ASTVผู้จัดการรายวัน – “เทพไท” ปฏิเสธรัฐบาลแทรกแซง สหรัฐฯ-ญี่ปุ่น ถอนวีซ่า แม้ว ระบุเป็นเอกสิทธิของแต่ละประเทศ ชี้พฤติกรรมที่ผ่านมาอยู่ในข่ายต้องห้ามเข้าประเทศ มีทั้งต้องโทษจำคุกและมีอาการทางจิตเพราะแยกแยะชั่วดีไม่ได้ ด้าน “นภดล” โดดป้อง อ้างเป็นการคาดการณ์ของ ปชป. ขณะที่สมุนเผยแม้วเตรียมเดินทางกลับประเทศเร็วๆ นี้ “ขวัญชัย” ปูดนักการเมืองอุดรฯ จ้างมือที่ 3 ทำร้ายพันธมิตรฯ แล้วโยนความผิดให้ชมรมคนรักอุดร
จากกรณีมีกระแสข่าวประเทศสหรัฐอเมริกาเตรียมเพิกถอนวีซ่าเข้าประเทศของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้ต้องโทษจำคุก 2 ปี จากคำตัดสินของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ฐานทำผิดใช้อำนาจหน้าที่ซื้อที่ดินรัชดาภิเษก โดยสาเหตุที่ทางการสหรัฐฯ เตรียมถอนวีซ่า เนื่องจากเกรงว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะใช้ประเทศสหรัฐฯ ดำเนินการทางการเมืองและกล่าวโจมตีประเทศไทยซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
วานนี้ (9 ก.พ.) นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกส่วนตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวปฏิเสธข่าวที่ว่ารัฐบาลไทยเป็นผู้ล็อบบี้ให้ถอนวีซีของ พ.ต.ท.ทักษิณ โดยยืนยันว่า รัฐบาลไม่เคยแทรกแซงกิจการภายในใดๆของประเทศต่างๆ การจะถอดถอนวีซ่าของพ.ต.ท.ทักษิณ ถือเป็นเอกสิทธิ์ของประเทศนั้นๆ ช่วงที่ประเทศอังกฤษมีการถอนวีซ่า พรรคประชาธิปัตย์ยังไม่ได้เป็นรัฐบาล จนถึงประเทศญี่ปุ่น และประเทศอื่นๆ ที่คาดว่าจะถอนวีซ่า พ.ต.ท.ทักษิณ ตามมาอีก
นายเทพไทย กล่าวว่า การถอนวิซ่าเป็นกติกาและกฎหมายของแต่ละประเทศที่ระบุไว้ว่า ห้ามคนที่ต้องคดี เช่น ประเทศญี่ปุ่นมีกฎหมายเกี่ยวกับการเข้าเมือง อพยพลี้ภัย หรือ (Immigration Control and Refugee Recognition Act) ซึ่งมีข้อห้ามทั้งหมด 14 ข้อ โดยเฉพาะข้อ 14 ที่ระบุว่า คนที่จะเข้าเมือง ถ้ามีเหตุอันควรให้เชื่อว่า จะก่อความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในประเทศห้ามเข้า
แต่เรื่องที่สำคัญคือในข้อ 2 พูดถึงคนที่จะเข้าประเทศต้องไม่เป็นคนโรคประสาท โรคจิต มีจิตใจสับสน แยกแยะรับผิดชอบชั่วดีไม่ได้ ข้อ 3 เป็นเรื่องของคนตกงานไม่มีงานทำ และข้อ 4 ถือเป็นประเด็นสำคัญมากคือ เรื่องที่บุคคลต้องโทษในคดีอาญา ตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไปจะไม่อนุญาต ให้เข้าประเทศ และรวมไปถึงข้อ 5 ผู้ต้องโทษคดีอาญา เกี่ยวกับยาเสพติด รัฐบาลญี่ปุ่นไม่ให้เข้า
”ในกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ผมคิดว่า อย่าว่าแต่เรื่องต้องโทษจำคุกเลย ผมคิดว่า แค่ข้อ 2 ที่เกี่ยวกับจิตใจสับสน มีปัญหาทางจิต แยกแยะความรับผิดชอบชั่วดีไม่ได้ ก็เข้าข่ายไม่มีสิทธิเข้าประเทศด้วยซ้ำไป” นายเทพไทกล่าว เหน็บแนม
ส่วนกรณีสหรัฐอเมริกาอยู่ในระหว่างการเพิกถอนวีซ่า พ.ต.ท.ทักษิณ โดยมีกระแสข่าวว่า ภายใน 2-3 วันนี้จะมีการประกาศไม่ให้ พ.ต.ท.ทักษิณ เข้าประเทศนั้น นายเทพไทย กล่าวว่า รัฐบาลไม่เข้าไปแทรกแซง เพียงแต่ติดตามสถานการณ์ และข่าวคราวจากประเทศสหรัฐอเมริกาเท่านั้น เชื่อว่าประเทศสหรัฐฯไม่ประกาศชื่อบุคคล ต้องห้าม เพราะเป็นเรื่องมารยาททางการทูต แต่หากไปขอวีซ่าเข้าอเมริกา ถ้ามีการปฏิเสธก็จะแจ้งไปยังบุคคลนั้นๆ จึงตั้งข้อสังเกตว่าเหตุใด พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่เคยคิดเข้าประเทศสหรัฐอเมริกาเลย ทั้งที่เป็นประเทศแห่งประชาธิปไตยมากที่สุด แต่ไม่มีข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องการเดินทางเข้าไปเลย
ผู้สื่อข่าวถามว่ามีหลักฐานอะไรที่มองว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เข้าคุณสมบัติตามข้อ 2 ของประเทศญี่ปุ่น นายเทพไท กล่าวว่า ตนมองถึงคุณสมบัติของพ.ต.ท.ทักษิณ มีความสับสน ไม่สามารถแยกแยะความชั่วดี อย่างไรก็ตามตนทำหน้าที่เช็คข้อมูลตามที่มีกระแสข่าวว่าเป็นจริงหรือไม่ คิดว่า กรณีสหรัฐฯจะมีข้อกระจ่างภายใน 1-2 วัน ว่า เป็นอย่างไร คิดว่าดูคุณสมบัติ แม้ว่าบางประเทศ บางแห่งจะมีรายชื่อขึ้นแบล็กลิสต์ มาก่อนแล้ว อย่างประเทศญี่ปุ่นมีการขึ้นรายชื่อมาก่อนแล้วและส่งไปยังสถานกงสุลต่างๆ ซึ่งเราสามารถสืบเสาะได้ ส่วนเรื่องทางการทูต ทางกระทรวงการต่างประเทศ จะดำเนินการตามขั้นตอน
ส่วนที่มีกระแสข่าวว่ามีแบล็กลิสต์จากทางสหรัฐฯ ไม่อนุญาตให้รัฐมนตรี บางคนในรัฐบาลชุดนี้เดินทางเข้าสหรัฐอเมริกา นายเทพไทกล่าวว่า คนที่จะรู้ว่าตนเองจะติดแบล็กลิสต์หรือไม่ ขึ้นอยู่กับการขอวีซ่าจึงจะรู้ตัว ไม่มีการประกาศชี้แจงใดๆทั้งสิ้น ต่อจากนี้ไปทางรัฐบาลจะขอระเบียบ กฎหมายคนเข้าเมืองของสหรัฐฯมาดูรายละเอียด สามารถเทียบเคียงได้ว่า คุณสมบัติของบุคคลนั้นๆต้องห้ามตามระเบียบหรือกฎหมายการเข้าเมืองของอเมริกา หรือไม่
ด้านนายนพดล ปัทมะ อดีตที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และอดีต รมว.ต่างประเทศ กล่าวว่ายังไม่เคยได้ยินเรื่องที่ทางการสหรัฐฯ เตรียมจะถอนวีซี พ.ต.ท.ทักษิณ ตนคิดว่าเป็นเพียงการคาดการณ์ของพรรคประชาธิปัตย์ และนายเทพไท เสนพงศ์ และทีมโฆษกหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อจุดประเด็นการเมืองให้เห็นว่า หลายประเทศไม่ต้องการพ.ต.ท.ทักษิณ และกรณีที่ว่า ญี่ปุ่นและจีนถอนวีซ่า พ.ต.ท.ทักษิณก็ไม่เป็นความจริง เชื่อว่าทั้งหมดเป็นการตีปี๊บ อย่าไปสนใจ
สหรัฐฯเป็นประเทศที่ยืนหยัดเพื่อประชาธิปไตย จึงเข้าใจกรณีที่เกิดขึ้นกับ พ.ต.ท.ทักษิณเป็นอย่างดี โดยมีนักการทูตของประเทศมหาอำนาจคนหนึ่งบอกว่า อยากให้รัฐบาลไม่ดำเนินการแบบ 2 มาตรฐาน เพราะเห็นว่าโทษของคนทำกับข้าว รุนแรงกว่าพวกยึดสนามบิน ถ้ายังไม่มีการดำเนินคดี ความเชื่อมั่นจะไม่เกิด นักท่องเที่ยวจะไม่กลับมา อย่างไรก็ตามคนที่จะตอบเรื่องนี้ได้ดีที่สุดคือ เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำประเทศไทย
ผู้สื่อข่าวถามว่าสาเหตุที่สหรัฐฯถอนวีซ่า เพราะไม่อยากให้พ.ต.ท.ทักษิณใช้เป็นสถานที่โจมตีทางการเมืองหรือไม่ นายนพดลกล่าวว่า ขอให้แยกแยะ อย่าสับสนระหว่างคำว่า โจมตีประเทศไทยกับการวิจารณ์การทำงานของรัฐบาล พรรคประชาธิปัตย์ อย่าคิดว่ารัฐบาลเป็นประเทศ ทั้งนี้ยืนยันว่าพ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้คิดทำลายหรือต้องการทำให้ประเทศเสียหาย แต่การวิจารณ์รัฐบาลเพื่อให้ปรับปรุงการทำงานให้เป็นประโยชน์ต่อประชาชน
“เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาผมได้โทรศัพท์คุยกับอดีตนายกฯ ซึ่งระบุว่า เป็นห่วงเรื่องเศรษฐกิจอย่างมาก เพราะรัฐบาลไม่มีความสามารถแก้ปัญหาได้และแก้ปัญหาไม่ถูกทางและขอให้รัฐบาลเตรียมตัวรับมือปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจอย่างรุนแรงที่จะเกิดขึ้นภายในไม่กี่เดือนให้ดี” นายนพดลกล่าว
ขณะที่ ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช ส.ส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ขณะนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ เตรียมจะเดินทางกลับประเทศไทย ซึ่งตอนนี้เหลือเพียงขั้นตอน การเตรียมพร้อมในทุกๆ ด้านในการเดินทางกลับประเทศเท่านั้นจากนั้นก็จะเปิดเผยวันและเวลาในการเดินทางกลับอีกครั้ง
ตอนนี้กลุ่ม ส.ส.ในพรรคเพื่อไทย ก็ยังคงรอดูท่าทีและความเคลื่อนไหวระบบรักษาความปลอดภัยช่วงระหว่างอดีตนายกฯจะเดินทางกลับประเทศไทยอยู่
ร.ท.ปรีชาพล ยังกล่าวถึงกระแสข่าวลอบทำร้าย พ.ต.ท.ทักษิณ ว่า มีจริง ซึ่งกลุ่ม ส.ส.ของพรรค เตรียมวางแผนร่วมกับทีมรักษาความปลอดภัยตำรวจ และทหารในทันทีที่ได้รับคำยืนยันการเดินทางกลับของครอบครัวชินวัตร ซึ่งขณะนี้กลุ่มส.ส.ของพรรค 30 คน เสนอตัวเตรียมการเดินทางกลับประเทศ มั่นใจว่าจะเปิดเผยวันและเวลาเร็วๆ นี้
***แฉแผนชั่วนักการเมืองอุดร
นายขวัญชัย ไพรพนา ประธานชมรมคนรักอุดร กล่าวออกอากาศผ่านคลื่น เอฟเอ็ม 97.50 เมกะเฮิร์ตซ์ คลื่นชมรมคนรักอุดร ว่า มีนักการเมืองกลุ่มหนึ่งของ จ.อุดรธานี จะสร้างสถานการณ์เป็นมือที่สามทำร้ายกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ซึ่งจะเดินทางมาปราศรัยที่ จ.อุดรธานี ในวันที่ 14 ก.พ.นี้ แล้วจะโยนความผิดให้ชมรมคนรักอุดร ซึ่งชมรมฯจะปักหลักอยู่ที่สถานีวิทยุชมรมคนรักอุดร ในวันที่ 14 ก.พ. เนื่องจากจะมีการฉลองเครื่องราชอิสริยาภรณ์ของนายขวัญชัย
นายขวัญชัยยังกล่าวถึงกรณีที่มีนักการเมืองของ จ.อุดรธานี เดินทางไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ต่างประเทศและใส่ร้ายตนเองว่า มีแต่รับเงินและไม่มีมวลชนแล้ว โดยนายขวัญชัยได้ประกาศห้าม ส.ส.อุดรธานี มาออกอากาศผ่านคลื่นชมรมคนรักอุดรอย่างเด็ดขาด.
จากกรณีมีกระแสข่าวประเทศสหรัฐอเมริกาเตรียมเพิกถอนวีซ่าเข้าประเทศของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้ต้องโทษจำคุก 2 ปี จากคำตัดสินของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ฐานทำผิดใช้อำนาจหน้าที่ซื้อที่ดินรัชดาภิเษก โดยสาเหตุที่ทางการสหรัฐฯ เตรียมถอนวีซ่า เนื่องจากเกรงว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะใช้ประเทศสหรัฐฯ ดำเนินการทางการเมืองและกล่าวโจมตีประเทศไทยซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
วานนี้ (9 ก.พ.) นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกส่วนตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวปฏิเสธข่าวที่ว่ารัฐบาลไทยเป็นผู้ล็อบบี้ให้ถอนวีซีของ พ.ต.ท.ทักษิณ โดยยืนยันว่า รัฐบาลไม่เคยแทรกแซงกิจการภายในใดๆของประเทศต่างๆ การจะถอดถอนวีซ่าของพ.ต.ท.ทักษิณ ถือเป็นเอกสิทธิ์ของประเทศนั้นๆ ช่วงที่ประเทศอังกฤษมีการถอนวีซ่า พรรคประชาธิปัตย์ยังไม่ได้เป็นรัฐบาล จนถึงประเทศญี่ปุ่น และประเทศอื่นๆ ที่คาดว่าจะถอนวีซ่า พ.ต.ท.ทักษิณ ตามมาอีก
นายเทพไทย กล่าวว่า การถอนวิซ่าเป็นกติกาและกฎหมายของแต่ละประเทศที่ระบุไว้ว่า ห้ามคนที่ต้องคดี เช่น ประเทศญี่ปุ่นมีกฎหมายเกี่ยวกับการเข้าเมือง อพยพลี้ภัย หรือ (Immigration Control and Refugee Recognition Act) ซึ่งมีข้อห้ามทั้งหมด 14 ข้อ โดยเฉพาะข้อ 14 ที่ระบุว่า คนที่จะเข้าเมือง ถ้ามีเหตุอันควรให้เชื่อว่า จะก่อความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในประเทศห้ามเข้า
แต่เรื่องที่สำคัญคือในข้อ 2 พูดถึงคนที่จะเข้าประเทศต้องไม่เป็นคนโรคประสาท โรคจิต มีจิตใจสับสน แยกแยะรับผิดชอบชั่วดีไม่ได้ ข้อ 3 เป็นเรื่องของคนตกงานไม่มีงานทำ และข้อ 4 ถือเป็นประเด็นสำคัญมากคือ เรื่องที่บุคคลต้องโทษในคดีอาญา ตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไปจะไม่อนุญาต ให้เข้าประเทศ และรวมไปถึงข้อ 5 ผู้ต้องโทษคดีอาญา เกี่ยวกับยาเสพติด รัฐบาลญี่ปุ่นไม่ให้เข้า
”ในกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ผมคิดว่า อย่าว่าแต่เรื่องต้องโทษจำคุกเลย ผมคิดว่า แค่ข้อ 2 ที่เกี่ยวกับจิตใจสับสน มีปัญหาทางจิต แยกแยะความรับผิดชอบชั่วดีไม่ได้ ก็เข้าข่ายไม่มีสิทธิเข้าประเทศด้วยซ้ำไป” นายเทพไทกล่าว เหน็บแนม
ส่วนกรณีสหรัฐอเมริกาอยู่ในระหว่างการเพิกถอนวีซ่า พ.ต.ท.ทักษิณ โดยมีกระแสข่าวว่า ภายใน 2-3 วันนี้จะมีการประกาศไม่ให้ พ.ต.ท.ทักษิณ เข้าประเทศนั้น นายเทพไทย กล่าวว่า รัฐบาลไม่เข้าไปแทรกแซง เพียงแต่ติดตามสถานการณ์ และข่าวคราวจากประเทศสหรัฐอเมริกาเท่านั้น เชื่อว่าประเทศสหรัฐฯไม่ประกาศชื่อบุคคล ต้องห้าม เพราะเป็นเรื่องมารยาททางการทูต แต่หากไปขอวีซ่าเข้าอเมริกา ถ้ามีการปฏิเสธก็จะแจ้งไปยังบุคคลนั้นๆ จึงตั้งข้อสังเกตว่าเหตุใด พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่เคยคิดเข้าประเทศสหรัฐอเมริกาเลย ทั้งที่เป็นประเทศแห่งประชาธิปไตยมากที่สุด แต่ไม่มีข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องการเดินทางเข้าไปเลย
ผู้สื่อข่าวถามว่ามีหลักฐานอะไรที่มองว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เข้าคุณสมบัติตามข้อ 2 ของประเทศญี่ปุ่น นายเทพไท กล่าวว่า ตนมองถึงคุณสมบัติของพ.ต.ท.ทักษิณ มีความสับสน ไม่สามารถแยกแยะความชั่วดี อย่างไรก็ตามตนทำหน้าที่เช็คข้อมูลตามที่มีกระแสข่าวว่าเป็นจริงหรือไม่ คิดว่า กรณีสหรัฐฯจะมีข้อกระจ่างภายใน 1-2 วัน ว่า เป็นอย่างไร คิดว่าดูคุณสมบัติ แม้ว่าบางประเทศ บางแห่งจะมีรายชื่อขึ้นแบล็กลิสต์ มาก่อนแล้ว อย่างประเทศญี่ปุ่นมีการขึ้นรายชื่อมาก่อนแล้วและส่งไปยังสถานกงสุลต่างๆ ซึ่งเราสามารถสืบเสาะได้ ส่วนเรื่องทางการทูต ทางกระทรวงการต่างประเทศ จะดำเนินการตามขั้นตอน
ส่วนที่มีกระแสข่าวว่ามีแบล็กลิสต์จากทางสหรัฐฯ ไม่อนุญาตให้รัฐมนตรี บางคนในรัฐบาลชุดนี้เดินทางเข้าสหรัฐอเมริกา นายเทพไทกล่าวว่า คนที่จะรู้ว่าตนเองจะติดแบล็กลิสต์หรือไม่ ขึ้นอยู่กับการขอวีซ่าจึงจะรู้ตัว ไม่มีการประกาศชี้แจงใดๆทั้งสิ้น ต่อจากนี้ไปทางรัฐบาลจะขอระเบียบ กฎหมายคนเข้าเมืองของสหรัฐฯมาดูรายละเอียด สามารถเทียบเคียงได้ว่า คุณสมบัติของบุคคลนั้นๆต้องห้ามตามระเบียบหรือกฎหมายการเข้าเมืองของอเมริกา หรือไม่
ด้านนายนพดล ปัทมะ อดีตที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และอดีต รมว.ต่างประเทศ กล่าวว่ายังไม่เคยได้ยินเรื่องที่ทางการสหรัฐฯ เตรียมจะถอนวีซี พ.ต.ท.ทักษิณ ตนคิดว่าเป็นเพียงการคาดการณ์ของพรรคประชาธิปัตย์ และนายเทพไท เสนพงศ์ และทีมโฆษกหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อจุดประเด็นการเมืองให้เห็นว่า หลายประเทศไม่ต้องการพ.ต.ท.ทักษิณ และกรณีที่ว่า ญี่ปุ่นและจีนถอนวีซ่า พ.ต.ท.ทักษิณก็ไม่เป็นความจริง เชื่อว่าทั้งหมดเป็นการตีปี๊บ อย่าไปสนใจ
สหรัฐฯเป็นประเทศที่ยืนหยัดเพื่อประชาธิปไตย จึงเข้าใจกรณีที่เกิดขึ้นกับ พ.ต.ท.ทักษิณเป็นอย่างดี โดยมีนักการทูตของประเทศมหาอำนาจคนหนึ่งบอกว่า อยากให้รัฐบาลไม่ดำเนินการแบบ 2 มาตรฐาน เพราะเห็นว่าโทษของคนทำกับข้าว รุนแรงกว่าพวกยึดสนามบิน ถ้ายังไม่มีการดำเนินคดี ความเชื่อมั่นจะไม่เกิด นักท่องเที่ยวจะไม่กลับมา อย่างไรก็ตามคนที่จะตอบเรื่องนี้ได้ดีที่สุดคือ เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำประเทศไทย
ผู้สื่อข่าวถามว่าสาเหตุที่สหรัฐฯถอนวีซ่า เพราะไม่อยากให้พ.ต.ท.ทักษิณใช้เป็นสถานที่โจมตีทางการเมืองหรือไม่ นายนพดลกล่าวว่า ขอให้แยกแยะ อย่าสับสนระหว่างคำว่า โจมตีประเทศไทยกับการวิจารณ์การทำงานของรัฐบาล พรรคประชาธิปัตย์ อย่าคิดว่ารัฐบาลเป็นประเทศ ทั้งนี้ยืนยันว่าพ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้คิดทำลายหรือต้องการทำให้ประเทศเสียหาย แต่การวิจารณ์รัฐบาลเพื่อให้ปรับปรุงการทำงานให้เป็นประโยชน์ต่อประชาชน
“เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาผมได้โทรศัพท์คุยกับอดีตนายกฯ ซึ่งระบุว่า เป็นห่วงเรื่องเศรษฐกิจอย่างมาก เพราะรัฐบาลไม่มีความสามารถแก้ปัญหาได้และแก้ปัญหาไม่ถูกทางและขอให้รัฐบาลเตรียมตัวรับมือปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจอย่างรุนแรงที่จะเกิดขึ้นภายในไม่กี่เดือนให้ดี” นายนพดลกล่าว
ขณะที่ ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช ส.ส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ขณะนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ เตรียมจะเดินทางกลับประเทศไทย ซึ่งตอนนี้เหลือเพียงขั้นตอน การเตรียมพร้อมในทุกๆ ด้านในการเดินทางกลับประเทศเท่านั้นจากนั้นก็จะเปิดเผยวันและเวลาในการเดินทางกลับอีกครั้ง
ตอนนี้กลุ่ม ส.ส.ในพรรคเพื่อไทย ก็ยังคงรอดูท่าทีและความเคลื่อนไหวระบบรักษาความปลอดภัยช่วงระหว่างอดีตนายกฯจะเดินทางกลับประเทศไทยอยู่
ร.ท.ปรีชาพล ยังกล่าวถึงกระแสข่าวลอบทำร้าย พ.ต.ท.ทักษิณ ว่า มีจริง ซึ่งกลุ่ม ส.ส.ของพรรค เตรียมวางแผนร่วมกับทีมรักษาความปลอดภัยตำรวจ และทหารในทันทีที่ได้รับคำยืนยันการเดินทางกลับของครอบครัวชินวัตร ซึ่งขณะนี้กลุ่มส.ส.ของพรรค 30 คน เสนอตัวเตรียมการเดินทางกลับประเทศ มั่นใจว่าจะเปิดเผยวันและเวลาเร็วๆ นี้
***แฉแผนชั่วนักการเมืองอุดร
นายขวัญชัย ไพรพนา ประธานชมรมคนรักอุดร กล่าวออกอากาศผ่านคลื่น เอฟเอ็ม 97.50 เมกะเฮิร์ตซ์ คลื่นชมรมคนรักอุดร ว่า มีนักการเมืองกลุ่มหนึ่งของ จ.อุดรธานี จะสร้างสถานการณ์เป็นมือที่สามทำร้ายกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ซึ่งจะเดินทางมาปราศรัยที่ จ.อุดรธานี ในวันที่ 14 ก.พ.นี้ แล้วจะโยนความผิดให้ชมรมคนรักอุดร ซึ่งชมรมฯจะปักหลักอยู่ที่สถานีวิทยุชมรมคนรักอุดร ในวันที่ 14 ก.พ. เนื่องจากจะมีการฉลองเครื่องราชอิสริยาภรณ์ของนายขวัญชัย
นายขวัญชัยยังกล่าวถึงกรณีที่มีนักการเมืองของ จ.อุดรธานี เดินทางไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ต่างประเทศและใส่ร้ายตนเองว่า มีแต่รับเงินและไม่มีมวลชนแล้ว โดยนายขวัญชัยได้ประกาศห้าม ส.ส.อุดรธานี มาออกอากาศผ่านคลื่นชมรมคนรักอุดรอย่างเด็ดขาด.