“อภิสิทธิ์” ปฏิเสธรับทราบรายงานหน่วยข่าวกรองต่อพวกจ้องป่วน หวังปลุกระดมให้หยิบอาวุธสู้ เผย แค่รับทราบแนวทางแก้ไขปัญหากรรมการ 3 ฝ่าย เชื่อ แนวคิดรุนแรงเป็นเพียงเฉพาะคนบางคน ที่แสดงออก แต่ไม่ใช่คนส่วนใหญ่ของประเทศที่หวังให้เกิดความรุนแรง ซัด “อีเพ็ญ” ประกาศตัวชัดเจนหวังใช้ความรุนแรง ลั่นไม่เอาไว้แน่ เมิน “ทักษิณ” ดันคนเดือนตุลาขึ้นสู้อีกระลอก เชื่อคงไม่รุนแรง
วันนี้ (27 เม.ย.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ไม่ได้หารือถึงกรณีหน่วยงานข่าวกรอง รายงานเกี่ยวกับการปลุกระดมให้มีการหยิบอาวุธต่อสู้ เหมือนขบวนการพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย แต่รับทราบเพียงมติของคณะกรรมการประสานงาน 3 ฝ่ายเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาและรับทราบการทำงานของคณะกรรมการประมวลเหตุการณ์ของรัฐบาล ซึ่งจะทำงานต่อไป เพื่อให้ข้อเท็จจริงต่างๆ เป็นข้อเท็จจริงที่ถูกต้องให้ประชาชนได้รับทราบ อย่างไรก็ตาม เรื่องดังกล่าวคิดว่าอาจจะมีแนวคิดของบางคน ซึ่งได้แสดงออกอย่างเปิดเผย แต่ตนเชื่อว่าประชาชนส่วนใหญ่คงไม่เห็นประโยชน์ของการที่จะให้เกิดเหตุการณ์อย่างนั้นขึ้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า ก่อนหน้านี้ นายกฯเคยแสดงความเป็นห่วงสถานการณ์บ้านเมืองที่อาจจะมีพวกหัวซ้ายจัดฉากสร้างสถานการณ์ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ขอเรียนว่า มีคนจำนวนหนึ่ง ซึ่งอาจจะมีความคิดที่จะไปในแนวทางที่รุนแรง แต่ตนมั่นใจว่า ไม่สอดคล้องกับพื้นฐานของสังคมไทย และประเด็นที่ผู้ที่มาชุมนุมจำนวนมากได้ให้ความสำคัญก็เป็นประเด็นที่ขณะนี้ กลไกของสภากับรัฐบาลได้เดินหน้าสะสางอยู่
เมื่อถามว่า กรณีที่ นายจักรภพ เพ็ญแข แกนนำ นปช.ให้สัมภาษณ์ผ่านบีบีซี อังกฤษ ย้ำว่า จะมีการจับอาวุธมาต่อสู้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คิดว่า อันนี้เป็นตัวบ่งบอกว่า แนวคิดที่จะไม่เคารพกฎหมายที่จะใช้ความรุนแรงมีอยู่ชัดเจนมีอยู่จริง และมีโดยบางคนเปิดเผยแล้ว ฉะนั้นอันนี้เป็นเรื่องที่ผิดกฎหมายแน่นอน และเราต้องดำเนินการต่อไป อย่างไรก็ตามผู้ชุมนุมและแกนนำบางส่วนได้ออกมาปฏิเสธว่าไม่ได้ยึดถือแนวทางนี้
เมื่อถามว่า กรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ผลักดันแกนนำรุ่น 2 ขึ้นมาล้วนแต่เป็นบุคคลที่เคยอยู่ในเหตุการณ์ 6 ต.ค.19 นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เท่าที่ฟังการให้สัมภาษณ์ขณะนี้เขา ไม่ได้ยึดแนวทางที่จะใช้ความรุนแรงหรือใช้อาวุธ