นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนนตรี กล่าวถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ประกาศว่าจะกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง ว่า ถ้าเข้าเงื่อนไขของกฎหมายก็กลับมาเล่นการเมืองได้ ส่วนที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ระบุว่า เด็กสองคนไม่สามารถแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้นั้นตนไม่ทราบว่าหมายถึงใคร แต่หากหมายถึงตนและนายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง คิดว่าทำงานและให้เกียรติทุกคนไม่สบประมาทใคร และถ้าใครตั้งใจทำงานด้วยความซื่อสัตย์ ก็จะให้กำลังใจโดยเฉพาะสิ่งที่เป็นผลประโยชน์ของประเทศ
ส่วนการประกาศของพ.ต.ท.ทักษิณอย่างนี้จะเป็นอุปสรรคการทำงานของรัฐบาลหรือไม่นั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ความคิดส่วนตัวจะเป็นอย่างไร แต่อยากให้ยึดประโยชน์ของประเทศ
ผมเข้าใจสถานการณ์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ว่าเป็นช่วงที่มีปัญหาอยู่ ตนพร้อมที่จะให้ความเป็นธรรมทุกอยาก อยากให้ พ.ต.ท.ทักษิณ เข้ามาสู่ระบบ และหากอยากจะเล่นการเมืองก็ทำได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติตามกฎหมาย แม้จะมีความผิดอะไรไปแล้วกฎหมายก็ไม่ได้ห้ามตลอดไป
สำหรับความเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงที่จะชุมนุมทวงข้อเรียกร้อง 3 ข้อ อีกครั้งในวันที่ 14 ก.พ.นั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า จะใช้วิธีการพยายามทำความเข้าใจกับฝ่ายต่างๆ รวมถึงฝ่ายค้านด้วย ในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับรัฐธรรมนูญและคดีความ ส่วนกรณีของรัฐมนตรีและการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ถือเป็นการตัดสินใจ ทางการเมืองที่มีความเห็นที่แตกต่างได้ เรื่องการยุบสภาตนได้พูดกับสื่อต่างประเทศว่า ขณะนี้ความจำเปนของประเทศคือเร่งทำตามข้อผูกพันในฐานะที่เราเป็นประธานอาเซียน เพื่อรักษาความเชื่อมั่นและศักดิ์ศรีของประเทศ ในด้านเศรษฐกิจ ขณะนี้ควรต้องมีความมั่นใจว่ามีมาตรการต่างๆ และมีรัฐบาลที่สามารถทำงานได้ต่อเนื่องระยะหนึ่ง ตรงนี้ตนมองว่าเป็นความจำเป็นเร่งด่วนของประเทศ
ส่วนนายวิชิต ปลั่งศรีสกุล อดีตกรรมการบริหารไทยรักไทย เสนอให้ยกเลิกประกาศ คปค.ฉบับที่ 30 ก็จะจบปัญหานั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่ตรงกับข้อเรียกร้อง ของผู้ชุมนุม น่าจะจบปัญหาในส่วนของนายวิชิตมากกว่า
ผู้สื่อข่าวถามว่ารัฐบาลส่งเสริมความสมานฉันท์แต่ฝ่ายตรงข้ามไม่สมานฉันท์ด้วยรู้สึกท้อหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวปฏิเสธว่าไม่ สำคัญที่สุดในการสร้างความ สมานฉันท์ คือความอดทนอดกลั่น และการพิสูจน์ความอดทนใช้ระยะเวลาสั้นๆไม่ได้ต้องใช้เวลาพิสูจน์
สุเทพปัดเป็นรัฐบาลเสือหิว
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ให้ฉายา รัฐบาลเสือโหย ว่า ใครจะตั้งฉายารัฐบาลอย่างไรเป็นสิทธิของท่าน รัฐบาลก็ฟังเสียงทุกคน แม้แต่พ.ต.ท.ทักษิณ พูดเราก็ฟัง แต่ขอเรียนว่ารัฐบาลไม่ใช่เสื้อหิว เสือโหยอย่างที่ท่านพูด เราก็ทำหน้าที่ของเราไปตามปกติ แก้ปัญหาบ้านเมืองให้ดีที่สุด ส่วนถ้ามีอะไรที่จะบกพร่องเราก็แก้ไขไป เรายึดประโยชน์ของประเทศชาติ ประชาชนเป็นที่ตั้ง
ผู้สื่อข่าวถามว่าการโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ครั้งนี้ค่อนข้างรุนแรง นายสุเทพ กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณก็พูดแรงทุกครั้ง มีผลต่อความรู้สึกของประชาชน ซึ่งก็เป็นเรื่องของ พ.ต.ท.ทักษิณที่จะต้องรับผิดชอบไป เมื่อถามต่อว่า คนใกล้ชิด พ.ต.ท.ทักษิณ ออกมาระบุว่า การที่นายกฯหรือนายสุเทพ เรียกร้องให้พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางกลับมาดำเนินคดีในไทย เป็นเพียงการแสดงทางการเมืองเท่านั้น นายสุเทพ กล่าวว่า การแสดงความคิดเห็นของพ.ต.ท.ทักษิณ หลายครั้งก็ไม่เหมือนกัน เช่น ครั้งแรกบอกว่า อยากจะกลับมาประเทศไทย แต่พอมาตอนนี้กลับอ้างว่า กลัวไม่ได้รับความยุติธรรม แต่ความจริงระบบของสังคมไทย กระบวนการยุติธรรมทั้งหลาย มีการปฏิบัติต่อทุกคนเท่าเทียมกัน พ.ต.ท.ทักษิณก็ต้องทำให้ตัวเองอยู่ภายใต้กฎ กติกา และกฎหมายไทย ถ้าพ.ต.ท.ทักษิณไม่ยอมรับกฎเกณฑ์กติกาก็จะเกิดความรู้สึกอย่างนี้เสมอ
ยันไม่แก้กม.เพื่อช่วยเหลือใคร
ส่วนที่คนใกล้ชิดพ.ต.ท.ทักษิณ ออกมาเรียกร้องให้ยกเลิกประกาศ คปค.ฉบับที่ 30 นั้น นายสุเทพ กล่าวว่า คงไม่แสดงความเห็นในเรื่องนี้ เพราะพ.ต.ท.ทักษิณ เป็นผู้ที่ศาลพิพากษาลงโทษไปแล้วก็ต้องสู้คดี ถ้าไม่มาก็ถือว่าสละโอกาสนั้นไป วันนี้ก็ต้องกลับมารับโทษ ส่วนวันข้างหน้าจะทำกันอย่างไรก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
ผู้สื่อข่าวถามว่ามีข้อเสนอว่าหากยกเลิก คปค.ฉบับที่ 30 ก็จะทำให้นายเนวิน ชิดชอบ แกนนำกลุ่มเพื่อนเนวิน ที่มีคดีกล้ายาง และข้าราชการที่ถูกดำเนินคดีเหล่านี้ ได้อานิสงค์ไปด้วย นายสุเทพ กล่าวว่า เราคงไม่เขียนกฎหมาย ยกเลิกกฎหมายเพื่อผล ประโยชน์ของใครคนใดคนหนึ่งกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง เพราะกฎหมายต้องใช้บังคับกับคนทั้งประเทศ
ต่อข้อถามว่าจนถึงขณะนี้ได้มีการประสานกับพ.ต.ท.ทักษิณแล้วหรือยัง เพราะคนใกล้ขิดพ.ต.ท.ทักษิณ ยืนยันว่ายังไม่มีการประสานไป นายสุเทพ กล่าวว่า คนที่ตนไปประสานเป็นคนที่ใกล้ชิดกับพ.ต.ท.ทักษิณ ในเมื่อบอกว่ายังไม่มีการประสาน ตนก็จะไม่พยายามต่อ เมื่อถามต่อว่า แสดงว่า ความพยายามในการประสานกับพ.ต.ท.ทักษิณกับรัฐบาลจะไม่เกิดขึ้นแล้วใช่ไหม นายสุเทพ กล่าวว่า เอาเป็นว่าขณะนี้การติดต่อก็หยุดลง ซึ่งก็ไม่คิดว่าสถานการณ์ทางการเมืองคงจะไม่รุนแรง
ชี้ทักษิณไม่ได้ต่อสู้ทางการเมือง
ส่วนที่พ.ต.ท.ทักษิณประกาศว่าจะต่อสู้ทางการเมืองนั้น นายสุเทพ กล่าวว่า ความจริงไม่ใช่การต่อสู้กันทางการเมือง เพราะถ้าเกิดการต่อสู้กันทางการเมือง ต้องเป็นการต่อสู้ระหว่างพรรคการเมืองด้วยกัน แต่ขณะนี้อีกฝ่ายหนึ่งมีพรรคเพื่อไทย และยังมีสถานีโทรทัศน์ดีทีวี และยังมีกลุ่มคนเสื้อแดง ซึ่งถือเป็นกระบวนการเดียวกัน บริหารงานโดยคนกลุ่มเดียว สั่งการโดยคนกลุ่มเดียวกันโดยมีเป้าหมายเดียวกันคือ ล้มรัฐบาล ด้วยการพยายามสร้างความวุ่นวาย ซึ่งรัฐบาลก็ต้องแก้ปัญหาไป
ส่วนตัวผมไม่ได้รู้สึกว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นศัตรู แต่เมื่อเรามีหน้าที่ดูแล บ้านเมืองให้สงบเรียบร้อยก็แก้ปัญหาไป และผมก็จะแก้ปัญหาในกรอบของกฎหมาย ซึ่งการปฏิบัติกับกลุ่มเสื้อแดงเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เป็นครั้งแรกที่รัฐบาลเผชิญหน้ากับการชุมนุมที่ใหญ่มาก รัฐบาลก็ปฏิบัติอย่างดี อยู่ในกรอบของกฎหมายทุกอย่าง
รับแม้วโฟนอินมีผลต่อความสงบ
ผู้สื่อข่าวถามว่า การปล่อยให้พ.ต.ท.ทักษิณ โฟนอินบ่อยๆ จะกระทบต่อเสถียรภาพรัฐบาลหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่เราต้องยอมรับ ถ้าโฟนอินแล้วทำให้บ้านเมืองวุ่นวาย เราก็ต้องชี้แจงว่าสิ่งที่พ.ต.ท.ทักษิณพูดนั้นไม่ถูกต้องอย่างไร เมื่อถามต่อว่า วิเคราะห์คำพูดของพ.ต.ท.ทักษิณอย่างไรบ้าง ที่บอกว่า จะกลับมาเป็นนายกฯอีกครั้ง นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่ต้องวิเคราะห์หรอก เพราะเขาพูดชัดเจนว่า ไม่ยอมแพ้ และพยายามพูดไปเรื่อย
ท่านเคยบอกเองด้วยซ้ำว่า ท่านจะกลับมาเป็นประธานาธิบดี เราก็ไม่ต้องวิเคราะห์อะไร เพราะไม่ใช่เรื่องที่คุณทักษิณพูดเอง แล้วจะเกิดขึ้นเอง แต่มันอยู่ที่ประชาชนคนไทยทั้งประเทศ เขายอมรับหรือไม่เท่านั้น ส่วนที่เขามั่นใจว่าประชาชนยอมรับนั้นก็ขอให้ รอดูกันต่อไป ขอให้ประชาชนคนไทยอย่าอยู่ด้วยความหวาดวิตก รัฐบาลจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด
ผู้สื่อข่าวถามว่าท่าทีอย่างนี้จะทำให้รัฐบาลทำงานหนักขึ้นหรือไม่ เพราะจะต้องมีการเดินเกมการเมืองทั้งในและนอกสภา มีนายสุเทพ กล่าวว่า ลำบากอยู่แล้ว ตนยอมรับว่า มันมีสถานการณ์ที่ยากลำบากสำหรับรัฐบาลนี้ เราก็ต้องแก้ไขต่อไป เมื่อถามต่อว่า ฝ่ายความมั่นคงมองอย่างไรกับการปลุกกระแสการเมืองในหลายพื้นที่ นายสุเทพ กล่าวว่า ตนไม่ได้ใช้กลไกของฝ่ายความมั่นคงมาเป็นเงื่อนไขสำคัญในการทำงานทางการเมือง เพราะความมั่นคงมันน่าจะเกี่ยวข้องกับการรักษา ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ มากกว่า แต่เรื่องของกระแสประชาชนเป็นเรื่องปกติ เราก็ชี้แจงไป นานไปประชาชนก็เบื่อหน่ายไปเอง
เหลิมฝันแม้วมีโอกาศนั่งนายกฯ
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ประกาศผ่านโฟนอินจะกลับมาเป็นนายกฯอีกครั้งว่า ถ้าพ.ต.ท.ทักษิณพร้อม มีโอกาสและมีจังหวะจะกลับมาทันที แต่ที่สำคัญทิศทางการนำเสนอข่าวของสื่อ ต้องเสนอข้อเท็จจริงกรณีศาลฎีกาแผนคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตัดสินจำคุก 2 ปี ว่าไม่ใช่การทุจริต เพราะถือเป็นการทำนิติกรรม โดยเอาบัตรประชาชนไปซื้อที่ดิน ซึ่งทั่วโลกเขาไม่มี แต่ที่รมว.ต่างประเทศออกมาทำท่าอหังการว่าจะเอาพ.ต.ท.ทักษิณกลับมารับความผิดในฐานะผู้ร้ายข้ามแดน เป็นการเข้าใจผิดทั้งหมด เพราะคนที่มีหน้าที่จริงคืออัยการสูงสุด และคดีที่มีการตัดสินเพียงศาลเดียวจะไม่มีการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน ดังนั้นหาก พ.ต.ท.ทักษิณ ประกาศว่าจะกลับมาก็ไม่ใช่เรื่องที่ผิด
เสนอแคมเปญนิรโทษคดีหลัง19ก.ย.
ผมมีแนวคิดว่าหากถึงเวลาเลือกตั้ง จะปรึกษาในพรรค ให้ออกแคมเปญ ประกาศให้พี่น้องประชาชนทั้งประเทศรู้ว่ามีการเอาที่ดิน สปก. 4-01 ไปแจกคนรวย ที่จ.ภูเก็ต ถ้าผมไม่อภิปรายก็จะไม่มีเรื่องสู่ศาล ซึ่งทั้งศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ และศาลฎีกา สั่งให้คืนที่กลับมาให้ราชการ 12,000 ล้านบาท พรรคประชาธิปัตย์จะต้องรับผิดชอบอะไรบ้าง ก็ไม่มี ผ่านแล้วก็ผ่านไป แต่กรณี พ.ต.ท.ทักษิณถามว่าได้ทำให้สมบัติของชาติเสียหายแม้แต่สตางค์แดงเดียวหรือไม่
นอกจากนี้ถ้าผมทำความเข้าใจกับประชาชนได้และพรรคพวกเห็นด้วยก็จะใช้เป็นนโยบายในการหาเสียงเลือกตั้งครั้งหน้า คือ ไม่ว่าคดีอะไรที่เกิดขึ้นหลัง วันที่ 19 ก.ย. 2549 ซึ่งเป็นต้นเหตุการณ์จากการปฎิวัติที่ต่างชาติไม่ยอมรับผม จะเชิญชวนคนไทยทั่วประเทศไม่ยอมรับเช่นกัน ใครมีโทษ ก็อภัยโทษ ใครยังไม่มีโทษ ก็นิรโทษ ไม่ว่าใครก็ตาม จะเป็นพันธมิตรฯหรือคนที่ถูกตัดสินจำคุก ถ้ามีมูลเหตุจาก 19 ก.ย.ก็ขอให้เลิกทั้งหมด ไม่เช่นนั้นบ้านเมืองจะเดินต่อไปไม่ได้ และความสามัคคีจะไม่เกิ ”ร.ต.อ.เฉลิมกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า การนิรโทษกรรมจะรวมไปถึงคดียุบพรรคด้วยหรือไม่ ร.ต.อ.ฉลิม กล่าวว่า ยังก่อน จะเอาเฉพาะในส่วนที่เป็นคดีอาญาก่อน วันนี้คิดเท่านี้ยังไม่ได้คิดเรื่องการเมือง เมื่อถามว่า หากไม่มีการนิรโทษกรรม อดีตกรรมการบริหารพรรคที่ถูกยุบพ.ต.ท.ทักษิณก็กลับมาเป็นนายกฯตามที่ระบุไม่ได้ ร.ต.อ.เฉลิมตอบว่า เอาทีละสเตป ที่คิดออกมาอย่างนี้เพื่อให้มีข้อยุติ ไม่งั้นทุกอย่าง ก็ไม่จบ เมื่อถามว่า อีกกี่ปี พ.ต.ท.ทักษิณจะกลับมาเป็นนายกฯอีกครั้ง ร.ต.อ.เฉลิมตอบว่า ฝนยังไม่ตก อย่าเพิ่งกางร่ม
น้องแม้วลั่นเอาพี่กลับเร็วที่สุด
ว่าที่ร.ต.พงศ์พันธ์ สุนทรชัย สส.หนองคาย พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า หลังจาก พ.ต.ท.ทักษิณ โฟนอินเข้ามา ส.ส.อีสานของพรรคกว่า 70 คน ได้สัมมนาภายใน โดยมีมติมอบหมายให้ นายพายัพ ชินวัตร น้องชายพ.ต.ท.ทักษิณ รับตำแหน่ง ที่ปรึกษาส.ส.อีสาน เนื่องจากพื้นที่ภาคอีสานเราให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก ถือว่าเป็นทัพหลวงสำหรับการเลือกตั้งของพรรค และหลังจากนี้จะมีหัวหน้าแต่ละจังหวัด โดยแบ่งเป็นโซนๆ อีกชั้น แยกเป็นโซนอีสานเหนือ อีสานกลาง อีสานใต้ ตั้งขึ้นมาเหมือนเป็นองค์กรเพื่อขับเคลื่อนสำหรับการเลือกตั้ง
ว่าที่ รต.พงศ์พันธ์กล่าวว่า นายพายัพกล่าวกับ ส.ส. อีสานว่า รู้สึกดีใจ ที่ได้มาร่วมงาน พร้อมลุยเต็มที่ โดยมีเป้าหมายจะนำ พ.ต.ท. ทักษิณ กลับบ้านให้เร็วที่สุด นอกจากนี้นายพายัพยังเปรียบเทียบว่า ผมเป็นคนขับรถ อยู่บนถนน อยากนำผู้โดยสารส่งถึงปลายทาง
สำหรับการแต่งตั้งนายพายัพครั้งนี้ก็เพื่อทำให้มติของ สส.ภาคอีสานถึง นายใหญ่ ได้โดยตรง เพราะที่ผ่านมา มติภาคอีสานมักไม่ถึงแกนนำ ทำให้เกิดปัญหา การได้นายพายัพมาจะช่วยดูแลตรงนี้ได้ดี และนายพายัพ ยังได้ย้ำว่าจะดูแลทุกอย่างให้ รวมทั้งหลังจากนี้ ส.ส.ภาคอีสานจะทำแผนจัดสัมมนาในภาคอีสาน โดยจะให้นายพายัพ เดินสายให้ครบทุกจังหวัด โดยจะมีแคมเปญว่า จะนำ พ.ต.ท.ทักษิณ กลับบ้านให้เร็วที่สุด เนื่องจากเห็นว่า คนที่จะแก้ปัญหาเศรษฐกิจต้องเป็นพ.ต.ท.ทักษิณ คนเดียว เริ่มที่ จ.หนองคายก่อนในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ เพราะเราคาดว่า อีก 2 เดือนรัฐบาลจะอยู่ไม่ได้จากการขัดขากันเองจนต้องยุบสภา
พท.อึกเหิมหลังทักษิณสู้ต่อ
ว่าที่ร.ต.พงศ์พันธ์กล่าวว่า ที่ประชุมยังมีมติ สลายกลุ่ม สลายมุ้งในภาคอีสาน ให้หมด ซึ่งทุกก๊กในภาคอีสานต่างยอมรับที่จะสลายมุ้ง โดยนายไพจิต ศรีวรขาน หัวหน้ากลุ่มอีสานพัฒนา นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ หัวหน้ากลุ่มขุนค้อน และ นายอัสนี เชิดชัย กลุ่มโคราช ก็เห็นด้วยเพราะที่ผ่านมาการปล่อยให้เกิดมุ้งในภาคอีสาน ทำให้เกิดปัญหา จนบางก๊ก บางมุ้ง เช่น กลุ่มน. ยกมุ้งหนีออกจากพรรค
ว่าที่ ร.ต.พงศ์พันธ์ กล่าวว่าการสัมมนาพรรคเพื่อไทยที่เขาใหญ่ครั้งนี้ ทำให้ ส.ส.อึกเหิมกันมาก โดยเฉพาะการมีคนตระกูลชินวัตรมาร่วมหมด แสดงถึงความสามัคคี ตนเห็นว่า เป็นการเสียสละของคนตระกูลชินวัตรครั้งยิ่งใหญ่ วันโฟนอินอดีตนายกฯ ประโยคที่ทำให้ตนเองมั่นใจในตัว พ.ต.ท.ทักษิณ คือ หากประชาชนพร้อม ท่านก็พร้อมมาเป็นผู้นำอีกครั้งแสดงว่า ท่านยังมีไฟอยู่ ซึ่งพวกเราวิเคราะห์ว่า ท่านอาจไม่ต้องรอถึง 3 ปี แต่จะกลับมาเร็วแน่
เผยแม้วส่งน้องคุมส.ส.ทุกภาค
ว่าที่ ร.ต.พงศ์พันธ์ กล่าวว่า ที่ นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย เสนอไม่ให้ยึดติดตัวบุคคลนั้น ยังทำไม่ได้ เพราะวันนี้พรรคยังติดเรื่องตัวบุคคลอยู่ อีกทั้งชาวบ้านยังรัก พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่ เราต้องเอาพ.ต.ท.ทักษิณ กลับมาเป็นนายกรฯ อีกรอบ จากนั้นหากจะมีการปรับเปลี่ยนอะไรก็ให้ว่าไป แต่วันนี้ชาวบ้านยังศรัทธาในตัวพ.ต.ท.ทักษิณ มากรวมไปถึงโครงการต่างๆสมัยพรรคไทยรักไทย
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับยุทธศาสตร์ในจัดทัพของกลุ่มชินวัตรกับพรรคเพื่อไทย นั้น เบื้องต้นได้วางตัวคนตระกูลชินวัตรดูแลแต่ละภาค โดยภาคเหนือ มีนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ภาคอีสาน นายพายัพ ชินวัตร ภาคกลาง กทม. มี นส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ภาคใต้ นางเยาวเรศ ชินวัตร ส่วนหัวหน้าพรรคคนต่อไป ยังไม่ได้ข้อสรุปยังติดขัดระหว่าง การเลือกคนในตระกูลชินวัตร กับ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รวมถึงแกนนำพรรคอื่น และเร็วๆ นี้ ส.ส.บางส่วนจะรวมตัวเดินไปพบพ.ต.ท.ทักษิณ ในต่างแดน
ส่วนการประกาศของพ.ต.ท.ทักษิณอย่างนี้จะเป็นอุปสรรคการทำงานของรัฐบาลหรือไม่นั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ความคิดส่วนตัวจะเป็นอย่างไร แต่อยากให้ยึดประโยชน์ของประเทศ
ผมเข้าใจสถานการณ์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ว่าเป็นช่วงที่มีปัญหาอยู่ ตนพร้อมที่จะให้ความเป็นธรรมทุกอยาก อยากให้ พ.ต.ท.ทักษิณ เข้ามาสู่ระบบ และหากอยากจะเล่นการเมืองก็ทำได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติตามกฎหมาย แม้จะมีความผิดอะไรไปแล้วกฎหมายก็ไม่ได้ห้ามตลอดไป
สำหรับความเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงที่จะชุมนุมทวงข้อเรียกร้อง 3 ข้อ อีกครั้งในวันที่ 14 ก.พ.นั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า จะใช้วิธีการพยายามทำความเข้าใจกับฝ่ายต่างๆ รวมถึงฝ่ายค้านด้วย ในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับรัฐธรรมนูญและคดีความ ส่วนกรณีของรัฐมนตรีและการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ถือเป็นการตัดสินใจ ทางการเมืองที่มีความเห็นที่แตกต่างได้ เรื่องการยุบสภาตนได้พูดกับสื่อต่างประเทศว่า ขณะนี้ความจำเปนของประเทศคือเร่งทำตามข้อผูกพันในฐานะที่เราเป็นประธานอาเซียน เพื่อรักษาความเชื่อมั่นและศักดิ์ศรีของประเทศ ในด้านเศรษฐกิจ ขณะนี้ควรต้องมีความมั่นใจว่ามีมาตรการต่างๆ และมีรัฐบาลที่สามารถทำงานได้ต่อเนื่องระยะหนึ่ง ตรงนี้ตนมองว่าเป็นความจำเป็นเร่งด่วนของประเทศ
ส่วนนายวิชิต ปลั่งศรีสกุล อดีตกรรมการบริหารไทยรักไทย เสนอให้ยกเลิกประกาศ คปค.ฉบับที่ 30 ก็จะจบปัญหานั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่ตรงกับข้อเรียกร้อง ของผู้ชุมนุม น่าจะจบปัญหาในส่วนของนายวิชิตมากกว่า
ผู้สื่อข่าวถามว่ารัฐบาลส่งเสริมความสมานฉันท์แต่ฝ่ายตรงข้ามไม่สมานฉันท์ด้วยรู้สึกท้อหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวปฏิเสธว่าไม่ สำคัญที่สุดในการสร้างความ สมานฉันท์ คือความอดทนอดกลั่น และการพิสูจน์ความอดทนใช้ระยะเวลาสั้นๆไม่ได้ต้องใช้เวลาพิสูจน์
สุเทพปัดเป็นรัฐบาลเสือหิว
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ให้ฉายา รัฐบาลเสือโหย ว่า ใครจะตั้งฉายารัฐบาลอย่างไรเป็นสิทธิของท่าน รัฐบาลก็ฟังเสียงทุกคน แม้แต่พ.ต.ท.ทักษิณ พูดเราก็ฟัง แต่ขอเรียนว่ารัฐบาลไม่ใช่เสื้อหิว เสือโหยอย่างที่ท่านพูด เราก็ทำหน้าที่ของเราไปตามปกติ แก้ปัญหาบ้านเมืองให้ดีที่สุด ส่วนถ้ามีอะไรที่จะบกพร่องเราก็แก้ไขไป เรายึดประโยชน์ของประเทศชาติ ประชาชนเป็นที่ตั้ง
ผู้สื่อข่าวถามว่าการโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ครั้งนี้ค่อนข้างรุนแรง นายสุเทพ กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณก็พูดแรงทุกครั้ง มีผลต่อความรู้สึกของประชาชน ซึ่งก็เป็นเรื่องของ พ.ต.ท.ทักษิณที่จะต้องรับผิดชอบไป เมื่อถามต่อว่า คนใกล้ชิด พ.ต.ท.ทักษิณ ออกมาระบุว่า การที่นายกฯหรือนายสุเทพ เรียกร้องให้พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางกลับมาดำเนินคดีในไทย เป็นเพียงการแสดงทางการเมืองเท่านั้น นายสุเทพ กล่าวว่า การแสดงความคิดเห็นของพ.ต.ท.ทักษิณ หลายครั้งก็ไม่เหมือนกัน เช่น ครั้งแรกบอกว่า อยากจะกลับมาประเทศไทย แต่พอมาตอนนี้กลับอ้างว่า กลัวไม่ได้รับความยุติธรรม แต่ความจริงระบบของสังคมไทย กระบวนการยุติธรรมทั้งหลาย มีการปฏิบัติต่อทุกคนเท่าเทียมกัน พ.ต.ท.ทักษิณก็ต้องทำให้ตัวเองอยู่ภายใต้กฎ กติกา และกฎหมายไทย ถ้าพ.ต.ท.ทักษิณไม่ยอมรับกฎเกณฑ์กติกาก็จะเกิดความรู้สึกอย่างนี้เสมอ
ยันไม่แก้กม.เพื่อช่วยเหลือใคร
ส่วนที่คนใกล้ชิดพ.ต.ท.ทักษิณ ออกมาเรียกร้องให้ยกเลิกประกาศ คปค.ฉบับที่ 30 นั้น นายสุเทพ กล่าวว่า คงไม่แสดงความเห็นในเรื่องนี้ เพราะพ.ต.ท.ทักษิณ เป็นผู้ที่ศาลพิพากษาลงโทษไปแล้วก็ต้องสู้คดี ถ้าไม่มาก็ถือว่าสละโอกาสนั้นไป วันนี้ก็ต้องกลับมารับโทษ ส่วนวันข้างหน้าจะทำกันอย่างไรก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
ผู้สื่อข่าวถามว่ามีข้อเสนอว่าหากยกเลิก คปค.ฉบับที่ 30 ก็จะทำให้นายเนวิน ชิดชอบ แกนนำกลุ่มเพื่อนเนวิน ที่มีคดีกล้ายาง และข้าราชการที่ถูกดำเนินคดีเหล่านี้ ได้อานิสงค์ไปด้วย นายสุเทพ กล่าวว่า เราคงไม่เขียนกฎหมาย ยกเลิกกฎหมายเพื่อผล ประโยชน์ของใครคนใดคนหนึ่งกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง เพราะกฎหมายต้องใช้บังคับกับคนทั้งประเทศ
ต่อข้อถามว่าจนถึงขณะนี้ได้มีการประสานกับพ.ต.ท.ทักษิณแล้วหรือยัง เพราะคนใกล้ขิดพ.ต.ท.ทักษิณ ยืนยันว่ายังไม่มีการประสานไป นายสุเทพ กล่าวว่า คนที่ตนไปประสานเป็นคนที่ใกล้ชิดกับพ.ต.ท.ทักษิณ ในเมื่อบอกว่ายังไม่มีการประสาน ตนก็จะไม่พยายามต่อ เมื่อถามต่อว่า แสดงว่า ความพยายามในการประสานกับพ.ต.ท.ทักษิณกับรัฐบาลจะไม่เกิดขึ้นแล้วใช่ไหม นายสุเทพ กล่าวว่า เอาเป็นว่าขณะนี้การติดต่อก็หยุดลง ซึ่งก็ไม่คิดว่าสถานการณ์ทางการเมืองคงจะไม่รุนแรง
ชี้ทักษิณไม่ได้ต่อสู้ทางการเมือง
ส่วนที่พ.ต.ท.ทักษิณประกาศว่าจะต่อสู้ทางการเมืองนั้น นายสุเทพ กล่าวว่า ความจริงไม่ใช่การต่อสู้กันทางการเมือง เพราะถ้าเกิดการต่อสู้กันทางการเมือง ต้องเป็นการต่อสู้ระหว่างพรรคการเมืองด้วยกัน แต่ขณะนี้อีกฝ่ายหนึ่งมีพรรคเพื่อไทย และยังมีสถานีโทรทัศน์ดีทีวี และยังมีกลุ่มคนเสื้อแดง ซึ่งถือเป็นกระบวนการเดียวกัน บริหารงานโดยคนกลุ่มเดียว สั่งการโดยคนกลุ่มเดียวกันโดยมีเป้าหมายเดียวกันคือ ล้มรัฐบาล ด้วยการพยายามสร้างความวุ่นวาย ซึ่งรัฐบาลก็ต้องแก้ปัญหาไป
ส่วนตัวผมไม่ได้รู้สึกว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นศัตรู แต่เมื่อเรามีหน้าที่ดูแล บ้านเมืองให้สงบเรียบร้อยก็แก้ปัญหาไป และผมก็จะแก้ปัญหาในกรอบของกฎหมาย ซึ่งการปฏิบัติกับกลุ่มเสื้อแดงเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เป็นครั้งแรกที่รัฐบาลเผชิญหน้ากับการชุมนุมที่ใหญ่มาก รัฐบาลก็ปฏิบัติอย่างดี อยู่ในกรอบของกฎหมายทุกอย่าง
รับแม้วโฟนอินมีผลต่อความสงบ
ผู้สื่อข่าวถามว่า การปล่อยให้พ.ต.ท.ทักษิณ โฟนอินบ่อยๆ จะกระทบต่อเสถียรภาพรัฐบาลหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่เราต้องยอมรับ ถ้าโฟนอินแล้วทำให้บ้านเมืองวุ่นวาย เราก็ต้องชี้แจงว่าสิ่งที่พ.ต.ท.ทักษิณพูดนั้นไม่ถูกต้องอย่างไร เมื่อถามต่อว่า วิเคราะห์คำพูดของพ.ต.ท.ทักษิณอย่างไรบ้าง ที่บอกว่า จะกลับมาเป็นนายกฯอีกครั้ง นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่ต้องวิเคราะห์หรอก เพราะเขาพูดชัดเจนว่า ไม่ยอมแพ้ และพยายามพูดไปเรื่อย
ท่านเคยบอกเองด้วยซ้ำว่า ท่านจะกลับมาเป็นประธานาธิบดี เราก็ไม่ต้องวิเคราะห์อะไร เพราะไม่ใช่เรื่องที่คุณทักษิณพูดเอง แล้วจะเกิดขึ้นเอง แต่มันอยู่ที่ประชาชนคนไทยทั้งประเทศ เขายอมรับหรือไม่เท่านั้น ส่วนที่เขามั่นใจว่าประชาชนยอมรับนั้นก็ขอให้ รอดูกันต่อไป ขอให้ประชาชนคนไทยอย่าอยู่ด้วยความหวาดวิตก รัฐบาลจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด
ผู้สื่อข่าวถามว่าท่าทีอย่างนี้จะทำให้รัฐบาลทำงานหนักขึ้นหรือไม่ เพราะจะต้องมีการเดินเกมการเมืองทั้งในและนอกสภา มีนายสุเทพ กล่าวว่า ลำบากอยู่แล้ว ตนยอมรับว่า มันมีสถานการณ์ที่ยากลำบากสำหรับรัฐบาลนี้ เราก็ต้องแก้ไขต่อไป เมื่อถามต่อว่า ฝ่ายความมั่นคงมองอย่างไรกับการปลุกกระแสการเมืองในหลายพื้นที่ นายสุเทพ กล่าวว่า ตนไม่ได้ใช้กลไกของฝ่ายความมั่นคงมาเป็นเงื่อนไขสำคัญในการทำงานทางการเมือง เพราะความมั่นคงมันน่าจะเกี่ยวข้องกับการรักษา ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ มากกว่า แต่เรื่องของกระแสประชาชนเป็นเรื่องปกติ เราก็ชี้แจงไป นานไปประชาชนก็เบื่อหน่ายไปเอง
เหลิมฝันแม้วมีโอกาศนั่งนายกฯ
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ประกาศผ่านโฟนอินจะกลับมาเป็นนายกฯอีกครั้งว่า ถ้าพ.ต.ท.ทักษิณพร้อม มีโอกาสและมีจังหวะจะกลับมาทันที แต่ที่สำคัญทิศทางการนำเสนอข่าวของสื่อ ต้องเสนอข้อเท็จจริงกรณีศาลฎีกาแผนคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตัดสินจำคุก 2 ปี ว่าไม่ใช่การทุจริต เพราะถือเป็นการทำนิติกรรม โดยเอาบัตรประชาชนไปซื้อที่ดิน ซึ่งทั่วโลกเขาไม่มี แต่ที่รมว.ต่างประเทศออกมาทำท่าอหังการว่าจะเอาพ.ต.ท.ทักษิณกลับมารับความผิดในฐานะผู้ร้ายข้ามแดน เป็นการเข้าใจผิดทั้งหมด เพราะคนที่มีหน้าที่จริงคืออัยการสูงสุด และคดีที่มีการตัดสินเพียงศาลเดียวจะไม่มีการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน ดังนั้นหาก พ.ต.ท.ทักษิณ ประกาศว่าจะกลับมาก็ไม่ใช่เรื่องที่ผิด
เสนอแคมเปญนิรโทษคดีหลัง19ก.ย.
ผมมีแนวคิดว่าหากถึงเวลาเลือกตั้ง จะปรึกษาในพรรค ให้ออกแคมเปญ ประกาศให้พี่น้องประชาชนทั้งประเทศรู้ว่ามีการเอาที่ดิน สปก. 4-01 ไปแจกคนรวย ที่จ.ภูเก็ต ถ้าผมไม่อภิปรายก็จะไม่มีเรื่องสู่ศาล ซึ่งทั้งศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ และศาลฎีกา สั่งให้คืนที่กลับมาให้ราชการ 12,000 ล้านบาท พรรคประชาธิปัตย์จะต้องรับผิดชอบอะไรบ้าง ก็ไม่มี ผ่านแล้วก็ผ่านไป แต่กรณี พ.ต.ท.ทักษิณถามว่าได้ทำให้สมบัติของชาติเสียหายแม้แต่สตางค์แดงเดียวหรือไม่
นอกจากนี้ถ้าผมทำความเข้าใจกับประชาชนได้และพรรคพวกเห็นด้วยก็จะใช้เป็นนโยบายในการหาเสียงเลือกตั้งครั้งหน้า คือ ไม่ว่าคดีอะไรที่เกิดขึ้นหลัง วันที่ 19 ก.ย. 2549 ซึ่งเป็นต้นเหตุการณ์จากการปฎิวัติที่ต่างชาติไม่ยอมรับผม จะเชิญชวนคนไทยทั่วประเทศไม่ยอมรับเช่นกัน ใครมีโทษ ก็อภัยโทษ ใครยังไม่มีโทษ ก็นิรโทษ ไม่ว่าใครก็ตาม จะเป็นพันธมิตรฯหรือคนที่ถูกตัดสินจำคุก ถ้ามีมูลเหตุจาก 19 ก.ย.ก็ขอให้เลิกทั้งหมด ไม่เช่นนั้นบ้านเมืองจะเดินต่อไปไม่ได้ และความสามัคคีจะไม่เกิ ”ร.ต.อ.เฉลิมกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า การนิรโทษกรรมจะรวมไปถึงคดียุบพรรคด้วยหรือไม่ ร.ต.อ.ฉลิม กล่าวว่า ยังก่อน จะเอาเฉพาะในส่วนที่เป็นคดีอาญาก่อน วันนี้คิดเท่านี้ยังไม่ได้คิดเรื่องการเมือง เมื่อถามว่า หากไม่มีการนิรโทษกรรม อดีตกรรมการบริหารพรรคที่ถูกยุบพ.ต.ท.ทักษิณก็กลับมาเป็นนายกฯตามที่ระบุไม่ได้ ร.ต.อ.เฉลิมตอบว่า เอาทีละสเตป ที่คิดออกมาอย่างนี้เพื่อให้มีข้อยุติ ไม่งั้นทุกอย่าง ก็ไม่จบ เมื่อถามว่า อีกกี่ปี พ.ต.ท.ทักษิณจะกลับมาเป็นนายกฯอีกครั้ง ร.ต.อ.เฉลิมตอบว่า ฝนยังไม่ตก อย่าเพิ่งกางร่ม
น้องแม้วลั่นเอาพี่กลับเร็วที่สุด
ว่าที่ร.ต.พงศ์พันธ์ สุนทรชัย สส.หนองคาย พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า หลังจาก พ.ต.ท.ทักษิณ โฟนอินเข้ามา ส.ส.อีสานของพรรคกว่า 70 คน ได้สัมมนาภายใน โดยมีมติมอบหมายให้ นายพายัพ ชินวัตร น้องชายพ.ต.ท.ทักษิณ รับตำแหน่ง ที่ปรึกษาส.ส.อีสาน เนื่องจากพื้นที่ภาคอีสานเราให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก ถือว่าเป็นทัพหลวงสำหรับการเลือกตั้งของพรรค และหลังจากนี้จะมีหัวหน้าแต่ละจังหวัด โดยแบ่งเป็นโซนๆ อีกชั้น แยกเป็นโซนอีสานเหนือ อีสานกลาง อีสานใต้ ตั้งขึ้นมาเหมือนเป็นองค์กรเพื่อขับเคลื่อนสำหรับการเลือกตั้ง
ว่าที่ รต.พงศ์พันธ์กล่าวว่า นายพายัพกล่าวกับ ส.ส. อีสานว่า รู้สึกดีใจ ที่ได้มาร่วมงาน พร้อมลุยเต็มที่ โดยมีเป้าหมายจะนำ พ.ต.ท. ทักษิณ กลับบ้านให้เร็วที่สุด นอกจากนี้นายพายัพยังเปรียบเทียบว่า ผมเป็นคนขับรถ อยู่บนถนน อยากนำผู้โดยสารส่งถึงปลายทาง
สำหรับการแต่งตั้งนายพายัพครั้งนี้ก็เพื่อทำให้มติของ สส.ภาคอีสานถึง นายใหญ่ ได้โดยตรง เพราะที่ผ่านมา มติภาคอีสานมักไม่ถึงแกนนำ ทำให้เกิดปัญหา การได้นายพายัพมาจะช่วยดูแลตรงนี้ได้ดี และนายพายัพ ยังได้ย้ำว่าจะดูแลทุกอย่างให้ รวมทั้งหลังจากนี้ ส.ส.ภาคอีสานจะทำแผนจัดสัมมนาในภาคอีสาน โดยจะให้นายพายัพ เดินสายให้ครบทุกจังหวัด โดยจะมีแคมเปญว่า จะนำ พ.ต.ท.ทักษิณ กลับบ้านให้เร็วที่สุด เนื่องจากเห็นว่า คนที่จะแก้ปัญหาเศรษฐกิจต้องเป็นพ.ต.ท.ทักษิณ คนเดียว เริ่มที่ จ.หนองคายก่อนในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ เพราะเราคาดว่า อีก 2 เดือนรัฐบาลจะอยู่ไม่ได้จากการขัดขากันเองจนต้องยุบสภา
พท.อึกเหิมหลังทักษิณสู้ต่อ
ว่าที่ร.ต.พงศ์พันธ์กล่าวว่า ที่ประชุมยังมีมติ สลายกลุ่ม สลายมุ้งในภาคอีสาน ให้หมด ซึ่งทุกก๊กในภาคอีสานต่างยอมรับที่จะสลายมุ้ง โดยนายไพจิต ศรีวรขาน หัวหน้ากลุ่มอีสานพัฒนา นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ หัวหน้ากลุ่มขุนค้อน และ นายอัสนี เชิดชัย กลุ่มโคราช ก็เห็นด้วยเพราะที่ผ่านมาการปล่อยให้เกิดมุ้งในภาคอีสาน ทำให้เกิดปัญหา จนบางก๊ก บางมุ้ง เช่น กลุ่มน. ยกมุ้งหนีออกจากพรรค
ว่าที่ ร.ต.พงศ์พันธ์ กล่าวว่าการสัมมนาพรรคเพื่อไทยที่เขาใหญ่ครั้งนี้ ทำให้ ส.ส.อึกเหิมกันมาก โดยเฉพาะการมีคนตระกูลชินวัตรมาร่วมหมด แสดงถึงความสามัคคี ตนเห็นว่า เป็นการเสียสละของคนตระกูลชินวัตรครั้งยิ่งใหญ่ วันโฟนอินอดีตนายกฯ ประโยคที่ทำให้ตนเองมั่นใจในตัว พ.ต.ท.ทักษิณ คือ หากประชาชนพร้อม ท่านก็พร้อมมาเป็นผู้นำอีกครั้งแสดงว่า ท่านยังมีไฟอยู่ ซึ่งพวกเราวิเคราะห์ว่า ท่านอาจไม่ต้องรอถึง 3 ปี แต่จะกลับมาเร็วแน่
เผยแม้วส่งน้องคุมส.ส.ทุกภาค
ว่าที่ ร.ต.พงศ์พันธ์ กล่าวว่า ที่ นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย เสนอไม่ให้ยึดติดตัวบุคคลนั้น ยังทำไม่ได้ เพราะวันนี้พรรคยังติดเรื่องตัวบุคคลอยู่ อีกทั้งชาวบ้านยังรัก พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่ เราต้องเอาพ.ต.ท.ทักษิณ กลับมาเป็นนายกรฯ อีกรอบ จากนั้นหากจะมีการปรับเปลี่ยนอะไรก็ให้ว่าไป แต่วันนี้ชาวบ้านยังศรัทธาในตัวพ.ต.ท.ทักษิณ มากรวมไปถึงโครงการต่างๆสมัยพรรคไทยรักไทย
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับยุทธศาสตร์ในจัดทัพของกลุ่มชินวัตรกับพรรคเพื่อไทย นั้น เบื้องต้นได้วางตัวคนตระกูลชินวัตรดูแลแต่ละภาค โดยภาคเหนือ มีนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ภาคอีสาน นายพายัพ ชินวัตร ภาคกลาง กทม. มี นส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ภาคใต้ นางเยาวเรศ ชินวัตร ส่วนหัวหน้าพรรคคนต่อไป ยังไม่ได้ข้อสรุปยังติดขัดระหว่าง การเลือกคนในตระกูลชินวัตร กับ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รวมถึงแกนนำพรรคอื่น และเร็วๆ นี้ ส.ส.บางส่วนจะรวมตัวเดินไปพบพ.ต.ท.ทักษิณ ในต่างแดน
