รอยเตอร์ – อเมริกัน อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป อิงค์ (เอไอจี) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ “เอไอเอ” กำลังเรียกร้องขอเงินช่วยเหลือเพิ่มเติม หลังจากได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาลสหรัฐฯไปในปีที่แล้วถึง 2 รอบ ทว่าผลขาดทุนไตรมาสสี่ที่สูงถึง 60,000 ล้านดอลลาร์ ทำให้บริษัทประกันภัยที่เคยใหญ่ที่สุดในโลกแห่งนี้ ต้องกลับมาแบมือขอรัฐบาลอีกครั้ง ทั้งนี้เป็นการเปิดเผยของแหล่งข่าวซึ่งทราบเรื่องดี
การขาดทุนไตรมาสสี่ปีที่แล้วของเอไอจีที่ว่ากันว่าอยู่ในระดับประมาณ 60,000 ล้านดอลลาร์นี้ หากเป็นจริงก็นับเป็นการขาดทุนในรอบไตรมาสที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์สำหรับภาคธุรกิจของสหรัฐฯทีเดียว โดยมากกว่าสถิติเดิม นั่นคือ ยอดขาดทุนซึ่งไทม์วอเนอร์เคยทำไว้ที่ 54,000 ล้านดอลลาร์เมื่อปี 2002 อีกทั้งยังทำให้ยอดขาดทุนในไตรมาสสามของเอไอจีที่ 24,500 ล้านดอลลาร์ ดูน้อยลงไปเป็นกอง ทั้งที่ยอดนี้เองในตอนนั้นก็ทำให้รัฐบาลสหรัฐฯตัดสินใจเข้าอุ้มบริษัทประกันภัยยักษ์ใหญ่แห่งนี้ รวมเป็นเงินถึงประมาณ 150,000 ล้านดอลลาร์มาแล้ว
แหล่งข่าวอีกรายหนึ่งกล่าวว่า ในการเปิดเจรจารอบล่าสุดกับรัฐบาลของเอไอจีนั้น มีการพูดคุยกันถึงความเป็นไปได้ที่จะให้เงินเพิ่มมากขึ้นแก่บริษัท รวมทั้งอาจมีการแปลงสภาพหนี้ให้เป็นหุ้นด้วย
อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวรายที่สองนี้บอกว่า สถานการณ์ยังไม่ชัดเจนนัก รวมทั้งมีการหารือถึงทางเลือกอื่นๆ ด้วย จึงยังไม่ทราบว่าจะไปจบที่ใด
ขณะที่สำนักข่าวบลูกเบิร์กรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวที่ไม่ขอเปิดเผยนาม บอกว่าเอไอจีอาจจะขอแปลงสภาพหุ้นบุริมสิทธิ์ที่รัฐบาลถืออยู่ให้เป็นหุ้นสามัญ
ในระหว่างที่กระทรวงการคลังหารือกับเอไอจีในเรื่องหนทางการช่วยเหลือครั้งใหม่อยู่นี้ ทางกระทรวงก็ต้องหาทางช่วยเหลือซิตี้กรุ๊ป อิงค์ด้วยเช่นกัน เพราะหุ้นซิตี้กรุ๊ปถูกทุบอย่างรุนแรงด้วยความวิตกที่ว่ารัฐบาลอาจจะเข้ายึดธนาคารให้เป็นของรัฐ ซึ่งผลที่ตามจะทำให้หุ้นทั้งหมดมีราคาเป็นศูนย์ โดยที่มีรายงานเช่นกันว่า ซิติกรุ๊ปก็กำลังพยายามเสนอให้รัฐบาลถือหุ้นสามัญของตนเพิ่มขึ้น
สถานีโทรทัศน์ซีเอ็นบีซีที่รายงานเกี่ยวกับการหารือกับรัฐบาลของเอไอจีเป็นรายแรก กล่าวด้วยว่าเอไอจีจะประกาศผลประกอบการไตรมาสสี่ที่มีการขาดทุนอย่างหนักกันในสัปดาห์หน้า โดยการขาดทุนดังกล่าวนี้เนื่องมาจากการต้องตัดลดยอดขาดทุนของอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์และทรัพย์สินอื่น ๆ ทั้งนี้คณะกรรมการบริหารบริษัทของเอไอจี จะหารือกันในวันอาทิตย์หน้า เกี่ยวกับข้อตกลงกับรัฐบาล
ซีเอ็นบีซีกล่าวว่าในกรณีที่ไม่สามารถจะตกลงกับรัฐบาลได้ สำนักงานกฎหมาย ไวล์ กอทชาล และแมนเกส ซึ่งเป็นทนายความของเอไอจี ก็กำลังเตรียมพร้อมเพื่อยื่นเรื่องขอเข้าสู่ภาวะล้มละลาย
อย่างไรก็ดี แหล่งข่าวรายแรกของรอยเตอร์กลับยังคงยืนยันว่า แม้เอไอจีได้ว่าจ้างสำนักงานกฎหมาย ไวล์ กอทชาล จริง ทว่าไม่มีแผนการที่จะยื่นขอความคุ้มครองตามกฎหมายล้มละลายแต่อย่างใด
ทางด้านเอไอจีนั้น ออกคำแถลงว่าตนเองยังไม่ได้มีการรายงานผลประกอบการ และจะให้ข้อมูลที่ปรับให้ทันสมัยแล้วในอนาคตอันใกล้
“เรายังคงหารือกับรัฐบาลสหรัฐฯต่อไป เพื่อประเมินความเป็นไปได้ต่าง ๆเพื่อแก้ไขปัญหาทางการเงินที่เอไอจีประสบอยู่” คำแถลงของเอไอจีกล่าว
ส่วนพวกเจ้าหน้าที่กระทรวงการคลังสหรัฐฯก็ปฏิเสธที่จะให้ความเห็น
หุ้นของเอไอจีในตลาดนิวยอร์กปิดวันจันทร์ ลดลง 1 เซนต์มาอยู่ที่ 53 เซนต์
เอไอจีนั้นได้รับความช่วยจากรัฐบาลสหรัฐฯเป็นครั้งแรกในเดือนกันยายนปีที่แล้ว หลังจากวางเดิมพันผิดในกรณีสินเชื่อที่อยู่อาศัยมีปัญหา จนทำให้บริษัทเกือบล้มละลาย โดยรัฐบาลให้เงินช่วยเหลือในครั้งแรก 85,000 ล้านดอลลาร์ แต่อีกสองเดือนต่อมา รัฐบาลก็ต้องเข้ามาช่วยเอไอจีอีกครั้งด้วยเงินที่มากกว่าเดิม เมื่อบริษัทขาดทุนจากการตัดยอดหนี้สูญ
บริษัทบอกว่าวางแผนการที่จะขายสินทรัพย์ทุกอย่างยกเว้นอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจประกันอุบัติเหตุในสหรัฐฯ, ธุรกิจประกันภัยทั่วไปในต่างประเทศ, และผลประโยชน์ความเป็นเจ้าของในการดำเนินงานด้านประกันชีวิตในต่างประเทศบางประเทศ เพื่อพยายามหาเงินมาใช้คืนรัฐบาล และเป็นทุนดำเนินงานต่อไป
แต่ปรากฏว่าแม้เอไอจีมีการประกาศขายทรัพย์สินบางรายการ ทว่ากลับไม่ค่อยประสบความสำเร็จ เพราะช่วงเวลานี้เป็นช่วงที่ผู้ซื้อมักต้องยุ่งอยู่กับการแก้ไขปัญหาของตนเอง รวมทั้งสินเชื่อเพื่อเอื้ออำนวยการซื้อกิจการ ก็กำลังหายากอีกด้วย
นอกจากนั้น ปัญหาลำบากที่ยังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องของเอไอจี ก็น่าจะทำให้บริษัทยิ่งขยับทำอะไรได้ยากขึ้น
การขาดทุนไตรมาสสี่ปีที่แล้วของเอไอจีที่ว่ากันว่าอยู่ในระดับประมาณ 60,000 ล้านดอลลาร์นี้ หากเป็นจริงก็นับเป็นการขาดทุนในรอบไตรมาสที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์สำหรับภาคธุรกิจของสหรัฐฯทีเดียว โดยมากกว่าสถิติเดิม นั่นคือ ยอดขาดทุนซึ่งไทม์วอเนอร์เคยทำไว้ที่ 54,000 ล้านดอลลาร์เมื่อปี 2002 อีกทั้งยังทำให้ยอดขาดทุนในไตรมาสสามของเอไอจีที่ 24,500 ล้านดอลลาร์ ดูน้อยลงไปเป็นกอง ทั้งที่ยอดนี้เองในตอนนั้นก็ทำให้รัฐบาลสหรัฐฯตัดสินใจเข้าอุ้มบริษัทประกันภัยยักษ์ใหญ่แห่งนี้ รวมเป็นเงินถึงประมาณ 150,000 ล้านดอลลาร์มาแล้ว
แหล่งข่าวอีกรายหนึ่งกล่าวว่า ในการเปิดเจรจารอบล่าสุดกับรัฐบาลของเอไอจีนั้น มีการพูดคุยกันถึงความเป็นไปได้ที่จะให้เงินเพิ่มมากขึ้นแก่บริษัท รวมทั้งอาจมีการแปลงสภาพหนี้ให้เป็นหุ้นด้วย
อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวรายที่สองนี้บอกว่า สถานการณ์ยังไม่ชัดเจนนัก รวมทั้งมีการหารือถึงทางเลือกอื่นๆ ด้วย จึงยังไม่ทราบว่าจะไปจบที่ใด
ขณะที่สำนักข่าวบลูกเบิร์กรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวที่ไม่ขอเปิดเผยนาม บอกว่าเอไอจีอาจจะขอแปลงสภาพหุ้นบุริมสิทธิ์ที่รัฐบาลถืออยู่ให้เป็นหุ้นสามัญ
ในระหว่างที่กระทรวงการคลังหารือกับเอไอจีในเรื่องหนทางการช่วยเหลือครั้งใหม่อยู่นี้ ทางกระทรวงก็ต้องหาทางช่วยเหลือซิตี้กรุ๊ป อิงค์ด้วยเช่นกัน เพราะหุ้นซิตี้กรุ๊ปถูกทุบอย่างรุนแรงด้วยความวิตกที่ว่ารัฐบาลอาจจะเข้ายึดธนาคารให้เป็นของรัฐ ซึ่งผลที่ตามจะทำให้หุ้นทั้งหมดมีราคาเป็นศูนย์ โดยที่มีรายงานเช่นกันว่า ซิติกรุ๊ปก็กำลังพยายามเสนอให้รัฐบาลถือหุ้นสามัญของตนเพิ่มขึ้น
สถานีโทรทัศน์ซีเอ็นบีซีที่รายงานเกี่ยวกับการหารือกับรัฐบาลของเอไอจีเป็นรายแรก กล่าวด้วยว่าเอไอจีจะประกาศผลประกอบการไตรมาสสี่ที่มีการขาดทุนอย่างหนักกันในสัปดาห์หน้า โดยการขาดทุนดังกล่าวนี้เนื่องมาจากการต้องตัดลดยอดขาดทุนของอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์และทรัพย์สินอื่น ๆ ทั้งนี้คณะกรรมการบริหารบริษัทของเอไอจี จะหารือกันในวันอาทิตย์หน้า เกี่ยวกับข้อตกลงกับรัฐบาล
ซีเอ็นบีซีกล่าวว่าในกรณีที่ไม่สามารถจะตกลงกับรัฐบาลได้ สำนักงานกฎหมาย ไวล์ กอทชาล และแมนเกส ซึ่งเป็นทนายความของเอไอจี ก็กำลังเตรียมพร้อมเพื่อยื่นเรื่องขอเข้าสู่ภาวะล้มละลาย
อย่างไรก็ดี แหล่งข่าวรายแรกของรอยเตอร์กลับยังคงยืนยันว่า แม้เอไอจีได้ว่าจ้างสำนักงานกฎหมาย ไวล์ กอทชาล จริง ทว่าไม่มีแผนการที่จะยื่นขอความคุ้มครองตามกฎหมายล้มละลายแต่อย่างใด
ทางด้านเอไอจีนั้น ออกคำแถลงว่าตนเองยังไม่ได้มีการรายงานผลประกอบการ และจะให้ข้อมูลที่ปรับให้ทันสมัยแล้วในอนาคตอันใกล้
“เรายังคงหารือกับรัฐบาลสหรัฐฯต่อไป เพื่อประเมินความเป็นไปได้ต่าง ๆเพื่อแก้ไขปัญหาทางการเงินที่เอไอจีประสบอยู่” คำแถลงของเอไอจีกล่าว
ส่วนพวกเจ้าหน้าที่กระทรวงการคลังสหรัฐฯก็ปฏิเสธที่จะให้ความเห็น
หุ้นของเอไอจีในตลาดนิวยอร์กปิดวันจันทร์ ลดลง 1 เซนต์มาอยู่ที่ 53 เซนต์
เอไอจีนั้นได้รับความช่วยจากรัฐบาลสหรัฐฯเป็นครั้งแรกในเดือนกันยายนปีที่แล้ว หลังจากวางเดิมพันผิดในกรณีสินเชื่อที่อยู่อาศัยมีปัญหา จนทำให้บริษัทเกือบล้มละลาย โดยรัฐบาลให้เงินช่วยเหลือในครั้งแรก 85,000 ล้านดอลลาร์ แต่อีกสองเดือนต่อมา รัฐบาลก็ต้องเข้ามาช่วยเอไอจีอีกครั้งด้วยเงินที่มากกว่าเดิม เมื่อบริษัทขาดทุนจากการตัดยอดหนี้สูญ
บริษัทบอกว่าวางแผนการที่จะขายสินทรัพย์ทุกอย่างยกเว้นอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจประกันอุบัติเหตุในสหรัฐฯ, ธุรกิจประกันภัยทั่วไปในต่างประเทศ, และผลประโยชน์ความเป็นเจ้าของในการดำเนินงานด้านประกันชีวิตในต่างประเทศบางประเทศ เพื่อพยายามหาเงินมาใช้คืนรัฐบาล และเป็นทุนดำเนินงานต่อไป
แต่ปรากฏว่าแม้เอไอจีมีการประกาศขายทรัพย์สินบางรายการ ทว่ากลับไม่ค่อยประสบความสำเร็จ เพราะช่วงเวลานี้เป็นช่วงที่ผู้ซื้อมักต้องยุ่งอยู่กับการแก้ไขปัญหาของตนเอง รวมทั้งสินเชื่อเพื่อเอื้ออำนวยการซื้อกิจการ ก็กำลังหายากอีกด้วย
นอกจากนั้น ปัญหาลำบากที่ยังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องของเอไอจี ก็น่าจะทำให้บริษัทยิ่งขยับทำอะไรได้ยากขึ้น
