"แดช" ขยายงานสวนทางเศรษฐกิจ เข้าถือหุ้น 30% ในบริษัทวรวรรณลุยงานตกแต่ง พร้อมกับผุดบริษัทร่วมทุนใหม่อีกแห่ง ต่อยอดธุรกิจเดิมให้ครบวงจร มั่นใจปีนี้รายได้แตะ 150 ล้านบาท
นายจิรบูลย์ วิทยสิงห์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แดช อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำสินค้ากลุ่มโปรโมชันนอล โปรดักส์ ระดับพรีเมียม เปิดเผยว่า ในปีนี้แม้ว่าภาวะเศรษฐกิจโดยรวมจะไม่ค่อยดีก็ตาม แต่บริษัทฯก็ยังมีการขยายงานต่อเนื่อง แต่ก็เป็นการขยายงานที่ยังอยู่บนพื้นฐานที่มีความเกี่ยวเนื่องกับธุรกิจเดิมคือ โปรโมชันนอลพรีเมียม เพื่อต่อยอดธุรกิจหลายอย่าง เพื่อที่จะทำให้ธุรกิจมีความครบวงจรมากขึ้น โดยตั้งเป้าหมายว่าปีนี้จะมีรายได้รวม 150 ล้านบาท เติบโต 10% จากปีที่แล้วที่มีรายได้รวมประมาณ 130 กว่าล้านบาท
โดยบริษัทฯได้ร่วมมือกับพันธมิตรในการตั้งบริษัทใหม่ชื่อว่า จี บ๊อกซ์ จำกัด ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท โดยมีตำแหน่งเป็นกรรมการบริหาร เพื่อทำธุรกิจสร้างสรรค์เกี่ยวกับดิจิตอลคาแรคเตอร์คอนเท้นต์ต่างๆ ซึ่งได้ทีมงานทางด้านโปรดักชั่นเฮาส์อย่างกลุ่มดีเอ็ม เข้ามาเป็นพันธมิตรด้วย โดยพัฒนาคาแรคเตอร์ต่างๆเพื่อนำมาใช้กับธุรกิจของพรีเมียมของบริษัท ซึ่งล่าสุดได้พัฒนาคาแรคเตอร์ชื่อว่า "ก๊อกกิ" ขึ้นมาแล้ว เพื่อนำไปใช้ในการทำเมอร์ชันไดส์ต่างๆ จากเดิมที่ต้องซื้อลิขสิทธิ์คาแรคเตอร์จากบริษัทอื่น ถือเป็นอีกทางเลือกใหม่ได้
นอกจานนั้นยังได้เข้าไปถือหุ้นในบริษัท วรวรรณ จำกัด ซึ่งมีอยู่แล้วเปิดกิจการมาได้ประมาณปีเศษ ของหม่อมหลวงปรเมศวร์ วรวรรณ โดยถือหุ้นจำนวน 30% จากทุนจดทะเบียน 5 ล้านบาท ซึ่งเป็นบริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับการออกแบบสินค้าที่ผลิตมาจากรับเบอร์ไฮเดนติตี้เพื่อใช้ประดับผนังอาคาร และปูพื้น ซึ่งที่ผ่านมาทำส่งออกต่างประเทศด้วยในแบรนด์ "วรวรรณ" ส่วนชื่อผลิตภัณฑ์คือ "เกี่ยวก้อย" เพราะเป็นผลิตภัณฑ์ที่นำไปใช้ปูเรียงติดกัน
ตลาดหลักกว่า 20 ประเทศที่ส่งออกเช่น เยอรมัน สวีเดน นอร์เวย์ กรีซ อิตาลี สเปน ญี่ปุ่น ตะวันออกกลาง เบลเยี่ยม ฝรั่งเศส สิงคโปร์ มาเลเซีย ออสเตรเลีย เป็นต้น โดยมียอดขายเฉลี่ย 20 ล้านบาทต่อปี ซึ่งเตรียมที่จะขยายตลาดส่งออกเพิ่มขึ้นอีก
"บริษัทนี้มีความเชี่ยวชาญทางด้านการออกแบบ ส่วนผมก็มีฐานทางด้านการตลาดต่างประเทศด้วย จึงทำให้สามารถมารวมตัวกันได้ และเชื่อว่าจะพัฒนาบริษัทวรวรรณให้เติบโตได้มากขึ้นอีก จะเห็นได้ว่าทั้งสองธุรกิจใหม่นี้ สามารถต่อยอดและสอดรับกับธุรกิจเดิมที่บริษัททำเกี่ยวกับการผลิตสินค้าพรีเมียมทั้งสิ้น " นายจิรบูลย์ กล่าว
นอกจากนั้นแล้วปีนี้จะเป็นปีที่เริ่มทำตลาดอย่างจริงจังสำหรับปากกาแบรนด์ PRODIR จากประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ที่บริษัทฯได้รับลิขสิทธิ์เมื่อปลายปีที่แล้ว และเป็นรายเดียวที่ได้รับสิทธิ์ให้ผลิตนอกประเทศสวิสเซอร์แลนด์ด้วย แต่ยังไม่ได้ทำการตลาดมากนัก ซึ่งเมื่อ 3 ปีที่แล้วบริษัทฯก็ได้รับสิทธิ์ในการจัดจำหน่ายปากกาเซเนเตอร์มาแล้ว โดยมีฐานผลิตใหญ่ของบริษัทในไทยและต่างประเทศที่ฮ่องกง
นายจิรบูลย์ วิทยสิงห์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แดช อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำสินค้ากลุ่มโปรโมชันนอล โปรดักส์ ระดับพรีเมียม เปิดเผยว่า ในปีนี้แม้ว่าภาวะเศรษฐกิจโดยรวมจะไม่ค่อยดีก็ตาม แต่บริษัทฯก็ยังมีการขยายงานต่อเนื่อง แต่ก็เป็นการขยายงานที่ยังอยู่บนพื้นฐานที่มีความเกี่ยวเนื่องกับธุรกิจเดิมคือ โปรโมชันนอลพรีเมียม เพื่อต่อยอดธุรกิจหลายอย่าง เพื่อที่จะทำให้ธุรกิจมีความครบวงจรมากขึ้น โดยตั้งเป้าหมายว่าปีนี้จะมีรายได้รวม 150 ล้านบาท เติบโต 10% จากปีที่แล้วที่มีรายได้รวมประมาณ 130 กว่าล้านบาท
โดยบริษัทฯได้ร่วมมือกับพันธมิตรในการตั้งบริษัทใหม่ชื่อว่า จี บ๊อกซ์ จำกัด ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท โดยมีตำแหน่งเป็นกรรมการบริหาร เพื่อทำธุรกิจสร้างสรรค์เกี่ยวกับดิจิตอลคาแรคเตอร์คอนเท้นต์ต่างๆ ซึ่งได้ทีมงานทางด้านโปรดักชั่นเฮาส์อย่างกลุ่มดีเอ็ม เข้ามาเป็นพันธมิตรด้วย โดยพัฒนาคาแรคเตอร์ต่างๆเพื่อนำมาใช้กับธุรกิจของพรีเมียมของบริษัท ซึ่งล่าสุดได้พัฒนาคาแรคเตอร์ชื่อว่า "ก๊อกกิ" ขึ้นมาแล้ว เพื่อนำไปใช้ในการทำเมอร์ชันไดส์ต่างๆ จากเดิมที่ต้องซื้อลิขสิทธิ์คาแรคเตอร์จากบริษัทอื่น ถือเป็นอีกทางเลือกใหม่ได้
นอกจานนั้นยังได้เข้าไปถือหุ้นในบริษัท วรวรรณ จำกัด ซึ่งมีอยู่แล้วเปิดกิจการมาได้ประมาณปีเศษ ของหม่อมหลวงปรเมศวร์ วรวรรณ โดยถือหุ้นจำนวน 30% จากทุนจดทะเบียน 5 ล้านบาท ซึ่งเป็นบริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับการออกแบบสินค้าที่ผลิตมาจากรับเบอร์ไฮเดนติตี้เพื่อใช้ประดับผนังอาคาร และปูพื้น ซึ่งที่ผ่านมาทำส่งออกต่างประเทศด้วยในแบรนด์ "วรวรรณ" ส่วนชื่อผลิตภัณฑ์คือ "เกี่ยวก้อย" เพราะเป็นผลิตภัณฑ์ที่นำไปใช้ปูเรียงติดกัน
ตลาดหลักกว่า 20 ประเทศที่ส่งออกเช่น เยอรมัน สวีเดน นอร์เวย์ กรีซ อิตาลี สเปน ญี่ปุ่น ตะวันออกกลาง เบลเยี่ยม ฝรั่งเศส สิงคโปร์ มาเลเซีย ออสเตรเลีย เป็นต้น โดยมียอดขายเฉลี่ย 20 ล้านบาทต่อปี ซึ่งเตรียมที่จะขยายตลาดส่งออกเพิ่มขึ้นอีก
"บริษัทนี้มีความเชี่ยวชาญทางด้านการออกแบบ ส่วนผมก็มีฐานทางด้านการตลาดต่างประเทศด้วย จึงทำให้สามารถมารวมตัวกันได้ และเชื่อว่าจะพัฒนาบริษัทวรวรรณให้เติบโตได้มากขึ้นอีก จะเห็นได้ว่าทั้งสองธุรกิจใหม่นี้ สามารถต่อยอดและสอดรับกับธุรกิจเดิมที่บริษัททำเกี่ยวกับการผลิตสินค้าพรีเมียมทั้งสิ้น " นายจิรบูลย์ กล่าว
นอกจากนั้นแล้วปีนี้จะเป็นปีที่เริ่มทำตลาดอย่างจริงจังสำหรับปากกาแบรนด์ PRODIR จากประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ที่บริษัทฯได้รับลิขสิทธิ์เมื่อปลายปีที่แล้ว และเป็นรายเดียวที่ได้รับสิทธิ์ให้ผลิตนอกประเทศสวิสเซอร์แลนด์ด้วย แต่ยังไม่ได้ทำการตลาดมากนัก ซึ่งเมื่อ 3 ปีที่แล้วบริษัทฯก็ได้รับสิทธิ์ในการจัดจำหน่ายปากกาเซเนเตอร์มาแล้ว โดยมีฐานผลิตใหญ่ของบริษัทในไทยและต่างประเทศที่ฮ่องกง
