ถือได้ว่าเป็นความพยายามที่ซ้ำซากของพวกผู้นำ “เสื้อแดง”ที่ฉวยโอกาสเคลื่อนไหวม็อบที่ตนคุยว่าจะมากันนับแสน แต่เอาเข้าจริงๆ มาได้แค่ 3 หมื่น ซึ่งใช่ว่าจะเงินไม่มี แต่มีเงินเพียงพอในการว่าจ้าง เพียงแต่พลพรรคไม่สามารถระดมคนได้มากไปกว่านี้
เราอาจประเมินสถานะของพวกเสื้อแดงได้โดยดูจากปัจจัยต่างๆ ดังต่อไปนี้
1.ด้านการเมือง ประกอบด้วยอุดมการณ์, การจัดตั้งตามอุดมการณ์, การใช้การเมืองเป็นเครื่องมือ และความเชื่อมโยงของการเมืองกับแกนนำและกลุ่มผู้สนับสนุน
ว่าด้วยอุดมการณ์นั้น ความจริงพวกเสื้อแดงไม่มีเลย แต่มีความคิดที่จะรวมตัวด้วยความเชื่อที่ค่อนข้างจะคับแคบ ที่ว่าคับแคบก็คือไปผูกกับอดีตนายกฯ ทักษิณที่พวกตนเชื่อว่าจะกลับมาเป็นใหญ่อีกครั้ง นอกจากนั้นที่พวกเขายังเชื่อกับทักษิณก็เพราะว่าเขารับใช้มาก่อนโดยรับเงิน แม้ไม่อยู่ในประเทศแต่การเอื้อเฟื้อส่งเงินให้มาเคลื่อนไหวจึงช่วยเป็นท่อน้ำเลี้ยง
นี่แหละถ้ามีแค่ความเชื่อและใช้เงินแบบนี้ เราไม่เรียกว่าอุดมการณ์ ประการต่อมาคือการจัดตั้ง ความจริงการจัดตั้งนั้นง่ายมาก เพราะการว่าจ้างใครก็ทำได้ เงินมากูไปกับมึง ม็อบแบบนี้เดินได้ด้วยเงิน ส่วนการใช้การเมืองเป็นเครื่องมือ พวกนี้ก็อาศัยคราวที่ได้อำนาจรัฐ โดยแกนนำส่วนหนึ่งยังคงอยากลิ้มชิมอำนาจต่อไป การเสียอำนาจให้ประชาธิปัตย์ถือว่าเป็นสิ่งที่พวกเสื้อแดงยอมไม่ได้
สำหรับการที่จะเชื่อมโยงม็อบ และขบวนการเสื้อแดงเข้ากับแกนนำนั้น บางคนยังไม่รู้จักแกนนำด้วยซ้ำ พวกที่มาจากต่างจังหวัด สับสน คิดว่าผู้นำคือพันธมิตรฯ ก็มี บางงคนก็คิดว่าพวกเสื้อแดงเป็นพวกรักชาติ และรักสถาบัน ทั้งๆ ที่อยู่ตรงข้ามกับสถาบัน
2. ด้านเศรษฐกิจ พวกเสื้อแดงจัดระดมคนระดับแนวหน้าและนักวิชาการได้จำนวนหนึ่ง คนกลุ่มนี้ยังนิยมทักษิณว่าเป็นผู้บริหารที่มีความสามารถ แม้ว่าชนชั้นนำบางคนจะจงรักภักดีต่อสถาบัน แต่ก็คิดว่าคนพวกนี้บริสุทธิ์ ส่วนพวกนักวิชาการนั้นเป็นพวกไร้เดียงสา หลายคนเป็นฝ่ายซ้ายที่คิดว่ากฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพล้าสมัย ควรยกเลิก บางคนเห็นว่าประเทศไทยนั้น สถาบันไม่ควรมีฐานะชี้นำทางการเมือง ควรอยู่เฉยๆ เหมือนอังกฤษหรือญี่ปุ่น และไม่ควรยกเว้นด้านภาษี และควรถูกตรวจสอบได้ในทุกกรณี นักวิชาการเหล่านี้ไม่ชอบพันธมิตรเพราะเห็นว่าพันธมิตรฯ ล้ำเส้น และนักวิชาการฝ่ายพันธมิตรฯ
แม้จะมีคุณภาพ แต่ก็เป็นพวกที่เคยหนุนทักษิณแต่กลับลำหลังทักษิณหมดอำนาจ
ในด้านเศรษฐกิจ การที่ทักษิณมีโครงการต่างๆ เช่น ลงลึกไปถึงรากหญ้าทำให้ชนบทยังมีคนรักเขาอยู่มาก และเห็นว่าดีกว่าโครงการของรัฐ ซึ่งรวมถึงโครงการหลวง และโครงการในพระราชดำริอีกหลายโครงการ เพราะเหตุว่าในโครงการเหล่านั้นประชาชนหาได้มีส่วนร่วมแต่อย่างไร แต่กับโครงการทักษิณ ประชาชนรู้สึกว่าได้รับประโยชน์แบบถึงตัวโดยตรง จับต้องได้เป็นอย่างเป็นรูปธรรม
3. ในแง่สังคม สังคมไทยมีคติว่าคนล้มอย่าข้ามและควรให้อภัย ดังนั้นก็มีคนจำนวนมากที่เห็นว่าไม่ควรจองเวรทักษิณ ควรปล่อยให้ทักษิณอยู่สบายๆ
แต่จริงๆ แล้วทักษิณต่างหากที่ยังไม่ยุติการเคลื่อนไหว เขาคล่องแคล่วในการพาดพิงศัตรูทางการเมืองในการโฟนอินเข้ามาทุกครั้ง ญาติของเขาเวลาสืบชะตาให้ทักษิณก็จะแช่งชักหักกระดูกศัตรูทักษิณให้ลงนรกเสียด้วย
อย่างนี้แล้วจึงกล่าวได้ว่า แม้เราจะหยุด แต่ทักษิณจะไม่มีวันหยุด
การเคลื่อนไหว
ในการเคลื่อนไหวทัพหน้าของทักษิณอยู่ที่มวลชนเสื้อแดงที่จะก่อกระแสตลอดเวลา
ครั้งนี้ก็เช่นกัน พวกเสื้อแดงต้องการล้มรัฐบาลโดยบอกว่าจะชุมนุมจนกว่ารัฐบาลจะล้มไปเอง โดยจะปักหลักค้างที่ทำเนียบฯ แบบไม่ใช้ความรุนแรง
ที่ผ่านมาพวกเสื้อแดงไม่เคยไม่ใช้ความรุนแรง เพราะมีอันธพาลอยู่จำนวนมาก ครั้งนี้ก็เช่นกัน เหตุผลส่วนหนึ่งที่การชุมนุมของพวกนี้จะใช้ความรุนแรงก็เพราะมันเป็นกรรมวิธีหนึ่งในการคุกคามและแสดงแสนยานุภาพ อีกส่วนหนึ่งคือสันดานของแกนนำที่ต้องการใช้และแสดงอำนาจ
ทักษิณได้ส่งเงินมาให้แล้ว มีการเลี้ยงโต๊ะจีนกินหูฉลามและเคี้ยวเป๋าฮื้อ
น้ำแดงกันไปแล้วในวันวาเลนไทน์ที่ผ่านมาไม่นานนี้
ยิ่งยืดเยื้อไปนานเท่าไรก็จะได้เงินเป็นท่อน้ำเลี้ยงมาอย่างต่อเนื่องเช่นกัน เป็นอย่างนี้เสมอมา
พวก นปช.กล่าวว่าพวกเขาเตรียมการรัดกุมมีปัจจัยพร้อมและด้วยศักยภาพเช่นนี้ เขาสร้างสถานการณ์อะไรก็ได้ตามที่ต้องการได้ทุกเวลา
แต่ทางการก็เชื่อว่ามันไม่น่าบานปลาย เพราะเสื้อแดงขาดอุดมการณ์ต่างจากพันธมิตรฯ ที่ยึดถืออุดมการณ์เหนียวแน่นซึ่งทำให้เมื่อเคลื่อนไหวมีแนวทางที่ชัดเจน
การเคลื่อนไหวของเสื้อแดงขาดแนวร่วมจากพวกซ้ายจัดเพราะแกนนำบางคนหนีเตลิดเปิดเปิงไปอังกฤษ บ้างติดคุกหัวโตอยู่ และพวกนักวิชาการสืบทราบว่าเสื้อแดงจะก่อกระแสโจมตีสถาบันเบื้องบนเป็นระลอกในการชุมนุมครั้งนี้ พวกซ้ายจัดจึงหลบกันก่อน เพราะไม่อยากโดนข้อหาไปด้วย
ดังนั้นการชุมนุมครั้งนี้จึงไม่เข้มแข็งพอๆ กับจะไม่เข้มข้นเหมือนที่ผ่านมา อาจฮึกเหิมด้วยการปลุกใจแต่ก็จะอ่อนล้าเต็มที
แกนนำก็หน้าเดิม คนอย่างวีระ มุสิกพงศ์ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ฯลฯ ก็คงเข้าประจำที่จักรภพ เพ็ญแข ก็เจ้าประจำ
การตัดสินใจที่จะเอารัฐบาลให้ตายคราวนี้ อาจผิดพลาดก็ได้
ทักษิณบอกว่า ปชป.อยู่ได้อย่างมาก 3 เดือน แต่รัฐบาลบอกว่า จริงๆ แล้วจะอยู่ถึง 3 ปี
ก็ว่ากันไปนะครับพี่น้อง!
เราอาจประเมินสถานะของพวกเสื้อแดงได้โดยดูจากปัจจัยต่างๆ ดังต่อไปนี้
1.ด้านการเมือง ประกอบด้วยอุดมการณ์, การจัดตั้งตามอุดมการณ์, การใช้การเมืองเป็นเครื่องมือ และความเชื่อมโยงของการเมืองกับแกนนำและกลุ่มผู้สนับสนุน
ว่าด้วยอุดมการณ์นั้น ความจริงพวกเสื้อแดงไม่มีเลย แต่มีความคิดที่จะรวมตัวด้วยความเชื่อที่ค่อนข้างจะคับแคบ ที่ว่าคับแคบก็คือไปผูกกับอดีตนายกฯ ทักษิณที่พวกตนเชื่อว่าจะกลับมาเป็นใหญ่อีกครั้ง นอกจากนั้นที่พวกเขายังเชื่อกับทักษิณก็เพราะว่าเขารับใช้มาก่อนโดยรับเงิน แม้ไม่อยู่ในประเทศแต่การเอื้อเฟื้อส่งเงินให้มาเคลื่อนไหวจึงช่วยเป็นท่อน้ำเลี้ยง
นี่แหละถ้ามีแค่ความเชื่อและใช้เงินแบบนี้ เราไม่เรียกว่าอุดมการณ์ ประการต่อมาคือการจัดตั้ง ความจริงการจัดตั้งนั้นง่ายมาก เพราะการว่าจ้างใครก็ทำได้ เงินมากูไปกับมึง ม็อบแบบนี้เดินได้ด้วยเงิน ส่วนการใช้การเมืองเป็นเครื่องมือ พวกนี้ก็อาศัยคราวที่ได้อำนาจรัฐ โดยแกนนำส่วนหนึ่งยังคงอยากลิ้มชิมอำนาจต่อไป การเสียอำนาจให้ประชาธิปัตย์ถือว่าเป็นสิ่งที่พวกเสื้อแดงยอมไม่ได้
สำหรับการที่จะเชื่อมโยงม็อบ และขบวนการเสื้อแดงเข้ากับแกนนำนั้น บางคนยังไม่รู้จักแกนนำด้วยซ้ำ พวกที่มาจากต่างจังหวัด สับสน คิดว่าผู้นำคือพันธมิตรฯ ก็มี บางงคนก็คิดว่าพวกเสื้อแดงเป็นพวกรักชาติ และรักสถาบัน ทั้งๆ ที่อยู่ตรงข้ามกับสถาบัน
2. ด้านเศรษฐกิจ พวกเสื้อแดงจัดระดมคนระดับแนวหน้าและนักวิชาการได้จำนวนหนึ่ง คนกลุ่มนี้ยังนิยมทักษิณว่าเป็นผู้บริหารที่มีความสามารถ แม้ว่าชนชั้นนำบางคนจะจงรักภักดีต่อสถาบัน แต่ก็คิดว่าคนพวกนี้บริสุทธิ์ ส่วนพวกนักวิชาการนั้นเป็นพวกไร้เดียงสา หลายคนเป็นฝ่ายซ้ายที่คิดว่ากฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพล้าสมัย ควรยกเลิก บางคนเห็นว่าประเทศไทยนั้น สถาบันไม่ควรมีฐานะชี้นำทางการเมือง ควรอยู่เฉยๆ เหมือนอังกฤษหรือญี่ปุ่น และไม่ควรยกเว้นด้านภาษี และควรถูกตรวจสอบได้ในทุกกรณี นักวิชาการเหล่านี้ไม่ชอบพันธมิตรเพราะเห็นว่าพันธมิตรฯ ล้ำเส้น และนักวิชาการฝ่ายพันธมิตรฯ
แม้จะมีคุณภาพ แต่ก็เป็นพวกที่เคยหนุนทักษิณแต่กลับลำหลังทักษิณหมดอำนาจ
ในด้านเศรษฐกิจ การที่ทักษิณมีโครงการต่างๆ เช่น ลงลึกไปถึงรากหญ้าทำให้ชนบทยังมีคนรักเขาอยู่มาก และเห็นว่าดีกว่าโครงการของรัฐ ซึ่งรวมถึงโครงการหลวง และโครงการในพระราชดำริอีกหลายโครงการ เพราะเหตุว่าในโครงการเหล่านั้นประชาชนหาได้มีส่วนร่วมแต่อย่างไร แต่กับโครงการทักษิณ ประชาชนรู้สึกว่าได้รับประโยชน์แบบถึงตัวโดยตรง จับต้องได้เป็นอย่างเป็นรูปธรรม
3. ในแง่สังคม สังคมไทยมีคติว่าคนล้มอย่าข้ามและควรให้อภัย ดังนั้นก็มีคนจำนวนมากที่เห็นว่าไม่ควรจองเวรทักษิณ ควรปล่อยให้ทักษิณอยู่สบายๆ
แต่จริงๆ แล้วทักษิณต่างหากที่ยังไม่ยุติการเคลื่อนไหว เขาคล่องแคล่วในการพาดพิงศัตรูทางการเมืองในการโฟนอินเข้ามาทุกครั้ง ญาติของเขาเวลาสืบชะตาให้ทักษิณก็จะแช่งชักหักกระดูกศัตรูทักษิณให้ลงนรกเสียด้วย
อย่างนี้แล้วจึงกล่าวได้ว่า แม้เราจะหยุด แต่ทักษิณจะไม่มีวันหยุด
การเคลื่อนไหว
ในการเคลื่อนไหวทัพหน้าของทักษิณอยู่ที่มวลชนเสื้อแดงที่จะก่อกระแสตลอดเวลา
ครั้งนี้ก็เช่นกัน พวกเสื้อแดงต้องการล้มรัฐบาลโดยบอกว่าจะชุมนุมจนกว่ารัฐบาลจะล้มไปเอง โดยจะปักหลักค้างที่ทำเนียบฯ แบบไม่ใช้ความรุนแรง
ที่ผ่านมาพวกเสื้อแดงไม่เคยไม่ใช้ความรุนแรง เพราะมีอันธพาลอยู่จำนวนมาก ครั้งนี้ก็เช่นกัน เหตุผลส่วนหนึ่งที่การชุมนุมของพวกนี้จะใช้ความรุนแรงก็เพราะมันเป็นกรรมวิธีหนึ่งในการคุกคามและแสดงแสนยานุภาพ อีกส่วนหนึ่งคือสันดานของแกนนำที่ต้องการใช้และแสดงอำนาจ
ทักษิณได้ส่งเงินมาให้แล้ว มีการเลี้ยงโต๊ะจีนกินหูฉลามและเคี้ยวเป๋าฮื้อ
น้ำแดงกันไปแล้วในวันวาเลนไทน์ที่ผ่านมาไม่นานนี้
ยิ่งยืดเยื้อไปนานเท่าไรก็จะได้เงินเป็นท่อน้ำเลี้ยงมาอย่างต่อเนื่องเช่นกัน เป็นอย่างนี้เสมอมา
พวก นปช.กล่าวว่าพวกเขาเตรียมการรัดกุมมีปัจจัยพร้อมและด้วยศักยภาพเช่นนี้ เขาสร้างสถานการณ์อะไรก็ได้ตามที่ต้องการได้ทุกเวลา
แต่ทางการก็เชื่อว่ามันไม่น่าบานปลาย เพราะเสื้อแดงขาดอุดมการณ์ต่างจากพันธมิตรฯ ที่ยึดถืออุดมการณ์เหนียวแน่นซึ่งทำให้เมื่อเคลื่อนไหวมีแนวทางที่ชัดเจน
การเคลื่อนไหวของเสื้อแดงขาดแนวร่วมจากพวกซ้ายจัดเพราะแกนนำบางคนหนีเตลิดเปิดเปิงไปอังกฤษ บ้างติดคุกหัวโตอยู่ และพวกนักวิชาการสืบทราบว่าเสื้อแดงจะก่อกระแสโจมตีสถาบันเบื้องบนเป็นระลอกในการชุมนุมครั้งนี้ พวกซ้ายจัดจึงหลบกันก่อน เพราะไม่อยากโดนข้อหาไปด้วย
ดังนั้นการชุมนุมครั้งนี้จึงไม่เข้มแข็งพอๆ กับจะไม่เข้มข้นเหมือนที่ผ่านมา อาจฮึกเหิมด้วยการปลุกใจแต่ก็จะอ่อนล้าเต็มที
แกนนำก็หน้าเดิม คนอย่างวีระ มุสิกพงศ์ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ฯลฯ ก็คงเข้าประจำที่จักรภพ เพ็ญแข ก็เจ้าประจำ
การตัดสินใจที่จะเอารัฐบาลให้ตายคราวนี้ อาจผิดพลาดก็ได้
ทักษิณบอกว่า ปชป.อยู่ได้อย่างมาก 3 เดือน แต่รัฐบาลบอกว่า จริงๆ แล้วจะอยู่ถึง 3 ปี
ก็ว่ากันไปนะครับพี่น้อง!