xs
xsm
sm
md
lg

เติ้งออกอาการเสือโหยโวยปชป.จัดงบให้กระทรวงในคอนโทรนน้อย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“เติ้ง” ออกลายเสือโหย โวย ปชป.ใจแคบจัดงบให้กระทรวงในสังกัดน้อย แถมดูแล้วไม่กระตุ้นเศรษฐกิจจริง ชี้โครงการแจก 2 พันผู้มีรายได้น้อยไม่ช่วยอะไร ด้าน “อภิสิทธิ์” ยันจัดสรรงบถูกทางแล้ว เตรียมหาเวลาแจง “บรรหาร” ส่วน “เทพเทือก” บอกตอนประชุมด้วยกันไม่เห็นมีใครท้วง เพราะรู้ดีต้องฟื้นเศรษฐกิจก่อน ไม่หวั่นกระทบเสียงในสภา “ชวรัตน์” แนะ “บรรหาร” ให้ดูกระเป๋ารัฐบาลด้วย มท.ได้น้อยยังไม่บ่น

นายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตหัวหน้าพรรคชาติไทย กล่าวแสดงความไม่พอใจ ในการจัดงบประมาณกลางปีเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นแกนนำรัฐบาลที่นำงบฯไปไว้ในงบกลางของ สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เป็นจำนวนมาก โดยกล่าวว่า ถ้าให้ตนพูด ตรงๆ เกี่ยวกับการจัดสรรงบกระตุ้นเศรษฐกิจ ตนไม่เห็นด้วยที่เอางบกลางมารวมที่สำนักเลขาธิการนายกฯ จำนวนมาก เพราะงบประตุ้นเศรษฐกิจ ต้องกระจายให้มากที่สุด

เราต้องการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ แต่ที่รัฐบาลสรรหานั้นไม่แก้ปัญหาเลย ถ้าจะฟื้นฟูกันจริงๆ ก็ต้องเร่งเรื่องการท่องเที่ยว ที่จะต้องเพิ่มให้ แต่กลับได้แค่ 500 กว่าล้านบาทเท่านั้น หรืออย่างถนนปลอดฝุ่นน่าจะให้ไป เพราะไม่ใช่งานที่ทำ 4-5เดือนเสร็จ เมื่อเงินลงไปก็จะได้แรงงาน ประชาชนก็จะมีเงินไปใช้จ่าย และสะท้อนกลับมาเป็นภาษี และโครงการแจกเงิน 2,000 บาทกับคนที่เงินเดือนไม่ถึง 15,000 บาทนั้นผมว่า ไม่เป็นการฟื้นเศรษฐกิจ แต่เป็นการเอาเงินไปใส่กระเป๋าเฉยๆ เพราะเขาอาจเอาไปเก็บก็ได้

ผู้สื่อข่าวถามว่าทางรัฐบาลอ้างว่าเอางบมาเก็บที่สำนักเลขาธิการนายกฯ แต่ละกระทรวงสามารถทำโครงการขอได้ นายบรรหาร กล่าวว่า ที่ให้ขอมันง่ายหรือยาก ต้องดูด้วย จะพิจารณาอย่างไรก็ไม่รู้ นอกจากนี้อย่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งเป็นกระทรวงที่มีความสำคัญได้แค่ 2,000 ล้านบาท ทั้งที่มีงบเพิ่มเติมกว่าแสนล้าน บางกระทรวงไม่น่าได้มากถึงขนาดนั้น

นายบรรหาร ยังกล่าวถึงผลสำรวจกรุงเทพโพลล่าสุดระบุว่า รัฐบาลทำงาน ไม่เข้าตาประชาชนแค่สอบผ่าว่า การเมืองมีข้อจำกัดแม้จะวาดภาพดีเลิศแค่ไหน แม้แต่พรรคร่วมรัฐบาลกันเองด้วย ดังนั้นการบริหารงานของรัฐบาลที่เป็นไปได้ ต้องถ้อยทีถ้อยอาศัยและใจกว้าง ถ้าสามารถทำอย่างนี้ได้ก็ไม่มีปัญหาเกิดขึ้น

นายบรรหาร กล่าวว่า ยังไม่จำเป็นต้องปรับ ครม.ขณะนี้คนที่มีปัญหาเวลานี้ก็ลาออกแล้ว ส่วนกรณี นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทนย ที่แจกนามบัตรนั้น ตนเห็นว่าความผิดยังไม่ชัดเจน แค่เอานามบัตรให้เพื่อบอกว่าฉันเป็นใครเท่านั้นไม่น่าจะมีความผิด กฎหมายไม่ได้ระบุเอาไว้ และสิ่งของทั้งหมด เป็นของส่วนราชการที่นายบุญจงรับผิดชอบ ที่ผ่านมามีคนทำแบบนี้เยอะทั้ง รัฐมนตรี หรือ ส.ส.เพียงแต่ไม่มีการหยิบยกมาพูดเท่านั้น

ผู้สื่อข่าวถามว่ารัฐบาลเพิ่งทำงานได้เดือนเดียวการทำโพลลักษณะนี้เร็วไป หรือไม่ นายบรรหาร กล่าวว่า ต้องดูว่าโพลล์มาอย่างไร ลองดูสวนดุสิตโพลล์ว่าอย่างไร โพลแต่ละแห่งไม่เหมือนกัน ตนมองว่าจะมีอะไรแอบแฝง

ผมพูดตรงๆว่าน่าจะให้โอกาสรัฐบาลบ้าง ไม่ใช่จะบอกแต่ว่าไอ้นั้นไอ้นี่ไม่ดีแล้ว จะให้เอาใครมาเป็นรัฐบาล ถ้าไม่ดีทั้งหมดก็หมดตัวแล้ว เพราะบุคลลที่สำคัญเช่นผม ก็ติดการเมือง 5 ปีจนผมต้องเดินเตะฝุ่น หางานทำอยู่เวลานี้ต้องไปอยู่กับเจ้าพ่อ(มังกร)แล้ว

ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าต้องขอบคุณนายบรรหาร ที่ให้ความเห็นและท้วงติงการจัดสรรงบประมาณกลางปีเพื่อกระตุ้นศรษฐกิจ ซึ่งตนยังไม่ได้พบเป็นการส่วนตัว ตนยืนยันว่าเงิน 2,000 บาทที่ช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยนั้นจะมีการนำไปใช้ในระบอบเศรษฐกิจ แต่หากนำเงินไปให้กับคนที่มีกำลังซื้ออยู่แล้วตนคิดว่าจะไม่เป็นประโยชน์ ที่รัฐบาลเจาะจงคือคนที่มีรายได้น้อย

ส่วนที่นายบรรหาร ระบุว่า พรรคประชาธิปัตย์ควรจะใจกว้างนึกถึงตอนที่ชวน พรรคร่วมมาจัดตั้รัฐบาล เพราะงบบางกระทรวงเช่น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงการท่องเที่ยว ได้น้อยซึ่งอาจไม่เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ความจริงเราก็ช่วยกันดู ในส่วนของกระทรวงเกษตรฯ เรื่องของแหล่งน้ำรัฐบาลก็สนับสนุน แต่งบประจำปี 2552 ในกรมหลักๆ นั้น ถึงวันนี้พึ่งสามารถเบิกจ่ายได้เพียง ร้อยละ10 เพราฉะนั้นหากรัฐบาลจัดงบเพิ่มเติมก็เป็นห่วงว่าเงินตรงนี้จะไม่ได้ใช้ จนเป็นปีงบประมาณหน้า ซึ่งจะไม่ทันการในการรักษากำลังซื้อในขณะนี้ ทั้งนี้ตนได้คุยกับนายชุมพล ศิลปอาชา รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา นายธีระ วงศ์สมุทธ รมว.เกษตรฯ โควต้าพรรคชาติไทยพัฒนาแล้ว ยืนยันว่างาน 2 กระทรวงนี้รัฐบาลสนับสนุนแน่นอน

ผู้สื่อข่าวาถามว่าจะมีโอกาสชี้แจงกับนายบรรหารหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เข้าใจว่าได้มีโอกาสพบกับบางคน แต่ยังไม่มีโอกาสคุยด้วยตัวเอง ส่วนกรณีที่ นายบรหารยังติดใจเรื่องวันที่ไปเชิญพรรคมาร่วมจัดตั้งรัฐบาลนั้น ยืนยันว่า ทำงานด้วยกันด้วยความจริงใจและยึดประโยชน์ของส่วนรวม เพราะฉะนั้นเชื่อว่า ถ้ามีโอกาสคุยกันก็คงเข้าใจ ส่วนที่นายบรรหารให้กำลังใจนั้นตนขอขอบคุณ เชื่อว่า นายบรรหารแสดงออกด้วยความตั้งใจดี แต่บางครั้งมุมมองแตกต่างกัน แต่ยืนยันว่าการจัดงบประมาณไม่เกี่ยวกับพรรค กระทรวงที่บอกว่าพรรคประชาธิปัตย์ได้งบเยอะนั้นเป็นเรื่องของเงินที่ผ่านออกไปเท่านั้นเอง เช่นเบี้ยยังชีพ หรือ เรียนฟรี

ส่วนผลโพลล์ที่ระบุว่า ผลงานของรัฐบาลสอบเกือบตก นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนเห็นว่าเกือบตกดีกว่าเกือบได้

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คงต้องทำความเข้าใจกับนายบรรหาร และถือโอกาสทำความเข้าใจกับประชาชนด้วยว่า งบประมาณกลางปี ที่คณะกรรมาธิการฯกำลังพิจารณาอยู่นี้ มาจากความเห็นชอบของพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรค ที่เห็นว่างบฯดังกล่าวนี้จัดไว้เพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจของประทศ ไม่ได้มุ่งเพื่อเกลี่ยให้ทุกกระทรวงแต่อย่างใด เพราะแม้แต่กระทรวงที่คนของพรรค ประชาธิปัตย์เป็นรัฐมนตรีบางกระทรวงก็ไม่ได้รับงบฯไปดำเนินการเลย รัฐบาลไม่ได้มีความคิดว่าเป็นคนของพรรคโน้นพรรคนี้ ส่วนการทำงบประมาณประจำปี2553 นั้นจะเริ่มต้นทำหลังจากผ่านงบกลางปีไปแล้ว ซึ่งคงต้องดูถึงความจำเป็น และความเหมาะสมในแต่ละกระทรวง โดยต้องให้เป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย

ส่วนที่ที่นายบรรหาร ไม่เห็นด้วยกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล โดยเฉพาะการแจกเงิน 2,000 บาท ไม่น่าจะได้ผล แต่ควรนำมากระตุ้นด้านอื่น เช่นการท่องเที่ยวนั้น นายสุเทพ กล่าวว่า เป็นความคิดเห็นของนายบรรหาร รัฐบาลก็ต้องรับฟัง แต่มาตรการต่างๆ ก็ผ่านไปแล้ว

ผู้สื่อข่าวถามว่าจะทำให้เกิดความสบายใจในพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ และอาจเกิดปัญหาเพราะฝ่ายค้านกำลังเตรียมยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล นายสุเทพ กล่าวว่า คงไม่หรอก การทักท้วงของนายบรรหาร เราก็รับฟัง ส่วนการอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้น ตนเชื่อว่าฝ่ายรัฐบาลมีเอกภาพ คงไม่มีปัญหาอะไร

พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานที่ปรึกษา พรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่าข้อท้วงติงของนายบรรหาร ไม่มีปัญหาอะไร และไม่ส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของพรรคร่วมรัฐบาล และนายกรัฐมนตรีก็รับปากที่จะดูแลในส่วนนี้แล้ว

นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย แกนนำพรรคภูมิใจไทยกล่าวถึงกรณีที่ นายบรรหาร น้อยใจที่รัฐบาลจัดสรรงบประมาณให้พรรคร่วมน้อยกว่าพรรคประชาธิปัตย์ว่า เรื่องนี้ต้องเข้าใจ สำนักงบประมาณว่าไม่สามารถดำเนินการจัดสรรงบประมาณ ให้กับทุกกระทรวงได้ตามที่ทุกกระทรวงขอ อย่างกระทรวงมหาดไทยก็ได้ของบประมาณ 4-5 หมื่นล้าน ยังได้มาแค่ 2.3 หมื่นล้านบาท ดังนั้นต้องดูกระเป๋าของรัฐบาลด้วย

ส่วนงบประมาณเท่านี้พอหรือไม่นั้น รมว.มหาดไทย กล่าวว่า ก็พยายามจัดสรรตามงบที่ได้มา และกระทรวงที่พรรคภูมใจไทยดูแลอยู่เราก็พอใจในระดับหนึ่ง เมื่อถามว่าจะมีการขอเพิ่มหรือไม่ นายชวรัตน์ กล่าวว่า ต้องดูเศรษฐกิจบ้านเรา ก่อน ถามต่อว่ากรณีที่นายบรรหารออกมาโวยทำให้เสียบรรยากาศของพรรคร่วมหรือไม่ รมว.มหาดไทย กล่าวว่า ไม่มีความเห็น
กำลังโหลดความคิดเห็น