ช่อง5 เดินหน้าปรับผังรายการ ยึดหลักตามกฏหมายกำหนด มุ่งปรับรายการช่วงเช้าเป็นจัดสดมากขึ้น เชื่อเป็นไม้เด็ดดึงเรตติ้งสถานีเพิ่ม ฟากช่อง3 แย้มเตรียมอัดละครเพิ่มต่อวัน หลังพบเป็นรายการที่ดันรายได้โฆษณามากสุด แม้ 2สัปดาห์ ที่ผ่านมา เอเจนซี่ชะลอซื้อสื่อลงไปบ้าง ถือเป็นเรื่องปกติในแต่ละปี
พลโท กิตติทัศน์ บำเหน็จพันธุ์ ผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์กองทัพบก ช่อง 5 เปิดเผยว่า ปีนี้ถือเป็นปีที่ช่อง 5 ครบรอบ 51 ปี แผนการดำเนินงานได้ปรับการทำงานในหลายเรื่อง โดยเฉพาะในเรื่องของการนำเสนอรายการ ในช่วงเช้าของทุกวันจันทร์-ศุกร์ จะมีการจัดรายการสดมากยิ่งขึ้น จากการนำกลุ่มเจน-ไฟว์เข้ามาดำเนินรายการ เชื่อว่าเป็นรูปแบบรายการใหม่ ที่จะช่วยให้ทางช่อง 5 มีเรตติ้งใกล้เคียงกับสถานีโทรทัศน์ช่องอื่นๆ
ทั้งนี้ทางช่อง5 จะมีการจัดวางผังรายการให้เป็นไปตามสัดส่วนที่ทางกฏหมายบัญญัติไว้คือ ข่าว 30% สาระความรู้ และรายการสร้างจิตสำนึกที่ดีในสังคม 40% และบันเทิง 40% โดยรายการข่าว ได้ปรับปรุงห้องอ่านข่าวให้เป็น"ห้องปฏิบัติการข่าว"แบบครบวงจร เชื่อมโยงระบบเทคโนโลยีต่างๆเข้ามาช่วยในการนำเสนอข่าวและภาพ ให้มีความรวดเร็วและแม่นจำในการนำเสนอ
อย่างไรก็ตามหลังจากมีการปรับผังใหม่ที่ผ่านมา พบว่า รายการละครส่งเสริมสังคมช่วงเวลา 18.00-19.00น. ในวันจันทร์-ศุกร์ มีเรตติ้งเพิ่มขึ้นเป็น 2.5 จากปกติอยู่ที่ 1
ช่อง3แย้มอัดละครเพิ่ม
ด้านนายสมรักษ์ ณรงค์วิชัย ผู้อำนวยการฝ่ายผลิตรายการ บริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) หรือ ไทยทีวีสี ช่อง3 กล่าวว่า ผังช่อง3 มีแนวคิดขอเวลานำเสนอละครเพิ่มอีกในช่วงวันจันทร์-ศุกร์ จากเดิมที่นับจำนวนการออกอากาศได้ที่ 2 ชม.ต่อวัน ส่วนหนึ่งมาจากการที่ละคร ถือเป็นกลุ่มรายการที่สร้างรายได้โฆษณาเข้ามามากที่สุด เชื่อว่าปัจจุบันคอนเท้นท์ที่ดี เป็นปัจจัยสำคัญที่เอเจนซี่พร้อมซื้อโฆษณา มากกว่าคิดจากการเป็นช่วงเวลาไพร์มไทม์ ส่งผลให้อาจจะมีการนำเสนอขอเพิ่มละครในช่วงนอน ไพร์มไทม์ขึ้นอีกเล็กน้อย เพื่อดึงรายได้โฆษณาเพิ่มขึ้น
ขณะที่ละครช่วงไพร์มไทม์ มีค่าโฆษณาอยู่ที่ 4.2 แสน ต่อนาที ถือเป็นราคาที่ไม่มีการปรับมา 2 ปีแล้ว ปีนี้ก็ยังไม่มีแนวโน้มปรับขึ้น ถึงแม้ว่าหลายฝ่ายจะออกมาวิเคราะห์ว่า โฆษณาทีวีปีนี้จะหดตัวก็ตาม เพราะเชื่อว่าลูกค้ายังพร้อมจ่ายในราคาดังกล่าว หากช่วงเวลานั้นดีจริง ขณะที่ 2สัปดาห์ที่ผ่านมา พบว่า ตัวเลขรายได้โฆษณาอาจลดบ้าง แต่มองว่าเป็นเรื่องปกติในช่วงเวลานี้ของแต่ละปี ส่วนกลุ่มรายการข่าว ขณะนี้พบว่ารายการสีสันบันเทิงหลังข่าวภาคค่ำช่วงที่ 2 และช่วงข่าวเก็บตก ถือเป็นรายการข่าวที่มีราคาโฆษณาสูงที่สุดอยู่ที่ 3 แสนบาทต่อนาที
พลโท กิตติทัศน์ บำเหน็จพันธุ์ ผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์กองทัพบก ช่อง 5 เปิดเผยว่า ปีนี้ถือเป็นปีที่ช่อง 5 ครบรอบ 51 ปี แผนการดำเนินงานได้ปรับการทำงานในหลายเรื่อง โดยเฉพาะในเรื่องของการนำเสนอรายการ ในช่วงเช้าของทุกวันจันทร์-ศุกร์ จะมีการจัดรายการสดมากยิ่งขึ้น จากการนำกลุ่มเจน-ไฟว์เข้ามาดำเนินรายการ เชื่อว่าเป็นรูปแบบรายการใหม่ ที่จะช่วยให้ทางช่อง 5 มีเรตติ้งใกล้เคียงกับสถานีโทรทัศน์ช่องอื่นๆ
ทั้งนี้ทางช่อง5 จะมีการจัดวางผังรายการให้เป็นไปตามสัดส่วนที่ทางกฏหมายบัญญัติไว้คือ ข่าว 30% สาระความรู้ และรายการสร้างจิตสำนึกที่ดีในสังคม 40% และบันเทิง 40% โดยรายการข่าว ได้ปรับปรุงห้องอ่านข่าวให้เป็น"ห้องปฏิบัติการข่าว"แบบครบวงจร เชื่อมโยงระบบเทคโนโลยีต่างๆเข้ามาช่วยในการนำเสนอข่าวและภาพ ให้มีความรวดเร็วและแม่นจำในการนำเสนอ
อย่างไรก็ตามหลังจากมีการปรับผังใหม่ที่ผ่านมา พบว่า รายการละครส่งเสริมสังคมช่วงเวลา 18.00-19.00น. ในวันจันทร์-ศุกร์ มีเรตติ้งเพิ่มขึ้นเป็น 2.5 จากปกติอยู่ที่ 1
ช่อง3แย้มอัดละครเพิ่ม
ด้านนายสมรักษ์ ณรงค์วิชัย ผู้อำนวยการฝ่ายผลิตรายการ บริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) หรือ ไทยทีวีสี ช่อง3 กล่าวว่า ผังช่อง3 มีแนวคิดขอเวลานำเสนอละครเพิ่มอีกในช่วงวันจันทร์-ศุกร์ จากเดิมที่นับจำนวนการออกอากาศได้ที่ 2 ชม.ต่อวัน ส่วนหนึ่งมาจากการที่ละคร ถือเป็นกลุ่มรายการที่สร้างรายได้โฆษณาเข้ามามากที่สุด เชื่อว่าปัจจุบันคอนเท้นท์ที่ดี เป็นปัจจัยสำคัญที่เอเจนซี่พร้อมซื้อโฆษณา มากกว่าคิดจากการเป็นช่วงเวลาไพร์มไทม์ ส่งผลให้อาจจะมีการนำเสนอขอเพิ่มละครในช่วงนอน ไพร์มไทม์ขึ้นอีกเล็กน้อย เพื่อดึงรายได้โฆษณาเพิ่มขึ้น
ขณะที่ละครช่วงไพร์มไทม์ มีค่าโฆษณาอยู่ที่ 4.2 แสน ต่อนาที ถือเป็นราคาที่ไม่มีการปรับมา 2 ปีแล้ว ปีนี้ก็ยังไม่มีแนวโน้มปรับขึ้น ถึงแม้ว่าหลายฝ่ายจะออกมาวิเคราะห์ว่า โฆษณาทีวีปีนี้จะหดตัวก็ตาม เพราะเชื่อว่าลูกค้ายังพร้อมจ่ายในราคาดังกล่าว หากช่วงเวลานั้นดีจริง ขณะที่ 2สัปดาห์ที่ผ่านมา พบว่า ตัวเลขรายได้โฆษณาอาจลดบ้าง แต่มองว่าเป็นเรื่องปกติในช่วงเวลานี้ของแต่ละปี ส่วนกลุ่มรายการข่าว ขณะนี้พบว่ารายการสีสันบันเทิงหลังข่าวภาคค่ำช่วงที่ 2 และช่วงข่าวเก็บตก ถือเป็นรายการข่าวที่มีราคาโฆษณาสูงที่สุดอยู่ที่ 3 แสนบาทต่อนาที