บอสใหญ่เอไทม์ "เจ๊ฉอด" ยัน "กฤษณ์" กลับมาของานทำจริง แต่ยังไม่มีงานให้ทำ เพราะอยู่ในช่วงปรับผังใหม่ ย้ำไม่มีปัญหาแตกคอกัน บอกยังให้โอกาสเสมอ ด้าน "ปอ" เสียบแทนโดนกระแสวิจารณ์ ไม่ทันทุก "มดดำ" เจ้าตัวบอกเวลายังน้อย ยังตัดสินใจอะไรไม่ได้ บอกทำงานโดนติเป็นเรื่องธรรมดา
จากกรณีที่ดีเจ "กฤษณ์ ศรีภูมิเศรษฐ์" หวานใจหม้ายสาว "มาช่า วัฒนพานิช" ออกจากเอไทม์บ้านหลังเก่า ไปทำงานเคเบิ้ลทีวี ของบริษัทมีเดีย ออฟมีเดียส์ จนมีกระแสตามมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งล่าสุด "กฤษณ์" กลับเข้ามาของาน "เจ๊ฉอด สายทิพย์ มนตรีกุล" ทำอีกครั้ง จนโดนเม้าท์ว่างานนี้ไปไม่รอด พอมีโอกาสเจอบอสใหญ่เอไทม์ ในงานทำบุญครบรอบ 25 ปีแกรมมี่ เลยเข้าสอบถาม เจ้าตัวลั่น ดีเจชื่อดังเข้ามาขอทำงานอีกจริง แต่ยังไม่มีงานให้ทำ เพราะต้องปรับผังและไม่ได้อยู่ที่ตนคนเดียว ลั่นพร้อมให้โอกาสเสมอ
"คืออย่างที่บอก อย่างกฤษณ์ในช่วงที่ผ่านมา เขามีปัญหาเรื่อสุขภาพและการดำเนินชีวิตของเขา แล้วเราก็ยังคุยกันอยู่ว่า เราจะทำอะไรที่มันเหมาะสม กับเขา อาจจะไม่ต้องตื่นแต่เช้าทุกวันแบบนี้ หรือเรามีช่วงเวลาที่จะทำอะไรของเขา เพราะเขาก็มีธุรกิจของเขาด้วย คือเราและเขาก็มีคุยๆกันอยู่บ้าง"
" จริงๆเพราะเราคุยกันมาตั้งแต่ตอนที่เขาจะไป จะอยู่แล้วค่ะ ว่าจะเอาอย่างไร จะทำอย่างไรถึงจะดี การปรึกษาอย่างนี้มันเหมือนพี่น้องเหมือนการปรึกษาแบบพี่น้องมากกว่าค่ะ ว่าเราจะดูแลกันอะไร ตรงไหนอย่างไร จริงๆเขาก็ไม่อยากออกไปจากเอไทม์หรอก เราเองก็ไม่อยากให้เขาไป แต่มันเป็นการที่ไม่ลงตัวมากกว่าในเรื่องของเวลา ไม่ได้มีปัญหาอะไร คือมันไม่ได้เกิดจากการที่แบบอะไรไม่ดีหรือว่าอะไรเลย เรานั่งคุยกันตลอดเวลา"
"ตอนนี้ยังไม่ทราบว่าจะให้กฤษณ์มาร่วมงานได้หรือเปล่า เพราะมันไม่ได้อยู่ที่เราคนเดียว เพราะทางคลื่นมีทั้งฝ่ายผลิต ฝ่ายอะไรอีกเยอะไม่ได้ขึ้นอยู่ที่เราคนเดียว แล้วพี่ก็ต้องปรับผังใหม่ทั้งหมด ไม่ได้พูดถึงแค่ตัวกฤษณ์ แล้วผังใหม่เนี่ยเราก็มีการปรับ ผังใหม่อยู่ตลอดอยู่แล้วทุกปีอยู่แล้วค่ะ คือเราต้องดูก่อนว่าอะไรที่จะเหมาะสมกับเขา"
"เรายินดีและยังให้มาร่วมงานกับเราได้ เพราะตอนนี้เราก็คุยกันปกติเป็นพี่เป็นน้องกันเสมอ เราไม่มีอะไรเลยจริงๆ มันเป็นแค่ประเด็นเท่านั้นเองที่สร้างกันไป ถามกฤษณ์เขาก็ไม่เคยบอกว่าเขาไม่อยากอยู่เอไทม์ แล้วทางเราก็ไม่เคยบอกว่าเรามีปัญหากับเขา แล้วพี่มองว่าถ้าเขากลับมาทำงาน เราต้องหางานที่ไม่เป็นปัญหาในเรื่องของเขา เรื่องเวลา เรื่องสุขภาพอีกทำให้มันลงตัวก่อน แล้วเราถึงจะเข้ามาคุยกันแบบจริงจัง"
สอบถามต่อในเรื่องรายการแฉที่นำ "ปอ วรฐก์" มาแทน "กฤษณ์" แล้วมีกระแสข่าวผู้ฟังเกิดการเปรียบเทียบ แถมยังไม่ทันมุกของ "มดดำ คชาภา" ร้อนถึง บอสใหญ่ ป้องยังใหม่อยู่ และต้องใช้เวลา เพราะทุกคนมีสไตล์เป็นของตัวเอง ปัด กรณีนำนักข่าวมาเป็นดีเจด้วยไม่เกี่ยวกับเรื่องปอ แค่ต้องการให้มีทีม ลั่นไม่ได้ซีเรียสกับข่าวที่เกิดขึ้น
"แต่ละคนไม่เหมือนกันนะคะ ก็ต้องมีบุคลิกที่เป็นตัวของตัวเอง และเราก็ไม่ได้อยากจะหากฤษณ์คนที่สอง มันต้องใช้เวลาเพราะการที่จัดรายการสองคนเนี้ย มันต้องมีวิธีการอะไรเยอะแยะ มันต้องใช้เวลาในการปรับตัวด้วย และมันต้องใช้เวลาดูคือมันเป็นการที่จะต้องใช้เวลาคือเราอย่าไปเทียบกัน ทุกคนมีแนวทางของตัวเอง เราไม่ได้จะเอาปอมาเป็นแนวทางเดียวกับมดดำหรือเอามาเป็นแนวทางเดียวกับกฤษณ์ มันเป็นเรื่องของการที่เราต้องหาแนวทางไปเรื่อยๆ"
"นักข่าวที่เอามาจัดแฉด้วยไม่เกี่ยวกับปอค่ะ เพราะตั้งใจจะทำเป็นทีมของนักข่าวอยู่แล้ว เราก็เลยอยากทำให้เป็นทีมมากกว่าแล้วมันก็จะง่าย อย่างที่บอกว่าดีเจในคลื่นอีเอฟเอ็มเขางานเยอะอยู่แล้วเราก็เลยต้องมีทีมซัพพอตอยู่ตลอด จริงๆกับข่าวก็ไม่ได้ซีเรียสอะไรค่ะ เพราะในส่วนตัวไม่ได้คิดอะไรอยู่แล้ว"
" อย่างที่บอกไปเราไม่ได้รู้สึกว่ามันสำคัญมาก อย่างตัวเราก็ทำงาน ทำรายการสี่รายการ มันก็ต้องเหนื่อย แล้วมันก็ต้องมีกระแสข่าวดีไม่ดีอยู่แล้ว ตอนนี้ยังไม่คิดที่จะเปลี่ยนแปลงอะไร ทุกอย่างมันยังใหม่แล้วปอเองก็เพิ่งจะมาจับคู่กับมดดำคงจะยังตัดสินอะไรไม่ได้แล้วเวลามันยังไม่ถึงเดือนเลย เพิ่งอาทิตย์สองอาทิตย์เอง แต่มันก็แน่นอนอยู่แล้ว การที่เราจะทำอะไรมันก็ต้องมีทั้งคำชมและไม่ชอบ ก็อย่างที่บอกว่าเวลามันยังน้อยอยู่เรายังตัดสินอะไรไม่ได้ค่ะ"
