื่นล้านบาท ขณะเดียวกันอัตราส่วนสินเชื่อต่อเงินฝากของแบงก์ขนาดใหญ่ 3 แห่งเริ่มลดลงประมาณ 2-3% จากระดับ 90% ในเดือนส.ค.เทียบกับเดือนก่อนหน้า จึงมองว่ามีความเป็นไปได้เริ่มเห็นสัญญาณอัตราดอกเบี้ยเงินฝากลดลง”

นายอดิศร กล่าวว่า แม้สหรัฐจะมีการอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบถึง 7 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อให้สภาพคล่องในระบบการเงินของสหรัฐไม่เกิดภาวะการตึงตัว แต่ระบบการเงินไทยก็ไม่ได้มีปัญหาความน่าเป็นห่วงเช่นนั้น โดยขณะนี้สภาพคล่องของระบบธนาคารพาณิชย์ไทยยังไม่มีปัญหา สะท้อนได้จากอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นยังไม่ได้ตึงตัวจนน่าเป็นห่วง และยังไม่เห็นสัญญาณการโยกเงินไปลงทุนในสินทรัพย์ที่มีคุณภาพสูงอย่างเช่นในสหรัฐที่มีการหันมาลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลแทนตราสารหนี้ที่มีความเสี่ยงสูง

BTยันQ3ไม่ต้องกันสำรองเพิ่ม

นายพีรศิลป์ ศุภผลศิริ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยธนาคาร จำกัด (มหาชน) หรือ BT กล่าวว่า ในไตรมาส 3 นี้ธนาคารไม่ต้องมีการสำรองเงินเพิ่ม เนื่องจากธนาคารได้ทำการขายตราสารซีดีโอออกไปหมดแล้ว ซึ่งอาจจะทำให้ในไตรมาส 3 ธนาคารจะมีกำไรมากกว่าในช่วงไตรมาสที่ 2

ส่วนความคืบหน้าการขายหุ้นของธนาคารให้กับ CIMB Bank ก็ขึ้นอยู่ที่กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินและทางการว่าจะเป็นอย่างไร ส่วนจะกระทบต่อเงินกองทุนของธนาคารหรือไม่นั้นยังไม่สามารถตอบได้ แต่อาจจะต่ำกว่าเกณฑ์ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)กำหนดหรือใกล้เคียงก็เป็นไปได้

สคิบเปิดเงินฝาก4เดือนทุ่มดบ.4%

นายชัยวัฒน์ อุทัยวรรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารนครหลวงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ธนาคารเปิดให้บริการ "เงินฝากประจำชื่นใจ 4 เดือน" อัตราดอกเบี้ย 4.0% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยรายเดือนทุกเดือนจนครบกำหนด วงเงินฝากขั้นต่ำ 5 หมื่นบาท กรณีฝากครั้งต่อไปต้องไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นบาทและสามารถ ฝากสูงสุดได้ไม่เกิน 30 ล้านบาท ต่อบัญชี ต่อรายลูกค้า โดยผู้ฝากต้องมีบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ในสาขาที่อยู่ในเขตสำนักหักบัญชีเดียวกันของเจ้าของบัญชีไว้กับธนาคารเพื่อรองรับการโอนดอกเบี้ย และเมื่อครบกำหนดระยะเวลาการฝากถือว่าสัญญา "เงินฝากประจำชื่นใจ 4 เดือน" สิ้นสุดลง ธนาคารจะทำการฝากยอดต้นเงินฝากดังกล่าวต่อเป็นบัญชีเงินฝากประจำ 3 เดือนให้โดยอัตโนมัติ

ทั้งนี้ การให้บริการ "เงินฝากประจำชื่นใจ 4 เดือน" ดังกล่าว เป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้าเงินฝากรายย่อยและสอดคล้องนโยบายของธนาคารในการเสนอผลิตภัณฑ์เงินฝากประจำพิเศษที่มีระยะเวลาและอัตราดอกเบี้ยที่จูงใจและให้ผลตอบแทนสูงกับผู้ฝากอย่างต่อเนื่องตลอดจนเพื่อให้สอดคล้องกับการแข่งขันด้านเงินฝากในปัจจุบัน คาดว่าจะสามารถระดมเงินฝากจากกลุ่มลูกค้ารายย่อยใหม่เพิ่มขึ้นประมาณ 1 หมื่นล้านบาท เปิดให้บริการตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 14 ตุลาคม 2551เท่านั้น
กำลังโหลดความคิดเห็น