เอเอฟพี/รอยเตอร์ – ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐฯ บริภาษพวกแบงก์และสถาบันการเงินยักษ์ใหญ่ในวอลล์สตรีทอย่างรุนแรงเมื่อวันพฤหัสบดี(29)ที่ผ่านมา กรณีที่ยังคงจ่ายโบนัสมูลค่านับหมื่นล้านดอลลาร์ ทั้งที่ต้องขอเงินภาษีประชาชนมาช่วยชีวิตอุ้มชูกิจการ โดยเขาระบุว่า การกระทำเช่นนี้เป็นความอัปยศและไร้ความรับผิดชอบอย่างโจ่งแจ้ง
โอบามากล่าวด้วยสีหน้าโกรธจัดว่า ผู้บริหารระดับสูงของพวกแบงก์และสถาบันการเงินที่รับความช่วยเหลือจากรัฐบาล ควรจะต้องเสียสละประโยชน์ส่วนตัวเหมือนเช่นคนอเมริกันผู้เสียภาษีทั่วประเทศ ในขณะที่ประเทศกำลังพยายามดึงตัวเองขึ้นมาจากหุบเหวทางเศรษฐกิจ
อารมณ์เดือดพล่านของประธานาธิบดีสหรัฐฯปะทุขึ้น หลังจากได้อ่านบทความในหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งซึ่งแจกแจงรายละเอียดว่า ปีที่แล้วพวกกิจการยักษ์ใหญ่ในตลาดวอลล์สตรีทแจกโบนัสเป็นมูลค่ารวมกันถึง 18,400 ล้านดอลลาร์ ทั้งที่ตลาดหุ้นตกต่ำอย่างรุนแรงและเศรษฐกิจของประเทศกำลังดำดิ่งลงสู่ภาวะถดถอย
“ไร้ความรับผิดชอบอย่างที่สุด เป็นความอัปยศอย่างที่สุด เราต้องหาทางทำให้คนในวอลล์สตรีทที่กำลังขอความช่วยเหลือพวกนี้รู้สำนึกเสียบ้างว่า พวกเขาควรมีความละอาย มีวินัยและความรับผิดชอบชั่วดีอย่างwi” โอบามากล่าวกับผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบขาว
ผู้นำสหรัฐฯกล่าวต่อไปว่า ชาวอเมริกันทั่วประเทศต่างก็ตระหนักดีว่า จะต้องเผชิญกับความยากลำบากเพียงใดในการกระเสือกกระสนดึงตัวเองให้พ้นขึ้นมาจากหุบเหว ดังนั้น คงไม่มีใครปลื้มแน่นอน กับการที่มีคนบางกลุ่มพยายามจะทำให้ทุกคนต้องจมลึกลงไปยิ่งกว่าเดิม
โอบามากล่าวเรื่องนี้หลังหารือกับรัฐมนตรีคลัง ทิโมธี ไกธ์เนอร์ โดยเน้นย้ำว่า เขาและไกธ์เนอร์ต้องการที่จะส่งสารที่ชัดเจนไปยังบรรดาผู้บริหารกิจการในวอลล์สตรีท ให้แสดงความรับผิดชอบต่อสังคมมากกว่าที่เป็นอยู่
“มันจะมีเวลาสำหรับให้พวกเขาทำกำไร และมันจะมีเวลาสำหรับให้พวกเขาได้รับโบนัสกัน แต่ขณะนี้ไม่ใช่เวลานั้น” ผู้นำสหรัฐกล่าว
ประธานาธิบดีโอบามาซึ่งเพิ่งประสบความสำเร็จในการผลักดันแผนกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่ากว่า 800,000 ล้านดอลลาร์ให้ผ่านสภาผู้แทนราษฎรเมื่อ 2-3 วันก่อน ยังประกาศให้คำมั่นว่า จะเร่งดำเนินมาตรการที่ชัดเจน ในการปลุกจิตสำนึกผู้บริหารกิจการขนาดใหญ่ในวอลสตรีท ให้แสดงความรับผิดชอบในการมีส่วนร่วมเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศอย่างจริงจัง
ทั้งนี้ ผู้นำสหรัฐได้ยกตัวอย่างกรณีของซิตี้กรุ๊ป ซึ่งเป็นแบงห์หนึ่งที่ได้รับความช่วยเหลือจากงบประมาณกู้ชีวิตฟื้นฟูสถาบันการเงิน 700,000 ล้านดอลลาร์ ได้ตัดสินใจยกเลิกแผนการจัดซื้อเครื่องบินไอพ่น มูลค่า 42 ล้านดอลลาร์ มาใช้ในกิจการของบริษัท หลังกระทรวงการคลังตั้งข้อสังเกตว่า เป็นแผนงานที่ไม่เหมาะสม
พวกผู้ช่วยหลายรายของทำเนียบขาวบอกกับผู้สื่อข่าวว่า ตัวเลขการจ่ายโบนัสจำนวนมหึมาของพวกสถาบันการเงินวอลล์สตรีท ที่ปรากฏในรายงานของสำนักงานบัญชีกลางมลรัฐนิวยอร์กซึ่งนำออกเผยแพร่ในวันพุธ(28) กลายเป็นการบั่นทอนความพยายามของโอบามาที่เรียกร้องให้ชาวอเมริกันทุกคนมีจิตสำนึกใหม่ที่จะร่วมกันแบกรับความรับผิดชอบ
รายงานของสำนักงานบัญชีกลางบอกว่า โบนัสทั้งหมดของอุตสาหกรรมหลักทรัพย์ได้ตกลงมาจาก 32,900 ล้านดอลลาร์ในปี 2007 เป็น 18,400 ล้านดอลลาร์ในปี 2008 ซึ่งถือเป็นเปอร์เซ็นต์ลดต่ำลงแรงที่สุดในรอบกว่า 30 ปี กระนั้น ยอดโบนัสนี้ก็ยังสูงเป็นอันดับ 6 เท่าที่มีบันทึกกันมา
ทางด้านรองประธานาธิบดี โจ ไบเดน ก็ออกมาพูดเรื่องนี้ระหว่างการให้สัมภาษณ์โทรทัศน์ซีเอ็นบีซีว่า “ผมหมายความว่า มันช่างทำให้รู้สึกโกรธเคือง มันช่างเป็นการก่อกวนสติสัมปชัญญะอะไรอย่างนั้น ... ผมทราบดีว่าพวกเขากำลังคิดอะไรอยู่ พวกเขาก็กำลังคิดในแบบเก่าๆ อย่างที่ได้ทำให้เราต้องมาอยู่กันอย่างนี้นั่นแหละ เจ้าความละโมบนั่นไง”
โอบามากล่าวด้วยสีหน้าโกรธจัดว่า ผู้บริหารระดับสูงของพวกแบงก์และสถาบันการเงินที่รับความช่วยเหลือจากรัฐบาล ควรจะต้องเสียสละประโยชน์ส่วนตัวเหมือนเช่นคนอเมริกันผู้เสียภาษีทั่วประเทศ ในขณะที่ประเทศกำลังพยายามดึงตัวเองขึ้นมาจากหุบเหวทางเศรษฐกิจ
อารมณ์เดือดพล่านของประธานาธิบดีสหรัฐฯปะทุขึ้น หลังจากได้อ่านบทความในหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งซึ่งแจกแจงรายละเอียดว่า ปีที่แล้วพวกกิจการยักษ์ใหญ่ในตลาดวอลล์สตรีทแจกโบนัสเป็นมูลค่ารวมกันถึง 18,400 ล้านดอลลาร์ ทั้งที่ตลาดหุ้นตกต่ำอย่างรุนแรงและเศรษฐกิจของประเทศกำลังดำดิ่งลงสู่ภาวะถดถอย
“ไร้ความรับผิดชอบอย่างที่สุด เป็นความอัปยศอย่างที่สุด เราต้องหาทางทำให้คนในวอลล์สตรีทที่กำลังขอความช่วยเหลือพวกนี้รู้สำนึกเสียบ้างว่า พวกเขาควรมีความละอาย มีวินัยและความรับผิดชอบชั่วดีอย่างwi” โอบามากล่าวกับผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบขาว
ผู้นำสหรัฐฯกล่าวต่อไปว่า ชาวอเมริกันทั่วประเทศต่างก็ตระหนักดีว่า จะต้องเผชิญกับความยากลำบากเพียงใดในการกระเสือกกระสนดึงตัวเองให้พ้นขึ้นมาจากหุบเหว ดังนั้น คงไม่มีใครปลื้มแน่นอน กับการที่มีคนบางกลุ่มพยายามจะทำให้ทุกคนต้องจมลึกลงไปยิ่งกว่าเดิม
โอบามากล่าวเรื่องนี้หลังหารือกับรัฐมนตรีคลัง ทิโมธี ไกธ์เนอร์ โดยเน้นย้ำว่า เขาและไกธ์เนอร์ต้องการที่จะส่งสารที่ชัดเจนไปยังบรรดาผู้บริหารกิจการในวอลล์สตรีท ให้แสดงความรับผิดชอบต่อสังคมมากกว่าที่เป็นอยู่
“มันจะมีเวลาสำหรับให้พวกเขาทำกำไร และมันจะมีเวลาสำหรับให้พวกเขาได้รับโบนัสกัน แต่ขณะนี้ไม่ใช่เวลานั้น” ผู้นำสหรัฐกล่าว
ประธานาธิบดีโอบามาซึ่งเพิ่งประสบความสำเร็จในการผลักดันแผนกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่ากว่า 800,000 ล้านดอลลาร์ให้ผ่านสภาผู้แทนราษฎรเมื่อ 2-3 วันก่อน ยังประกาศให้คำมั่นว่า จะเร่งดำเนินมาตรการที่ชัดเจน ในการปลุกจิตสำนึกผู้บริหารกิจการขนาดใหญ่ในวอลสตรีท ให้แสดงความรับผิดชอบในการมีส่วนร่วมเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศอย่างจริงจัง
ทั้งนี้ ผู้นำสหรัฐได้ยกตัวอย่างกรณีของซิตี้กรุ๊ป ซึ่งเป็นแบงห์หนึ่งที่ได้รับความช่วยเหลือจากงบประมาณกู้ชีวิตฟื้นฟูสถาบันการเงิน 700,000 ล้านดอลลาร์ ได้ตัดสินใจยกเลิกแผนการจัดซื้อเครื่องบินไอพ่น มูลค่า 42 ล้านดอลลาร์ มาใช้ในกิจการของบริษัท หลังกระทรวงการคลังตั้งข้อสังเกตว่า เป็นแผนงานที่ไม่เหมาะสม
พวกผู้ช่วยหลายรายของทำเนียบขาวบอกกับผู้สื่อข่าวว่า ตัวเลขการจ่ายโบนัสจำนวนมหึมาของพวกสถาบันการเงินวอลล์สตรีท ที่ปรากฏในรายงานของสำนักงานบัญชีกลางมลรัฐนิวยอร์กซึ่งนำออกเผยแพร่ในวันพุธ(28) กลายเป็นการบั่นทอนความพยายามของโอบามาที่เรียกร้องให้ชาวอเมริกันทุกคนมีจิตสำนึกใหม่ที่จะร่วมกันแบกรับความรับผิดชอบ
รายงานของสำนักงานบัญชีกลางบอกว่า โบนัสทั้งหมดของอุตสาหกรรมหลักทรัพย์ได้ตกลงมาจาก 32,900 ล้านดอลลาร์ในปี 2007 เป็น 18,400 ล้านดอลลาร์ในปี 2008 ซึ่งถือเป็นเปอร์เซ็นต์ลดต่ำลงแรงที่สุดในรอบกว่า 30 ปี กระนั้น ยอดโบนัสนี้ก็ยังสูงเป็นอันดับ 6 เท่าที่มีบันทึกกันมา
ทางด้านรองประธานาธิบดี โจ ไบเดน ก็ออกมาพูดเรื่องนี้ระหว่างการให้สัมภาษณ์โทรทัศน์ซีเอ็นบีซีว่า “ผมหมายความว่า มันช่างทำให้รู้สึกโกรธเคือง มันช่างเป็นการก่อกวนสติสัมปชัญญะอะไรอย่างนั้น ... ผมทราบดีว่าพวกเขากำลังคิดอะไรอยู่ พวกเขาก็กำลังคิดในแบบเก่าๆ อย่างที่ได้ทำให้เราต้องมาอยู่กันอย่างนี้นั่นแหละ เจ้าความละโมบนั่นไง”
