ASTVผู้จัดการรายวัน - เอทานอลล้นตลาด ทำผู้ประกอบการเอทานอลรายใหม่ส่อแววล้มโครงการกว่า 20 ราย หลังประเมินต้นทุนการผลิตและราคาพืชผลทางการเกษตรผันผวน คาดปีนี้กำลังการผลิตเอทานอลรวมอยู่ที่ 1.57 ล้านลิตร/วัน ระบุราคาน้ำมันถูกทำให้ยอดการใช้แก๊สโซฮอล์ไม่โต
นายประพนธ์ วงษ์ท่าเรือ ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาเชื้อเพลิงชีวภาพ กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พ.พ.) เปิดเผยในงานสัมมนาโครงการศึกษาการเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งเอทานอลวานนี้ (27 ม.ค.)ว่า สถานการณ์กำลังผลิตเอทานอลในปัจจุบันพบว่าเกินความต้องการค่อนข้างมาก ส่งผลให้โรงงานเอทานอลที่ได้รับอนุญาตไว้แล้วกว่า 20 ราย อาจต้องยกเลิกการลงทุนสร้างโรงงานเอทานอล เนื่องจากไม่คุ้มการลงทุน
"การผลิตเอทานอลในช่วงที่ผ่านมา พบว่าปริมาณกำลังการผลิตเกินความต้องการใช้ภายในประเทศมาก ทำให้ต้องมีการส่งออกไปต่างประเทศเพื่อระบายสต็อกเอทานอล รวมทั้งบางช่วงราคาเอทานอลผันผวน ไม่สอดคล้องกับราคาพืชผลทางการเกษตรที่ใช้เป็นวัตถุดิบ ส่งผลให้โรงงานเอทานอลที่ได้รับใบอนุญาตที่เหลือกว่าครึ่งหรือ 20 ราย อาจตัดสินใจไม่ลงทุนสร้างโรงงาน "นายประพันธ์กล่าว
ปัจจุบันมีโรงงานเอทานอลที่ได้รับใบอนุญาตไว้แล้ว 47 ราย แบ่งเป็นโรงงานเอทานอลที่เดินผลิตแล้ว 8 ราย มีกำลังการผลิตจริง 1.2 ล้านลิตร คาดว่าปีนี้จะมีโรงงานเอทานอลใหม่เข้าระบบอีก 3 แห่ง กำลังการผลิต 4 แสนลิตร/วัน ส่งผลให้ทั้งปี 2552 กำลังการผลิตเอทานอลจะอยู่ที่ 1.57 ล้านลิตร/วัน
นายประพนธ์ กล่าวว่า ในช่วงที่น้ำมันราคาปรับตัวลดลง ยอดการใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ไม่ได้ขยายตัวมากนัก แต่ยอดใช้น้ำมันเบนซินบางเดือนกลับมีการขยายตัว ดังนั้นภาครัฐควรใช้นโยบายด้านราคาเพื่อเป็นเครื่องมือกระตุ้นการใช้แก๊สโซฮอล์ โดยราคาแก๊สโซฮอล์มีส่วนต่างต่ำกว่าราคาเบนซินให้มากขึ้น ทำให้ยอดการใช้เอทานอลขยายตัวเพิ่มขึ้นด้วย
ด้านนายเรืองศักดิ์ ฐิติรัตน์สกุล ผู้จัดการโครงการศึกษาเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งเอทานอล การผสมและการขนส่ง แก๊สโซฮอล์ สถาบันปิโตรเลียม กล่าวว่า การขนส่งเอทานอลในไทยทั้งหมดเป็นการขนส่งทางรถบรรทุก ทำให้ต้นทุนการขนส่งค่อนข้างสูงคิดเป็น 25-30% ดังนั้นควรมีการเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งให้ดีขึ้น เช่นการขนส่งทางรถไฟที่ได้ปริมาณมากทำให้ต้นทุนค่าขนส่งลดลง การเพิ่มจุดผสมแก๊สโซฮอล์ โดยพิจารณาความคุ้มทุนของการลงทุนอุปกรณ์ผสมในคลังน้ำมันที่มีทำเลที่ตั้งอยู่ใกล้กับโรงงานผลิตเอทานอล เป็นต้น
นายประพนธ์ วงษ์ท่าเรือ ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาเชื้อเพลิงชีวภาพ กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พ.พ.) เปิดเผยในงานสัมมนาโครงการศึกษาการเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งเอทานอลวานนี้ (27 ม.ค.)ว่า สถานการณ์กำลังผลิตเอทานอลในปัจจุบันพบว่าเกินความต้องการค่อนข้างมาก ส่งผลให้โรงงานเอทานอลที่ได้รับอนุญาตไว้แล้วกว่า 20 ราย อาจต้องยกเลิกการลงทุนสร้างโรงงานเอทานอล เนื่องจากไม่คุ้มการลงทุน
"การผลิตเอทานอลในช่วงที่ผ่านมา พบว่าปริมาณกำลังการผลิตเกินความต้องการใช้ภายในประเทศมาก ทำให้ต้องมีการส่งออกไปต่างประเทศเพื่อระบายสต็อกเอทานอล รวมทั้งบางช่วงราคาเอทานอลผันผวน ไม่สอดคล้องกับราคาพืชผลทางการเกษตรที่ใช้เป็นวัตถุดิบ ส่งผลให้โรงงานเอทานอลที่ได้รับใบอนุญาตที่เหลือกว่าครึ่งหรือ 20 ราย อาจตัดสินใจไม่ลงทุนสร้างโรงงาน "นายประพันธ์กล่าว
ปัจจุบันมีโรงงานเอทานอลที่ได้รับใบอนุญาตไว้แล้ว 47 ราย แบ่งเป็นโรงงานเอทานอลที่เดินผลิตแล้ว 8 ราย มีกำลังการผลิตจริง 1.2 ล้านลิตร คาดว่าปีนี้จะมีโรงงานเอทานอลใหม่เข้าระบบอีก 3 แห่ง กำลังการผลิต 4 แสนลิตร/วัน ส่งผลให้ทั้งปี 2552 กำลังการผลิตเอทานอลจะอยู่ที่ 1.57 ล้านลิตร/วัน
นายประพนธ์ กล่าวว่า ในช่วงที่น้ำมันราคาปรับตัวลดลง ยอดการใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ไม่ได้ขยายตัวมากนัก แต่ยอดใช้น้ำมันเบนซินบางเดือนกลับมีการขยายตัว ดังนั้นภาครัฐควรใช้นโยบายด้านราคาเพื่อเป็นเครื่องมือกระตุ้นการใช้แก๊สโซฮอล์ โดยราคาแก๊สโซฮอล์มีส่วนต่างต่ำกว่าราคาเบนซินให้มากขึ้น ทำให้ยอดการใช้เอทานอลขยายตัวเพิ่มขึ้นด้วย
ด้านนายเรืองศักดิ์ ฐิติรัตน์สกุล ผู้จัดการโครงการศึกษาเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งเอทานอล การผสมและการขนส่ง แก๊สโซฮอล์ สถาบันปิโตรเลียม กล่าวว่า การขนส่งเอทานอลในไทยทั้งหมดเป็นการขนส่งทางรถบรรทุก ทำให้ต้นทุนการขนส่งค่อนข้างสูงคิดเป็น 25-30% ดังนั้นควรมีการเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งให้ดีขึ้น เช่นการขนส่งทางรถไฟที่ได้ปริมาณมากทำให้ต้นทุนค่าขนส่งลดลง การเพิ่มจุดผสมแก๊สโซฮอล์ โดยพิจารณาความคุ้มทุนของการลงทุนอุปกรณ์ผสมในคลังน้ำมันที่มีทำเลที่ตั้งอยู่ใกล้กับโรงงานผลิตเอทานอล เป็นต้น
