เยาวราชแทบแตก ร้านทองโกลาหนคนกรุงเทพฯตื่นขายฟันกำไรเกือบบาทละ1,000บาท ต่อแถวรับบัตรคิวตั้งแต่ก่อน 8 โมงเช้า คาดยอดรวมสูงสุดเป็นประวัติการณ์ทะลุ 10,000 ล้าน ทำรถขนเงินวิ่งส่งไม่ทันจนต้องเขียนเช็ค บรรดาเถ้าแก่โอดหากอีก3วันคนยังแน่นอาจต้องปิดร้าน พร้อมประกาศเลิกซื้อขายทองแท่งช่วงเสาร์-อาทิตย์กลัวเจ๊ง ชี้สาเหตุดอลลาร์อ่อนตัวจัด แถมตลาดยุโรป-อเมริกายังปั่นราคา ด้านพาณิชย์ ตื่น ออกไกด์ไลน์ คุมซื้อขายบีบทางร้านต้องแจ้งล่วงหน้าก่อนเปิดปิด
นายพิชญา พิสุทธิกุล เลขาธิการสมาคมค้าทองคำ และผู้บริหารห้างทองเลี่ยงเส็งเฮง กล่าวถึงกรณีที่ประชาชนจำนวนมากนำทองคำที่มีอยู่ออกมาขายวานนี้ (28ม.ค.) ว่า กระแสการขายทองในครั้งนี้เริ่มมาตั้งแต่เมื่อช่วงวันเสาร์ –อาทิตย์ที่ผ่านมา ทั้งนี้เพราะราคาทองคำมีการปรับตัวสูงขึ้น โดยหากมองย้อนกลับไปเมื่อช่วงต้นปีจะมีราคาอยู่ที่บาทละ 13,700 -13,900 บาท แต่เมื่อวานนี้ราคาทองคำแท่งช่วงเช้าอยู่ที่ 14,550 – 14,650 บาท ทำให้มีหลายคนต้องการขายทองเพื่อรับกำไรจากส่วนต่างที่ปรับเพิ่มขึ้นถึง 750 – 1,000 บาท และจะกลับเข้าซื้อทองคำอีกครั้งเมื่อราคามีการปรับตัวลดลงมากกว่านี้
“ช่วงนี้เป็นไปตามกระแสการเก็งกำไร เพราะหลายสินทรัพย์ที่ลงทุนได้ เช่นหุ้น และตราสารหนี้ผลตอบแทนปรับตัวลดลง ขณะที่ทองคำราคายังมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นช่วงเทศกาลตรุษจีน ซึ่งถือว่าเป็นช่วงปีใหม่ที่หลายคนตั้งเคล็ดว่าจะต้องทำอะไรก็ได้ให้มีกำไร เพื่อให้ทั้งปีมีเงินมีทองมากขึ้น”
สำหรับราคาการซื้อขายทองคำวานนี้ จากการสำรวจพบว่าตั้งแต่เปิดขายจนปิดทำการ ราคามีการเปลี่ยนถึง 5 ครั้ง โดยช่วงเช้าราคาทองคำแท่งรับซื้ออยู่ที่14,550บาท ขายที่14,650บาทและช่วงปิดตลาดอยู่ที่14,450 – 14,350บาท ขณะที่ในตลาดต่างประเทศราคาทองคำมีการแกว่งตัวขึ้นลงอยู่ที่บวกลบ10 เหรียญต่อออนซ์ โดย ณ เวลา 18.00น. มีราคาอยู่ที่ 890.60 เหรียญ/ออนซ์ ลดลง 8.90 เหรียญ
ขนเงินล่าช้าทำจ่ายเงินมีปัญหา
ขณะเดียวกัน สาเหตุที่ร้านทองบางแห่งมีปัญหาในเรื่องการจ่ายเงินให้ลูกค้านั้น ส่วนหนึ่งมาจากปัญหาในเรื่องเงินสด ไม่ใช่เรื่องของสถานะทางการเงินแต่อย่างใด เพราะทุกร้านรู้ว่าเป็นการเปิดทำการในวันแรกจะมีคนมาใช้บริการจำนวนมาก หลังจากที่ปิดร้านมา อีกทั้งราคาทองในต่างประเทศมีการปรับตัวสูงขึ้นจะทำให้มีประชาชนจำนวนมากนำทองคำออกมาขายแน่ ดังนั้นจึงได้ติดต่อประสานงานไปยังธนาคารพาณิชย์เพื่อให้ช่วยดำเนินการรองรับเรื่องดังกล่าว แต่ปรากฏว่าจากปริมาณลูกค้าที่มีเป็นจำนวนมากจึงส่งผลต่อเงินสดที่มี และเมื่อทางร้านติดต่อไปยังธนาคาร การขนเงินสดจากธนาคารแห่งประเทศมาถึงที่ร้านก็มีปัญหาในด้านการจราจร จึงทำให้บางแห่งมีความล่าช้าไปบ้าง อย่างมากไม่น่าเกิน 3-4 ชั่วโมง
“วันนี้ลูกค้าที่เข้ามาขายทองมีปริมาณที่มากกว่ากระแสเข้าคิวซื้อขายทองคำเมื่อปีที่แล้ว และเชื่อว่าภาพรวมตลอดปีนี้อาจจะเรื่องหรือสถานการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก แต่ต้องไม่ลืมว่าราคาทองคำนั้นไม่มีใครสามารถคาดการณ์ในระยะยาวได้”นายพิชญา กล่าว
นายพิชญา กล่าวเพิ่มเติมว่าสาเหตุที่ราคาทองคำมีการปรับตัวขึ้นมาจากตลาดในประเทศยุโรป และสหรัฐรู้ว่าตลาดในภูมิภาคเอเชียหยุดการซื้อขายหลายวันในช่วงเทศกาล จึงมีการซื้อทองเพื่อทำราคาให้สูงขึ้นก่อนที่จะนำมาขายทำกำไรในอนาคต รวมทั้งนักลงทุนหลายรายเริ่มหันมาลงทุนในทองคำแทนหุ้นที่มีราคาลดลง นอกจากนี้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐและค่าเงินยูโรช่วงนี้มีการอ่อนค่าลงมากเกินไปซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ผลักดันราคาทองให้เพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตามในวันนี้ (29ม.ค.) เชื่อว่าจะมีคนนำทองคำมาขายคืนแก่ทางร้านในปริมาณที่น้อยลง เพราะตลาดฮ่องกงซึ่งเป็นตลาดทองขนาดใหญ่หยุดการซื้อขายไปหลายวันจะเริ่มทำการเปิดการซื้อขายอีกครั้ง หลังจากที่ตลาดสิงคโปร์ได้เปิดทำการแล้วตั้งแต่วานนี้ ขณะที่ราคาทองเชื่อว่าจะอ่อนตัวลงเล็กน้อย
ส่วนการที่ร้านทองได้ปิดทำการในช่วงก่อนหน้านี้ ยืนยันว่า นอกจากเป็นเทศกาลตรุษจีนแล้ว ส่วนหนึ่งมีสาเหตุมาจากตลาดทองคำในภูมิภาคเอเชียอย่างสิงคโปร์ และฮ่องกงปิดทำการในเทศกาลตรุษจีน จึงส่งผลให้ปัญหาในด้านกระแสเงินบางส่วนติดขัด ไม่ใช่การปิดร้านเพื่อหนีหลังที่ราคาทองมีการปรับตัวสูงขึ้นแต่อย่างไร โดยยืนยันว่าบรรดาร้านทองแทบทุกร้านมีเงินพร้อมจ่ายให้กับลูกค้าทุกคนที่ต้องการขายทองแน่
เลิกขายทองแท่งเสาร์-อาทิตย์
นายจิตติ ตั้งสิทธิภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ กล่าวว่า วานนี้มีประชาชนแห่มาขายทองคำสูงกว่าช่วงเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมาซึ่งมีมูลค่าการซื้อขายสูงถึง 6-7 พันล้านบาท ทำให้ภาพรวมบรรยากาศร้านค้าทองย่านเยาวราชตั้งแต่ช่วงเช้าคักคึกไปด้วยประชาชนจำนวนมากที่แห่มาเข้าคิวเพื่อขายทองตั้งแต่เวลา 9.00 น. ก่อนร้านเปิด ขณะที่ปัญหาส่วนมากของร้านทอง คือเรื่องรถขนเงินจากธนาคารมาส่งล่าช้า ทำให้ทางร้านต้องขอให้ประชาชนรับเช็คเงินสด แทนการรับเงินสด เพื่อความสะดวกและรวดเร็ว
“ผู้ค้าร้านทองย่านเยาวราชได้มีการขอเบิกเงินสดจากธนาคารไว้ล่วงหน้าแล้ว เพื่อรอรับซื้อทองคำช่วงเช้าประชาชนที่มาขายจะได้เงินสด ซึ่งช่วงเช้าผู้มาขายจะได้รับเงินสด แต่หากคนยังมากและเงินสดไม่เพียงพอก็จะจ่ายใช้เช็คแทน และมองว่าหากสถานการณ์ซื้อขายยังหนาแน่นเช่นนี้อีก 2-3 วัน เป็นไปได้ว่า ร้านทองย่านเยาวราชอาจต้องปิดรับซื้อทองแท่งอีก เพราะไม่มีเงินสำรองจ่ายเพียงพอ เนื่องจากกว่าที่ร้านทองจะได้เงินส่งออกทองไปต่างประเทศต้องใช้เวลานาน 7 วัน และหลังจากนี้ผู้ค้าทองจะไม่เปิดรับซื้อขายทองคำแท่ง ในวันเสาร์และอาทิตย์อีกแล้ว เพราะเข็ดและไม่อยากเสี่ยงขาดทุนเหมือนวันเสาร์ที่ผ่านมา เนื่องจากไม่มีราคาอ้างอิงและตลาดให้ส่งออก”
มูลค่าซื้อขายรวมร่วม1หมื่นล้าน
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการซื้อขายทองคำย่านเยาวราชช่วงเปิดทำการวันแรกว่า หลังจากหยุดปิดร้านช่วงตรุษจีน 2 วัน ระหว่าง 26-27 ม.ค.ว่า ประชาชนและนักเก็งกำไรรายย่อย ได้เดินทางมารอขายทองคำตามหน้าร้านใหญ่อย่างเนืองแน่น ตั้งแต่ 8 โมงเช้า ทำให้ร้านทองต้องแจกบัตรคิวขายทองก่อนที่ร้านจะเปิดทำการ 9.30 นาฬิกา และตลอดทั้งวันประชาชนก็ยังเข้ามาขายทองอย่างต่อเนื่อง จนหางแถวออกมาอยู่นอกร้าน ซึ่งการซื้อขายทองคำวันนี้มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่เปิดร้านมา โดยคาดว่าตลอดทั้งวันร้านทองจะต้องรับซื้อเกิน 10,000 ล้านบาท มากกว่าเมื่อวันที่ 24 ม.ค. ที่ผ่านมาที่รับซื้อเพียง 6,000-7,000 ล้านบาท โดยโดยส่วนใหญ่ร้านรับซื้อจากนักเก็งกำไร ที่เข้ามาขายทองคำแท่งถึง 95% ขณะที่ทองรูปพรรณมีเพียง 5%เท่านั้น ต่างจากก่อนหน้านี้ที่ซื้อทองแท่งเพียง 10% แต่ทองรูปพรรณมากถึง 90%
ช่วงนี้ คนไทยนิยมซื้อทองคำมากขึ้น เพราะต้องการเก็งกำไรเนื่องจากหลายเดือนหลังราคาทองคำผันผวนมาก เพียง 1 เดือน ซื้อได้กำไรบาทละ 1,000 บาท ซึ่งราคาที่ผันผวนในช่วงที่ผ่านมาทำให้ผู้ค้าทองต้องขาดทุนมาก
พาณิชย์เตรียมล้อมกรอบ
นายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายใน ได้เรียกสมาคมค้าทองคำมาหารือเพื่อสอบถามถึงเหตุผลในการหยุดให้บริการช่วงตรุษจีน หลังจากได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่าร้านขายทองคำย่านเยาวราชปิดทำการโดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า จนทำให้ผู้บริโภคได้รับความเดือดร้อน โดยเพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นอีก กรมฯ ได้เตรียมออกแนวทางปฏิบัติ (ไกด์ไลน์) การค้าขายทองคำ ใน 2 สัปดาห์นับจากนี้ เพื่อสร้างความเป็นธรรมให้ผู้ค้าและผู้บริโภค
ทั้งนี้ ไกด์ไลน์ จะขอความร่วมมือให้ ร้านทองจะต้องแจ้งวันเปิดปิดให้กรมฯ ทราบล่วงหน้าก่อนปิดร้าน เพิ่มจากเดิม 1 วัน เพื่อให้ผู้บริโภค และผู้ค้ารายย่อยวางแผนซื้อขายล่วงหน้าได้ แต่ขณะนี้ยังไม่กำหนดว่ากี่วันเพราะต้องรอการประชุมของสมาชิกผู้ค้าทองก่อน นอกจากนี้บังคับให้ใช้เครื่องชั่งมาตรฐานด้วยตัวเลขทศนิยม 2 หลัก และขอความร่วมมือให้คิดค่ากำเหน็จเหมาะสมบาทละ 400-900 บาท และการออกใบจองซื้อทองคำมาตรฐาน ที่ต้องระบุชื่อผู้ซื้อ ผู้ขาย ราคา จำนวน วัน เวลา ที่ชัดเจน และห้ามโอนสิทธิใบจองเพื่อป้องกันการเก็งกำไร ส่วนราคาซื้อขายทองคำจะปล่อยให้เป็นไปตามกลไกราคาตลาดโลก
กูรูโลกเชื่อราคาทองเติบโตต่อ
นายอภิชาติ วิไลรัตน์ รองหัวหน้าฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) หรือ CNS เปิดเผยว่า สำหรับภาพรวมราคาทองในตลาดทองคำค่อนข้างที่จะมีความผันผวนอย่างมาก เนื่องจากว่าราคาทองคำนั้นได้ขึ้นอยู่กับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งหากค่าเงินอ่อนค่าลงราคาทองคำจะปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่หากค่าเงินแข็งขึ้นค่าราคาทองจะปรับตัวลดลง
สำหรับแนวโน้มราคาทองคำในตลาดอาจมีการปรับตัวไปในทิศทางที่สวนทางกับตลาดฟิวเจอร์ส เนื่องจากว่าตลาดฟิวเจอร์สเป็นการซื้อขายเกร็งกำไรและคาดการณ์ราคาทองคำล่วงหน้า จึงอาจจะทำให้ราคาไม่ปรับตัวไปในทิสทางเดียวกัน แต่ทั้งนี้หลังจากที่มีการเปิดซื้อขายแล้วราคาทองคำตลาดอาจจะการปรับตัวไปในมีทิศทางเดียวกันก็มีความเป็นไปได้เช่นกัน
เมื่อเร็วๆ มอร์แกน สแตนลีย์ คาดการณ์ว่า ราคาทองคำในตลาดโลกจะปรับตัวขึ้นต่อเนื่องไปจนถึงปีพ.ศ.2555 เพราะได้รับแรงหนุนจากความต้องการโลหะมีค่าที่พุ่งสูงขึ้นและสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนตัวลง เนื่องจากรัฐบาลทั่วโลกกระตุ้นงบประมาณการใช้จ่ายเพื่อรับมือกับภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย
โดยคาดว่าราคาทองคำจะเคลื่อนไหวในระดับเฉลี่ย 900 ดอลลาร์/ออนซ์ในปีนี้ เพิ่มขึ้น 20% จากที่เคยคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ที่ 750 ดอลลาร์/ออนซ์ จากนั้นราคาจะเคลื่อนไหวที่ระดับเฉลี่ย 1,000 ดอลลาร์/ออนซ์ในปีพ.ศ. 2553, 1050 ดอลลาร์/ออนซ์ในปี 2554 และ 1,075 ดอลลาร์/ออนซ์ในปีพ.ศ. 2555 ซึ่งมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ถึง 34% หลังจากที่ราคาทองคำในตลาดโลกเคยทำสถิติพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1,032.70 ดอลลาร์/ออนซ์เมื่อวันที่ 17 มี.ค.ปีที่แล้ว
ด้าน จิม โรเจอร์ส กูรูชื่อดังด้านสินค้าโภคภัณฑ์และประธานบริษัทโรเจอร์ส โฮลดิ้งส ซึ่งเคยทำนายอย่างถูกต้องว่าราคาทองคำในตลาดโลกจะพุ่งขึ้นแตะระดับ 1,000 ดอลลาร์/ออนซ์ กล่าวว่า เขาวางแผนที่จะซื้อทองคำมากขึ้นและคาดว่าราคาทองมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นอีก