xs
xsm
sm
md
lg

“เทพไท”แจงเหตุ รบ.ยุ่นถอนวีซ่า “แม้ว”-คาดมะกันเล็งถอด 1-2 วันนี้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เทพไท เสนพงศ์
โฆษกฯ มาร์ค ปฏิเสธรัฐบาลเดินเกมล็อบบี้ประสานสหรัฐฯ-อังกฤษ-ญี่ปุ่น ถอนวีซ่า “แม้ว” ชี้เป็นเอกสิทธิ์ของแต่ละประเทศ ไทยแทรกแซงไม่ได้เหน็บ “แม้ว” เข้าข่ายข้อห้าม ประเภทโรคจิต เพราะแยกแยะชั่วดีไม่ได้ ด้าน “นพเหล่” เนื้อเต้น กางปีกป้องนายใหญ่ ป้ายสีเป็นเกมการเมือง

วันนี้ (9 ก.พ.) นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกส่วนตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์การถอนวีซ่าของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ของประเทศต่างๆ ว่า รัฐบาลเป็นผู้ล็อบบี้เดินเกมถอนวีซ่าว่า รัฐบาลไม่เคยแทรกแซงกิจการใดๆ ของประเทศต่างๆ การที่จะถอดถอนวีซ่าของ พ.ต.ท.ทักษิณ ถือเป็นเอกสิทธิ์ของประเทศนั้นๆ ตั้งแต่ประเทศอังกฤษมีการถอนวีซ่าพรรคประชาธิปัตย์ ยังไม่เป็นรัฐบาล จนถึงประเทศญี่ปุ่นและประเทศอื่นๆ คาดว่า จะมีตามมาอีก

นายเทพไท กล่าวว่า การถอนวิซ่าเป็นกติกาและกฎหมายของแต่ละประเทศ ที่ระบุไว้ต้องห้ามคนที่ต้องคดี เช่น ประเทศญี่ปุ่นที่มีกฎหมายเกี่ยวกับการเข้าเมือง อพยพลี้ภัย หรือ (Immigration Control and Refugee Recognition Act) ซึ่งมีข้อห้ามทั้งหมด 14 ข้อ โดยเฉพาะข้อ 14 ที่ระบุว่า คนที่จะเข้าเมือง ถ้ามีเหตุอันควรให้เชื่อว่าจะก่อความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในประเทศห้ามเข้า แต่เรื่องที่สำคัญ คือ ในข้อ 2 พูดถึงคนที่จะเข้าต้องไม่เป็นคนโรคประสาท โรคจิต มีจิตใจสับสน แยกแยะรับผิดชอบชั่วดีไม่ได้ ข้อ 3 เป็นเรื่องของคนตกงานไม่มีงานทำ และข้อ 4 ถือเป็นประเด็นสำคัญมาก คือ เรื่องที่บุคคลต้องโทษในคดีอาญา ตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไปจะไม่อนุญาตให้เข้าประเทศ และรวมไปถึงข้อ 5 ผู้ต้องโทษคดีอาญาเกี่ยวกับยาเสพติด รัฐบาลญี่ปุ่นไม่ให้เข้า

“ในกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ผมคิดว่า อย่าว่าแต่เรื่องต้องโทษจำคุกเลย ผมคิดว่า แค่ข้อ 2 ที่เกี่ยวกับจิตใจสับสน มีปัญหาทางจิต แยกแยะความรับผิดชอบชั่วดีไม่ได้ ก็เข้าข่ายไม่มีสิทธิเข้าประเทศด้วยซ้ำไป” นายเทพไท กล่าว

ส่วนถึงกรณีสหรัฐอเมริกาอยู่ในระหว่างการเพิกถอนวีซ่า พ.ต.ท.ทักษิณ โดยมีกระแสข่าวว่าภายใน 2-3 วันนี้ จะมีการประกาศไม่ให้ พ.ต.ท.ทักษิณ เข้าประเทศนั้น นายเทพไท กล่าวว่า รัฐบาลไม่เข้าไปแทรกแซง เพียงแต่ติดตามสถานการณ์และข่าวคราวจากประเทศสหรัฐอเมริกาเท่านั้น เชื่อว่า ประเทศสหรัฐฯ ไม่ประกาศชื่อบุคคลต้องห้าม เพราะเป็นเรื่องมารยาททางการทูตแต่หากไปขอวีซ่าเข้าอเมริกา ถ้ามีการปฏิเสธ ก็จะแจ้งไปยังบุคคลนั้นๆ จึงตั้งข้อสังเกตว่า เหตุใด พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่เคยคิดเข้าประเทศอเมริกาเลย ทั้งที่เป็นประเทศแห่งประชาธิปไตยมากที่สุด แต่ไม่มีข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องการเดินทางเข้าอเมริกาเลย

เมื่อถามว่า มีหลักฐานอะไรที่มองว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เข้าคุณสมบัติตามข้อ 2 ของประเทศญี่ปุ่น นายเทพไท กล่าวว่า ตนมองถึงคุณสมบัติของ พ.ต.ท.ทักษิณ มีความสับสน ไม่สามารถแยกแยะความชั่วดีไม่ได้ อย่างไรก็ตาม ตนทำหน้าที่เช็กข้อมูลตามที่มีกระแสข่าวว่าเป็นจริงหรือไม่ ตนคิดว่า กรณีสหรัฐฯ จะมีข้อกระจ่างภายใน 1-2 วัน ว่า เป็นอย่างไร คิดว่าดูคุณสมบัติ แม้ว่าบางประเทศ บางแห่งจะมีรายชื่อขึ้นแบล็กลิสต์มาก่อนแล้ว อย่างประเทศญี่ปุ่นมีการขึ้นรายชื่อมาก่อนแล้วส่งไปยังสถานกงสุลต่างๆ ซึ่งเราสามารถสืบเสาะได้ ส่วนเรื่องทางการทูต ทางกระทรวงการต่างประเทศจะดำเนินการตามขั้นตอน

ผู้สื่อข่าวถามว่ามีกระแสข่าวว่า มีแบล็กลิสต์จากทางสหรัฐฯ ไม่อนุญาตให้รัฐมนตรีบางคนในรัฐบาลชุดนี้เดินทางเข้าสหรัฐอเมริกา นายเทพไท กล่าวว่า คนที่จะรู้ว่าตนเองจะติดแบล็กลิสต์หรือไม่ขึ้นอยู่กับการขอวีซ่า จะรู้ตัว ไม่มีการประกาศชี้แจงใดๆ ทั้งสิ้น ต่อจากนี้ไปทางรัฐบาลจะขอระเบียบ กฎหมายคนเข้าเมืองของสหรัฐฯ มาดูรายละเอียด สามารถเทียบเคียงได้ว่า คุณสมบัติของบุคคลนั้นๆ ต้องห้ามตามระเบียบหรือกฎหมายการเข้าเมืองของอเมริกา หรือไม่

โดยก่อนหน้านี้ นายนพดล ปัทมะ อดีตที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีที่อยู่ระหว่างหลบหนีคดี กล่าวถึงข่าวที่ประเทศสหรัฐฯ จะถอนหนังสืออนุญาตเดินทางเข้าประเทศ หรือวีซ่า ของ พ.ต.ท.ทักษิณ โดยปฏิเสธว่า ไม่เป็นความจริง เนื่องจากสหรัฐฯ เป็นประเทศที่ยืนหยัดเพื่อประชาธิปไตย ข่าวที่เกิดขึ้นเชื่อว่า เป็นการจุดประเด็นการเมือง ว่า หลายประเทศไม่ต้องการ พ.ต.ท.ทักษิณ รวมถึงข่าวที่ประเทศญี่ปุ่นและจีนถอนวีซ่า ก็ไม่เป็นความจริงเช่นกัน

ยันย้าย ตร.เป็นไปตามความเหมาะสม

นายเทพไท กล่าวถึงกรณีการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจ ที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่า รัฐบาลโยกย้ายล้างบาง เอาคนของตัวเองเข้ามารับตำแหน่ง ว่า ขอชี้แจงว่าไม่จริงตามข้อกล่าวหา พรรคประชาธิปัตย์ไม่มีการเล่นพรรคเล่นพวก ไม่เอาคนของตัวเองเข้ามารับตำแหน่ง ต้องยอมรับว่าตลอดเวลา 8 ปีที่เป็นฝ่ายค้าน พรรคไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการบริหาราชการแผ่นดิน ที่เกี่ยวข้องกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เลย ไม่มีคนของพรรคเป็นพรรคพวกกับนายตำรวจใดๆเว้นแต่ พล.ต.ท.ไถง ปราศจากศัตรู สามีนางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู เลขานุการรมว.สาธารณสุข แต่ไม่ใช่ความผิดของ พล.ต.ท.ไถง ซึ่งการที่แต่งตั้งให้พล.ต.ท.ไถง เป็นผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ต้องให้ความเป็นธรรม เพราะเดิมเป็นจเรตำรวจก็มีฐานเทียบเท่าตำแหน่งผู้บัญชาการ ไม่ได้มีการเลื่อนขั้นแต่อย่างใด อยู่ในระนาบเดียวกัน

นายเทพไท กล่าวว่า นอกจากนี้ ยังมีนายตำรวจที่ยังไม่ได้รับการสนับสนุนเช่น พล.ต.ต.ชัยยะ ศิริอำพันกุล ที่มีส่วนสำคัญในการทำกับคดีทุจริตเลือกตั้งของนายยงยุทธ ติยะไพรัช และถูกย้ายไปเป็นรองผู้บัญชาการใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ ก็ได้ย้ายเข้ามาประจำที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ รัฐบาลเพียงแค่คืนความเป็นธรรม ให้เป็นรองผู้บัญชาการตำรวจสันติบาลเหมือนเดิม ทั้งที่มีโอกาสสนับสนุนให้เป็นผู้บัญชาการได้ แต่เห็นว่าอาวุโสยังไม่ถึง จึงยังให้อยู่ในระดับเดิม สำหรับ พล.ต.ต.ทรงธรรม อัลภาชน์ อดีตผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย ที่มีบทบาทในการทำคดีการซื้อเสียงของผู้สมัคร ส.ส.พรรคพลังประชาชน ได้ถูกย้ายเข้ากรุ จึงคืนความเป็นธรรมให้เป็นผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงรายเหมือนเดิม

นายเทพไท กล่าวว่า ยังมีคนที่ยังไม่ได้คืนความเป็นธรรมให้คือ พ.ต.อ.สังวรณ์ ภู่ไพจิตรกุล รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ และเป็น กกต.ฝ่ายสืบสวนที่ให้ใบแดงกับสมาชิกพรรคเพื่อไทย โดนย้ายไปอยู่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ วันนี้ก็ยังอยู่ที่เดิม เพราะฉะนั้นการที่กล่าวหาพรรคว่าเล่นพรรคเล่นพวก แต่งตั้งแต่คนของตัวเองไม่เป็นความจริง เราไม่มีธงในการที่จะคิดบัญชี หรือจัดการกับกลุ่มอำนาจเก่าใดๆทั้งสิ้น โดยตลอดเวลาที่ผ่านมาซึ่งเส้นสายโยงใยของตำรวจยังเป็นของกลุ่มอำนาจเก่าแทบทั้งสิ้น โดยพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ก็เป็นนายตำรวจเก่า มีพรรคพวกเพื่อนฝูงเครือข่ายอยู่ในวงการตำรวจค่อนข้างมาก แต่สำหรับพรรคประชาธิปัตย์ยองรับว่าไม่รู้จักใครเลย ใน สตช.ไม่มีพรรคไม่มีพวก

ชี้ “อภิวันท์” เหมาะนั่งผู้นำฝ่ายค้าน แต่ต้องลาออกจากรอง ปธ.สภา

นายเทพไท กล่าวถึงความเคลื่อนไหวของพรรคเพื่อไทยในการคัดสรรหัวหน้าพรรค ที่จะเป็นผู้นำฝ่ายค้านด้วย ว่า คิดว่าคุณสมบัติของผู้นำฝ่ายค้านในสภา ที่จะต้องมีคือ 1.ในส่วนของพรรคการเมืองที่จะเป็นหัวหน้าพรรคต้องกเป็นคนที่มีบารมี เป็นที่ยอมรับและสร้างเป็นเอกภาพเป็นผู้นำสูงสุดขององค์กร เป็นผู้รอบรู้ 2.ในส่วนของสังคม ผู้นำฝ่ายค้านต้องเป็นผู้นำทางการเมือง จะเป็นผู้แทนทางการเมืองของชาติในอนาคต จะเป็นผู้แทนของความคาดหวัง โดยทั้งหมดได้มีการบรรจุไว้ในรัฐธรรมนูญ ว่าผู้นำฝ่ายค้านต้องเป็นส.ส.และหัวหน้าพรรคการเมืองเท่านั้น

“ผมคิดว่าแคนดิเดตที่พรรคเพื่อไทยนำมาเสนอนั้น พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย เป็นผู้เหมาะสม แต่ไม่แน่ใจว่าคนอย่างพ.อ.อภิวันท์ จะกล้าลาออกจากตำแหน่งรองประธานสภา มาเป็นหัวหน้าพรรคหรือไม่ เพราะตำแหน่งทางการเมืองของพรรคเพื่อไทยที่เหลืออยู่ ก็มีเพียงตำแหน่งรองประธานสภานี้เท่านั้น แต่ผมคิดว่าสเปกของพ.ต.ท.ทักษิณ ก็คงเป็นนายจตุพร พรหมพันธ์ ร.ต.ท.เชาวริน ลัทธศักดิ์สิริ ก็น่าจะเป็นได้” นายเทพไท ระบุ

โฆษกส่วนตัวหัวหน้าพรรค กล่าวว่า การที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประกาศว่าจะไม่รับตำแหน่งหัวหน้าพรรค หรือผู้นำฝ่ายค้าน แต่ขอรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีนั้น คิดว่าเป็นเรื่องที่แปลกประหลาด ว่าคนที่ต้องการเป็นนายกฯแต่ไม่อยากรับผิดชอบ ในฐานะหัวหน้าพรรคการเมืองและเป็นผู้นำฝ่ายค้าน แต่ก็เป็นธรรมชาติของ ร.ต.อ.เฉลิม ที่ชอบหยิบชิ้นปลามัน มีพฤติกรรมชุบมือเปิบ ก็ไม่ว่ากันเพราะเป็นเรื่องของพรรคเพื่อไทย แต่ก็อยากให้มีการคัดเลือกหัวหน้าพรรคและผู้นำฝ่ายค้านให้เร็วที่สุด เพราะมีปัญหาที่จะต้องทำงานร่วมกัน ประสานงานกัน โดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯได้กล่าวเสมอว่า เมื่อทุกฝ่ายต้องการปฏิรูป ต้องมีความร่วมมือกันแต่ไม่รู้ว่าจะประสานงานหรือคุยกับใครในพรรคเพื่อไทย จึงไม่มีความเป็นเอกภาพ หากมีตัวผู้นำฝ่ายค้าน ก็จะทำให้การปฏิรูปการเมืองเป็นไปได้ด้วยดี
กำลังโหลดความคิดเห็น