ผวจ.เชียงใหม่ปัด “ซี้” เสื้อแดงปล่อยบุก มช. - ม.เที่ยงคืนยังอ้ำอึ้งไม่มีจุดยืน-พันธมิตรชี้เอนเอียง

ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ – ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ รับคำวิจารณ์ให้พิจารณาตัวเองกรณีปล่อยเสื้อแดงบุกหอประชุมมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ล่มงานเลี้ยง พร้อมปัดไม่ได้ปล่อยปละละเลยเพราะ “ซี้ปึ้ก” กลุ่มเสื้อแดง ขณะที่ ม.เที่ยงคืน ยังอ้ำอึงเรื่องออกแถลงการณ์กรณีที่เกิดขึ้น แต่บอกผิดหวังนายกรัฐมนตรีไม่จัดการม็อบยึดสนามบิน ด้านพันธมิตรเชียงใหม่ ชี้เจ้าหน้าที่ทำหน้าที่หละหลวมจนปล่อยเหตุการณ์รุนแรง พร้อมจวก ม.เที่ยงคืน เอนเอียง-เลี่ยงตำหนิเสื้อแดง

วันนี้ (27 ม.ค.) นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวถึงกรณีกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 บุกเข้าปิดล้อมหอประชุมมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่มีการจัดงานเลี้ยง “ราตรีอ่างแก้ว 2552” และตบหน้าผู้อำนวยการสำนักหอสมุดมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งเป็นผู้หญิง เมื่อคืนวันที่ 24 ม.ค.52 ว่าขณะนี้ได้สั่งการกำชับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจให้รวบรวมพยานหลักฐานและดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาดไปตามข้อเท็จจริง ทั้งนี้ในวันเกิดเหตุตนเองไม่ได้อยู่ในพื้นที่ เนื่องจากลาราชการอย่างถูกต้องไปร่วมงานแต่งงานของลูกเพื่อน (นายปรีชา เลาหพงศ์ชนะ) ที่กรุงเทพฯ อย่างไรก็ตาม ได้รับทราบความเคลื่อนไหวอยู่ตลอดและคอยรายงานให้ผู้ใหญ่ทราบด้วย

สำหรับการก่อเหตุดังกล่าวของกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 นั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า เป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม เพราะการจะเคลื่อนไหวใดๆ ควรที่จะต้องรู้จักเลือกบ้าง ซึ่งอยากเตือนสติให้หยุดการกระทำลักษณะนี้ พร้อมทั้งอยากขอร้องไปยังกลุ่มต่างๆ ในการเคลื่อนไหวว่า การเคลื่อนไหวตามระบอบประชาธิปไตยนั้นสามารถทำได้ แต่ต้องอยู่ในขอบเขตด้วย

ส่วนกรณีที่มีผู้วิจารณ์การทำงานของผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ว่าสมควรจะพิจารณาตัวเองได้แล้วนั้น นายวิบูลย์ กล่าวว่า พร้อมรับฟังคำแนะนำและจะทำให้ดีขึ้น นอกจากนี้ในส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตกันว่าข้าราชการและเจ้าหน้าที่ตำรวจปล่อยปละละเลยการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่นั้น ปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง แต่ยอมรับว่าการที่เจ้าหน้าที่ต้องออกไปปฏิบัติหน้าที่ควบคุมดูแลการเคลื่อนไหวของคนกลุ่มนี้เป็นประจำก็อาจจะมีการทำความรู้จักกันบ้าง

ด้านรองศาสตราจารย์สมชาย ปรีชาศิลปกุล คณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวถึงการกระทำของกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ว่า ในส่วนของการตบหน้าผู้อำนวยการสำนักหอสมุดมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นเรื่องที่ไม่สมควรเป็นอย่างมาก โดยตามหลักการแล้วเป็นการล่วงละเมิดสิทธิผู้อื่น ขณะที่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดมองว่ากลุ่มเสื้อแดงไม่สมควรกระทำ โดยเมื่อเป็นการกระทำผิดรัฐก็ต้องดำเนินการตามกฎหมายอย่างเป็นธรรมเสมอภาค ซึ่งที่ผ่านมาตนเองรู้สึกผิดหวังต่อท่าทีของนายกรัฐมนตรี ที่ไม่ดำเนินการกรณีการบุกยึดท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

ในส่วนการเคลื่อนไหวของมหาวิทยาลัยเที่ยงคืนที่รองศาสตราจารย์สมชาย เป็นอธิการบดีอยู่ด้วยนั้น รองศาสตราจารย์สมชาย กล่าวว่า กำลังอยู่ระหว่างการพูดคุยหารือกันในการออกแถลงการณ์แสดงจุดยืนต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยกำลังพิจารณาอยู่ว่าจะเป็นการแถลงการณ์ต่อสาธารณะหรือแค่ขึ้นเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัยเที่ยงคืนเท่านั้น

ขณะที่ นายสุริยันต์ ทองหนูเอียด ผู้ประสานงานพันธมิตรเชียงใหม่ แสดงความเห็นว่า การใช้ความรุนแรงและการละเมิดสิทธิของผู้อื่นดังเช่นเหตุการณ์ที่หอประชุมมหาวิทยาลัยเชียงใหม่เมื่อคืนวันที่ 24 ม.ค.52 นั้น เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐที่จะต้องคุ้มครองดูแลไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น อย่างไรก็ตามเวลานี้ค่อนข้างจะเป็นที่ชัดเจนว่าข้าราชการและเจ้าหน้าที่ตำรวจเชียงใหม่มีการทำหน้าที่ที่หละหลวมมากและไม่สามารถคุ้มครองประชาชนได้ ซึ่งอาจจะเป็นเพราะมีการให้การสนับสนุนกลุ่มคนเสื้อแดงอยู่ห่างๆ ก็เป็นได้

นอกจากนี้ ผู้ประสานงานพันธมิตรเชียงใหม่ กล่าวถึงการแสดงบทบาทของมหาวิทยาลัยเที่ยงคืนต่อเหตุการณ์ในครั้งนี้ว่า ที่ผ่านมาในช่วงการเคลื่อนไหวของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย มหาวิทยาลัยเที่ยงคืนได้มีการออกมาโจมตีอย่างต่อเนื่อง แต่พอกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 รวมทั้งกลุ่มคนเสื้อแดงออกมาเคลื่อนไหว ทางมหาวิทยาลัยเที่ยงคืนกลับไม่เคยออกมาวิพากษ์วิจารณ์ใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งตั้งข้อสังเกตว่ามหาวิทยาลัยเที่ยงคืนนั้น มีความเอนเอียงเชิงนโยบายอย่างเห็นได้ชัด