ASTVผู้จัดการรายวัน - กรุงเทพประกันภัยเผยแผนปี52 มุ่งเจาะกลุ่มรายย่อยตั้งเป้า เพิ่ม 5-6% จากปี 51 ที่มียอด 3,340 ล้าน เน้นขยายกลุ่มนอน-มอเตอร์ผ่านช่องทาง Telemarketing พร้อมออกผลิตภัณฑ์ใหม่ประกันภัยคุ้มครองบัญชีบัตรเครดิตวงเงินชำระหนี้สูงสุด 6 แสนบาท
นายอภิสิทธิ์ อนันตนาถรัตน ผู้อำนวยการธุรกิจลูกค้ารายย่อย บริษัทกรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ BKI เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทจะมุ่งเน้นเจาะกลุ่มลูกค้ารายย่อยต่อเนื่องจากปีก่อน โดยคาดว่าเบี้ยประกันในส่วนของรายย่อยจะเติบโตประมาณ 5-6% จากในปี 2551 ที่มีเบี้ยประกันรายย่อยอยู่ที่ประมาณ 3,340 ล้านบาท จากเบี้ยประกันรวม 6,960 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 48% และจะมุ่งขยายตลาดในส่วนของนอน-มอเตอร์ ซึ่งมี แผนที่จะขยายช่องทางการขยายผ่านระบบ online, Direct Marketing ผ่านสื่อต่างๆ และ จุดบริการ BKI Care Station ที่จากปัจจุบัน มีอยู่ 10 แห่ง และในปีนี้จะเพิ่ม เป็น 14 แห่ง
สำหรับช่องทางที่สำคัญอีกช่องทางหนึ่งที่บริษัทคาดว่าจะช่วยในการขยายตลาดรายย่อยได้ คือ การขายผ่าน Telemarketing โดยบริษัทได้เตรียมสินค้า ที่หลากหลายรองรับความต้องการ ของลูกค้ากลุ่มดังกล่าว ซึ่งนอกจากสินค้าประกันภัย สุขภาพแล้ว ยังได้เตรียมขายประกันภัยความคุ้มครองบัญชีบัตรเครดิต
นายอภิสิทธิ์กล่าวอีกว่า การประกันภัย คุ้มครองบัญชีบัตรเครดิตนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างทดลองขาย ซึ่งในขั้นแรกจะใช้ฐานลูกค้าบัตรเครดิตของธนาคารกรุงเทพก่อน โดยในการประกันภัยคุ้มครองบัญชีบัตรเครดิตนั้น หากผู้ถือบัตรเกิดอุบัติเหตุหรือเจ็บป่วยชั่วคราวจนไม่สามารถจ่ายชำระหนี้ บัตรเครดิตได้บริษัทจะจ่ายในขั้นต่ำแทนทุก เดือนในระยะเวลาไม่เกิน 12 เดือน และหากทุพพลภาพถาวรหรือเสียชีวิตบริษัทจะชำระหนี้แทนในวงเงินไม่เกิน 6 แสนบาท และหากมีการตรวจพบว่าผู้ถือบัตรเป็นโรคร้าย 2 อย่าง คือ โรคมะเร็ง และโรคเกี่ยวกับหลอดเลือดในสมอง บริษัทจะจ่าย ชดเชยทันที 2 แสนบาท โดยผู้ถือบัตรจะเสียค่าเบี้ยประกันรายเดือนประมาณ 180 บาท
ทั้งนี้ บริษัทได้ตั้งเป้ายอดขายประกันภัยผ่านทาง Telemarketing ในปี 2552 ที่ 800 ล้านบาท จากปีที่ผ่านมาที่อยู่ในระดับ 540 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการเติบโตประมาณ 49% เพิ่มจำนวนลูกค้าเป็น 9 หมื่น ราย จากปีก่อนที่มีเกือบ 6 หมื่นราย โดยนอกจากผลิตภัณฑ์ใหม่ๆที่เตรียมจะออกมาแล้ว และเพิ่มจำนวนพนักงานขายทางโทรศัพท์อีก 150 คน จาก ที่มีอยู่ 220 คน
'สาเหตุที่บริษัทหันมาเน้นการเพิ่มฐานรายย่อยนั้น เนื่องจากปัจจุบันตลาดลูกค้ารายใหญ่มีการแข่งขันสูง ซึ่งจะต้องแข่งขันด้านราคามาก ซึ่งจะทำให้มีมาร์จิ้นน้อยลง ทำให้บริษัทหันมุ่งขยายตลาดรายย่อย ซึ่งก็จะเน้นที่ไปกลุ่มนอน-มอเตอร์ เนื่องจากกลุ่มประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลหรือประกันสุขภาพมี lose ratio ในระดับ ที่ต่ำกว่า 30% ขณะที่กรมธรรม์รถยนต์โดยเฉพาะรถยนต์ขนาดเล็กมี lose ratio สูงประมาณ 60-70% ซึ่งจากการปรับเปลี่ยน กลยุทธ์ดังกล่าวทำให้ผลการดำเนินงานในปี 2551 ที่ผ่านมาของบริษัทปรับตัวดีขึ้น'
นายอภิสิทธิ์ อนันตนาถรัตน ผู้อำนวยการธุรกิจลูกค้ารายย่อย บริษัทกรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ BKI เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทจะมุ่งเน้นเจาะกลุ่มลูกค้ารายย่อยต่อเนื่องจากปีก่อน โดยคาดว่าเบี้ยประกันในส่วนของรายย่อยจะเติบโตประมาณ 5-6% จากในปี 2551 ที่มีเบี้ยประกันรายย่อยอยู่ที่ประมาณ 3,340 ล้านบาท จากเบี้ยประกันรวม 6,960 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 48% และจะมุ่งขยายตลาดในส่วนของนอน-มอเตอร์ ซึ่งมี แผนที่จะขยายช่องทางการขยายผ่านระบบ online, Direct Marketing ผ่านสื่อต่างๆ และ จุดบริการ BKI Care Station ที่จากปัจจุบัน มีอยู่ 10 แห่ง และในปีนี้จะเพิ่ม เป็น 14 แห่ง
สำหรับช่องทางที่สำคัญอีกช่องทางหนึ่งที่บริษัทคาดว่าจะช่วยในการขยายตลาดรายย่อยได้ คือ การขายผ่าน Telemarketing โดยบริษัทได้เตรียมสินค้า ที่หลากหลายรองรับความต้องการ ของลูกค้ากลุ่มดังกล่าว ซึ่งนอกจากสินค้าประกันภัย สุขภาพแล้ว ยังได้เตรียมขายประกันภัยความคุ้มครองบัญชีบัตรเครดิต
นายอภิสิทธิ์กล่าวอีกว่า การประกันภัย คุ้มครองบัญชีบัตรเครดิตนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างทดลองขาย ซึ่งในขั้นแรกจะใช้ฐานลูกค้าบัตรเครดิตของธนาคารกรุงเทพก่อน โดยในการประกันภัยคุ้มครองบัญชีบัตรเครดิตนั้น หากผู้ถือบัตรเกิดอุบัติเหตุหรือเจ็บป่วยชั่วคราวจนไม่สามารถจ่ายชำระหนี้ บัตรเครดิตได้บริษัทจะจ่ายในขั้นต่ำแทนทุก เดือนในระยะเวลาไม่เกิน 12 เดือน และหากทุพพลภาพถาวรหรือเสียชีวิตบริษัทจะชำระหนี้แทนในวงเงินไม่เกิน 6 แสนบาท และหากมีการตรวจพบว่าผู้ถือบัตรเป็นโรคร้าย 2 อย่าง คือ โรคมะเร็ง และโรคเกี่ยวกับหลอดเลือดในสมอง บริษัทจะจ่าย ชดเชยทันที 2 แสนบาท โดยผู้ถือบัตรจะเสียค่าเบี้ยประกันรายเดือนประมาณ 180 บาท
ทั้งนี้ บริษัทได้ตั้งเป้ายอดขายประกันภัยผ่านทาง Telemarketing ในปี 2552 ที่ 800 ล้านบาท จากปีที่ผ่านมาที่อยู่ในระดับ 540 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการเติบโตประมาณ 49% เพิ่มจำนวนลูกค้าเป็น 9 หมื่น ราย จากปีก่อนที่มีเกือบ 6 หมื่นราย โดยนอกจากผลิตภัณฑ์ใหม่ๆที่เตรียมจะออกมาแล้ว และเพิ่มจำนวนพนักงานขายทางโทรศัพท์อีก 150 คน จาก ที่มีอยู่ 220 คน
'สาเหตุที่บริษัทหันมาเน้นการเพิ่มฐานรายย่อยนั้น เนื่องจากปัจจุบันตลาดลูกค้ารายใหญ่มีการแข่งขันสูง ซึ่งจะต้องแข่งขันด้านราคามาก ซึ่งจะทำให้มีมาร์จิ้นน้อยลง ทำให้บริษัทหันมุ่งขยายตลาดรายย่อย ซึ่งก็จะเน้นที่ไปกลุ่มนอน-มอเตอร์ เนื่องจากกลุ่มประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลหรือประกันสุขภาพมี lose ratio ในระดับ ที่ต่ำกว่า 30% ขณะที่กรมธรรม์รถยนต์โดยเฉพาะรถยนต์ขนาดเล็กมี lose ratio สูงประมาณ 60-70% ซึ่งจากการปรับเปลี่ยน กลยุทธ์ดังกล่าวทำให้ผลการดำเนินงานในปี 2551 ที่ผ่านมาของบริษัทปรับตัวดีขึ้น'