xs
xsm
sm
md
lg

ดัชนีเชื่อมั่นดีขึ้นรอบ5เดือน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-ดัชนีความเชื่อมั่นคนไทยผงกหัวดีขึ้นในรอบ 5 เดือน รับ “มาร์ค”เป็นนายกรัฐมนตรี พร้อมคาดหวังอนาคตจะดีขึ้นจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล แต่เป็นห่วงปัญหาการว่างงานที่กำลังมีผลกระทบรุนแรงมากขึ้น แนะรัฐบาลเร่งแก้ไขและเพิ่มมาตรการดูแล คาดไตรมาส 3 ความเชื่อมั่นจะกลับมาฟื้นตัวขึ้น

+++นางเสาวณีย์ ไทยรุ่งโรจน์ รองอธิการบดีฝ่ายวิจัย มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคประจำเดือนธ.ค.2551 จากกลุ่มตัวอย่างประชาชนทั่วประเทศ 2,238 คน พบว่าดัชนีเพิ่มขึ้นเกือบทุกรายการเป็นครั้งแรกในรอบ 5 เดือน นับจากเดือนส.ค.2551 โดยดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวมอยู่ที่ 67.5 เพิ่มจากเดือนพ.ย.2551 ที่ 67.1 ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเกี่ยวกับโอกาสหางานทำอยู่ที่ 68.0 เพิ่มจาก 67.9 และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้อนาคต อยู่ที่ 88.8 เพิ่มจาก 87.8 ส่งผลให้ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนธ.ค.2551 อยู่ที่ 74.8 เพิ่มจาก 74.2 ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในอนาคตอยู่ที่ 75.7 เพิ่มจาก 74.7 มีเพียงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปัจจุบันเท่านั้นที่ลดลงเหลือ 66.3 จากเดือนพ.ย.2551 ที่ 66.8

+++สำหรับปัจจัยบวกที่ช่วยให้ความเชื่อมั่นกลับมาดีขึ้น มาจากการคลี่คลายทางการเมือง ที่มีการเปลี่ยนขั้วทางการเมืองและได้นายอภิสิทธิ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ อีกทั้งราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศปรับลดลงเหลือลิตรละ18-20 บาท นอกจากนี้ ยังได้รับผลดีต่อเนื่องจาก 6 มาตรการ 6 เดือนฝ่าวิกฤต และคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ลดดอกเบี้ยนโยบายลง 1% จาก 3.75% เหลือ 2.75% ซึ่งช่วยกระตุ้นการใช้จ่าย และลดต้นทุนให้กับภาคการผลิตได้

+++อย่างไรก็ตาม ความวิตกเกี่ยวกับปัญหาการตกงาน การว่างงาน กลายเป็นเรื่องใหญ่ที่บั่นทอนดัชนีความเชื่อมั่นโดยรวม หลังจากมีสัญญาณการชะลอตัวและข่าวปลดคนงานเกิดขึ้นต่อเนื่อง รวมทั้งคนส่วนใหญ่ยังกังวลปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจโลก เสถียรภาพการเมือง และปัญหาค่าครองชีพราคาสินค้า

+++นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า ประชาชนกลับมีความหวังอีกครั้ง หลังจากมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ส่งผลให้ดัชนีความเชื่อมั่นเริ่มฟื้นคืน โดยเฉพาะดัชนีการเมืองเพิ่มสูงสุดในรอบ 9 เดือน แต่ภาพรวมยังชี้วัดไม่ได้ว่าความเชื่อมั่นจะเป็นช่วงขาขึ้น เพราะเป็นการสำรวจก่อนมีนโยบายรัฐบาลออกมา จึงต้องดูดัชนีเดือนม.ค.2552 ก่อน ถึงตัดสินได้ แต่ทิศทางความเชื่อมั่นน่าจะดีขึ้น เพราะคนคาดหวังว่านโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐ จะช่วยให้เศรษฐกิจฟื้นคืนได้

+++“แม้ความเชื่อมั่นในอนาคตจะส่งสัญญาณดี แต่ความเชื่อมั่นภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันยังแย่อยู่ โดยเฉพาะปัญหาการว่างงานที่คนส่วนใหญ่กังวลมากสุดในรอบ 10 ปี ทำให้คาดว่าตลอดไตรมาส 1 และ 2 ปีนี้ ความเชื่อมั่นจะอยู่ระดับต่ำ ซึ่งรัฐจำเป็นต้องมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมาต่อเนื่อง และหากแผนกระตุ้นเศรษฐกิจทำได้ตามแผน อาจเห็นความเชื่อมั่นดีขึ้นในเดือนเม.ย.-พ.ค. และความเชื่อมั่นรวมจะฟื้นตัวได้ในไตรมาส 3 ของปี ซึ่งจากนี้ไปรัฐบาลควรออกมามาตรการเพิ่มเติม เพื่อลดการปลดคนงาน และส่งเสริมการจ้างงานเพิ่มในหลายรูปแบบ”นายธนวรรธน์กล่าว

+++นายดุสิต นนทะนาคร รองประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวว่า หอการค้าสนับสนุนนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ และเห็นว่าการใช้เงิน 115,000 ล้านบาท เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งนี้ เป็นแนวทางที่ถูกต้อง ช่วยให้เศรษฐกิจกลับมาดีได้ โดยเฉพาะการต่อมาตรการเร่งด่วน 6 มาตรการ 6 เดือน และการเพิ่มรายได้ให้ผู้มีรายได้ต่ำเดือนละ 2,000 บาท เนื่องจากขณะนี้การส่งออก การท่องเที่ยว และภาคผลิตกำลังเกิดปัญหา จำเป็นต้องเร่งการบริโภคใช้จ่ายในประเทศเพื่อประคองเศรษฐกิจภายใน

+++ส่วนโครงการสร้างแหล่งน้ำการเกษตร สร้างถนนชนบท จะช่วยกระจายรายได้และการบริโภคในชนบทได้ รวมถึงนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจพอเพียง การศึกษาฟรี ขณะเดียวกันต้องการเสนอให้รัฐใช้การประชุมอาเซียน ซัมมิท ปลายเดือนก.พ. เป็นเวทีการสร้างภาพลักษณ์ประเทศ และเรียกความเชื่อมั่นจากนักลงทุนต่างชาติกลับมาด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น