รอยเตอร์ - ประธานาธิบดีบารัค โอบามาแห่งสหรัฐฯออกคำสั่งเมื่อวันอังคาร(17) ให้เพิ่มกำลังทหารอเมริกันอีก 17,000 คนเข้าประจำการในอัฟกานิสถาน เพื่อรับมือกับการก่อความไม่สงบที่กำลังขยายตัว นับเป็นการตัดสินใจทางด้านการทหารครั้งใหญ่ครั้งแรกของเขาในฐานะผู้บัญชาการทหารสูงสุด แต่โอบามาก็ระบุด้วยว่า ลำพังการใช้กำลังทหารอย่างเดียวไม่อาจแก้ปัญหาได้สำเร็จ
พวกเจ้าหน้าที่สหรัฐฯหลายรายมองว่า วอชิงตันและกองกำลังของบรรดาชาติพันธมิตร ไม่ได้กำลังมีชัยชนะในอัฟกานิสถาน แม้ว่าจะโค่นล้มกลุ่มตอลิบานได้เป็นเวลากว่า 7 ปีแล้ว หลังจากที่ตอลิบานให้ที่พักพิงแก่ผู้นำกลุ่มอัลกออิดะห์ซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุโจมตีสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2001
การเพิ่มทหารอีก 17,000 คน จะเท่ากับเป็นการเพิ่มทหารอเมริกันในอัฟกานิสถานขึ้นอีกกว่า 40%
"เราจำเป็นต้องเพิ่มกำลังทหารในครั้งนี้เพื่อให้เกิดความมั่นคงขึ้นเพราะสถานการณ์ในอัฟกานิสถานกำลังย่ำแย่ เนื่องจากที่ผ่านมาไม่ได้รับความสนใจในเชิงยุทธศาสตร์ และยังขาดทิศทางรวมทั้งทรัพยากรที่จำเป็นด้วย" โอบามาระบุในคำแถลง
อย่างไรก็ตาม ในระหว่างให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์แคนาเดียน บรอดคาสติง คอร์ปอเรชัน (ซีบีซี) ก่อนหน้าที่เขาจะเดินทางเยือนแคนาดา โอบามากล่าวว่า "ผมเชื่ออย่างเด็ดขาดว่าเราไม่มีทางแก้ปัญหาอัฟกานิสถาน ตอลิบาน รวมทั้งการขยายตัวของพวกสุดขั้วในภูมิภาคนั้นโดยใช้กำลังทหารเพียงอย่างเดียว"
"เราจะใช้วิธีทางการทูต เราจะใช้การพัฒนา และผมหวังว่าเมื่อได้พบปะเจรจากับท่านนายกรัฐมนตรี (สตีเฟน) ฮาร์เปอร์ (แห่งแคนาดา) แล้ว ทั้งท่านและผมจะเล็งเห็นถึงความสำคัญของการใช้ยุทธศาสตร์แบบครอบคลุม"
เพนตากอนระบุว่ากำลังทหารชุดใหม่ที่จะเสริมเข้าไปในอัฟกานิสถาน ประกอบด้วยทหารนาวิกโยธินราว 8,000 คน และทหารบกราว 4,000 คนพร้อมด้วยยานยนต์หุ้มเกราะ "สไตรเกอร์" โดยทั้งหมดจะเข้าประจำการในพื้นที่ทางใต้ของอัฟกานิสถาน ซึ่งกองกำลังสหรัฐฯ และนาโต้กำลังพยายามยึดครองพื้นที่ ขณะที่พวกตอลิบานก็เพิ่มการก่อความไม่สงบอย่างห้าวหาญขึ้นทุกที
"เราได้แจ้งเรื่องการตัดสินใจดังกล่าวไปยังเพนตากอนเมื่อวานนี้ และคำสั่งก็ได้ลงนามในวันนี้" รอเบิร์ต กิบส์ โฆษกทำเนียบขาวบอก
การเสริมกำลังทหารครั้งนี้จะเป็นส่วนหนึ่งของแผนการของสหรัฐฯ ที่จะเพิ่มกำลังทหารประจำการในอัฟกานิสถานเป็น 60,000 คน จากที่ประจำการอยู่ในปัจจุบัน 38,000 คน ซึ่งนอกจากทหารสหรัฐฯ แล้ว เวลานี้ยังมีทหารจากประเทศสมาชิกขององค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) อีก 30,000 คนที่ประจำการอยู่ที่นั่น
อันที่จริง พล.อ.เดวิด แมคเคียร์แนน ผู้บัญชาการทหารทั้งของสหรัฐฯและของกองกำลังนาโต้ในอัฟกานิสถาน ได้ขอกำลังหน่วยสู้รบเพิ่มขึ้น 3 กองพลน้อย ขณะที่การเพิ่มทหารให้ตามคำสั่งของโอบามาคราวนี้ คือให้เพียง 2 กองพลน้อย โดยที่หน่วยทหารเหล่านี้ ตอนแรกทีเดียวมีกำหนดการให้ไปประจำการในอิรัก
แม้ว่าพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันต่างเห็นด้วยกับการตัดสินใจของโอบามาในครั้งนี้ แต่ก็มีเสียงติงจากวุฒิสมาชิกมลรัฐแอริโซนา จอห์น แมคเคน อดีตคู่แข่งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่บอกว่าถึงสถานการณ์ในอัฟกานิสถานจะ "ร้ายแรง" แต่โอบามาจะต้องอธิบายยุทธศาสตร์การแก้ปัญหานี้ให้ชัดเจนด้วย
"เราเริ่มใช้ปฏิบัติการทางทหารมากว่าเจ็ดปีแล้ว แต่ผมยังไม่เห็นว่ามีการประสานแผนการทั้งทางการทหารและพลเรือนในการทำสงครามนี้เลย" แมคเคนบอก
อนึ่ง โอบามาได้ให้คำมั่นในระหว่างหาเสียงว่าเขาจะถอนทหารออกจากอิรักภายใน 16 เดือน แต่ปรากฏว่าเวลานี้พวกผู้บัญชาการทหารกำลังเสนอให้เลื่อนกำหนดการถอนทหารออกไป โดยเตือนว่าสถานการณ์ในอิรักยังไม่มีความมั่นคงเพียงพอ
พวกเจ้าหน้าที่สหรัฐฯหลายรายมองว่า วอชิงตันและกองกำลังของบรรดาชาติพันธมิตร ไม่ได้กำลังมีชัยชนะในอัฟกานิสถาน แม้ว่าจะโค่นล้มกลุ่มตอลิบานได้เป็นเวลากว่า 7 ปีแล้ว หลังจากที่ตอลิบานให้ที่พักพิงแก่ผู้นำกลุ่มอัลกออิดะห์ซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุโจมตีสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2001
การเพิ่มทหารอีก 17,000 คน จะเท่ากับเป็นการเพิ่มทหารอเมริกันในอัฟกานิสถานขึ้นอีกกว่า 40%
"เราจำเป็นต้องเพิ่มกำลังทหารในครั้งนี้เพื่อให้เกิดความมั่นคงขึ้นเพราะสถานการณ์ในอัฟกานิสถานกำลังย่ำแย่ เนื่องจากที่ผ่านมาไม่ได้รับความสนใจในเชิงยุทธศาสตร์ และยังขาดทิศทางรวมทั้งทรัพยากรที่จำเป็นด้วย" โอบามาระบุในคำแถลง
อย่างไรก็ตาม ในระหว่างให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์แคนาเดียน บรอดคาสติง คอร์ปอเรชัน (ซีบีซี) ก่อนหน้าที่เขาจะเดินทางเยือนแคนาดา โอบามากล่าวว่า "ผมเชื่ออย่างเด็ดขาดว่าเราไม่มีทางแก้ปัญหาอัฟกานิสถาน ตอลิบาน รวมทั้งการขยายตัวของพวกสุดขั้วในภูมิภาคนั้นโดยใช้กำลังทหารเพียงอย่างเดียว"
"เราจะใช้วิธีทางการทูต เราจะใช้การพัฒนา และผมหวังว่าเมื่อได้พบปะเจรจากับท่านนายกรัฐมนตรี (สตีเฟน) ฮาร์เปอร์ (แห่งแคนาดา) แล้ว ทั้งท่านและผมจะเล็งเห็นถึงความสำคัญของการใช้ยุทธศาสตร์แบบครอบคลุม"
เพนตากอนระบุว่ากำลังทหารชุดใหม่ที่จะเสริมเข้าไปในอัฟกานิสถาน ประกอบด้วยทหารนาวิกโยธินราว 8,000 คน และทหารบกราว 4,000 คนพร้อมด้วยยานยนต์หุ้มเกราะ "สไตรเกอร์" โดยทั้งหมดจะเข้าประจำการในพื้นที่ทางใต้ของอัฟกานิสถาน ซึ่งกองกำลังสหรัฐฯ และนาโต้กำลังพยายามยึดครองพื้นที่ ขณะที่พวกตอลิบานก็เพิ่มการก่อความไม่สงบอย่างห้าวหาญขึ้นทุกที
"เราได้แจ้งเรื่องการตัดสินใจดังกล่าวไปยังเพนตากอนเมื่อวานนี้ และคำสั่งก็ได้ลงนามในวันนี้" รอเบิร์ต กิบส์ โฆษกทำเนียบขาวบอก
การเสริมกำลังทหารครั้งนี้จะเป็นส่วนหนึ่งของแผนการของสหรัฐฯ ที่จะเพิ่มกำลังทหารประจำการในอัฟกานิสถานเป็น 60,000 คน จากที่ประจำการอยู่ในปัจจุบัน 38,000 คน ซึ่งนอกจากทหารสหรัฐฯ แล้ว เวลานี้ยังมีทหารจากประเทศสมาชิกขององค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) อีก 30,000 คนที่ประจำการอยู่ที่นั่น
อันที่จริง พล.อ.เดวิด แมคเคียร์แนน ผู้บัญชาการทหารทั้งของสหรัฐฯและของกองกำลังนาโต้ในอัฟกานิสถาน ได้ขอกำลังหน่วยสู้รบเพิ่มขึ้น 3 กองพลน้อย ขณะที่การเพิ่มทหารให้ตามคำสั่งของโอบามาคราวนี้ คือให้เพียง 2 กองพลน้อย โดยที่หน่วยทหารเหล่านี้ ตอนแรกทีเดียวมีกำหนดการให้ไปประจำการในอิรัก
แม้ว่าพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันต่างเห็นด้วยกับการตัดสินใจของโอบามาในครั้งนี้ แต่ก็มีเสียงติงจากวุฒิสมาชิกมลรัฐแอริโซนา จอห์น แมคเคน อดีตคู่แข่งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่บอกว่าถึงสถานการณ์ในอัฟกานิสถานจะ "ร้ายแรง" แต่โอบามาจะต้องอธิบายยุทธศาสตร์การแก้ปัญหานี้ให้ชัดเจนด้วย
"เราเริ่มใช้ปฏิบัติการทางทหารมากว่าเจ็ดปีแล้ว แต่ผมยังไม่เห็นว่ามีการประสานแผนการทั้งทางการทหารและพลเรือนในการทำสงครามนี้เลย" แมคเคนบอก
อนึ่ง โอบามาได้ให้คำมั่นในระหว่างหาเสียงว่าเขาจะถอนทหารออกจากอิรักภายใน 16 เดือน แต่ปรากฏว่าเวลานี้พวกผู้บัญชาการทหารกำลังเสนอให้เลื่อนกำหนดการถอนทหารออกไป โดยเตือนว่าสถานการณ์ในอิรักยังไม่มีความมั่นคงเพียงพอ