xs
xsm
sm
md
lg

ปลัดกห.เตือนสติทักษิณยิ่งดิ้นเท่ากับฆ่าตัวตาย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการพิจารณาถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่าตนขออนุญาตไม่พูดเพราะยังไม่เห็นเรื่อง อย่างไรก็ตาม การดำเนินการถอดยศนั้นตามระเบียบนั้นเป็นเรื่องของระดับเจ้าหน้าที่ที่ต้องไปดูว่าจะมีตำรวจที่ต้องคดีแล้วต้องถูกถอดยศมีรวมจำนวนเท่าไหร่แล้วจะเสนอโปรดเกล้าฯ เพื่อลงพระปรมาภิไธย ซึ่งต้องได้จำนวนมากพอสมควร เพื่อจะได้ไม่ไปรบกวนเบื้องพระยุคลบาท ไม่ใช่รายเดียวกรณีเดียวแล้วทูลเกล้าฯเสนอ ซึ่งในแต่ละปีก็มีการเสนอถอดยศบ้าง แต่ตนจำจำนวนไม่ได้ ซึ่งจะมีการเสนอเป็นล็อตๆ ไป
ผู้สื่อข่าวถามว่ากรณี พ.ต.ท.ทักษิณ เข้าข่ายควรถอดยศแล้วหรือไม่ พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวว่า เจ้าหน้าที่คงดูเรื่องระเบียบเ ตนยังไม่ดูเรื่องระเบียบ ซึ่งหลักคือปฏิบัติตามระเบียบที่มีอยู่แล้ว คงไม่เกี่ยวกับตน ระเบียบวางไว้อยู่แล้ว ถ้าจะมีการถอดยศ ต้องเป็นไปตามระเบียบ หลักเกณฑ์ที่กำหนด
ผมพูดหลายครั้งแล้วว่าเรื่องนี้ละเอียดอ่อน เจ้าหน้าที่จะไปพิจารณาตามระเบียบและจะเสนอขึ้นมา กระแสสังคมไม่มีผลกดดันเจ้าหน้าที่ เพราะมีระเบียบกำหนด กฎหมายกำหนด เราก็ต้องเดินไปตามนั้น
ส่วนจะต้องมีแผนรองรับปฏิกิริยาต่อต้านกลุ่มคนที่ชื่นชอบอดีตนายกรัฐมนตรี หรือไม่นั้น ผบ.ตร.กล่าวว่า เราจะเกรงกันเกินเหตุ ทุกคนมีเหตุมีผล เมื่อมีระเบียบกฎหมายที่จะต้องปฏิบัติ ทุกคนน่าจะรับฟัง ซึ่งระเบียบเรื่องนี้เป็นระเบียบภายใน ที่เราปฏิบัติอยู่ คงไม่จำเป็นต้องออกมาแจงแจกให้คนทั่วไปรับรู้
ผู้สื่อข่าวถามว่า เหตุที่ต้องถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ เนื่องจากการออกมา เคลื่อนไหวดิสเครดิตประเทศไทย ใช่หรือไม่ พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวว่า คำถามนี้ตนคงตอบไม่ได้
ส่วนกรณีที่กลุ่มแนวร่วมประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (นปช.) ประกาศชุมนุม ใหญ่ในวันที่ 31 ม.ค. นี้ พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวว่า การชุมนุมของ กลุ่มเสื้อแดง ตนมองว่าเป็นการชุมนุมปกติ เชื่อมั่นว่า ไม่รุนแรง โดยกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) จะดูแลความปลอดภัยตามปกติคาดว่า ไม่มีปัญหาอะไร ยืนยันว่าตำรวจ ไม่มีการสกัดกั้นประชาชนที่มาร่วมชุมนุม เพราะการชุมนุมโดยสงบปราศจากอาวุธ ทำได้ตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งที่ผ่านมาก็ไม่เคยสกัดกั้นกลุ่มไหน
พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวว่า แม้ นปช.จะประกาศตั้งธงรบ แต่ก็มองว่าไม่รุนแรง จะดำเนินแผนตามการปฏิบัติประจำ จัดกำลังปกติ ซึ่งโดยปกติกำลังตำรวจเพียงพอ เว้นแต่มีความจำเป็นจริงๆ จะขอกำลังจากทหาร
ผู้สื่อข่าวถามว่าตำรวจได้ข่าวการลอบสังหาร พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หรือไม่ผบ.ตร.กล่าวว่า ตนไม่ได้ข่าว ทั้งนี้ หาก พ.ต.ท.ทักษิณ จะกลับมา ก็จะดูแลความปลอดภัยเต็มที่ ซึ่งท่านก็เคยกลับมาครั้งหนึ่งแล้ว คงไม่มีปัญหาเรื่องการรักษาความปลอดภัย แต่คงไม่ได้ดูแลเป็นพิเศษ แต่ยืนยันว่า ตำรวจจะไปดูแลความปลอดภัยให้ในฐานะคนไทยคนหนึ่งที่เราต้องดูแลความปลอดภัยให้
พล.อ. อภิชาต เพ็ญกิตติ ปลัดกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พ.ต.ท.ทักษิณ ประกาศสู้ไม่ถอย และวิพากษ์วิจารณ์กองทัพ รัฐบาล องคมนตรี อย่างรุนแรงว่า ตนไม่ได้ดูท่านพูด และในสิ่งที่ท่านพูด ท่านคิดเองหรือไม่ ถ้าท่านคิดเอง ส่วนตัวคิดว่า เป็นความคิดที่ไม่น่าจะถูกต้อง ปกติแล้วท่านเป็นคนฉลาด ท่านไม่น่าจะคิดได้แค่นี้ น่าจะอยากเห็นความสงบสุขของบ้านเมืองมากกว่า ตนคิดว่า อดีตนายกฯ ควรลองกลับไปคิดใหม่ว่า สิ่งที่พูดเกิดประโยชน์กับตนเองและส่วนรวมหรือไม่ ซึ่งตนคิดว่าไม่น่าจะใช่ทั้งสองอย่าง เพราะจะทำให้ประชาชนตื่นตระหนกมากกว่า
ในอดีตที่ผ่านมา อดีตนายกรัฐมนตรีที่เคยถูกปฏิวัติจนต้องออกนอกประเทศไป ไม่มีท่านใดทำอย่างที่พ.ต.ท.ทักษิณทำ และไม่ได้สร้างปัญหาอะไรให้ และในที่สุดอดีตนายกฯที่ถูกปฏิวัติก็สามารถกลับสู่ประเทศไทยได้ แต่ถ้า พ.ต.ท. ทักษิณ ทำอย่างนี้ คงเป็นเรื่องยากในการกลับเข้าประเทศไทย ส่วนการโฟนอินของพ.ต.ท.ทักษิณนั้น คิดว่าประชาชนไม่ให้ความสนใจในเรื่องนี้เท่าไร ถ้าสำรวจความนิยมขณะนี้น่าจะลดลงด้วยซ้ำไป คนที่ฟังท่านโฟนอินเข้ามาในครั้งแรกๆ คงมีคนสนใจ แต่ปัจจุบันลดลงไปเพราะพูดคล้ายๆของเดิมคือ พูดเพื่อปลุกปั่น เพื่อระดมปลุกความรู้สึกของ ประชาชนให้เห็นใจท่าน มากกว่าที่จะเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม
ผู้สื่อข่าวถามว่าการออกมาพูดของพ.ต.ท.ทักษิณจะเป็นการฆ่าตัวเองหรือไม่ พล.อ.อภิชาต หัวเราะก่อนกล่าวว่า ท่านคิดของท่านเองดีกว่า ตนอยากฝากให้ท่าน ไปคิดให้มากกว่านี้ เพื่อทำอะไรให้กับประเทศชาติ
ต่อข้อถามว่า พ.ต.ท. ทักษิณ ควรจะกลับมาสู้คดีใช่หรือไม่ พล.อ.อภิชาต กล่าวว่า ถ้าท่านนิ่งไม่ออกมาทำอะไรที่ไม่ถูกต้องสักระยะหนึ่งสถานการณ์น่าจะดีขึ้น เพราะคนไทยลืมง่ายไม่ได้ผูกใจเจ็บกับใครหรือปัญหาอะไร ถ้าสงบนิ่งสักระยะหนึ่ง สถานการณ์บ้านเมืองดีขึ้น ท่านก็มีโอกาสได้กลับมาอยู่แล้ว ไม่มีปัญหาอะไร ส่วนเรื่องการถูกลอบสังหารนั้น เป็นเรื่องที่ พ.ต.ท. ทักษิณ คิดไปเองมากกว่า เพราะไม่มีใครคิดจะทำอะไรท่านอยู่แล้ว ทั้งนี้ส่วนตัวตนไม่ได้มองว่า ท่านมีความผิดอะไร แต่ในสิ่งที่ท่านทำไป อาจจะเป็นความผิดพลาดที่ไม่ได้คาดถึงมาก่อน ซึ่งตรงนี้น่าจะเข้ามาคุยกันพูดกัน ให้กระบวนการยุติธรรมเข้ามาตัดสินตามที่ควรจะเป็น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.00 น. วานนี้ (27 ม.ค.) กลุ่ม นปช. หรือคนเสื้อแดง นำโดย นายจรัล ดิษฐาอภิชัย นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไทย นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข พร้อมพวกรวม 20 คน นั่งรถติดตั้งเครื่องขยายเสียง 1คัน เดินทางมาชุมนุม บริเวณประตู 4 ทำเนียบรัฐบาล ตรงข้ามเพื่อยื่นหนังสือเรียกร้องรัฐบาล 3 ข้อคือ 1.เร่งดำเนินการอย่างจริงจังกับแกนนำพันธมิตรฯ 2.ปลดนายก ษิต ภิรมณ์ รมว.ต่างประเทศ 3.แก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2550และนำรัฐธรรมนูญ 2540 กลับมาใช้
นายจรัล กล่าวว่า การชุมนุมในวันที่ 31 ม.ค.จะมีการเคลื่อนขบวนแน่นอน โดยจะไปยังศูนย์กลางการบริหารราชการแผ่นดิน แต่ยังบอกไม่ได้ว่าจะเป็นทำเนียบรัฐบาลหรือไม่ อาจจะไปที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคิรีขันถ์ ก็ได้ ซึ่งเชื่อว่าจะมีผู้มาร่วมชุมนุม 3 หมื่นคน สำหรับความขัดแย้งของกลุ่มคนเสื้อแดงนั้นเป็นความขัดแย้งฝของคนกลุ่มน้อยเท่านั้น คนส่วนใหญ่ยังคงเดิม
ผู้สื่อข่าวรายงานถึงความคืบหน้าในการดำเนินคดีกับกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 หรือกลุ่มคนเสื้อแดงเชียงใหม่ตบหน้า อาจารย์ผู้อำนวยการสำนักหอสมุดมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) เมื่อวันปิดล้อมหอประชุมระหว่างการจัดงานเลี้ยง ราตรีอ่างแก้ว 2552 เมื่อคืนวันที่ 24 ม.ค.) ปรากฎว่าการดำเนินการยังไม่คืบหน้า โดย วานนี้ (27 ม.ค.) นักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้แสดงละคนใบ้เพื่อสะท้อนภาพการกระทำที่รุนแรงของกลุ่มคนเสื้อแดง เพื่อให้ประชาชนและนักศึกษาตื่นตัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และชี้ให้เห็นว่าการกระทำของกลุ่มคนดังกล่าวเป็นวิธีการที่รุนแรงเกินไป ไม่ใช้เป็นการแสดงออกตามรนะบอบประชาธิปไตย แต่ทำเหมือนบ้านเมืองไม่มีขื่อมีแปร
นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ กล่าวว่าได้กำชับให้ตำรวจรวบรวม พยานหลักฐานและดำเนินการตามกฎหมายกับคนที่ตบ ผอ.สำนักหอสมุด มช.แล้ว ซึ่งการกระทำของกลุ่มคนรักเชียงใหม่ 51 เป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม ส่วนกรณีที่มีผู้วิจารณ์การทำงานของผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ว่า สมควรจะพิจารณาตัวเองได้แล้วนั้น นายวิบูลย์ กล่าวว่า พร้อมรับฟังคำแนะนำและจะทำให้ดีขึ้น นอกจากนี้ในส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตกันว่าข้าราชการและเจ้าหน้าที่ตำรวจปล่อยปละละเลยการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่นั้น ปฏิเสธว่า ไม่เป็นความจริง แต่ยอมรับว่าการที่เจ้าหน้าที่ต้องออกไปปฏิบัติหน้าที่ควบคุมดูแลการเคลื่อนไหวของคนกลุ่มนี้เป็นประจำก็อาจจะมีการทำความรู้จักกันบ้าง
กำลังโหลดความคิดเห็น