xs
xsm
sm
md
lg

ยกสิทธิมนุษยชนถล่ม จงใจหรือบังเอิญ !?

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

หลายคนคงรู้สึกแปลกใจว่าทำไมจู่ๆรัฐบาล “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” ที่เพิ่งเปลี่ยนขั้วเข้ามาบริหารประเทศได้เพียงแค่เดือนเศษและถ้านับตามตารางเวลาจริงๆก็เพิ่งทำงานได้ประมาณ 10-11 วันเท่านั้น แต่กลับกลายเป็นว่ามีประเด็นโจมตีเรื่องสิทธิมนุษยชนออกมาอย่างถี่ยิบ

ในเบื้องต้นมีเป้าหมายมุ่งไปที่กองทัพเป็นหลัก

แล้วสื่อที่รายงานข่าวดังกล่าวก็เป็นสื่อต่างประเทศจากนั้นมีการนำมาขยายความต่ออย่างกว้างขวาง ซึ่งหากพิจารณาแบบจับพิรุธ ก็อาจจะเห็นความผิดปกติบางอย่างซ่อนอยู่ ถ้าโยงไปถึงตัวบุคคลและแบ็กกราวด์ของสื่อบางองค์กร

หากถามว่าการอพยพหลบหนีเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายของ “โรฮิงยา” เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวันสองวันนี้หรือไม่ ก็เปล่าเลย เพราะชนกลุ่มน้อยกลุ่มนี้ซึ่งเป็นมุสลิมอาศัยอยู่แถบชายแดนพม่าติดกับบังคลาเทศ กำลังถูกปราบปรามอย่างหนักจากรัฐบาลทหาร จนบางกลุ่มต้องจับอาวุธขึ้นสู้ และมีการเคลื่อนไหวเพื่อแยกออกมาปกครองตนเอง

มีการอพยพหนีภัยไปยังประเทศที่สาม หรืออพยพเข้าเมืองผิดกฎหมายในประเทศไทยมานานหลายปีแล้ว

อีกทั้งในช่วงเวลาไล่เลี่ยกันก็ยังมีเรื่องเจ้าหน้าที่กองทัพซ้อม ทรมานผู้ต้องหา หรือผู้ต้องสงสัยในจังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างทารุณ สร้างภาพลบซ้ำเติมเข้าไปอีก มันก็ยิ่งผิดสังเกต

ทำเหมือนกับว่าปัญหาทำนองนี้เพิ่งเกิดขึ้นเช่นเดียวกัน

เพราะถ้าพูดกันแบบตรงไปตรงมาการละเมิดสุทธิมนุษยชนในจังหวัดชายแดนใต้ถูกกล่าวหามานานแล้ว ไม่เช่นนั้นคงไม่เป็นเงื่อนไขทำให้ปัญหาบานปลายเช่นที่เป็นอยู่ในปัจจุบันนี้หรอก

อย่างไรก็ดีที่น่าจับตาก็คือมีสื่อเทศบางสื่อได้ประโคมข่าวดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง และหากโฟกัสให้ตรงเป้าเข้าไปอีกก็จะเห็นผู้สื่อข่าวต่างประเทศบางคนที่เอาการเอางานในการรายงานข่าวเชิงลบประเภทนี้เหลือเกิน

หากยังจำกันได้ผู้สื่อข่าวบีบีซีคนหนึ่งในประเทศไทยซึ่งอ้างแหล่งข่าวเป็นเจ้าหน้าที่ทั้งทางตำรวจและทหารไทยยืนยันเรื่องนี้ก็เคยถูกดำเนินคดีในข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ เป็นคดีเดียวกันกับ ที่ จักรภพ เพ็ญแข ถูกดำเนินคดีเมื่อครั้งไปปาฐกถาที่สโมสรผู้สื่อข่าวต่างประเทศมาก่อนหน้านี้

ขณะเดียวกันเมื่อหันมามองทางสื่อไทยด้วยกันเองบ้างแม้นาทีนี้จะยังไม่อาจฟันธงได้เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่เห็นสัญญาณว่ามีสื่อบางแห่งมีความแนบแน่นกับ “ระบอบทักษิณ” เคยได้รับเงินก้อนโตจากค่าโฆษณาจากรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เริ่มหันปลายหอกมาทิ่มแทงรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์กันแล้ว

ที่เห็นเป็นตัวอย่างก็คือกรณี ส.ป.ก. 4-01 ที่มีการขยายผล โดยย้ำรอยด่างในยุครัฐบาล ชวน หลีกภัย และมี สุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นเป้าหมายหลัก ซึ่งล่าสุดเจ้าตัวก็ได้ออกมาแสดงความรู้สึกผิดสังเกตดังกล่าว

และนี่ยังไม่นับถึงการเปิดตัวของสถานี “ดีทีวี” ของกลุ่ม “หัวขวด” ในช่วงเวลาเดียวกัน

ดังนั้นนาทีนี้ถ้าจะให้โฟกัสกันแบบจับพิรุธแบบปะติดปะต่อกันก็อาจจะเห็นได้ว่ามีการผสมโรงทั้งภายนอกภายในถล่มรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ โดยในเบื้องต้นยกเรื่องสิทธิมนุษยชนมาโจมตีกองทัพ เพราะรับรู้กันไปทั่วว่าเป็นแบ็กอัปสำคัญ

เพราะถ้าพิจารณากันตามข้อเท็จจริงแล้วเรื่องสิทธิมนุษยชนได้ถูกละเมิดกันมาอย่างต่อเนื่องนานมาแล้ว และถือว่า “หนักข้อ” ที่สุดในยุครัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่มีทั้ง “อุ้มฆ่า-ฆ่าตัดตอน” กว่า 2,500 ศพ มีหลักฐาน มีรายงานปรากฏให้เห็น

อย่างไรก็ดีเมื่อมีการหยิบยกขึ้นมาขยายผลในช่วงนี้ก็เป็นเรื่องที่ต้องตรวจสอบตามมาตรฐานสากล ตามอนุสัญญาด้านสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ เพราะเป็นเรื่องอ่อนไหวในสายตาต่างประเทศ ซึ่งรัฐบาลต้องสืบสาวราวเรื่องกันต่อไป

แต่อีกมุมหนึ่งก็มองเห็นว่ามันมีพิรุธและผิดสังเกตแน่นอน !!
กำลังโหลดความคิดเห็น