เอเอฟพี - สหรัฐฯเตือนชาติพันธมิตร ในที่ประชุมด้านความมั่นคงนานาชาตินครมิวนิกเมื่อวันอาทิตย์ (8) ว่า การต่อสู้กับพวกก่อความไม่สงบในอัฟกานิสถาน อาจจะเป็นเรื่องลำบากยากเย็นกว่าในอิรัก พร้อมกันนี้ได้เรียกร้องให้ชาติพันธมิตรเพิ่มการสนับสนุนด้านกำลังทหารและเครื่องมืออุปกรณ์ต่างๆ
ริชาร์ด โฮลบรูก ผู้แทนพิเศษของสหรัฐฯที่ดูแลเรื่องอัฟกานิสถานและปากีสถาน กล่าวในการประชุมประจำปี ณ นครมิวนิก ประเทศเยอรมนี ว่า ขณะนี้มีความจำเป็นต้องใช้แนวทางใหม่เพื่อเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ของอัฟกานิสถานที่เต็มไปด้วยความตึงเครียดให้ดีขึ้นกว่าเดิม และเรื่องนี้ย่อมเกี่ยวพันไปถึงประเทศเพื่อนบ้านของอัฟกานิสถานทั้งหมด โดยเฉพาะอย่างยิ่งปากีสถาน
"ปัญหาครั้งนี้จะไม่เหมือนกับปัญหาอื่นๆ ที่เราเคยเผชิญมาก่อน ผมคิดว่าจะยากกว่าปัญหาอิรักมาก และจะเป็นการต่อสู้ที่กินเวลายาวนานด้วย" โฮลบรูกกล่าว และบอกด้วยว่ารัฐบาลของประธานาธิบดีบารัค โอบามากำลังพิจารณาทบทวน เพื่อหาหนทางที่ดีที่สุดในการจัดการกับกลุ่มก่อความไม่สงบที่มีพวกตอลิบานเป็นแกนนำ
"ผมคิดว่าสิ่งที่จำเป็นก็คือความคิดใหม่ๆ การประสานงานภายในรัฐบาลสหรัฐฯที่ดีขึ้นกว่าเดิม การประสานงานกับพันธมิตรนาโตและประเทศอื่นที่เกี่ยวข้องซึ่งดีขึ้นกว่าเก่า ตลอดจนกรอบเวลาในการดำเนินการให้สำเร็จ" เขาบอก
นอกจากนั้น เขาเห็นว่าประเทศที่อยู่รอบๆ อัฟกานิสถานจะต้องเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องในการแก้ปัญหา โดยจะรวมถึงอิหร่าน และโดยเฉพาะอย่างยิ่งปากีสถาน ซึ่งกลายเป็นฐานพักพิงของกลุ่มตอลิบาน ตลอดจนพวกผู้สนับสนุน ทั้งที่เป็นกลุ่มอัลกออิดะห์และพวกแก๊งอาชญากรรมต่างๆ
"ประเทศเพื่อนบ้านทั้งหมดจะมีบทบาทโดยตรง และเรากำลังมองหาแนวทางแก้ปัญหาในระดับภูมิภาคด้วย" โฮลบรูกบอก "สถานการณ์ในปากีสถานนั้นร้ายแรงมาก และจำเป็นต้องมีความช่วยเหลือ รวมทั้งความเห็นอกเห็นใจ และการสนับสนุนจากนานาชาติเข้าไป"
ด้าน ชาห์ เมห์มูด กุเรชี รัฐมนตรีต่างประเทศของปากีสถาน ยอมรับว่า "ปัญหาที่ท้าทายเราอยู่ขณะนี้เป็นปัญหาใหญ่และสลับซับซ้อน" ทว่าเขาก็ระบุด้วยว่า "ประเทศปากีสถานจะไม่ถูกใช้เป็นที่ดำเนินการของพวกก่อการร้าย ขณะเดียวกันอธิปไตยและบูรณภาพในดินแดนของเราก็จะต้องได้รับการเคารพเช่นกัน"
ปัจจุบันมีกำลังทหารต่างชาติประจำการในอัฟกานิสถานอยู่ 70,000 นาย เป็นทหารของกองกำลังสนับสนุนด้านความปลอดภัยระหว่างประเทศภายใต้การนำของนาโต้ 50,000 นาย แต่โอบามาถือว่าแนวรบในอัฟกานิสถานเป็นแนวรบสำคัญในการทำสงครามต่อสู้การก่อการร้าย เขาจึงให้คำมั่นว่าจะเสริมกำลังทหารอีก 30,000 นายเข้าไปในอัฟกานิสถาน
ทว่าพลเอกเดวิด เพเทรอัส ผู้บัญชาการทหารเขตกลางของสหรัฐฯ ระบุว่านอกจากกำลังทหารแล้ว จะต้องมีการเสริมเครื่องบินรบ อุปกรณ์สนับสนุนการอพยพผู้บาดเจ็บ วิศวกร การส่งกำลังบำรุง และครูฝึกทหารเข้าไปด้วยเช่นกัน
นอกจากนั้นเขายังเรียกร้องให้ประเทศอื่นๆ ให้การสนับสนุนกองกำลังของนาโตให้มากขึ้น เนื่องจากจะต้องเตรียมรับมือกับการเลือกตั้งทั่วไปในอัฟกานิสถานซึ่งจะมีขึ้นในเดือนสิงหาคมปีนี้
ส่วนประธานาธิบดีฮามิด คาร์ไซ แห่งอัฟกานิสถาน ได้เรียกร้องให้สร้างความสมานฉันท์กับกลุ่มตอลิบาน และเรียกร้องให้กองกำลังทหารต่างชาติใช้ความพยายามให้มากขึ้นเพื่อหาทางหยุดยั้งความสูญเสียของพลเรือนชาวอัฟกัน
เขาเห็นว่าขณะนี้เป็นเวลาที่เหมาะสมสำหรับสร้างกระบวนการสมานฉันท์ และว่า "เราจะเชิญคนของตอลิบานที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับอัลกออิดะห์ และไม่ได้เกี่ยวข้องกับเครือข่ายก่อการร้าย แต่ต้องการจะกลับประเทศ ต้องการดำเนินชีวิตภายใต้รัฐธรรมนูญแห่งอัฟกานิสถาน และต้องการให้มีสันติภาพภายในประเทศ และใช้ชีวิตแบบคนปกติสามัญ ให้หันมาร่วมมือกัน และกลับคืนสู่ประเทศของพวกเขาเอง"
ริชาร์ด โฮลบรูก ผู้แทนพิเศษของสหรัฐฯที่ดูแลเรื่องอัฟกานิสถานและปากีสถาน กล่าวในการประชุมประจำปี ณ นครมิวนิก ประเทศเยอรมนี ว่า ขณะนี้มีความจำเป็นต้องใช้แนวทางใหม่เพื่อเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ของอัฟกานิสถานที่เต็มไปด้วยความตึงเครียดให้ดีขึ้นกว่าเดิม และเรื่องนี้ย่อมเกี่ยวพันไปถึงประเทศเพื่อนบ้านของอัฟกานิสถานทั้งหมด โดยเฉพาะอย่างยิ่งปากีสถาน
"ปัญหาครั้งนี้จะไม่เหมือนกับปัญหาอื่นๆ ที่เราเคยเผชิญมาก่อน ผมคิดว่าจะยากกว่าปัญหาอิรักมาก และจะเป็นการต่อสู้ที่กินเวลายาวนานด้วย" โฮลบรูกกล่าว และบอกด้วยว่ารัฐบาลของประธานาธิบดีบารัค โอบามากำลังพิจารณาทบทวน เพื่อหาหนทางที่ดีที่สุดในการจัดการกับกลุ่มก่อความไม่สงบที่มีพวกตอลิบานเป็นแกนนำ
"ผมคิดว่าสิ่งที่จำเป็นก็คือความคิดใหม่ๆ การประสานงานภายในรัฐบาลสหรัฐฯที่ดีขึ้นกว่าเดิม การประสานงานกับพันธมิตรนาโตและประเทศอื่นที่เกี่ยวข้องซึ่งดีขึ้นกว่าเก่า ตลอดจนกรอบเวลาในการดำเนินการให้สำเร็จ" เขาบอก
นอกจากนั้น เขาเห็นว่าประเทศที่อยู่รอบๆ อัฟกานิสถานจะต้องเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องในการแก้ปัญหา โดยจะรวมถึงอิหร่าน และโดยเฉพาะอย่างยิ่งปากีสถาน ซึ่งกลายเป็นฐานพักพิงของกลุ่มตอลิบาน ตลอดจนพวกผู้สนับสนุน ทั้งที่เป็นกลุ่มอัลกออิดะห์และพวกแก๊งอาชญากรรมต่างๆ
"ประเทศเพื่อนบ้านทั้งหมดจะมีบทบาทโดยตรง และเรากำลังมองหาแนวทางแก้ปัญหาในระดับภูมิภาคด้วย" โฮลบรูกบอก "สถานการณ์ในปากีสถานนั้นร้ายแรงมาก และจำเป็นต้องมีความช่วยเหลือ รวมทั้งความเห็นอกเห็นใจ และการสนับสนุนจากนานาชาติเข้าไป"
ด้าน ชาห์ เมห์มูด กุเรชี รัฐมนตรีต่างประเทศของปากีสถาน ยอมรับว่า "ปัญหาที่ท้าทายเราอยู่ขณะนี้เป็นปัญหาใหญ่และสลับซับซ้อน" ทว่าเขาก็ระบุด้วยว่า "ประเทศปากีสถานจะไม่ถูกใช้เป็นที่ดำเนินการของพวกก่อการร้าย ขณะเดียวกันอธิปไตยและบูรณภาพในดินแดนของเราก็จะต้องได้รับการเคารพเช่นกัน"
ปัจจุบันมีกำลังทหารต่างชาติประจำการในอัฟกานิสถานอยู่ 70,000 นาย เป็นทหารของกองกำลังสนับสนุนด้านความปลอดภัยระหว่างประเทศภายใต้การนำของนาโต้ 50,000 นาย แต่โอบามาถือว่าแนวรบในอัฟกานิสถานเป็นแนวรบสำคัญในการทำสงครามต่อสู้การก่อการร้าย เขาจึงให้คำมั่นว่าจะเสริมกำลังทหารอีก 30,000 นายเข้าไปในอัฟกานิสถาน
ทว่าพลเอกเดวิด เพเทรอัส ผู้บัญชาการทหารเขตกลางของสหรัฐฯ ระบุว่านอกจากกำลังทหารแล้ว จะต้องมีการเสริมเครื่องบินรบ อุปกรณ์สนับสนุนการอพยพผู้บาดเจ็บ วิศวกร การส่งกำลังบำรุง และครูฝึกทหารเข้าไปด้วยเช่นกัน
นอกจากนั้นเขายังเรียกร้องให้ประเทศอื่นๆ ให้การสนับสนุนกองกำลังของนาโตให้มากขึ้น เนื่องจากจะต้องเตรียมรับมือกับการเลือกตั้งทั่วไปในอัฟกานิสถานซึ่งจะมีขึ้นในเดือนสิงหาคมปีนี้
ส่วนประธานาธิบดีฮามิด คาร์ไซ แห่งอัฟกานิสถาน ได้เรียกร้องให้สร้างความสมานฉันท์กับกลุ่มตอลิบาน และเรียกร้องให้กองกำลังทหารต่างชาติใช้ความพยายามให้มากขึ้นเพื่อหาทางหยุดยั้งความสูญเสียของพลเรือนชาวอัฟกัน
เขาเห็นว่าขณะนี้เป็นเวลาที่เหมาะสมสำหรับสร้างกระบวนการสมานฉันท์ และว่า "เราจะเชิญคนของตอลิบานที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับอัลกออิดะห์ และไม่ได้เกี่ยวข้องกับเครือข่ายก่อการร้าย แต่ต้องการจะกลับประเทศ ต้องการดำเนินชีวิตภายใต้รัฐธรรมนูญแห่งอัฟกานิสถาน และต้องการให้มีสันติภาพภายในประเทศ และใช้ชีวิตแบบคนปกติสามัญ ให้หันมาร่วมมือกัน และกลับคืนสู่ประเทศของพวกเขาเอง"
