xs
xsm
sm
md
lg

บอร์ด ตลท.ปรับเกณฑ์ใหม่ 3ข้อ หวังสอดคล้องประกาศของกลต.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - บอร์ด ตลาดหลักทรัพย์ ฯ ปรับปรุงข้อกำหนด 3 ข้อ เลื่อนกำหนดเกณฑ์คุณสมบัติกรรมการอิสระ ยกเลิกข้อกำหนดส่วนกฎหมายเกี่ยวกับรายการเกี่ยวโยงแต่คงการเปิดเผยข้อมูล และปรับปรุงการรับวอร์แรนต์ที่เสนอขายให้ผู้ถือหุ้นเดิม เตรียมเสนอขอความเห็นชอบต่อคณะกรรมการ ก.ล.ต. ต่อไป

คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)ฉบับที่ 7/2552 ลงวันที่28 มกราคม 2552 แจ้งสรุปการปรับปรุงข้อกำหนดของตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่เกี่ยวกับบริษัทจดทะเบียน เพื่อให้สอดคล้องกับประกาศของ ก.ล.ต. 3 เรื่อง ดังนี้

1. เลื่อนการกำหนดใช้หลักเกณฑ์คุณสมบัติกรรมการอิสระในเรื่องสัดส่วนกรรมการอิสระและการพิจารณาคุณสมบัติในอดีตออกไปอีก 1 ปี เพื่อให้สอดคล้องกับกำหนดการของ ก.ล.ต.ตามที่มีมติคณะกรรมการ ก.ล.ต. เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2552

- สัดส่วนกรรมการอิสระ จากเดิมที่กำหนดให้บริษัทจดทะเบียนปัจจุบันต้องมีกรรมการอิสระไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 ของกรรมการทั้งหมด ภายในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นที่จัดในปี 2552 เป็น ภายในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นที่จัดในปี 2553 (สำหรับบริษัทที่เข้าจดทะเบียนใหม่ เกณฑ์ดังกล่าวมีผลบังคับใช้แล้ว)

- การพิจารณาคุณสมบัติในอดีต จากเดิมที่กำหนดให้บริษัทจดทะเบียนมีการพิจารณาคุณสมบัติในอดีตของคณะกรรมการอิสระในช่วง 2 ปีก่อนหน้าให้แล้วเสร็จ ภายในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นที่จัดในปี 2553 เป็น ภายในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นที่จัดในปี 2554 (สำหรับบริษัทที่จะเข้าจดทะเบียนใหม่ ผลใช้บังคับยังคงเป็นไปตามกำหนดการเดิม คือ ภายในการประชุมผู้ถือหุ้นที่จัดในปี 2553)

2. ยกเลิกข้อกำหนดในส่วนที่กฎหมายหรือประกาศของ คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต. )ได้มีการกำหนดไว้แล้ว ได้แก่ยกเลิกเกณฑ์เรื่องข้อบังคับบริษัทหรือบริษัทย่อย โดยเป็นการยกเลิกหลักเกณฑ์ที่

- กำหนดให้บริษัทจดทะเบียนต้องมีข้อบังคับบริษัทหรือบริษัทย่อยที่กำหนดเกี่ยวกับการขอความเห็นชอบจากผู้ถือหุ้นในการทำรายการที่เกี่ยวโยงกัน และการได้มาจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ ซึ่งสำนักงาน ก.ล.ต. ได้ยกเลิกข้อกำหนดดังกล่าวตั้งแต่ 15 ธันวาคม 2551 เนื่องจาก พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม ได้เพิ่มเรื่องรายการที่เกี่ยวโยงกันและการได้มาจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ที่สำคัญ ดังนั้น หากบริษัทไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ดังกล่าว ผู้ถือหุ้นสามารถฟ้องร้องบริษัทได้ และ ก.ล.ต. ก็ยังสามารถดำเนินคดีอาญากับกรรมการและผู้บริหารของบริษัทได้ด้วยยกเลิกหลักเกณฑ์การดำเนินการของบริษัทจดทะเบียนเมื่อบริษัทถูกครอบงำกิจการ

-แต่ยังคงใช้หลักเกณฑ์เดิมในส่วนที่เกี่ยวกับการเปิดเผยข้อมูลเมื่อมีเหตุการณ์ดังกล่าวซึ่ง ก.ล.ต. ได้กำหนดเกณฑ์ครอบคลุมหลักเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์ฯ แล้ว โดย ก.ล.ต. ได้กำหนดให้บริษัทที่ถูกครอบงำกิจการต้องมีที่ปรึกษาทางการเงินอิสระให้ ความเห็นต่อผู้ถือหุ้น และกรณีที่บริษัทมีการกระทำที่เข้าข่ายมีผลกระทบต่อการทำคำ เสนอซื้อหลักทรัพย์ของกิจการ (Frustration action) เช่น การเพิ่มทุน การเข้าทำ สัญญาที่มีจำนวนเงินที่มีนัยสำคัญที่ไม่ได้เป็นธุรกิจปกติ การยกเลิกสัญญาทางการค้าที่สำคัญต่อการดำเนินธุรกิจปกติ เป็นต้น บริษัทต้องขออนุมัติผู้ถือหุ้น และต้องมีคะแนนเสียงตามที่กำหนด

3. ปรับปรุงเกณฑ์การรับใบสำคัญแสดงสิทธิ (warrant) ในเรื่องเกณฑ์การเปิดเผยข้อมูลที่เสนอขายต่อผู้ถือหุ้นเดิม ตามที่ ก.ล.ต. ได้ปรับปรุงขั้นตอนการอนุญาตการเสนอขาย Warrant ที่เสนอขายต่อผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วน เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2551 โดยปรับเป็นการอนุญาตเป็นการทั่วไป ทำให้บริษัทไม่ต้องยื่นคำขออนุญาตและเปิดเผยข้อมูลต่อ ก.ล.ต. ก่อนการเสนอขาย

ดังนั้น เพื่อให้ Warrant ที่จะมาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ มีการเปิดเผยข้อมูลครบถ้วนเช่นเดิม ตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงเพิ่มเติมหลักเกณฑ์เปิดเผยข้อมูล ดังนี้

- การเปิดเผยข้อมูลต่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิจองซื้อ กล่าวคือให้ผู้ออก warrant จัดส่งสารสนเทศขั้นต่ำตามที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ กำหนด ให้ผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิที่จะจองซื้อ warrant ทั้งนี้ ใน กรณีที่ต้องชำระเงินค่า warrant บริษัทจะต้องส่งเอกสารล่วงหน้าก่อนวันเริ่มจองซื้อ

- การเปิดเผยข้อมูลต่อผู้ลงทุนที่จะซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยให้ผู้ออก warrantเปิดเผยสารสนเทศขั้นต่ำตามที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ กำหนด ผ่านระบบของตลาดหลักทรัพย์ฯ เช่น ข้อกำหนดสิทธิ รวมถึงการเปิดเผยว่าผู้ออกและ warrant มีคุณสมบัติครบถ้วนตามที่ ก.ล.ต.กำหนดด้วย ทั้งนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะทำการเสนอขอความเห็นชอบต่อคณะกรรมการ ก.ล.ต. ต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น