ASTVผู้จัดการรายวัน - สบน.วางกรอบ 1 เดือนศึกษาแนวทาง ปัญหาและอุปสรรคในการออกอิสลามมิกบอนด์ เพื่อทางเลือกระดมเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ แบงก์อิสลามรับลูกเปิดโครงการนำร่อง ออกพันธบัตรสกุลเงินริงกิต มาเลเซีย ล็อตแรก 100 ล้านริงกิตหรือ 2 พันล้านบาทประเดิม ก่อนสยาย ปีกรุกตะวันออกกลางออกพันธบัตรดูดเงินเศรษฐีน้ำมัน ยอมรับอาจเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยกู้วิกฤต การบินไทยได้
นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ(สบน.) เปิดเผยว่า จากความจำเป็นในการใช้เงินของภาครัฐจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นโครงการเมกะโปรเจกต์ เช่น รถไฟฟ้า หรือสาธารณูปโภคอื่น และการกู้เงินเพื่อเสริมสภาพคล่องของรัฐวิสาหกิจโดยเฉพาะ บริษัท การบินไทย จำกัด(มหาชน) (THAI) ที่ประสบปัญหา สบน.และคณะทำงานการระดมทุนตามหลักศาสนา อิสลาม หรือซูกุก อัล มูดอราบะฮ์ จึงได้ประชุมกันเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 25 ก.พ.ที่ผ่านมา เพื่อเร่งระดมทุนผ่านซูกุก อัล มูดอราบะฮ์ ซึ่งถือเป็นแหล่ง ระดมทุนที่เหมาะสมในสภาพตลาดพันธบัตร ขณะนี้ที่ตลาดพันธบัตรทั่วโลกไม่เปิดเพราะได้รับผลกระทบจากวิกฤตการเงินสหรัฐฯ ขณะที่นักลงทุนจากกลุ่มประเทศตะวันออกกลางยังมีเงินทุนที่พร้อมจะลงทุนอีกมาก ประเทศไทยจึงควรถือโอกาสนี้ดึงเงินทุนจากแหล่งดังกล่าวมาใช้ในโครงการตามความจำเป็น
ซึ่งคาดว่าหลังจากนี้ 1 เดือนจะได้ข้อสรุปว่าการออกซูกุก อัล มูดอราบะฮ์ จะมีรูปแบบอย่างไร จากนั้นจะเสนอกระทรวงการคลังพิจารณาต่อไป ซึ่งขณะนี้ได้สั่งการให้คณะทำงานศึกษาใน 3 รูปแบบดังนี้ 1.จัดตั้งนิติบุคคลเฉพาะกิจ หรือ Special Purpose Vehicle (เอสพีวี) เพื่อเป็นตัวกลางในการบริหารโครงการและระดมทุน 2. จัดตั้งกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์หรือพร็อพ- เพอร์ตี้ฟันด์ โดยทั้งสองรูปแบบขณะนี้ได้รับการยกเว้นภาษี และ 3.ตั้งกองทุนทรัสต์ตาม พ.ร.บ. ทรัสต์เพื่อธุรกรรมในตลาดทุน โดยคณะกรรมการ กำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) อยู่ระหว่างกำหนดเกณฑ์ยกเว้นภาษี ขณะที่การออกซูกุก อัล มูดอราบะฮ์ยังติดปัญหานี้ จึงจำเป็น ต้องใช้ระยะเวลา 1 เดือนเพื่อศึกษาพิจารณายกเว้นภาษีเช่นเดียวกับพันธบัตรทั่วไป เพื่อได้รับสิทธิทางภาษีเท่าเทียมกัน
ประเดิมออกบอนด์มาเลย์ 2 พันล้าน
นายธีรศักดิ์ สุวรรณยศ กรรมการผู้จัดการธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ธอท.) กล่าวว่า เพื่อเป็นการทดลองตลาดซูกุก อัล มูดอราบะฮ์ ธอท.มีแผนจะออกซูกุก อัล มูดอราบะฮ์ จำนวน 2 พันล้านบาท หรือประมาณ 100 ล้านริงกิต อายุ 5 ปี เพื่อเพิ่มเงินกองทุนขั้นที่ 2 (Tier II Capital) เพื่อทดสอบตลาดว่าสามารถระดมทุนจากตราสารทางการเงินตามหลักชาริอะฮ์ในประเทศไทยได้
โดยธนาคารจะออกพันธบัตรเพื่อใช้เพิ่มเงินกองทุนขั้นที่ 2 ในตลาดมาเลเซีย เนื่องจากมาเลเซีย เป็นแหล่งระดมทุนซูกุก อัล มูดอราบะฮ์ ขนาดใหญ่ ของภูมิภาคและอัตราผลตอบแทนต่ำกว่าตลาดในประเทศประมาณ 0.5-0.75% โดยคาดผลตอบแทน จะอยู่ที่ 2.5+1.5% ซึ่ง ธอท.จะนำเม็ดเงินจากการออกซูกุก อัล มูดอราบะฮ์ ดังกล่าวมาปล่อยสินเชื่อ ในระบบธนาคารซึ่งจะปล่อยได้ 1 หมื่นล้านบาท
'บทบาทของธนาคารกับการออกพันธบัตรตามหลักศาสนาอิสลามคือการเป็นที่ปรึกษาในการจัดทำโครงสร้างทางการเงินของพันธบัตรที่จะระดมทุนในตลาดโดยไม่ให้ขัดต่อหลักศาสนา รวมทั้งเป็นผู้จัดหานักลงทุนทั้งทั่วไปและอิสลาม ซึ่งโครงการนำร่องที่มาเลเซียหากสามารถเริ่มต้นได้ก็จะเป็นการการันตีว่าไทยเรามีศักยภาพที่จะไประดมทุนตามหลักศาสนาอิสลามในประเทศแถบตะวันออกกลางที่มีเม็ดเงินมหาศาลได้' นาย ธีรศักดิ์กล่าว
เพิ่มช่องระดมทุนเสริมสภาพคล่อง รสก.
นายพงษ์ภาณุกล่าวต่อว่า การระดมทุนตามหลักศาสนาอิสลามเป็นการเพิ่มทางเลือกเนื่องจากการระดมทุนในรูปแบบทั่วไปเกิดปัญหาจากวิกฤต การเงินของโลก แต่วิธีการนี้ยังสามารถทำได้และมีปริมาณเงินมหาศาลในประเทศมุสลิมโดยเฉพาะ ในตะวันออกกลาง อีกทั้งรัฐบาลมีความจำเป็นต้องใช้เงินจำนวนมากเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจจึงต้องหาช่องทางระดมทุนอื่นๆ เพิ่มเติมจากที่มีอยู่เดิม นอกจากนี้อาจใช้สำหรับเสริมสภาพคล่องให้กับรัฐวิสาหกิจโดยเฉพาะ บมจ.การบินไทย THAI ที่กำลังประสบปัญหา
'มองว่าการระดมทุนตามหลักศาสนาอิสลาม ถือเป็นโอกาสของไทยในการนำเงินทุนจากแหล่งเงินต่างๆ ตามหลักศาสนาอิสลาม เพื่อมารองรับโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาลในอนาคต รวมถึงอาจจะนำเงินระดมทุนดังกล่าวมาเสริมสภาพคล่อง ให้การบินไทย' นายพงษ์ภาณุกล่าว
นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ(สบน.) เปิดเผยว่า จากความจำเป็นในการใช้เงินของภาครัฐจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นโครงการเมกะโปรเจกต์ เช่น รถไฟฟ้า หรือสาธารณูปโภคอื่น และการกู้เงินเพื่อเสริมสภาพคล่องของรัฐวิสาหกิจโดยเฉพาะ บริษัท การบินไทย จำกัด(มหาชน) (THAI) ที่ประสบปัญหา สบน.และคณะทำงานการระดมทุนตามหลักศาสนา อิสลาม หรือซูกุก อัล มูดอราบะฮ์ จึงได้ประชุมกันเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 25 ก.พ.ที่ผ่านมา เพื่อเร่งระดมทุนผ่านซูกุก อัล มูดอราบะฮ์ ซึ่งถือเป็นแหล่ง ระดมทุนที่เหมาะสมในสภาพตลาดพันธบัตร ขณะนี้ที่ตลาดพันธบัตรทั่วโลกไม่เปิดเพราะได้รับผลกระทบจากวิกฤตการเงินสหรัฐฯ ขณะที่นักลงทุนจากกลุ่มประเทศตะวันออกกลางยังมีเงินทุนที่พร้อมจะลงทุนอีกมาก ประเทศไทยจึงควรถือโอกาสนี้ดึงเงินทุนจากแหล่งดังกล่าวมาใช้ในโครงการตามความจำเป็น
ซึ่งคาดว่าหลังจากนี้ 1 เดือนจะได้ข้อสรุปว่าการออกซูกุก อัล มูดอราบะฮ์ จะมีรูปแบบอย่างไร จากนั้นจะเสนอกระทรวงการคลังพิจารณาต่อไป ซึ่งขณะนี้ได้สั่งการให้คณะทำงานศึกษาใน 3 รูปแบบดังนี้ 1.จัดตั้งนิติบุคคลเฉพาะกิจ หรือ Special Purpose Vehicle (เอสพีวี) เพื่อเป็นตัวกลางในการบริหารโครงการและระดมทุน 2. จัดตั้งกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์หรือพร็อพ- เพอร์ตี้ฟันด์ โดยทั้งสองรูปแบบขณะนี้ได้รับการยกเว้นภาษี และ 3.ตั้งกองทุนทรัสต์ตาม พ.ร.บ. ทรัสต์เพื่อธุรกรรมในตลาดทุน โดยคณะกรรมการ กำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) อยู่ระหว่างกำหนดเกณฑ์ยกเว้นภาษี ขณะที่การออกซูกุก อัล มูดอราบะฮ์ยังติดปัญหานี้ จึงจำเป็น ต้องใช้ระยะเวลา 1 เดือนเพื่อศึกษาพิจารณายกเว้นภาษีเช่นเดียวกับพันธบัตรทั่วไป เพื่อได้รับสิทธิทางภาษีเท่าเทียมกัน
ประเดิมออกบอนด์มาเลย์ 2 พันล้าน
นายธีรศักดิ์ สุวรรณยศ กรรมการผู้จัดการธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ธอท.) กล่าวว่า เพื่อเป็นการทดลองตลาดซูกุก อัล มูดอราบะฮ์ ธอท.มีแผนจะออกซูกุก อัล มูดอราบะฮ์ จำนวน 2 พันล้านบาท หรือประมาณ 100 ล้านริงกิต อายุ 5 ปี เพื่อเพิ่มเงินกองทุนขั้นที่ 2 (Tier II Capital) เพื่อทดสอบตลาดว่าสามารถระดมทุนจากตราสารทางการเงินตามหลักชาริอะฮ์ในประเทศไทยได้
โดยธนาคารจะออกพันธบัตรเพื่อใช้เพิ่มเงินกองทุนขั้นที่ 2 ในตลาดมาเลเซีย เนื่องจากมาเลเซีย เป็นแหล่งระดมทุนซูกุก อัล มูดอราบะฮ์ ขนาดใหญ่ ของภูมิภาคและอัตราผลตอบแทนต่ำกว่าตลาดในประเทศประมาณ 0.5-0.75% โดยคาดผลตอบแทน จะอยู่ที่ 2.5+1.5% ซึ่ง ธอท.จะนำเม็ดเงินจากการออกซูกุก อัล มูดอราบะฮ์ ดังกล่าวมาปล่อยสินเชื่อ ในระบบธนาคารซึ่งจะปล่อยได้ 1 หมื่นล้านบาท
'บทบาทของธนาคารกับการออกพันธบัตรตามหลักศาสนาอิสลามคือการเป็นที่ปรึกษาในการจัดทำโครงสร้างทางการเงินของพันธบัตรที่จะระดมทุนในตลาดโดยไม่ให้ขัดต่อหลักศาสนา รวมทั้งเป็นผู้จัดหานักลงทุนทั้งทั่วไปและอิสลาม ซึ่งโครงการนำร่องที่มาเลเซียหากสามารถเริ่มต้นได้ก็จะเป็นการการันตีว่าไทยเรามีศักยภาพที่จะไประดมทุนตามหลักศาสนาอิสลามในประเทศแถบตะวันออกกลางที่มีเม็ดเงินมหาศาลได้' นาย ธีรศักดิ์กล่าว
เพิ่มช่องระดมทุนเสริมสภาพคล่อง รสก.
นายพงษ์ภาณุกล่าวต่อว่า การระดมทุนตามหลักศาสนาอิสลามเป็นการเพิ่มทางเลือกเนื่องจากการระดมทุนในรูปแบบทั่วไปเกิดปัญหาจากวิกฤต การเงินของโลก แต่วิธีการนี้ยังสามารถทำได้และมีปริมาณเงินมหาศาลในประเทศมุสลิมโดยเฉพาะ ในตะวันออกกลาง อีกทั้งรัฐบาลมีความจำเป็นต้องใช้เงินจำนวนมากเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจจึงต้องหาช่องทางระดมทุนอื่นๆ เพิ่มเติมจากที่มีอยู่เดิม นอกจากนี้อาจใช้สำหรับเสริมสภาพคล่องให้กับรัฐวิสาหกิจโดยเฉพาะ บมจ.การบินไทย THAI ที่กำลังประสบปัญหา
'มองว่าการระดมทุนตามหลักศาสนาอิสลาม ถือเป็นโอกาสของไทยในการนำเงินทุนจากแหล่งเงินต่างๆ ตามหลักศาสนาอิสลาม เพื่อมารองรับโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาลในอนาคต รวมถึงอาจจะนำเงินระดมทุนดังกล่าวมาเสริมสภาพคล่อง ให้การบินไทย' นายพงษ์ภาณุกล่าว