ASTVผู้จัดการรายวัน - “อินเด็กซ์” สยายปีกครบวงจร ทุ่ม 100 ล้าน ซุ่มพัฒนาธุรกิจใหม่ 3 ด้าน พร้อมรีแบรนด์ “อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ” คลุมทุกธุรกิจในเครือ ไตรมาสแรกโกยรายได้ทะลุ 100 ล้านบาท ทั้งปีโตแน่ 22% แตะ 1,560 ล้านบาท
นายเกรียงไกร กาญจนะโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท อินเด็กซ์ อีเว้นท์ เอเจนซี่ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แนวโน้มธุรกิจอีเว้นท์มูลค่า 5,500 ล้านบาทในปีนี้ คาดว่าจะเติบโต 5% เทียบจากปีก่อนที่เติบโตเพียง 2-3% เท่านั้น เหตุผลสำคัญเกิดจาก สภาพเศรษฐกิจโลก ที่ส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจ สินค้าหลายรายการโดยเฉพาะจากบริษัทฯต่างชาติ จะมีการตัดเม็ดเงินในการทำตลาดลดลง ส่งผลให้วิธีการทำตลาดในปีนี้ จะมุ่งเน้นทางด้านอีเว้นท์มากขึ้น แทนการใช้เงินไปกับสื่อโฆษณา
โดยในส่วนของอินเด็กซ์เอง ช่วงปลายปี 2551 ที่ผ่านมา ยอมรับว่าได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ต่างๆที่รุมเร้า แต่ก็ยังรักษารายได้ให้มีการเติบโตถึง 22% คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 1,272 ล้านบาท ทั้งนี้เกิดจากการที่บริษัทฯได้มีการปรับตัวรองรับสถานการณ์อยู่ตลอดเวลา ล่าสุดในปีนี้ทางบริษัทฯมีแผนรีแบรนด์ อินเด็กซ์ กรุ๊ป มาเป็น อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ เนื่องจากที่ผ่านมา บริษัทฯจะเป็นที่รู้จักเพียง ธุรกิจทางด้านอีเว้นท์เท่านั้น แต่ภายใต้แบรนด์ใหม่นี้ จะทำให้ลูกค้าเข้าใจในธุรกิจที่อินเด็กซ์ทำมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งจะเห็นความเป็นครีเอทีฟ ไอเดีย และธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับงานทางด้านอีเว้นท์ที่บริษัทฯดำเนินมาทั้งหมด โดยแบรนด์ดังกล่าวจะถือเป็นแบรนด์แม่ของบริษัทโดยมีธุรกิจในเครือที่ทำอยู่ทั้งหมดกว่า 12 ยูนิตบิซิเนส
ในปีนี้เตรียมงบประมาณกว่า 100 ล้านบาท ในการขยายและลงทุนธุรกิจอื่นๆเพิ่มอีก 3 ด้าน ในส่วนของการผลิต ด้านการผลิตเกี่ยวกับธุรกิจอีเว้นท์ กลุ่มธุรกิจมีเดีย ที่จะมีการเปิดตัวนิวบิซิเนสเพิ่มในปีนี้ และ ด้านเอนเตอร์เทนเม้นท์ เช่น การเพิ่มรายการโทรทัศน์ จากเดิมที่มีอยู่ 4 ช่องทางทรูวิชั่นส์ ปีนี้จะเพิ่มอีก 4 ช่องทั้งทางทรูวิชั่นส์และทางฟรีทีวี มีการจ้างงานเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 30 คน จากปัจจุบันบริษัทฯมีพนักงานกว่า 500 คน
ด้านนายเกรียงกานต์ กาญจนะโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท อินเด็กซ์ อีเว้นท์ เอเจนซี่ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บงานในช่วงไตรมาส 1 นี้ มีการเติบโตมากกว่าปีก่อนถึง 1 เท่าตัว เฉพาะงานด้านอีเว้นท์ทำรายได้ไปแล้วกว่า 100 ล้านบาท และยังมีลูกค้าทำสัญญาจ้างงานไปแล้ว 3 ราย มูลค่าถึง 170 ล้านบาท รวมไปถึงงานใหญ่อย่าง เวิร์ด เอ็กซ์โป 2010 ที่จะจัดขึ้นที่ประเทศจีน ที่ทางบริษัทฯได้มามูลค่างานถึง 609 ล้านบาท เชื่อจะเป็นแรงผลักให้บริษัทฯมีรายได้ในปี 2552 นี้ เติบโตอีกอย่างน้อย 22% หรือมีรายได้รวทม 1,560 ล้านบาท แบ่งเป็น อีเว้นต์ 57% , ธุรกิจให้เช่า 21%, การผลิต 12%, การสื่อสาร 5% ที่เหลือเป็น สื่อทีวี อีก 5%
นายเกรียงไกร กาญจนะโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท อินเด็กซ์ อีเว้นท์ เอเจนซี่ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แนวโน้มธุรกิจอีเว้นท์มูลค่า 5,500 ล้านบาทในปีนี้ คาดว่าจะเติบโต 5% เทียบจากปีก่อนที่เติบโตเพียง 2-3% เท่านั้น เหตุผลสำคัญเกิดจาก สภาพเศรษฐกิจโลก ที่ส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจ สินค้าหลายรายการโดยเฉพาะจากบริษัทฯต่างชาติ จะมีการตัดเม็ดเงินในการทำตลาดลดลง ส่งผลให้วิธีการทำตลาดในปีนี้ จะมุ่งเน้นทางด้านอีเว้นท์มากขึ้น แทนการใช้เงินไปกับสื่อโฆษณา
โดยในส่วนของอินเด็กซ์เอง ช่วงปลายปี 2551 ที่ผ่านมา ยอมรับว่าได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ต่างๆที่รุมเร้า แต่ก็ยังรักษารายได้ให้มีการเติบโตถึง 22% คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 1,272 ล้านบาท ทั้งนี้เกิดจากการที่บริษัทฯได้มีการปรับตัวรองรับสถานการณ์อยู่ตลอดเวลา ล่าสุดในปีนี้ทางบริษัทฯมีแผนรีแบรนด์ อินเด็กซ์ กรุ๊ป มาเป็น อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ เนื่องจากที่ผ่านมา บริษัทฯจะเป็นที่รู้จักเพียง ธุรกิจทางด้านอีเว้นท์เท่านั้น แต่ภายใต้แบรนด์ใหม่นี้ จะทำให้ลูกค้าเข้าใจในธุรกิจที่อินเด็กซ์ทำมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งจะเห็นความเป็นครีเอทีฟ ไอเดีย และธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับงานทางด้านอีเว้นท์ที่บริษัทฯดำเนินมาทั้งหมด โดยแบรนด์ดังกล่าวจะถือเป็นแบรนด์แม่ของบริษัทโดยมีธุรกิจในเครือที่ทำอยู่ทั้งหมดกว่า 12 ยูนิตบิซิเนส
ในปีนี้เตรียมงบประมาณกว่า 100 ล้านบาท ในการขยายและลงทุนธุรกิจอื่นๆเพิ่มอีก 3 ด้าน ในส่วนของการผลิต ด้านการผลิตเกี่ยวกับธุรกิจอีเว้นท์ กลุ่มธุรกิจมีเดีย ที่จะมีการเปิดตัวนิวบิซิเนสเพิ่มในปีนี้ และ ด้านเอนเตอร์เทนเม้นท์ เช่น การเพิ่มรายการโทรทัศน์ จากเดิมที่มีอยู่ 4 ช่องทางทรูวิชั่นส์ ปีนี้จะเพิ่มอีก 4 ช่องทั้งทางทรูวิชั่นส์และทางฟรีทีวี มีการจ้างงานเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 30 คน จากปัจจุบันบริษัทฯมีพนักงานกว่า 500 คน
ด้านนายเกรียงกานต์ กาญจนะโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท อินเด็กซ์ อีเว้นท์ เอเจนซี่ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บงานในช่วงไตรมาส 1 นี้ มีการเติบโตมากกว่าปีก่อนถึง 1 เท่าตัว เฉพาะงานด้านอีเว้นท์ทำรายได้ไปแล้วกว่า 100 ล้านบาท และยังมีลูกค้าทำสัญญาจ้างงานไปแล้ว 3 ราย มูลค่าถึง 170 ล้านบาท รวมไปถึงงานใหญ่อย่าง เวิร์ด เอ็กซ์โป 2010 ที่จะจัดขึ้นที่ประเทศจีน ที่ทางบริษัทฯได้มามูลค่างานถึง 609 ล้านบาท เชื่อจะเป็นแรงผลักให้บริษัทฯมีรายได้ในปี 2552 นี้ เติบโตอีกอย่างน้อย 22% หรือมีรายได้รวทม 1,560 ล้านบาท แบ่งเป็น อีเว้นต์ 57% , ธุรกิจให้เช่า 21%, การผลิต 12%, การสื่อสาร 5% ที่เหลือเป็น สื่อทีวี อีก 5%
