นายกฯ รับประกันความเป็นธรรม “แม้ว” เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เข้าใจสถานะ “แม้ว” หลังพิงฝาสู้การเมืองต่อ เขี่ยทิ้งข้อเรียกร้องคนเสื้อแดง ชี้ไม่ใช่ความจำเป็นเร่งด่วนของประเทศ
วันนี้ (3 ก.พ.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ประกาศว่า จะกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง ว่า ยังไม่ได้อ่านรายละเอียด แต่ย้ำว่า ถ้าเข้าเงื่อนไขของกฎหมายก็กลับมาเล่นการเมืองได้ ส่วนที่การ พ.ต.ท.ทักษิณ ระบุว่า เด็กสองคนไม่สามารถแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้นั้น ตนไม่ทราบว่า หมายถึงใคร แต่หากหมายถึงตน และ นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง คิดว่า ตนทำงาน และให้เกียรติทุกคนไม่สบประมาทใคร และถ้าใครตั้งใจทำงานด้วยความซื่อสัตย์ ตนก็จะให้กำลังใจโดยเฉพาะสิ่งที่เป็นผลประโยชน์ของประเทศ
เมื่อถามว่า การประกาศของ พ.ต.ท.ทักษิณ อย่างนี้ จะเป็นอุปสรรคการทำงานของรัฐบาลหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า หวังว่า หากความคิดส่วนตัวเป็นอย่างไร อยากให้ยึดประโยชน์ของประเทศ ตนเข้าใจสถานการณ์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ว่า เป็นเรื่องที่เป็นปัญหาอยู่ ย้ำว่า พร้อมที่จะให้ความเป็นธรรมทุกอย่าง อยากให้ พ.ต.ท.ทักษิณ เข้ามาสู่ระบบ และหากอยากจะเล่นการเมืองก็ทำได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติตามกฎหมาย แม้จะมีความผิดอะไรไปแล้วกฎหมายก็ไม่ได้ห้ามตลอดไป
เมื่อถามว่า รัฐบาลจะทำอย่างไรที่กลุ่มคนเสื้อแดงประกาศเคลื่อนไหวในวันที่ 14 ก.พ.นี้ หากรัฐบาลไม่ยอมทำตามข้อเรียกร้อง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า จะใช้วิธีการพยายามทำความเข้าใจกับฝ่ายต่างๆ รวมถึงฝ่ายค้านด้วย ในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับรัฐธรรมนูญและคดีความ ส่วนกรณีของรัฐมนตรีและการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ถือเป็นการตัดสินใจทางการเมืองที่มีความเห็นที่แตกต่างกันได้ เรื่องการยุบสภาตนได้พูดกับสื่อต่างประเทศว่า ขณะนี้ความจำเป็นของประเทศคือเร่งทำตามข้อผูกพันในฐานะที่เราเป็นประธานอาเซียน เพื่อรักษาความเชื่อมั่นและศักดิ์ศรีของประเทศ ในด้านเศรษฐกิจ ขณะนี้ควรต้องมีความมั่นใจว่า มีมาตรการต่างๆ และมีรัฐบาลที่สามารถทำงานได้ต่อเนื่องระยะหนึ่ง ตรงนี้ตนมองว่า เป็นความจำเป็นเร่งด่วนของประเทศ
เมื่อถามว่า ที่ผ่านมา รัฐบาลได้พยายามทำความเข้าใจแต่ฝ่ายตรงข้ามไม่รับฟัง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เขาอาจจะฟังแต่เห็นแตกต่าง ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดา เมื่อเห็นต่าง ต่างคนก็ทำหน้าที่ในระบบไป ฝ่ายค้านก็ทำหน้าที่ตรวจสอบ จะตั้งกระทู้ ยื่นญัติติอภิปรายไม่ไว้วางใจต่างๆ ก็เป็นสิทธิ์ที่ทำได้ตามกระบวนการ ส่วนประชาชนก็มีสิทธิ์ที่จะชุมนุมเรียกร้องแสดงความพอใจไม่พอใจ แต่ก็ต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย
เมื่อถามว่า นายวิชิต ปลั่งศรีสกุล อดีตกรรมการบริหารไทยรักไทย เสนอให้ยกเลิกประกาศ คปค.ฉบับที่ 30 ก็จะจบปัญหา นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่ตรงกับข้อเรียกร้องของผู้ชุมนุม น่าจะจบปัญหาในส่วนของ นายวิชิต มากกว่า
เมื่อถามว่า รัฐบาลส่งเสริมความสมานฉันท์ แต่ฝ่ายตรงข้ามไม่สมานฉันท์ด้วย รู้สึกท้อหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวปฏิเสธว่าไม่ สำคัญที่สุดในการสร้างความสมานฉันท์ คือ ความอดทนอดกลั่น และการพิสูจน์ความอดทนใช้ระยะเวลาสั้นๆ ไม่ได้ต้องใช้เวลาพิสูจน์
