"ลีโอน่า" โหมตลาดมือถือสุดฤทธิ์ เตรียมปล่อยรุ่นใหม่ ยึดหัวหาดจับกลุ่มกระเป๋าระดับกลางถึงบนอีก 10 รุ่น หลังพบเป็นพระเอก ช่วยดันรายได้โต10%ในปีก่อน ฟากเอวี ส่งเครื่องเสียงหัวหอกรักษาตลาด มั่นใจปีนี้ยังโตได้อีก 10% แย้มกลางปีพร้อมร่วมทุนผุดธุรกิจใหม่ จับตลาดสินค้าเทคโนโลยี ที่มีเทรนด์มาแรง
นายวิชิต อำนวยรักษ์สกุล ประธานกรรมการ บริษัท โกรว์ ริช เอ็นเทอร์ไพรช์ จำกัด ผู้จัดจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้ากลุ่มภาพและเสียง แบรนด์ ลีโอน่า และโทรศัพท์เคลื่อนที่ ดีโฟน เปิดเผยว่า ในปีที่ผ่านมา หลังจากบริษัทฯได้เข้ามาทำตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่ในฟังก์ชั่นที่ดูทีวีได้ โดยนำเข้ามาจำหน่ายกว่า 10 รุ่นนั้น พบว่าได้รับการตอบรับที่ดี หรือมียอดขายเป็นไปตามที่วางไว้ ส่งผลให้สัดส่วนรายได้ในปีที่ผ่านมา เป็นมือถือ 35% และเอวี 65% และมีการเติบโตขึ้น 10% ซึ่งการเติบโตดังกล่าวมาจากมือถือเป็นหลัก
"ยอมรับว่าการจับตลาดมือถือช่วยให้บริษัทมีการเติบโตขึ้น เนื่องจากตลาดดีวีดีในปีก่อนเติบโตลดลง ทั้งนี้มองว่าเกิดจากความอิ่มตัวของตลาด จึงทำให้ยอดขายของกลุ่มเอวีปีก่อนลดลง แต่เนื่องจากมือถือยอดขายดีจึงช่วยให้ภาพรวมบริษัทฯจึงยังเติบโตได้ 10%"
ทั้งนี้ตลาดมือถือมูลค่า 9.5 ล้านเครื่องในปีก่อน พบว่ากลุ่มมือถือโลคอลมีการเติบโตที่ดีมาก คิดเป็นสัดส่วนถึง30%ในตลาด โดยการเติบโตนี้เกิดจากฟังก์ชั่นการทำงานที่ใกล้เคียงกับอินเตอร์แบรนด์ แต่มีราคาที่ถูกกว่า จึงทำให้มือถือโลคอลมีสัดส่วนที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ในปีนี้จึงยังมั่นใจว่ามือถือโลคอลจะมีการเติบโตที่เพิ่มขึ้น จากผู้เล่นประมาณ 10 กว่าราย ดังนั้นบริษัทฯจึงเตรียมที่จะเพิ่มมือถือที่สามารถดูทีวีได้เข้ามาอีกประมาณ 10 รุ่น ระดับราคาเริ่มตั้งแต่ 5,900-9,900 บาท จับกลุ่มตลาดกลางถึงบน วางจำหน่ายในโมเดิร์นเทรดเป็นหลักถึง 90% เช่น บิ๊กซ๊ และเดอะมอลล์ คาดว่าจะส่งผลให้สัดส่วนรายได้จากมือถือปีนี้ขยับขึ้นเป็น 50% และเอเวี50%
อย่างไรก็ตามสินค้าในกลุ่มเอวี บริษัทฯจะพยายามรักษาตลาดนี้ให้ให้ได้ โดยปีนี้จะมุ่งทำตลาดสินค้ากลุ่มเครื่องเสียงมากยิ่งขึ้น ขณะที่ดีวีดียังคงทำตลาดอยู่เช่นเดิม เชื่อว่าจะช่วยให้บริษัทฯรักษาตลาดเอวีไว้ได้อยู่ หรือทั้งปีมั่นใจว่าบริษัทฯจะมีการเติบโตขึ้นอีกอย่างน้อย 10% ภายใต้งบการตลาดที่ใช้ไม่สูงมาก เน้นบิโลว์เดอะไลน์ และบริการหลังการขายเป็นหลัก
นายวิชิต กล่าวต่อว่า นอกจากธุรกิจภายใต้บริษัท โกร์ว ริชฯ แล้ว ช่วงกลางปีนี้จะมีการร่วมทุนกับนักธุรกิจในประเทศไทย ในการทำธุรกิจร่วมกันภายใต้บริษัทที่ตั้งมาใหม่ โดยธุรกิจดังกล่าวนี้จะเป็นสินค้าเทคโนโลยี ที่พบว่ากำลังมีเทรนด์ที่มาแรง อย่างไรก็ตามสินค้าตัวนี้ไม่ได้เอื้อกับธุรกิจที่ทำอยู่แต่อย่างไร คาดว่าชาวงกลางปีจะสามารถเปิดเผยความคืบหน้าได้
นายวิชิต อำนวยรักษ์สกุล ประธานกรรมการ บริษัท โกรว์ ริช เอ็นเทอร์ไพรช์ จำกัด ผู้จัดจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้ากลุ่มภาพและเสียง แบรนด์ ลีโอน่า และโทรศัพท์เคลื่อนที่ ดีโฟน เปิดเผยว่า ในปีที่ผ่านมา หลังจากบริษัทฯได้เข้ามาทำตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่ในฟังก์ชั่นที่ดูทีวีได้ โดยนำเข้ามาจำหน่ายกว่า 10 รุ่นนั้น พบว่าได้รับการตอบรับที่ดี หรือมียอดขายเป็นไปตามที่วางไว้ ส่งผลให้สัดส่วนรายได้ในปีที่ผ่านมา เป็นมือถือ 35% และเอวี 65% และมีการเติบโตขึ้น 10% ซึ่งการเติบโตดังกล่าวมาจากมือถือเป็นหลัก
"ยอมรับว่าการจับตลาดมือถือช่วยให้บริษัทมีการเติบโตขึ้น เนื่องจากตลาดดีวีดีในปีก่อนเติบโตลดลง ทั้งนี้มองว่าเกิดจากความอิ่มตัวของตลาด จึงทำให้ยอดขายของกลุ่มเอวีปีก่อนลดลง แต่เนื่องจากมือถือยอดขายดีจึงช่วยให้ภาพรวมบริษัทฯจึงยังเติบโตได้ 10%"
ทั้งนี้ตลาดมือถือมูลค่า 9.5 ล้านเครื่องในปีก่อน พบว่ากลุ่มมือถือโลคอลมีการเติบโตที่ดีมาก คิดเป็นสัดส่วนถึง30%ในตลาด โดยการเติบโตนี้เกิดจากฟังก์ชั่นการทำงานที่ใกล้เคียงกับอินเตอร์แบรนด์ แต่มีราคาที่ถูกกว่า จึงทำให้มือถือโลคอลมีสัดส่วนที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ในปีนี้จึงยังมั่นใจว่ามือถือโลคอลจะมีการเติบโตที่เพิ่มขึ้น จากผู้เล่นประมาณ 10 กว่าราย ดังนั้นบริษัทฯจึงเตรียมที่จะเพิ่มมือถือที่สามารถดูทีวีได้เข้ามาอีกประมาณ 10 รุ่น ระดับราคาเริ่มตั้งแต่ 5,900-9,900 บาท จับกลุ่มตลาดกลางถึงบน วางจำหน่ายในโมเดิร์นเทรดเป็นหลักถึง 90% เช่น บิ๊กซ๊ และเดอะมอลล์ คาดว่าจะส่งผลให้สัดส่วนรายได้จากมือถือปีนี้ขยับขึ้นเป็น 50% และเอเวี50%
อย่างไรก็ตามสินค้าในกลุ่มเอวี บริษัทฯจะพยายามรักษาตลาดนี้ให้ให้ได้ โดยปีนี้จะมุ่งทำตลาดสินค้ากลุ่มเครื่องเสียงมากยิ่งขึ้น ขณะที่ดีวีดียังคงทำตลาดอยู่เช่นเดิม เชื่อว่าจะช่วยให้บริษัทฯรักษาตลาดเอวีไว้ได้อยู่ หรือทั้งปีมั่นใจว่าบริษัทฯจะมีการเติบโตขึ้นอีกอย่างน้อย 10% ภายใต้งบการตลาดที่ใช้ไม่สูงมาก เน้นบิโลว์เดอะไลน์ และบริการหลังการขายเป็นหลัก
นายวิชิต กล่าวต่อว่า นอกจากธุรกิจภายใต้บริษัท โกร์ว ริชฯ แล้ว ช่วงกลางปีนี้จะมีการร่วมทุนกับนักธุรกิจในประเทศไทย ในการทำธุรกิจร่วมกันภายใต้บริษัทที่ตั้งมาใหม่ โดยธุรกิจดังกล่าวนี้จะเป็นสินค้าเทคโนโลยี ที่พบว่ากำลังมีเทรนด์ที่มาแรง อย่างไรก็ตามสินค้าตัวนี้ไม่ได้เอื้อกับธุรกิจที่ทำอยู่แต่อย่างไร คาดว่าชาวงกลางปีจะสามารถเปิดเผยความคืบหน้าได้