ถกเถียงกันตั้งแต่ปลายปี 2551 หลังจากการจัดตั้งรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ว่าพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยควรจะมีพรรคการเมืองในเครือข่ายของตัวเอง เพื่อเข้าสู่อำนาจรัฐและไปสร้างการเมืองใหม่
แม้ว่าในช่วงแรกจะมีผู้เสนอว่าควรจะมีพรรคการเมืองที่ชื่อพรรคพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย แต่หลายฝ่ายต่างแสดงความไม่เห็นด้วยเพราะยังเห็นความจำเป็นในการ “เคลื่อนไหวภาคประชาชนที่ไม่เข้าสู่อำนาจรัฐ” ในนามพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยอยู่
จึงมีข้อเสนอในช่วงหลังๆ ว่าประเทศไทยจำเป็นที่จะต้องมีพรรคการเมืองในเครือข่ายของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยหรือไม่? เพื่อสร้างการเมืองที่ทำงานคู่ขนานกัน 2 ด้าน
ด้านหนึ่งเป็นการทำงานการเมืองภาคประชาชนที่ไม่เข้าสู่อำนาจรัฐเพื่อกดดันต่ออำนาจรัฐให้ทำตามวัตถุประสงค์ของภาคประชาชน
อีกด้านหนึ่งเป็นการเมืองในระบบเพื่อเข้าสู่อำนาจรัฐไปสร้างการเมืองใหม่ด้วยมือของเครือข่ายพรรคการเมืองของพันธมิตรฯ เองตามวัตถุประสงค์ของการเมืองภาคประชาชน
คำถามมีอยู่ว่าพรรคการเมืองในระบบไม่สามารถพึ่งพาได้จริงๆ หรอกหรือ? เรื่องนี้อยู่ที่ว่าพรรคการเมืองในระบบปัจจุบันสามารถตอบสนองความต้องการของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้หรือไม่?
แล้วอะไรคือการตอบสนองความต้องการของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย?
คำตอบก็คือเจตนารมณ์ของวีรชนที่เสียชีวิตกว่าสิบท่าน และผู้พิการและบาดเจ็บอีกจำนวนหลายร้อยคนที่เสียสละชีวิต อวัยวะ ร่างกายและทรัพย์สินตลอดระยะเวลา 193 วัน กลั่นกรองออกมาเป็นข้อเรียกร้องที่ชัดเจน 13 ข้อ ผ่านแถลงการณ์พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยฉบับที่เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2551 เรื่อง “คำเตือนก่อนเข้าสู่อำนาจ”
1. เร่งรัดดำเนินคดีดูหมิ่นพระมหากษัตริย์ ต่อนายจักรภพ เพ็ญแข นายวีระ มุสิกพงศ์ เว็บไซต์ สื่อสิ่งพิมพ์ วิทยุชุมชน และปราบปรามขบวนการดูหมิ่นและล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ทั้งหมด โดยด่วนที่สุดเป็นลำดับแรก
2. ขอให้แสดงจุดยืนที่จะไม่แก้ไขรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 หรือกฎหมายอื่นใดที่จะฟอกความผิดให้กับนักการเมือง ไม่แก้ไขกฎหมายเพื่อการกระทำที่ขัดกันแห่งผลประโยชน์ของนักการเมือง และไม่แก้ไขกฎหมายเพื่อลดพระราชอำนาจหรือโครงสร้างของสถาบันพระมหากษัตริย์ในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
3. ต้องส่งเสริมให้คนดีมีความสามารถมาปกครองบ้านเมือง ป้องกันมิให้คนไม่ดีมีอำนาจ บริหารราชการแผ่นดินด้วยความโปร่งใส อย่าได้นำนักการเมืองหรือข้าราชการที่มีมลทิน ไม่เป็นที่ยอมรับของสังคม มีการขัดกันแห่งผลประโยชน์ในตำแหน่งหน้าที่ หรือมีพฤติกรรมที่จะแสวงหาประโยชน์ในทางมิชอบ มาร่วมบริหารราชการแผ่นดินเป็นอันขาด
4. ขอให้เร่งรัดคดีทุจริตคอร์รัปชัน ให้เข้าสู่กระบวนการในชั้นศาล โดยปราศจากการแทรกแซงทั้งทางตรงและทางอ้อม ทำการ โยกย้ายข้าราชการที่รับใช้ระบอบทักษิณให้พ้นจากตำแหน่ง เช่น อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ เลขาธิการองค์การอาหารและยา ฯลฯ และยึดทรัพย์สินที่โกงชาติไปกลับมาเป็นของรัฐ
ทั้งนี้เพื่อเห็นแก่ประโยชน์ของประเทศชาติเป็นที่ตั้ง ขอให้แสดงจุดยืนที่จะเร่งรัดดำเนินคดีบุกรุกและครอบครองที่ดินกรณีเขากระโดงของการรถไฟแห่งประเทศไทย และที่ดินสาธารณประโยชน์ในอำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์ ดำเนินการและยกเลิกการเช่าพื้นที่ขายสินค้าในสนามบินสุวรรณภูมิที่มิชอบ ยกเลิกและดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่รัฐและเอกชนที่ให้เช่ารายการสถานีโทรทัศน์วิทยุแห่งประเทศไทย กรมประชาสัมพันธ์ ช่อง 11 อย่างไม่โปร่งใสโดยทันที
5. ขอให้ยกเลิกหนังสือเดินทางของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหนีอาญาแผ่นดินโดยทันที
6. ขอให้เร่งรัดดำเนินการเพื่อให้ส่งตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรผู้ร้ายหนีอาญาแผ่นดินมาดำเนินคดีในประเทศไทยโดยทันที
7. ขอให้ประกาศยกเลิกแถลงการณ์ร่วมระหว่างไทยกัมพูชา ที่ยกปราสาทพระวิหารและพื้นที่โดยรอบให้กับกัมพูชาแต่เพียงฝ่ายเดียว และรักษาอธิปไตยทั้งดินแดนและแหล่งพลังงานก๊าซธรรมชาติและน้ำมันในอ่าวไทยจนถึงที่สุด
8. ขอให้เร่งรัดสลายรัฐตำรวจ โยกย้ายข้าราชการตำรวจที่ใส่ความ กลั่นแกล้ง และคุกคามประชาชน ผู้เข้าร่วมการชุมนุม และผู้สนับสนุนการชุมนุม ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ที่มีความสำคัญหรือมีส่วนได้เสียต่อคดีความ ขอให้ลงโทษเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำร้ายสังหารประชาชนในเหตุการณ์วันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ.2551 ตลอดจนใส่ความประชาชนผู้ชุมนุมว่าเป็นกบฏ และผู้ก่อการร้าย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์, พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว และพล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน พล.ต.ท.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง พ.ต.อ.ลือชัย สุดยอด ฯลฯ และขอให้คืนความเป็นธรรมให้กับตำรวจที่ทำหน้าที่อย่างสุจริตและกล้าหาญเพื่อประโยชน์ของประชาชนให้เจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน
9. ขอให้เร่งรัดดำเนินคดีความและลงโทษผู้ที่ถูกชี้มูล โดยคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติและคณะกรรมาธิการในวุฒิสภา ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเข่นฆ่าประชาชน เช่น นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์, พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ และเจ้าหน้าที่รัฐ และขอให้ดำเนินคดีเอาผิดกับอันธพาลการเมืองของรัฐบาลที่ทำร้ายและเข่นฆ่าผู้ชุมนุมจนถึงที่สุด
10. ยุติการใช้สื่อของรัฐโฆษณาชวนเชื่อและโกหกหลอกลวงประชาชนเพื่อระบอบทักษิณโดยทันที โดยเฉพาะอย่างยิ่งรายการและผู้ดำเนินรายการความจริงวันนี้ที่สถานีโทรทัศน์เอ็นบีที และขอให้ปฏิรูปสื่อ เปิดพื้นที่ให้ประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้อย่างครบถ้วน เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชนอย่างแท้จริง
11. ขอให้ประกาศยกเลิกโครงการที่ใช้จ่ายเกินตัวและไม่โปร่งใสที่จะทำให้ชาติล่มจม เช่น โครงการเช่ารถเมล์เอ็นจีวี 4,000 คัน โครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ฯลฯ โดยทันที
12. ยกเลิก พ.ร.บ.ทุนรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. 2542 และใช้การปฏิรูปและพัฒนารัฐวิสาหกิจแทนเพื่อประโยชน์สูงสุดของคนในชาติ และนำเอารัฐวิสาหกิจที่แปรรูปไปแล้วกลับคืนมาเป็นของรัฐดังเดิม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ปตท.
13. ขอให้แสดงจุดยืนที่จะส่งเสริม สนับสนุน ประชาชนในการสร้างการเมืองใหม่ ที่ประชาชนมีส่วนร่วมทางการเมืองเพื่อให้เป็นประชาธิปไตยทางการเมือง เศรษฐกิจ และสังคมอย่างแท้จริง ตามแนวทางของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เพื่อป้องกันมิให้เกิดวิกฤตทางการเมืองในอนาคตอีกต่อไป
แถลงการณ์ในฉบับดังกล่าวยังได้ลงท้ายต่อกลุ่มการเมืองที่กำลังจะเข้าสู่อำนาจรัฐในเวลานั้นว่า:พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขอเรียกร้องให้นักการเมืองที่กำลังจะจัดตั้งรัฐบาลได้ตระหนักและคำนึงถึงเจตนารมณ์ของประชาชนและวีรชนผู้เสียสละเพื่อประเทศชาติเป็นสำคัญ มากกว่าการต่อรองเพื่อแย่งชิงผลประโยชน์ระหว่างกลุ่มการเมือง โดยการแสดงจุดยืนและปฏิบัติตามข้อเรียกร้องข้างต้น เพื่อมิให้ประชาชนต้องผิดหวังและหมดศรัทธาการเมืองในระบบปัจจุบันไปมากกว่านี้
ถ้าข้อเรียกร้องและเจตนารมณ์ของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยถูกปฏิเสธ หรือเพิกเฉย เราพร้อมจะดำเนินการเคลื่อนไหวอย่างเหมาะสมกับสถานการณ์ต่อไป
บัดนี้เวลาผ่านไปครบ 1 เดือนเศษแล้วนับแต่วันที่แถลงการณ์ฉบับดังกล่าว ข้อเรียกร้องที่เป็นรูปธรรมที่กล่าวมาข้างต้นก็ยังไม่ได้รับการตอบสนองเท่าที่ควร จะมีก็แต่เพียงการยกเลิกหนังสือเดินทางเฉพาะเล่มสีแดงของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และการถอดรายการความจริงวันนี้ที่สถานีโทรทัศน์ เอ็นบีที ซึ่งเกิดขึ้นช่วงรอยต่อก่อนรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์เข้ามาบริหารประเทศทั้งสิ้น
แม้พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจะยังให้โอกาสรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ทำงาน แต่กระแสเรียกร้องพรรคการเมืองเครือข่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเพื่อคู่ขนานจะเกิดขึ้นโดยธรรมชาติ ถ้ารัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ไม่สามารถตอบสนองข้อเรียกร้องข้างต้นได้
เพราะในสถานการณ์ที่รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ได้รับโอกาสให้บริหารประเทศครั้งนี้อยู่ภายใต้แรงกดดันจากกลุ่มต่างๆ ที่ทำให้เกิดการพลิกขั้วจนจัดตั้งรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ได้วันนี้
กลุ่มประชาชนของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กับกลุ่มองค์ประกอบของรัฐบาล เป็นสิ่งที่รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์จะต้องเลือกยืนให้ดี
กลุ่มประชาชนของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย คือองค์กรหลักที่หยุดยั้งการแก้ไขรัฐธรรมนูญฟอกความผิดให้กับพรรคพลังประชาชนและ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรได้สำเร็จ ซึ่งถ้าไม่มีฝ่ายนี้รัฐธรรมนูญย่อมถูกแก้ไข พรรคพลังประชาชนจะไม่ถูกยุบ และพ.ต.ท.ทักษิณอาจไม่ถูกพิพากษาให้จำคุก ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์จะไม่มีทางมาเป็นรัฐบาลได้ และถ้าไม่มีแรงกดดันนี้จะไม่มีทางที่กลุ่มการเมืองต่างๆ จะหันมาพลิกขั้วได้เช่นเดียวกัน
อีกกลุ่มหนึ่ง คือพรรคการเมืองร่วมรัฐบาล กลุ่มทุน และกลุ่มทหารต่างเป็นองค์ประกอบที่ทำให้จัดตั้งรัฐบาลได้ โดยต้องมีตำแหน่งและผลประโยชน์ต่างตอบแทนเป็นสิ่งแลกเปลี่ยน เพื่อทำให้ความเป็นรัฐบาลสามารถดำรงอยู่ได้
กลุ่มเหล่านี้มาด้วยผลประโยชน์ต่างตอบแทน ก็ไปได้ด้วยผลประโยชน์ต่างตอบแทนเช่นกัน!
แต่ถ้ารัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ตอบสนองผลประโยชน์ต่างตอบแทนจนลืมข้อเรียกร้องของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย พรรคประชาธิปัตย์ก็จะไม่สามารถเป็นที่พึ่งของประชาชนที่เข้าร่วมกับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้อีกต่อไป และจะเป็นเหตุทำให้พรรคประชาธิปัตย์เสื่อมจนไม่สามารถกลับมาเป็นรัฐบาลได้อีกนาน
เมื่อพรรคประชาธิปัตย์เสื่อม ประชาชนก็ต้องแสวงหาทางเลือกอื่นที่ย่อมไม่ใช่พรรคการเมืองอื่นๆ ในระบบปัจจุบัน เมื่อนั้น พรรคการเมืองเครือข่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยก็จะต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน
แต่ถ้าข้อเรียกร้องของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้รับการตอบสนองอย่างครบถ้วนทุกข้อ พรรคประชาธิปัตย์ก็จะกลายเป็นพรรคการเมืองเพื่อการเมืองใหม่ที่จะได้รับการสนับสนุนจากพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้โดยไม่ต้องมีการตั้งพรรคการเมืองในเครือข่ายของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยแต่ประการใด
แม้ว่าในช่วงแรกจะมีผู้เสนอว่าควรจะมีพรรคการเมืองที่ชื่อพรรคพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย แต่หลายฝ่ายต่างแสดงความไม่เห็นด้วยเพราะยังเห็นความจำเป็นในการ “เคลื่อนไหวภาคประชาชนที่ไม่เข้าสู่อำนาจรัฐ” ในนามพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยอยู่
จึงมีข้อเสนอในช่วงหลังๆ ว่าประเทศไทยจำเป็นที่จะต้องมีพรรคการเมืองในเครือข่ายของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยหรือไม่? เพื่อสร้างการเมืองที่ทำงานคู่ขนานกัน 2 ด้าน
ด้านหนึ่งเป็นการทำงานการเมืองภาคประชาชนที่ไม่เข้าสู่อำนาจรัฐเพื่อกดดันต่ออำนาจรัฐให้ทำตามวัตถุประสงค์ของภาคประชาชน
อีกด้านหนึ่งเป็นการเมืองในระบบเพื่อเข้าสู่อำนาจรัฐไปสร้างการเมืองใหม่ด้วยมือของเครือข่ายพรรคการเมืองของพันธมิตรฯ เองตามวัตถุประสงค์ของการเมืองภาคประชาชน
คำถามมีอยู่ว่าพรรคการเมืองในระบบไม่สามารถพึ่งพาได้จริงๆ หรอกหรือ? เรื่องนี้อยู่ที่ว่าพรรคการเมืองในระบบปัจจุบันสามารถตอบสนองความต้องการของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้หรือไม่?
แล้วอะไรคือการตอบสนองความต้องการของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย?
คำตอบก็คือเจตนารมณ์ของวีรชนที่เสียชีวิตกว่าสิบท่าน และผู้พิการและบาดเจ็บอีกจำนวนหลายร้อยคนที่เสียสละชีวิต อวัยวะ ร่างกายและทรัพย์สินตลอดระยะเวลา 193 วัน กลั่นกรองออกมาเป็นข้อเรียกร้องที่ชัดเจน 13 ข้อ ผ่านแถลงการณ์พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยฉบับที่เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2551 เรื่อง “คำเตือนก่อนเข้าสู่อำนาจ”
1. เร่งรัดดำเนินคดีดูหมิ่นพระมหากษัตริย์ ต่อนายจักรภพ เพ็ญแข นายวีระ มุสิกพงศ์ เว็บไซต์ สื่อสิ่งพิมพ์ วิทยุชุมชน และปราบปรามขบวนการดูหมิ่นและล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ทั้งหมด โดยด่วนที่สุดเป็นลำดับแรก
2. ขอให้แสดงจุดยืนที่จะไม่แก้ไขรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 หรือกฎหมายอื่นใดที่จะฟอกความผิดให้กับนักการเมือง ไม่แก้ไขกฎหมายเพื่อการกระทำที่ขัดกันแห่งผลประโยชน์ของนักการเมือง และไม่แก้ไขกฎหมายเพื่อลดพระราชอำนาจหรือโครงสร้างของสถาบันพระมหากษัตริย์ในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
3. ต้องส่งเสริมให้คนดีมีความสามารถมาปกครองบ้านเมือง ป้องกันมิให้คนไม่ดีมีอำนาจ บริหารราชการแผ่นดินด้วยความโปร่งใส อย่าได้นำนักการเมืองหรือข้าราชการที่มีมลทิน ไม่เป็นที่ยอมรับของสังคม มีการขัดกันแห่งผลประโยชน์ในตำแหน่งหน้าที่ หรือมีพฤติกรรมที่จะแสวงหาประโยชน์ในทางมิชอบ มาร่วมบริหารราชการแผ่นดินเป็นอันขาด
4. ขอให้เร่งรัดคดีทุจริตคอร์รัปชัน ให้เข้าสู่กระบวนการในชั้นศาล โดยปราศจากการแทรกแซงทั้งทางตรงและทางอ้อม ทำการ โยกย้ายข้าราชการที่รับใช้ระบอบทักษิณให้พ้นจากตำแหน่ง เช่น อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ เลขาธิการองค์การอาหารและยา ฯลฯ และยึดทรัพย์สินที่โกงชาติไปกลับมาเป็นของรัฐ
ทั้งนี้เพื่อเห็นแก่ประโยชน์ของประเทศชาติเป็นที่ตั้ง ขอให้แสดงจุดยืนที่จะเร่งรัดดำเนินคดีบุกรุกและครอบครองที่ดินกรณีเขากระโดงของการรถไฟแห่งประเทศไทย และที่ดินสาธารณประโยชน์ในอำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์ ดำเนินการและยกเลิกการเช่าพื้นที่ขายสินค้าในสนามบินสุวรรณภูมิที่มิชอบ ยกเลิกและดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่รัฐและเอกชนที่ให้เช่ารายการสถานีโทรทัศน์วิทยุแห่งประเทศไทย กรมประชาสัมพันธ์ ช่อง 11 อย่างไม่โปร่งใสโดยทันที
5. ขอให้ยกเลิกหนังสือเดินทางของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหนีอาญาแผ่นดินโดยทันที
6. ขอให้เร่งรัดดำเนินการเพื่อให้ส่งตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรผู้ร้ายหนีอาญาแผ่นดินมาดำเนินคดีในประเทศไทยโดยทันที
7. ขอให้ประกาศยกเลิกแถลงการณ์ร่วมระหว่างไทยกัมพูชา ที่ยกปราสาทพระวิหารและพื้นที่โดยรอบให้กับกัมพูชาแต่เพียงฝ่ายเดียว และรักษาอธิปไตยทั้งดินแดนและแหล่งพลังงานก๊าซธรรมชาติและน้ำมันในอ่าวไทยจนถึงที่สุด
8. ขอให้เร่งรัดสลายรัฐตำรวจ โยกย้ายข้าราชการตำรวจที่ใส่ความ กลั่นแกล้ง และคุกคามประชาชน ผู้เข้าร่วมการชุมนุม และผู้สนับสนุนการชุมนุม ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ที่มีความสำคัญหรือมีส่วนได้เสียต่อคดีความ ขอให้ลงโทษเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำร้ายสังหารประชาชนในเหตุการณ์วันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ.2551 ตลอดจนใส่ความประชาชนผู้ชุมนุมว่าเป็นกบฏ และผู้ก่อการร้าย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์, พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว และพล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน พล.ต.ท.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง พ.ต.อ.ลือชัย สุดยอด ฯลฯ และขอให้คืนความเป็นธรรมให้กับตำรวจที่ทำหน้าที่อย่างสุจริตและกล้าหาญเพื่อประโยชน์ของประชาชนให้เจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน
9. ขอให้เร่งรัดดำเนินคดีความและลงโทษผู้ที่ถูกชี้มูล โดยคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติและคณะกรรมาธิการในวุฒิสภา ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเข่นฆ่าประชาชน เช่น นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์, พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ และเจ้าหน้าที่รัฐ และขอให้ดำเนินคดีเอาผิดกับอันธพาลการเมืองของรัฐบาลที่ทำร้ายและเข่นฆ่าผู้ชุมนุมจนถึงที่สุด
10. ยุติการใช้สื่อของรัฐโฆษณาชวนเชื่อและโกหกหลอกลวงประชาชนเพื่อระบอบทักษิณโดยทันที โดยเฉพาะอย่างยิ่งรายการและผู้ดำเนินรายการความจริงวันนี้ที่สถานีโทรทัศน์เอ็นบีที และขอให้ปฏิรูปสื่อ เปิดพื้นที่ให้ประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้อย่างครบถ้วน เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชนอย่างแท้จริง
11. ขอให้ประกาศยกเลิกโครงการที่ใช้จ่ายเกินตัวและไม่โปร่งใสที่จะทำให้ชาติล่มจม เช่น โครงการเช่ารถเมล์เอ็นจีวี 4,000 คัน โครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ฯลฯ โดยทันที
12. ยกเลิก พ.ร.บ.ทุนรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. 2542 และใช้การปฏิรูปและพัฒนารัฐวิสาหกิจแทนเพื่อประโยชน์สูงสุดของคนในชาติ และนำเอารัฐวิสาหกิจที่แปรรูปไปแล้วกลับคืนมาเป็นของรัฐดังเดิม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ปตท.
13. ขอให้แสดงจุดยืนที่จะส่งเสริม สนับสนุน ประชาชนในการสร้างการเมืองใหม่ ที่ประชาชนมีส่วนร่วมทางการเมืองเพื่อให้เป็นประชาธิปไตยทางการเมือง เศรษฐกิจ และสังคมอย่างแท้จริง ตามแนวทางของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เพื่อป้องกันมิให้เกิดวิกฤตทางการเมืองในอนาคตอีกต่อไป
แถลงการณ์ในฉบับดังกล่าวยังได้ลงท้ายต่อกลุ่มการเมืองที่กำลังจะเข้าสู่อำนาจรัฐในเวลานั้นว่า:พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขอเรียกร้องให้นักการเมืองที่กำลังจะจัดตั้งรัฐบาลได้ตระหนักและคำนึงถึงเจตนารมณ์ของประชาชนและวีรชนผู้เสียสละเพื่อประเทศชาติเป็นสำคัญ มากกว่าการต่อรองเพื่อแย่งชิงผลประโยชน์ระหว่างกลุ่มการเมือง โดยการแสดงจุดยืนและปฏิบัติตามข้อเรียกร้องข้างต้น เพื่อมิให้ประชาชนต้องผิดหวังและหมดศรัทธาการเมืองในระบบปัจจุบันไปมากกว่านี้
ถ้าข้อเรียกร้องและเจตนารมณ์ของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยถูกปฏิเสธ หรือเพิกเฉย เราพร้อมจะดำเนินการเคลื่อนไหวอย่างเหมาะสมกับสถานการณ์ต่อไป
บัดนี้เวลาผ่านไปครบ 1 เดือนเศษแล้วนับแต่วันที่แถลงการณ์ฉบับดังกล่าว ข้อเรียกร้องที่เป็นรูปธรรมที่กล่าวมาข้างต้นก็ยังไม่ได้รับการตอบสนองเท่าที่ควร จะมีก็แต่เพียงการยกเลิกหนังสือเดินทางเฉพาะเล่มสีแดงของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และการถอดรายการความจริงวันนี้ที่สถานีโทรทัศน์ เอ็นบีที ซึ่งเกิดขึ้นช่วงรอยต่อก่อนรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์เข้ามาบริหารประเทศทั้งสิ้น
แม้พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจะยังให้โอกาสรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ทำงาน แต่กระแสเรียกร้องพรรคการเมืองเครือข่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเพื่อคู่ขนานจะเกิดขึ้นโดยธรรมชาติ ถ้ารัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ไม่สามารถตอบสนองข้อเรียกร้องข้างต้นได้
เพราะในสถานการณ์ที่รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ได้รับโอกาสให้บริหารประเทศครั้งนี้อยู่ภายใต้แรงกดดันจากกลุ่มต่างๆ ที่ทำให้เกิดการพลิกขั้วจนจัดตั้งรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ได้วันนี้
กลุ่มประชาชนของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กับกลุ่มองค์ประกอบของรัฐบาล เป็นสิ่งที่รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์จะต้องเลือกยืนให้ดี
กลุ่มประชาชนของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย คือองค์กรหลักที่หยุดยั้งการแก้ไขรัฐธรรมนูญฟอกความผิดให้กับพรรคพลังประชาชนและ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรได้สำเร็จ ซึ่งถ้าไม่มีฝ่ายนี้รัฐธรรมนูญย่อมถูกแก้ไข พรรคพลังประชาชนจะไม่ถูกยุบ และพ.ต.ท.ทักษิณอาจไม่ถูกพิพากษาให้จำคุก ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์จะไม่มีทางมาเป็นรัฐบาลได้ และถ้าไม่มีแรงกดดันนี้จะไม่มีทางที่กลุ่มการเมืองต่างๆ จะหันมาพลิกขั้วได้เช่นเดียวกัน
อีกกลุ่มหนึ่ง คือพรรคการเมืองร่วมรัฐบาล กลุ่มทุน และกลุ่มทหารต่างเป็นองค์ประกอบที่ทำให้จัดตั้งรัฐบาลได้ โดยต้องมีตำแหน่งและผลประโยชน์ต่างตอบแทนเป็นสิ่งแลกเปลี่ยน เพื่อทำให้ความเป็นรัฐบาลสามารถดำรงอยู่ได้
กลุ่มเหล่านี้มาด้วยผลประโยชน์ต่างตอบแทน ก็ไปได้ด้วยผลประโยชน์ต่างตอบแทนเช่นกัน!
แต่ถ้ารัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ตอบสนองผลประโยชน์ต่างตอบแทนจนลืมข้อเรียกร้องของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย พรรคประชาธิปัตย์ก็จะไม่สามารถเป็นที่พึ่งของประชาชนที่เข้าร่วมกับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้อีกต่อไป และจะเป็นเหตุทำให้พรรคประชาธิปัตย์เสื่อมจนไม่สามารถกลับมาเป็นรัฐบาลได้อีกนาน
เมื่อพรรคประชาธิปัตย์เสื่อม ประชาชนก็ต้องแสวงหาทางเลือกอื่นที่ย่อมไม่ใช่พรรคการเมืองอื่นๆ ในระบบปัจจุบัน เมื่อนั้น พรรคการเมืองเครือข่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยก็จะต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน
แต่ถ้าข้อเรียกร้องของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้รับการตอบสนองอย่างครบถ้วนทุกข้อ พรรคประชาธิปัตย์ก็จะกลายเป็นพรรคการเมืองเพื่อการเมืองใหม่ที่จะได้รับการสนับสนุนจากพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้โดยไม่ต้องมีการตั้งพรรคการเมืองในเครือข่ายของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยแต่ประการใด