xs
xsm
sm
md
lg

ราคาหุ้นSECCรูดหนักเกือบ72%

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน – ราคาหุ้น SECC และวอร์แรนต์ รูดต่อเนื่อง หลังผู้บริหารหนีออกไปต่างประเทศ โดยหุ้นแม่ปรับลดจากวันที่มีข่าวเกือบ 72% ขณะที่วอร์แรนต์ลดลงเกือบ 34% แม้วานนี้วอร์แรนต์จะขยับบวกเล็กน้อย ด้านศูนย์รับฝากฯเตือนนักลงทุน-โบรกเกอร์ระวังใบหุ้นปลอมในหุ้นเล็กมีการซื้อขายหวือหวาผิดปกติ หลังพบกรณีหุ้น เอส.อี.ซี ออโต้ดซลส์ พร้อมแนะนักลงทุนตรวจสอบใบหุ้น –ให้ผู้เสียหายชี้เบาะแสเอาผิดผู้กระทำความผิด ขณะนี้ตำรวจอยู่ระหว่างสอบสวน ด้าน ก.ล.ต. เร่งโบรกเกอร์แจงความเสียหาย

ราคาหุ้น บริษัท เอส.อี.ซี. ออโต้เซลส์ แอนด์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ SECC ยังรูดลงต่อเนื่อง โดยเปิดตลาดวานนี้ที่ 0.21 บาทและค่อย ๆ รูดลงไปต่ำสุดที่ 0.19 บาท ขณะที่ช่วงบ่ายราคาหุ้นปรับเพิ่มขึ้นสูงสุดที่ 0.30 บาทก่อนจะปรับลงปิดตลาดที่ราคา 0.23 บาท หรือลดลง 0.04 บาท คิดเป็นลดลง 14.81 % ด้วยมูลค่าซื้อขาย 35.79 ล้านบาท ถือเป็นการลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เดือน พ.ย.ที่ผ่านมา ขณะที่ราคาของใบสำคัญแสดงสิทธิ (วอร์แรนต์) หรือ SECC-W1 วานนี้ปิดที่ 0.08 บาท เพิ่มขึ้น 0.02 บาท คิดเป็น 33.33 % ด้วยมูลค่าซื้อขาย 1.14 ล้านบาท โดยทั้งหุ้นแม่และวอร์แรนต์ราคารูดลงตามหุ้นแม่ตั้งแต่ต้นเดือน พ.ย. แล้ว โดยเฉพาะภายหลังการหนีออกไปนอกประเทศของผู้บริหาร เมื่อ 27 พ.ย. ราคาหุ้นยิ่งรูดหนักต่อเนื่อง หากเทียบราคาหุ้นช่วงวันดังกล่าวกระทั่งถึงวานนี้ พบว่า ราคาหุ้นปรับลดลง 71.23% ขณะที่ราคาวอร์แรนต์ปรับลดลง 33.33%

นางสาวโสภาวดี เลิศมนัยชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ TSD เปิดเผยถึงกรณีพบใบหุ้นปลอมของ SECC ว่าส่วนตัวเชื่อว่าจะมีใบหุ้นปลอดของ SECC จำนวนมาก หลังจากที่มีบริษัทหลักทรัพย์ 1 แห่ง พบใบหุ้นปลอม 2 ใบ ใบละ 10 ล้านหุ้น ซึ่งเป็นชื่อของเจ้าของบริษัท หรือนายสมพงษ์ วิทยารักษ์สรรค์

ดังนั้นนักลงทุนที่มีใบหุ้นSECC นั้นควรที่จะนำใบหุ้นมาให้ทางTSD ตรวจสอบว่าเป็นใบหุ้นปลอมหรือไม่เพื่อที่จะได้ทราบว่าใบหุ้นที่ตนเองถือนั้นไม่มีค่า และจะยิ่งดีหากนักลงทุนที่ได้รับความเสียหายเข้ามาให้เบาะแสว่าได้รับใบหุ้นปลอมมาจากไหนเพื่อที่จะได้ทราบผู้กระทำความผิด และนักลงทุนที่ได้รับความเสียหายจะได้มีการรวมตัวกันเพื่อที่จะมีการฟ้องร้องได้

"ส่วนตัวเชื่อว่าใบหุ้นปลอมของSECC อีกมากพอสมควร ซึ่งจะกระจายความเสียหายแก่โบรกเกอร์ต่างๆ จากที่ผ่านมาโบรกเกอร์มีการแข่งขันเพื่อที่จะได้ลูกค้า ซึ่งนักลงทุนที่มีใบหุ้นดังกล่าวอยู่ควรที่จะนำมาให้เราตรวจสอบเพื่อที่จะได้ทราบว่าใบหุ้นที่ถือนั้นไม่มีค่า ซึ่งจะเป็นการดีหากผู้เสียหายมาให้เบาะแสเพื่อที่จะได้รู้ว่าใครเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง และจะได้มีการดำเนินคดีฟ้องร้องต่อไป "นางโสภาวดี กล่าว

ทั้งนี้ ทางTSDเมื่อพบใบหุ้นปลอมได้มีการแจ้งตำรวจให้มีการสืบสวนเรื่องดังกล่าวเพื่อที่จะดำเนินการหาผู้กระทำความผิด และเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ทางTSD ได้มีการส่งหนังสือเวียนไปยังบริษัทหลักทรัพย์ต่างๆให้มีการตรวจสอบและระมัดระวังในเรื่องใบหุ้นปลอมในการเอาไปค้ำประกันเงินกู้ ซึ่งถือว่าเป็นการฉ้อโกง และหากมีการพบว่ามีใบหุ้นปลอมจะได้รวบรวมหลักฐานให้กับทางตำรวจไปสืบสวนเพิ่มเติม

สำหรับกรณีของSEECนั้น นักลงทุนและโบรกเกอร์ควรที่จะต้องมีความระมัดระวังใบหุ้นปลอมในหุ้นขนาดเล็กที่มีการซื้อขายที่หวือหวาผิดปกติ แต่เชื่อว่าจะไม่น่าจะมีใบหุ้นปลอมในหุ้นขนาดใหญ่ โดยที่ผ่านมาทาง TSD ได้มีการส่งเสริมให้นักลงทุนมีการฝากหุ้นโดยใน ระบบไร้ใบหลักทรัพย์ (Scripless) ซึ่งผู้ถือครองหลักทรัพย์ในรูปแบบที่ไม่มีใบหลักทรัพย์ โดยยอดหุ้นของผู้ฝากจะถูกบันทึกและเก็บรักษาในระบบงานที่มีความ ปลอดภัยสูง มีประสิทธิภาพ และเพิ่มความสะดวกในการซื้อขายหลักทรัพย์ของนักลงทุนมากยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน ทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)ได้แจ้งให้ทางโบรกเกอร์ต่างๆมีการแจ้งความเสียหายที่เกิดจากใบหุ้นปลอมของSECC โดยแบบรายงานการได้มาหรือจำหน่ายหลักทรัพย์ของกิจการ (แบบ 246-2) สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) แจ้งว่า นางสาวทวีวรรณ ธนศรีพนิชชัย ได้มีการซื้อหุ้น บริษัท บริษัท เอส.อี.ซี. ออโต้เซลส์ แอนด์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ SECC เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2551 แต่ได้แจ้งต่อ ก.ล.ต. วันที่ 2 ธันวาคม 2551 โดยซื้อจำนวน 59.56 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 9.63% ราคาหุ้นละ 0.38 บาทต่อหุ้น ซึ่งเป็นการเข้ามาซื้อครั้งแรก โดยเป็นการซื้อหุ้นผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
กำลังโหลดความคิดเห็น