ASTVผู้จัดการรายวัน-“พาณิชย์”รับทำอะไรไม่ได้ หลังร้านทองปิดหนี ไม่ยอมรับซื้อทองคำจากประชาชน เหตุคุมได้เฉพาะการแข่งขัน ราคา และปริมาณเท่านั้น
นายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยถึงกรณีที่สมาคมผู้ค้าทองคำได้ประกาศปิดร้านค้าทอง 2 วันว่า กรมฯ คงไม่สามารถเข้าไปควบคุมได้ เพราะไม่ได้เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายที่กรมฯ ดูแลอยู่ ทั้งในแง่ของการผูกขาด การปรับขึ้นราคาโดยไม่เป็นธรรม และการจำหน่ายทองคำที่ไม่ต้องตามปริมาณที่กำหนดไว้ และเรื่องนี้ไม่เข้าข่ายการปฏิเสธการขาย เพราะเป็นการปิดร้านทั้งหมด ไม่ใช่เปิดร้าน แต่ไม่ยอมรับซื้อ หรือเลือกขายเพียงอย่างเดียว
“การซื้อขายทองคำในช่วงนี้ เข้าใจว่าเป็นการซื้อขายเพื่อเก็งกำไรจากราคาทองคำที่เพิ่มสูงขึ้น เพราะราคาผันผวนขึ้นลงวันละ 6-7 รอบ คนเลยนำทองคำมาขายกันมาก หากยังเปิดให้ซื้อขายต่อไปก็อาจทำให้เกิดการเก็งกำไรเพิ่มขึ้น การปิดร้านหยุดซื้อขายในช่วงนี้ น่าจะกระทบต่อนักเก็งกำไรเท่านั้น ส่วนประชาชนทั่วไป สามารถขายได้ในช่วงที่ร้านค้าเปิดทำการ”นายยรรยงกล่าว
รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนเป็นจำนวนมากว่า ได้รับความเดือดร้อนจากการปิดร้านทอง เพราะไม่มีช่องทางจำหน่ายออก ทั้งที่บางรายไม่ใช่นักเก็งกำไร แต่มีความจำเป็นต้องใช้เงินช่วงเทศกาลตรุษจีนและช่วงสิ้นเดือน ทำให้ไม่สามารถนำทรัพย์สินไปขายได้ ต้องหาทางออกด้วยการเข้าโรงรับจำนำแทน แต่ก็ถูกกดราคาและเสียดอกเบี้ยแพงมาก ขณะที่ผู้ซื้อทองคำเพื่อการออมก็เสียโอกาสขายทองคำในช่วงราคาดีเช่นกัน
ทั้งนี้ เหตุผลที่แจ้งเข้ามาระบุว่า ไม่อยากให้รัฐมองเป็นเรื่องของการเก็งกำไรอย่างเดียว แต่อยากให้มองถึงความถูกต้องในการค้าขายด้วย เพราะลูกค้าซื้อทองมีสิทธิซื้อขายได้โดยชอบธรรม ไม่ใช่พอร้านทองเห็นว่ามีความเสี่ยงก็ปิดร้าน แต่พอเห็นช่วงทำกำไรดีก็กลับมาเปิดใหม่ ทำลักษณะนี้เหมือนเป็นการเอาเปรียบ ให้ลูกค้าต้องรับความเสี่ยงจากราคาทองผันผวนเอง และการปิดครั้งนี้ทำให้เสียโอกาสที่จะขายทองคำออกไปช่วงราคาดีด้วย
ส่วนข้อเสนอ ต้องการให้รัฐบาลเข้ามาดูแลกำกับการเปิดปิด เหมือนการรับแลกซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยนของธนาคารพาณิชย์ แม้ค่าเงินผันผวนก็ยังเปิดให้ซื้อขายปกติ
สำหรับแนวโน้มราคาทองคำปัจจุบันปรับขึ้นต่อเนื่องนับจากปลายปีที่แล้ว โดยราคารับซื้อกรุงเทพฯ ชนิดทองคำแท่ง บาทละ 14,500 บาท ขายบาทละ 14,600 บาท ขณะที่ทองรูปพรรณซื้อบาทละ 14,295 บาท ขายบาทละ 14,600 บาท ไม่รวมค่ากำเหน็จ
นายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยถึงกรณีที่สมาคมผู้ค้าทองคำได้ประกาศปิดร้านค้าทอง 2 วันว่า กรมฯ คงไม่สามารถเข้าไปควบคุมได้ เพราะไม่ได้เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายที่กรมฯ ดูแลอยู่ ทั้งในแง่ของการผูกขาด การปรับขึ้นราคาโดยไม่เป็นธรรม และการจำหน่ายทองคำที่ไม่ต้องตามปริมาณที่กำหนดไว้ และเรื่องนี้ไม่เข้าข่ายการปฏิเสธการขาย เพราะเป็นการปิดร้านทั้งหมด ไม่ใช่เปิดร้าน แต่ไม่ยอมรับซื้อ หรือเลือกขายเพียงอย่างเดียว
“การซื้อขายทองคำในช่วงนี้ เข้าใจว่าเป็นการซื้อขายเพื่อเก็งกำไรจากราคาทองคำที่เพิ่มสูงขึ้น เพราะราคาผันผวนขึ้นลงวันละ 6-7 รอบ คนเลยนำทองคำมาขายกันมาก หากยังเปิดให้ซื้อขายต่อไปก็อาจทำให้เกิดการเก็งกำไรเพิ่มขึ้น การปิดร้านหยุดซื้อขายในช่วงนี้ น่าจะกระทบต่อนักเก็งกำไรเท่านั้น ส่วนประชาชนทั่วไป สามารถขายได้ในช่วงที่ร้านค้าเปิดทำการ”นายยรรยงกล่าว
รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนเป็นจำนวนมากว่า ได้รับความเดือดร้อนจากการปิดร้านทอง เพราะไม่มีช่องทางจำหน่ายออก ทั้งที่บางรายไม่ใช่นักเก็งกำไร แต่มีความจำเป็นต้องใช้เงินช่วงเทศกาลตรุษจีนและช่วงสิ้นเดือน ทำให้ไม่สามารถนำทรัพย์สินไปขายได้ ต้องหาทางออกด้วยการเข้าโรงรับจำนำแทน แต่ก็ถูกกดราคาและเสียดอกเบี้ยแพงมาก ขณะที่ผู้ซื้อทองคำเพื่อการออมก็เสียโอกาสขายทองคำในช่วงราคาดีเช่นกัน
ทั้งนี้ เหตุผลที่แจ้งเข้ามาระบุว่า ไม่อยากให้รัฐมองเป็นเรื่องของการเก็งกำไรอย่างเดียว แต่อยากให้มองถึงความถูกต้องในการค้าขายด้วย เพราะลูกค้าซื้อทองมีสิทธิซื้อขายได้โดยชอบธรรม ไม่ใช่พอร้านทองเห็นว่ามีความเสี่ยงก็ปิดร้าน แต่พอเห็นช่วงทำกำไรดีก็กลับมาเปิดใหม่ ทำลักษณะนี้เหมือนเป็นการเอาเปรียบ ให้ลูกค้าต้องรับความเสี่ยงจากราคาทองผันผวนเอง และการปิดครั้งนี้ทำให้เสียโอกาสที่จะขายทองคำออกไปช่วงราคาดีด้วย
ส่วนข้อเสนอ ต้องการให้รัฐบาลเข้ามาดูแลกำกับการเปิดปิด เหมือนการรับแลกซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยนของธนาคารพาณิชย์ แม้ค่าเงินผันผวนก็ยังเปิดให้ซื้อขายปกติ
สำหรับแนวโน้มราคาทองคำปัจจุบันปรับขึ้นต่อเนื่องนับจากปลายปีที่แล้ว โดยราคารับซื้อกรุงเทพฯ ชนิดทองคำแท่ง บาทละ 14,500 บาท ขายบาทละ 14,600 บาท ขณะที่ทองรูปพรรณซื้อบาทละ 14,295 บาท ขายบาทละ 14,600 บาท ไม่รวมค่ากำเหน็จ
