ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ – ช่วงตรุษจีน ตรึงกำลังเข้ม 6 อำเภอชายแดนสงขลา ตรวจวัตถุระเบิด อาวุธสงคราม บุคคลต้องสงสัย หวั่นคนร้ายฉวยโอกาสก่อเหตุ ด้านราคาทองคำซบเซา
กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา สั่งตำรวจ 6 อำเภอชายแดนจังหวัดสงขลา อ.จะนะ เทพา นาทวี สะบ้าย้อย รวมถึง อ.หาดใหญ่ และ อ.เมือง สนธิกำลังคุมเข้มพื้นที่กวาดล้างอาชญากรรมช่วงก่อนเทศกาลตรุษจีน เพื่อเฝ้าระวังและวางมาตรการป้องกันการก่อเหตุอาชญากรรมและปัญหาด้านความมั่นคง โดยให้มีการสนธิกำลังแบบบูรณาการทั้งทหารพราน ตำรวจภูธร ตชด. และอส.ประจำอำเภอ ทำการตั้งจุดตรวจจุดสกัดเส้นทางเชื่อมต่อกับ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมทั้งเส้นทางเข้าเมืองทุกด้าน
พล.ต.ต.วิรุฬ เอี่ยมไพจิตร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า มาตรการดังกล่าวจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันนี้ (22 ม.ค.) ไปจนถึงวันที่ 28 ม.ค. ซึ่งเป็นช่วงเทศกาลตรุษจีนโดยเน้นการตรวจวัตถุระเบิด อาวุธสงคราม บุคคลต้องสงสัย และรถยนต์ต้องสงสัย รวมทั้งรถจักรยานยนต์ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนที่มีวัยรุ่นขับขี่ ตลอดจนยาเสพติด เพื่อป้องกันกลุ่มแนวร่วมฉวยโอกาสเข้ามาก่อเหตุสร้างสถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดสงขลาในช่วงเทศกาลตรุษจีน
ในขณะที่บรรยากาศการจับจ่ายซื้อของช่วงตรุษจีนของใน จ.สงขลา ปีนี้ชาวบ้านอ่วมเพราะราคาของเซ่นไหว้ในช่วงเทศกาลตรุษจีนปีนี้ โดยเฉพาะที่ตลาดทรัพย์สินพลาซ่า อ.เมืองสงขลา ราคาไก่ ผักสด ผลไม้ เริ่มมีปรับราคาสูงขึ้น 5-10 บาท เพื่อรับวันจ่ายวันที่ 24 มกราคม เช่น หมูเนื้อแดง ราคา กก.ละ 100-110 บาท หัวหมูไหว้เจ้า กก.ละ 60-65 บาท
ส่วนที่ต้มสุกแล้วจะตกราคาหัวละ 350-400 บาท ไก่บ้านกิโลกรัมละ 160 บาท ไก่เนื้อกิโลกรัมละ 70 บาท ส้มโชกุน ไซด์ใหญ่กิโลกรัมละ 50 บาท ขนาดกลาง กิโลกรัมละ 30-35 บาท
ในขณะที่ข่าวการระบาดของโรคไข้หวัดนกไม่ส่งผลกระทบกับการซื้อขายไก่ใน จ.สงขลา อย่างไรก็ตามบรรยากาศการซื้อขายของเซ่นไหว้ในตลาดสดค่อนข้างเงียบเหงา เนื่องจากประชาชนส่วนหนึ่งนิยมไปซื้อของตามห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ แทนเนื่องจากสะดวกและราคาใกล้เคียงกัน
แต่ในส่วนของบรรยากาศการซื้อขายทองคำตามร้านทองต่างๆ ใน จ.สงขลา ในช่วงตรุษจีนปีนี้ค่อนข้างเงียบเหงาและซบเซา โดยผู้ประกอบการร้านทองในย่านถนนธรรมนูญวิถีหน้าสถานีรถไฟหาดใหญ่ เผยว่า มีสาเหตุมาจากราคาทองคำที่ค่อนข้างสูงซึ่งอยู่ที่บาทละกว่า 14,400 บาท และมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นเป็นบาทละ 15,000 บาท
ในขณะที่กำลังซื้อของประชาชนลดลงอันเนื่องมาจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว แรงจูงใจที่จะซื้อทองจึงน้อยลง การซื้อขายทองคำในช่วงเทศกาลตรุษจีนปีนี้จึงค่อนข้างเงียบเหงากว่าทุกปีที่ผ่านมา โดยชาวจีนส่วนใหญ่เลือกที่จะจ่ายเงินสดเป็นอั่งเปาแทนทองคำที่มีราคาสูง
นอกจากการซื้อขายทองจะไม่ดีแล้วบรรดาร้านทองยังต้องระวังทองปลอมจากมิจฉาชีพที่ฉวยโอกาสราคาทองคำพุ่งช่วงตรุษจีนนำทองปลอมสวมรอยเข้ามาขายด้วย เจ้าของร้านทองจึงต้องระมัดระวังทองปลอมเป็นพิเศษ