บลจ.วรรณแย้ม TDEX มีโอกาสจ่ายปันผลรอบ 2 ช่วงกันยายนนี้ หลังเอ็นเอวีพุ่งตามตลาดหุ้น เชื่อกองทุนไม่ขาดทุนหากตลาดตกหนัก ระบุเตรียมนำเงินปันผลหุ้น 50 ตัวในพอร์ต เฉลี่ยจ่ายผู้ถือหน่วย เผยข่าวดีล่าสุด เผย กลต.ผ่อนผันให้จ่ายปันผลเป็นรอบการลงทุน แต่ต้องไม่ขาดทุนสะสมเพิ่ม
นายชัยพฤกษ์ กุลกาญจนาธร ผู้จัดการกองทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) วรรณ จำกัด เปิดเผยว่า กองทุนไทยเด็กซ์เซ็ท 50 อีทีเอฟ (TDEX) มีแนวโน้มสูงในการจ่ายเงินปันผลรอบ 2 ให้แก่นักลงทุน โดยคาดว่าจะสามารถจ่ายได้ในช่วงเดือนประมาณปลายเดือนสิงหาคม ต้นเดือนกันยายนนี้ ล่าสุดเมื่อวันที่ 22 กรกฏาคม 2552 พบว่ามูลค่าทรัพย์สินสุทธิ(เอ็นเอวี)ของกองทุนเปิด TDEX อยู่ที่ 2,102.13 ล้านบาท ซึ่งเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นตามดัชนีตลาดหุ้นในขณะนี้
ทั้งนี้ การเพิ่มขึ้นของตลาดหุ้นหากเมื่อเทียบกับช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา ที่บริษัทมีการจ่ายเงินปันผลให้แก่นักลงทุนในจำนวน 0.20 บาทต่อหน่วยลงทุนของรอบการลงทุนระหว่างวันที่ 1 มกราคม – 30 เมษายน 2552 ทำให้โอกาสที่กองทุนจะมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นและจ่ายเงินปันผลคืนให้แก่นักลงทุนได้อีก 1 รอบการลงทุน
“สำหรับการจ่ายเงินปันผลของกองทุนจะมีจำนวนเท่าไหร่นั้น ขึ้นอยู่กับว่าบริษัทที่กองทุนได้ลงทุนทั้งหมด 50 ตัวในตลาดได้จ่ายปันผลออกมาเป็นจำนวนเท่าใด โดยบริษัทจะนำเงินก้อนนั้นออกมาเฉลี่ยจ่ายคืนในรูปแบบของเงินปันผลให้แก่นักลงทุน”นายชัยพฤกษ์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม คาดว่าดัชนีตลาดหุ้นหลังจากนี้จะปรับตัวขึ้นๆลงๆ อยู่ในระดับนี้ โดยแนวโน้มที่จะปรับตัวเพิ่มขึ้นแรงเป็นไปได้น้อยมาก ขณะเดียวกันมองว่าดัชนีคงจะไม่ปรับตัวลงไปลึกมากอย่างเช่นปีที่ผ่านจนทำให้กองทุนTDEXขาดทุนและไม่สามารถจ่ายเงินปันผลให้แก่นักลงทุนได้นั้น ซึ่งคาดว่าจะมีโอกาสเกิดขึ้นน้อย
นอกจากนี้ ในเรื่องของการจ่ายปันผลของกองทุน TDEX ที่ติดกฏของคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ขณะนี้ กลต.ได้มีการผ่อนผันเกี่ยวกับการจ่ายเงินปันผลของกองทุน TDEX โดยกำหนดให้มีการจ่ายเงินปันผลให้แก่นักลงทุนได้ หากว่ารอบการลงทุนนั้นๆกองทุนมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น โดยห้ามจ่ายเกินกำไรสุทธิที่เกิดขึ้น และเมื่อจ่ายเงินปันผลไปแล้วกองทุนจะต้องไม่มียอดขาดทุนสะสมเพิ่ม ซึ่งการลงทุนของกองทุนในรอบนั้นๆหากไม่มีกำไรหรือขาดทุนก็จะไม่สามารถจ่ายเงินปันผลให้แก่นักลงทุนได้
นายชัยพฤกษ์ กล่าวอีกว่า แม้จะมีการเปิดขายกองทุนเปิด ThaiDex FTSE SET Large Cap ETF: TFTSE (ที ฟุตซี่) ก็ไม่ได้ทำให้เอ็นเอวีของกองทุนTDEXปรับตัวลดลงแต่อย่างใด นักลงทุนที่ชอบการลงทุนในหุ้นพลังงานซึ่งเป็นหุ้นกลุ่มนำตลาดยังคงเข้ามาลงทุนอย่างต่อเนื่อง แต่สำหรับกองทุนเปิด TFTSE จะเน้นนักลงทุนที่ชอบลงทุนในหุ้นกลุ่มแบงก์ เนื่องจากพอร์ตการลงทุนเน้นลงทุนกลุ่มนี้เป็นหลัก
“ขณะนี้นักลงทุนไม่ได้มีการไถ่ถอนหน่วยลงทุนออกเพื่อไปลงทุนในกองทุนเปิด TFTSE แต่จะมีนักลงทุนเข้ามาทำกำไรจากกองทุนเปิดTDEX ทำให้เอ็นเอวีของกองทุนเพิ่มขึ้นด้วย โดยนักลงทุนเลือกที่จะซื้อขายระยะสั้นเพื่อสร้างผลตอบแทนจากการลงทุน”นายชัยพฤกษ์กล่าว
สำหรับกองทุนเปิด TFTSE ได้เปิดจองซื้อหน่วยลงทุนในระหว่างวันที่ 20-27 กรกฎาคม 2552 นี้ โดยกำหนดมูลค่าขั้นต่ำในการซื้อไว้ที่ 10,000 บาท และเพิ่มขึ้นทุก 5,000 บาท ซึ่งมีราคาไอพีโอ อยู่ที่ 10 บาทต่อหน่วยลงทุน
นายชัยพฤกษ์ กุลกาญจนาธร ผู้จัดการกองทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) วรรณ จำกัด เปิดเผยว่า กองทุนไทยเด็กซ์เซ็ท 50 อีทีเอฟ (TDEX) มีแนวโน้มสูงในการจ่ายเงินปันผลรอบ 2 ให้แก่นักลงทุน โดยคาดว่าจะสามารถจ่ายได้ในช่วงเดือนประมาณปลายเดือนสิงหาคม ต้นเดือนกันยายนนี้ ล่าสุดเมื่อวันที่ 22 กรกฏาคม 2552 พบว่ามูลค่าทรัพย์สินสุทธิ(เอ็นเอวี)ของกองทุนเปิด TDEX อยู่ที่ 2,102.13 ล้านบาท ซึ่งเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นตามดัชนีตลาดหุ้นในขณะนี้
ทั้งนี้ การเพิ่มขึ้นของตลาดหุ้นหากเมื่อเทียบกับช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา ที่บริษัทมีการจ่ายเงินปันผลให้แก่นักลงทุนในจำนวน 0.20 บาทต่อหน่วยลงทุนของรอบการลงทุนระหว่างวันที่ 1 มกราคม – 30 เมษายน 2552 ทำให้โอกาสที่กองทุนจะมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นและจ่ายเงินปันผลคืนให้แก่นักลงทุนได้อีก 1 รอบการลงทุน
“สำหรับการจ่ายเงินปันผลของกองทุนจะมีจำนวนเท่าไหร่นั้น ขึ้นอยู่กับว่าบริษัทที่กองทุนได้ลงทุนทั้งหมด 50 ตัวในตลาดได้จ่ายปันผลออกมาเป็นจำนวนเท่าใด โดยบริษัทจะนำเงินก้อนนั้นออกมาเฉลี่ยจ่ายคืนในรูปแบบของเงินปันผลให้แก่นักลงทุน”นายชัยพฤกษ์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม คาดว่าดัชนีตลาดหุ้นหลังจากนี้จะปรับตัวขึ้นๆลงๆ อยู่ในระดับนี้ โดยแนวโน้มที่จะปรับตัวเพิ่มขึ้นแรงเป็นไปได้น้อยมาก ขณะเดียวกันมองว่าดัชนีคงจะไม่ปรับตัวลงไปลึกมากอย่างเช่นปีที่ผ่านจนทำให้กองทุนTDEXขาดทุนและไม่สามารถจ่ายเงินปันผลให้แก่นักลงทุนได้นั้น ซึ่งคาดว่าจะมีโอกาสเกิดขึ้นน้อย
นอกจากนี้ ในเรื่องของการจ่ายปันผลของกองทุน TDEX ที่ติดกฏของคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ขณะนี้ กลต.ได้มีการผ่อนผันเกี่ยวกับการจ่ายเงินปันผลของกองทุน TDEX โดยกำหนดให้มีการจ่ายเงินปันผลให้แก่นักลงทุนได้ หากว่ารอบการลงทุนนั้นๆกองทุนมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น โดยห้ามจ่ายเกินกำไรสุทธิที่เกิดขึ้น และเมื่อจ่ายเงินปันผลไปแล้วกองทุนจะต้องไม่มียอดขาดทุนสะสมเพิ่ม ซึ่งการลงทุนของกองทุนในรอบนั้นๆหากไม่มีกำไรหรือขาดทุนก็จะไม่สามารถจ่ายเงินปันผลให้แก่นักลงทุนได้
นายชัยพฤกษ์ กล่าวอีกว่า แม้จะมีการเปิดขายกองทุนเปิด ThaiDex FTSE SET Large Cap ETF: TFTSE (ที ฟุตซี่) ก็ไม่ได้ทำให้เอ็นเอวีของกองทุนTDEXปรับตัวลดลงแต่อย่างใด นักลงทุนที่ชอบการลงทุนในหุ้นพลังงานซึ่งเป็นหุ้นกลุ่มนำตลาดยังคงเข้ามาลงทุนอย่างต่อเนื่อง แต่สำหรับกองทุนเปิด TFTSE จะเน้นนักลงทุนที่ชอบลงทุนในหุ้นกลุ่มแบงก์ เนื่องจากพอร์ตการลงทุนเน้นลงทุนกลุ่มนี้เป็นหลัก
“ขณะนี้นักลงทุนไม่ได้มีการไถ่ถอนหน่วยลงทุนออกเพื่อไปลงทุนในกองทุนเปิด TFTSE แต่จะมีนักลงทุนเข้ามาทำกำไรจากกองทุนเปิดTDEX ทำให้เอ็นเอวีของกองทุนเพิ่มขึ้นด้วย โดยนักลงทุนเลือกที่จะซื้อขายระยะสั้นเพื่อสร้างผลตอบแทนจากการลงทุน”นายชัยพฤกษ์กล่าว
สำหรับกองทุนเปิด TFTSE ได้เปิดจองซื้อหน่วยลงทุนในระหว่างวันที่ 20-27 กรกฎาคม 2552 นี้ โดยกำหนดมูลค่าขั้นต่ำในการซื้อไว้ที่ 10,000 บาท และเพิ่มขึ้นทุก 5,000 บาท ซึ่งมีราคาไอพีโอ อยู่ที่ 10 บาทต่อหน่วยลงทุน
