ศูนย์ข่าวภูเก็ต
เมื่อเข้าไปยัง ร้านกาแฟโบราณ ที่ซอยต้นโพธิ์ หลังโรงเรียนเทศบาลบ้านบางเหนียว อ.เมือง จ.ภูเก็ต ซึ่งชาวภูเก็ตรู้จักดี เพราะที่นี่นอกจากจะมีร้านกาแฟโบราณ ที่มี “มณเทียร แซ่ตัน”หนึ่งในพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยภูเก็ตใช้ประกอบอาชีพทำมาหากินเลี้ยงชีพมาเป็นเวลายาวนาน ยังมีอาหารพื้นเมืองภูเก็ตจำหน่ายอีกหลายชนิด ที่นำมาจำหน่ายที่นี่ด้วย
ที่ร้านกาแฟโบราณแห่งนี้อบอวลไปด้วยกลิ่นอายของการต่อสู้ ขับไล่ระบอบทักษิณของพี่น้องพันธมิตรฯ เพราะที่นี่เจ้าของร้านเปิดทีวีดูรายการผ่านทางช่อง ASTV ตลอดทั้งวัน แถมฝาผนังร้านยังติดรูปและข้อความการต่อสู้ของพี่น้องพันธมิตรฯ ที่บ่งบอกถึงการเป็นร้านกาแฟพันธมิตรฯอย่างแท้จริง เช่น ร้านนี้ไม่ต้อนรับนักการเมืองทรราช,ตุลาทมิฬ รัฐบาลอำมหิต ก่อมิคสัญญี ,ASTV ทีวีของประชาชน สื่อคุณภาพ ความรู้ ความคิด ไม่บิดเบือนมอมเมา น้ำเน่า เป็นต้น รวมทั้งรูปถ่ายที่เจ้าของร้านได้ถ่ายคู่กับแกนนำพันธมิตรฯก็นำมาติดโชว์ไว้ในร้าน แสดงออกให้เห็นชัดว่า ร้านกาแฟโบราณร้านนี้เป็นร้านกาแฟสีเหลืองอย่างแท้จริง
“คนที่มาร้านนี้รู้ได้ทันทีว่า ร้านนี้เป็นร้านกาแฟพันธมิตรฯ มีพี่น้องพันธมิตรฯแวะเวียนเข้ามาใช้บริการตลอด และร้านเราไม่ได้ปิดกั้นคนที่มีความคิดทางการเมืองที่แตกต่างกัน แต่คนที่คิดไม่เหมือนเราเขาก็คงจะไม่เข้ามาอย่างแน่นอน”
นายมณเทียร เปิดเผยกับ “ASTV ผู้จัดการรายวัน”ถึงการเข้าร่วมชุมนุมกับพันธมิตรฯ ว่า เริ่มเข้าร่วมชุมนุมกับพันธมิตรฯตั้งแต่ปี 2548 ช่วงที่เริ่มขับไล่ทักษิณใหม่ๆ เพราะทนเห็นความชั่วร้ายของทักษิณ ที่โกงบ้านกินเมือง รวมถึงการหมิ่นเบื้องสูงไม่ได้ จึงตัดสินใจเข้าร่วมการชุมนุม
ก่อนที่จะเข้าร่วมชุมนุมก็ได้ติดตามข่าวสารจากหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ และรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ในอดีต ที่ถ่ายทอดทางช่อง 9 โดยมีคุณสนธิ ลิ้มทองกุล และคุณสโรชา พรอุดมศักดิ์ ดำเนินรายการ ซึ่งขณะนั้นได้ติดตามมาโดยตลอด แต่เมื่อรายการถูกถอดออกจากช่อง 9 ก็ได้ติดตามรับชมต่อทางช่อง ASTV ในช่วงปี 2549 พร้อมกับขึ้นไปร่วมชุมนุมกับพี่น้องพันธมิตรฯ ภูเก็ตที่บริเวณสนามหลวง เป็นครั้งแรก ได้ร่วมเดินขบวนไปยังอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย หลังจากนั้นก็ได้ร่วมกิจกรรมต่างๆ กับพันธมิตรฯที่ภูเก็ตตลอดที่มีกิจกรรมของการต่อสู้ขับไล่ทรราชทักษิณให้ออกจากการเป็นนายกรัฐมนตรี
ต่อมาในช่วงปี 2550 ได้เข้าร่วมการชุมนุมที่สะพานมัฆวานสังสรรค์ โดยเดินทางไปพร้อมๆกับเพื่อนฝูงที่จังหวัดภูเก็ต เดินทางโดยรถทัวร์บ้าง รถตู้บ้าง ถือว่าไปทุกครั้งที่มีการระดมพล ทั้งนี้เพื่อต้องการแสดงพลังประชาชนที่รับไม่ได้กับระบบรัฐบาลที่รับใช้ทักษิณ ตั้งแต่ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีที่ต้องการช่วยทักษิณจนถึงรัฐบาล นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์
นายมณเทียร กล่าวว่า การเดินทางแต่ละครั้งยอมทิ้งร้านกาแฟโบราณ และงานรับเหมาทำอาหารตามงานต่างๆ เพื่อชาติ เพราะถือว่าชาติคืออันดับแรก เพื่อในหลวงและชาติ โดยยอมที่จะเสียรายได้ในส่วนนี้ แม้ว่ารถก็ต้องผ่อน บางครั้งก็ติดขัดบ้าง แต่ก็ไม่มีปัญหาอะไร อีกทั้งยังร่วมบริจาคเงินอีกด้วย ยอมสละรายได้ส่วนตัว สละเวลางาน เพื่อต้องการเข้าร่วมแสดงพลังในการต่อสู้ ให้บ้านเมืองดีขึ้นและขับไล่คนที่ไม่ดีออกจากการบริหารประเทศ
ในส่วนของสนามบินสุวรรณภูมิได้เข้าร่วมชุมนุมเช่นกัน โดยไปที่ดอนเมือง1 วัน และไปที่สุวรรณภูมิอีก 2 วัน และเป็นที่น่าเสียดายที่ต้องกลับก่อนการประกาศชัยชนะ1 วันเนื่องจากรถตู้ที่จะกลับภูเก็ตเหลือที่ว่าง1-2 ที่ ตนจึงตัดสินใจกลับมาก่อน ซึ่งไม่ได้ตั้งใจกลับแต่เนื่องจากพลตรีจำลองได้ประกาศสลายการชุมนุม บริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาล และอีกทั้งเป็นคนที่ค่อนข้างแพ้อากาศหนาว จึงตัดสินใจกลับ
นายมณเทียร กล่าวเพิ่มว่า หลังจากมีการสลายการชุมนุมแล้ว ปัจจุบันได้ติดตามข่าวสารบ้านเมืองอยู่โดยตลอด ทางช่อง ASTV โดยตลอดทั้งวันทั้งคืน ช่วงเช้าเป็นรายการยามเช้าเจ้าพระยา โดยมีคุณปอง อัญชะลี และน้องเก๋ รายการสภาท่าพระอาทิตย์ และอื่นๆอีกหลายรายการ ที่เลือกติดตามดูทางช่อง ASTV เนื่องจาก ช่องอื่นๆปิดหูปิดตา ไม่เหมือน ASTV ซึ่งสามารถดูการบ้านการเมืองได้ทั้งวัน ช่องอื่นๆมีแต่รายการไร้สาระ น้ำเน่า
นอกจากนี้ ยังเข้าร่วมกิจกรรมกับพี่น้องพันธมิตรฯในพื้นที่ภูเก็ตตลอด ทั้งการจัดเวทีที่บริเวณเมืองใหม่ อ.ถลาง จ.ภูเก็ต และทางบริเวณสะพานหิน ซึ่งหากมีกิจกรรมที่เกี่ยวกับพันธมิตรฯก็จะเข้าร่วมงานด้วยอย่างต่อเนื่อง โดยหากมีอะไรที่สามารถช่วยเหลือ หรือสนับสนุนได้ก็จะช่วย บางครั้งก็ขนโต๊ะ เก้าอี้ ไปช่วยอำนวยความสะดวกให้ประชาชนที่มารับชมที่สะพานหิน
นายมณเทียร กล่าวถึงรัฐบาลชุดใหม่ที่มี นายอภิสิทธิ์ เป็นนายกรัฐมนตรีว่า อยากจะให้เวลารัฐบาลได้ทำงานแก้ไขปัญหาของประเทศก่อน ต่อไปหากมีการขับไล่ นายกฯอภิสิทธิ์ ก็จะเข้าร่วม หากรัฐบาลทำไม่ถูกต้องจริงๆ ซึ่งต้องรอดูสถานการณ์กันต่อไป ขณะนี้ต้องลองให้รัฐบาลทำงานดูไปก่อน โดยตอนนี้ก็อยากให้มีการเมืองใหม่ เพราะหากมีการเลือกตั้งก็เหมือนเดิม มีการซื้อสิทธิขายเสียงเหมือนเดิม
“จนถึงวันนี้รู้สึกภูมใจตัวเองที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการเข้าร่วมชุมนุม ยอมสละงานการ รายได้ เพื่อต้องการเข้าร่วมให้บ้านเมืองดีขึ้น ไม่ต้องการให้นักการเมืองโกงบ้านกินเมือง แต่ที่สำคัญที่สุดคือต่อต้านการหมิ่นเบื้องสูงเพราะรับไม่ได้อย่างยิ่ง”