นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี แถลงข่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.ได้มีการแต่งตั้งเลขานุการและที่ปรึกษารัฐมนตรีในหลายกระทรวง และขอย้ำอีกครั้งว่า คนที่ขึ้นเวทีจะฝ่ายไหนก็ตาม ถ้าไม่ได้ทำผิดกฎหมายก็ไม่มีปัญหาอะไร ถ้ามีการทำผิดกฎหมายก็ต้องมีการดำเนินการ เพราะฉะนั้นขอยืนยันตรงนี้ และตนได้กำชับไปแล้ว และได้สอบถามทางท่าน ผบ.ตร.ไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ก็ได้มียืนยันว่าได้มีการดำเนินการอยู่
ผู้สื่อข่าวถามว่า การแต่งตั้งนายประพันธ์ คูณมี หนึ่งในกลุ่มพันธมิตรฯ เป็นที่ปรึกษา รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ครม.ได้มีการพิจารณาเป็นพิเศษ หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า สำหรับนายประพันธ์ต้องถือว่าได้ทำงานกับพรรคมาระยะหนึ่งแล้ว และทำงานการเมืองกับพรรค ทำงานกับคณะทำงานของพรรคอยู่ เมื่อถามต่อว่า หากเป็นอย่างนี้แล้วจะกลายเป็นว่า ไม่สามารถลบภาพระหว่างพรรคประชาธิปัตย์กับพันธมิตรฯออกจากกันได้ นายกฯ กล่าวว่า ทุกคนที่จะเข้ามารับตำแหน่งตรงนี้ได้มีการซักซ้อมกันมาอย่างชัดเจน และได้พูดถึงนโยบายของรัฐบาลในการเดินหน้าที่จะให้การเมืองกลับเข้าสู่สภาวะปกติ เพราะฉะนั้นถ้าออกนอกแนวทางนี้ก็ต้องเปลี่ยน นายประพันธ์ก็เป็นคนที่มีความรู้พอสมควร
ผู้สื่อข่าวถาม ระวังนะกรรมจะเป็นเครื่องบอกเจตนา นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนยืนยันว่าวันนี้คนที่เข้ามาดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาหรือเลขานุการรมต.มีหน้าที่ช่วยรัฐมนตรีนั้นในงานนั้นๆ คงไม่ได้มีหน้าที่ในการมาเคลื่อนไหวทางการเมืองอะไรทั้งสิ้น
ต่อข้อถามว่าจะไม่เป็นการสร้างเงื่อนไขให้กลุ่มนปช.มากดดันรัฐบาลมากขึ้นหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ก็ต้องดูจากการทำงาน เมื่อถามต่อว่า การแต่งตั้งตรงนี้จะมีผลต่อการที่รัฐบาลพยายามประกาศว่าจะสร้างความสมานฉันท์ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องทั้งหมดอยู่ที่ความเป็นธรรม ทางฝ่ายการเมืองของฝ่ายค้าน ก็เคลื่อนไหวอยู่ก็ทำได้อย่างที่ตนเรียน อยู่ในกรอบของรัฐธรรมนูญก็ทำได้ ทำผิดกฎหมายก็ปฏิบัติเสมอกันไม่ว่าจะอยู่ฝ่ายไหน
ส่วนจะเกิดแรงเสียดทานหรือไม่เพราะมีการแต่งตั้งคนที่มาจากพันธมิตรฯ เพราะเวลานี้กลุ่มคนเสื้อแดงเองก็มาจี้ให้ปลดนายกษิต ภิรมย์ ออกจากตำแหน่ง รมว.ต่างประเทศ นายอภิสิทธิ์ กล่วว่า อย่างที่ได้เรียนไปแล้วว่ายังไม่มีเหตุผลอะไรที่จะปรับครม. ยืนยันว่า จะมีการเปลี่ยนแปลงก็ต่อเมื่อเห็นว่าการทำงานมีปัญหา เมื่อถามว่า ท่านนายกฯอย่างนั้นประชาชนก็จะมองได้ว่าเป็นการให้โบนัสกับกลุ่มพันธมิตรฯ นายกฯ กล่าวยืนยันว่า ไม่มีใครได้ตอบแทนอะไร ตั้งมาเพื่อทำงาน
ประพันธ์ที่ปรึกษารมว.วิทย์
วันเดียวกัน นาย ศุภรัตน์ ควรหา รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุม ครม. ว่า คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติการแต่งตั้งราชการการเมือง จำนวน 13 กระทรวงและสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี จำนวน 35 ตำแหน่ง ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 13 ม.ค.2552 ดังนี้ 1.นาย ประพันธ์ คูณมี เป็นที่ปรึกษารมว.วิทยาศาสตร์ 2.นาย ภูมิสรรค์ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา เป็นเลขานุการ รมว.วิทยาศาสตร์ฯ3. นาย ชาญยุทธ โฆศิรินนท์ เป็นที่ปรึกษา รมว.การพัฒนาสังคมฯ 4 นายเอกชัย ทรงอำนาจเจริญ เป็นเลขานุการ รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ 5.นาย ศิโรตม์ เสตะพันธุ์ เป็นที่ปรึกษารมว.คลัง
6.นาย สัญญา สถิรบุตร เป็นที่ปรึกษา รมช.พาณิชย์ 7.นายอัครพล ลีลาจินดามัย เป็นผู้ช่วยเลขานุการ รมว.พาณิชย์ 8.นาง บุญยิ่ง นิติกาญจนา เป็นที่ปรึกษา รมว.พาณิชย์ 9.นาย ประพล มิลินทจินดา เป็นเลขานุการร รมว.พาณิชย์ 10.นาย วีระชัย ถาวรนนท์ เป็นที่ปรึกษา รมว.แรงงาน 11.นายขภัช นิมมานเหมินท์ เป็นเลขานุการ รมว.แรงงาน กระทรวงมหาดไทย 12.นาย เกรียงยศ สุดลาภา เป็นที่ปรึกษารมช.มหาดไทย (นาย ถาวร เสนเนียม ) 13.นาย สุกิจ ก้องธรนินทร์ เป็นผู้ช่วยเลขานุการรมช.มหาดไทย(นาย ถาวร เสนเนียม )
14นาง ประนอม จันทรภักดี เป็นที่ปรึกษา รมส.สาธารณสุข 15.นาง ศิริวรรณ ปราศจากศัตรู เป็นเลขานุการ รมว.สาธารณสุข 16.นาย ประศาสตร์ ทองปากน้ำ เป็นผู้ช่วย รมช.สาธารณสุข ก 17.นาย บุณย์ธีร์ พานิชประไพ เป็นที่ปรึกษา รมว.ศึกษาธิการ18.นายสุธรรม นทีทอง เป็นเลขานุการ รมช.ศึกษาธิการ 19.นาย ศุรพงศ์ พงศ์เดชขจร เป็นผู้ช่วยเลขานุการ รมช.ศึกษาธิการ(นาย ชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ ) 20. นายวิชัย ศิริประเสริฐโชค เป็นผู้ช่วยเลขานุการ รมช.ศึกษาธิการ(น.ส.นริศรา ชวาลตันพิพัทธ์) เป็นต้น
สุริยะใสปัดนั่งบอร์ดโทรศัพย์
นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่าการแต่งตั้งผู้ที่มาขึ้นเวทีปราศรัยของพันธมิตรฯไปดำรงตำแหน่งทางการเมือง บางตำแหน่งนั้น ถ้าพิจารณาบุคคลที่ได้รับการแต่งตั้งไม่ว่าจะเป็นนายประพันธ์ คูณมี นายพิเชษฐ์ พัฒนโชติ นายสำราญรอดเพชร หรือแม้แต่นายกษิต ภิรมย์ ที่ไปเป็น รมว.ต่างประเทศก่อนหน้านี้ ถ้ามองผิวเผินอาจเหมือนเป็นการต่างตอบแทน แต่ทั้ง 4 ท่านที่ได้รับแต่งตั้งเป็นอดีตผู้สมัคร สส.พรรคประชาธิปัตย์ เฉพาะนายกษิตนั้น ก็เป็น สมาชิกพรรคและเป็นคณะทำงานของพรรคประชาธิปัตย์มาก่อนอยู่แล้ว ฉะนั้นไม่ใช่เรื่องผิดปกติหรือเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมแต่อย่างใด
นายสุริยะใส กล่าวว่าคนเหล่านี้มาขึ้นเวทีปราศรัยของพันธมิตรฯ ก็มาส่วนตัวไม่ได้มาพูดหรือมาเคลื่อนไหวในนามพรรคประชาธิปัตย์ และไม่ได้เป็นแกนนำพันธมิตรฯ เป็นแนวร่วมต่อสู้เท่านั้น เพราะอำนาจตัดสินใจการเคลื่อนไหวอยู่ที่ 5 แกนนำ ถ้า 1 ใน 5 แกนนำได้รับแต่งตั้งไปดำรงตำแหน่งทางการเมืองนั่นอาจเป็นเรื่อง ที่ผิดปกติหรือสมควรถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นการตอบแทนคุณพันธมิตรฯ หรือแม้แต่ ที่มีข่าวว่าตนถูกทาบทามไปเป็นบอร์ดองค์การโทรศัพท์ก็ไม่เป็นความจริง และแม้ถูกทาบทามมาไม่ว่าตำแหน่งใดก็จะปฏิเสธเช่นกัน
ถ้าพูดถึงความน่ารังเกียจคงเทียบกันไม่ได้กับการที่แกนนำ นปก.ได้รับตำแหน่งทางการเมืองในรัฐบาลสมัครอย่างพร้อมหน้าพร้อมตาแม้หลายคนจะโดนคดีและข้อหาร้ายแรงด้วยซ้ำก็ยังได้ตำแหน่งใหญ่โต
ยันเดินหน้ารณรงค์สร้างการเมืองใหม่
นายสุริยะใส กล่าวว่าวันนี้จุดยืนของ 5 แกนนำไม่มีวิ่งเต้นขอตำแหน่งแต่จะไป ห้ามคนที่มาขึ้นเวทีปราศรัยหรือมาต่อสู้กับพันธมิตรคงไม่ได้เพราะมีคนจำนวนมาก ที่มาร่วมเคลื่อนไหว 5 แกนนำยังมีความตั้งใจจะสร้างสมรรถนะและประสิทธิภาพให้กับการเคลื่อนไหวของพันธมิตรฯต่อไปเพื่อทำให้การเมืองภาคประชาชนเข้มแข็งและมีอำนาจต่อรองถ่วงดุลกับการเมืองในสภาอย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะการรณรงค์ เพื่อสร้างการเมืองใหม่นั้นเป็นแผนงานตลอดทั้งปี 52 ของพันธมิตรฯ ซึ่งเริ่มต้นสัมมนาและเปิดเวทีในหลายๆ จังหวัดแล้ว และจะเริ่มต้นอย่างเป็นทางการในวันเสาร์ที่ 17 ม.ค. ที่ จ.ชลบุรี
ก๊กเสื้อแดงอ้างเงื่อนไขชุมนุมใหญ่
นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย แถลงว่านอกจากการแต่งตั้งนายกษิต ภิรมย์ เป็นรมว.ต่างประเทศแล้ว วันนี้เท่ากับเป็นการสารภาพว่า กระบวนการยึดทำเนียบรัฐบาล สนามบินดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิ นั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้อง ดังนั้นวันนี้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จึงควรจะแต่งตั้งนายสนธิ ลิ้มทองกุล พล.ต.จำลอง ศรีเมือง นายสมศักดิ์ โกศัยสุข และนายภิภพ ธงไชย แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีด้วย เพราะการที่นายอภิสิทธิ์ อ้างว่าหากคดีที่มีการดำเนินกันอยู่นั้นผลออกมาว่าผิดก็ต้องออกจากตำแหน่งไปนั้น ถือว่าฟังไม่ขึ้น เพราะการแต่งตั้งในวันนี้เท่ากับเป็นการการันตีว่าการกระทำของกลุ่มพันธมิตรฯนั้นไม่มีความผิด อีกทั้งเมื่อได้รับการแต่งตั้งแบบนี้แล้วใครจะไปกล้าดำเนินคดี
นายจตุพร กล่าวว่า เมื่อนายอภิสิทธิ์เร่งสถานการณ์แบบนี้ คาดว่าจะมีการชุมนุมใหญ่ ของพี่น้อง นปช.และพี่น้องรายการความจริงวันนี้ภายในเดือนนี้ เพราะวันนี้ถือว่า เป็นการสารภาพให้เห็นว่าเป็นพวกเดียวกันในการโค่นล้มรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรนายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี โดยภายหลังจากที่มีสถานีโทรทัศน์ช่องใหม่ที่คาดว่าจะออกอากาศได้ภายในสัปดาห์หน้านั้น จะมีการสื่อสารกับประชาชน โดยเป้าหมายคือ รัฐบาลท้าทายความรู้สึก ของประชาชนจึงต้องหารือกับพี่น้อง นปช.และพี่น้องรายการความจริงวันนี้ว่า จะชุมนุมได้เร็วที่สุดเมื่อไหร่ เพราะลำพังการซื้อตัว ส.ส. การที่ทหารแทรกแซงการเมืองนั้น ก็ถือว่าเลวทรามที่สุดแล้วในระบอบประชาธิปไตย การที่มาตบรางวัลให้กับกลุ่มพันธมิตรฯยิ่งเป็นสิ่งที่ประชาชนรับไม่ได้ เหมือนถูกย่ำยีหัวใจ
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีการปิดล้อมสถานที่ต่างๆด้วยหรือไม่ นายจตุพร กล่าวว่า ่เราจะไม่ทำอย่างที่กลุ่มพันธมิตรฯทำคือ ยึดสถานที่ต่างๆ แต่กระทรวงการต่างประเทศและทำเนียบรัฐบาลนั้นถือว่าเป็นเป้าหมายใหญ่ เพราะเมื่อนายอภิสิทธิ์วันนี้ไม่มีอะไรต้องปิดบังอีกต่อไปแล้ว ตนก็ไม่มีอะไรต้องมาเหนียมอายอีกต่อไปเหมือนกัน
อ้างรัฐบาลเก่าตั้งปนช.ไม่เหมือนกัน
ด้าน นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำคนเสื้อแดงและผู้ดำเนินรายการความจริงวันนี้ กล่าวว่าการตั้งนายประพันธ์ ถือเป็นการออกใบเสร็จเพิ่มอีกใบของนายอภิสิทธิ์ ว่าต้องตอบแทนแกนนำพันธมิตรฯให้มีตำแหน่งใหญ่โตในแต่ละส่วนของรัฐบาล และเท่าที่ทราบมีอีกหลายคนที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่งเลขานุการ และที่ปรึกษารัฐมนตรีตลอดจนการเป็นบอร์ดรัฐวิสาหกิจหลายแห่ง
ผู้สื่อข่าวถามว่า สมัยรัฐบาล นายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกฯ ก็ได้แต่งตั้ง นายณัฐวูมิ ซึ่งเป็นแกนนำนปก.เข้ามามีตำแหน่งรองโฆษกรัฐบาล นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า เป็นคนละเรื่อง เพราะขณะนั้นทุกคนเคลื่อนไหวในนาม นปก.แล้วก็มีการเลือกตั้ง ซึ่งทุกคนก็เข้าสู่สนามเลือกตั้งแล้วก็ว่ากันตามขั้นตอน แต่การแต่งตั้งแกนนำพันธมิตรฯ ครั้งนี้นั้นผ่านการเลือกตั้งแล้วพรรคประชาธิปัตย์เป็นฝ่ายค้านและก็สอบตกกัน แล้วจากนั้นพันธมิตรก็ได้ยึดทำเนียบและสนามบิน จากนั้นก็เข้ามามีตำแหน่งในรัฐบาล ดังนั้นจึงเป็นคนละเรื่องกัน
ผู้สื่อข่าวถามว่า การแต่งตั้งนายประพันธ์ คูณมี หนึ่งในกลุ่มพันธมิตรฯ เป็นที่ปรึกษา รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ครม.ได้มีการพิจารณาเป็นพิเศษ หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า สำหรับนายประพันธ์ต้องถือว่าได้ทำงานกับพรรคมาระยะหนึ่งแล้ว และทำงานการเมืองกับพรรค ทำงานกับคณะทำงานของพรรคอยู่ เมื่อถามต่อว่า หากเป็นอย่างนี้แล้วจะกลายเป็นว่า ไม่สามารถลบภาพระหว่างพรรคประชาธิปัตย์กับพันธมิตรฯออกจากกันได้ นายกฯ กล่าวว่า ทุกคนที่จะเข้ามารับตำแหน่งตรงนี้ได้มีการซักซ้อมกันมาอย่างชัดเจน และได้พูดถึงนโยบายของรัฐบาลในการเดินหน้าที่จะให้การเมืองกลับเข้าสู่สภาวะปกติ เพราะฉะนั้นถ้าออกนอกแนวทางนี้ก็ต้องเปลี่ยน นายประพันธ์ก็เป็นคนที่มีความรู้พอสมควร
ผู้สื่อข่าวถาม ระวังนะกรรมจะเป็นเครื่องบอกเจตนา นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนยืนยันว่าวันนี้คนที่เข้ามาดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาหรือเลขานุการรมต.มีหน้าที่ช่วยรัฐมนตรีนั้นในงานนั้นๆ คงไม่ได้มีหน้าที่ในการมาเคลื่อนไหวทางการเมืองอะไรทั้งสิ้น
ต่อข้อถามว่าจะไม่เป็นการสร้างเงื่อนไขให้กลุ่มนปช.มากดดันรัฐบาลมากขึ้นหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ก็ต้องดูจากการทำงาน เมื่อถามต่อว่า การแต่งตั้งตรงนี้จะมีผลต่อการที่รัฐบาลพยายามประกาศว่าจะสร้างความสมานฉันท์ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องทั้งหมดอยู่ที่ความเป็นธรรม ทางฝ่ายการเมืองของฝ่ายค้าน ก็เคลื่อนไหวอยู่ก็ทำได้อย่างที่ตนเรียน อยู่ในกรอบของรัฐธรรมนูญก็ทำได้ ทำผิดกฎหมายก็ปฏิบัติเสมอกันไม่ว่าจะอยู่ฝ่ายไหน
ส่วนจะเกิดแรงเสียดทานหรือไม่เพราะมีการแต่งตั้งคนที่มาจากพันธมิตรฯ เพราะเวลานี้กลุ่มคนเสื้อแดงเองก็มาจี้ให้ปลดนายกษิต ภิรมย์ ออกจากตำแหน่ง รมว.ต่างประเทศ นายอภิสิทธิ์ กล่วว่า อย่างที่ได้เรียนไปแล้วว่ายังไม่มีเหตุผลอะไรที่จะปรับครม. ยืนยันว่า จะมีการเปลี่ยนแปลงก็ต่อเมื่อเห็นว่าการทำงานมีปัญหา เมื่อถามว่า ท่านนายกฯอย่างนั้นประชาชนก็จะมองได้ว่าเป็นการให้โบนัสกับกลุ่มพันธมิตรฯ นายกฯ กล่าวยืนยันว่า ไม่มีใครได้ตอบแทนอะไร ตั้งมาเพื่อทำงาน
ประพันธ์ที่ปรึกษารมว.วิทย์
วันเดียวกัน นาย ศุภรัตน์ ควรหา รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุม ครม. ว่า คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติการแต่งตั้งราชการการเมือง จำนวน 13 กระทรวงและสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี จำนวน 35 ตำแหน่ง ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 13 ม.ค.2552 ดังนี้ 1.นาย ประพันธ์ คูณมี เป็นที่ปรึกษารมว.วิทยาศาสตร์ 2.นาย ภูมิสรรค์ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา เป็นเลขานุการ รมว.วิทยาศาสตร์ฯ3. นาย ชาญยุทธ โฆศิรินนท์ เป็นที่ปรึกษา รมว.การพัฒนาสังคมฯ 4 นายเอกชัย ทรงอำนาจเจริญ เป็นเลขานุการ รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ 5.นาย ศิโรตม์ เสตะพันธุ์ เป็นที่ปรึกษารมว.คลัง
6.นาย สัญญา สถิรบุตร เป็นที่ปรึกษา รมช.พาณิชย์ 7.นายอัครพล ลีลาจินดามัย เป็นผู้ช่วยเลขานุการ รมว.พาณิชย์ 8.นาง บุญยิ่ง นิติกาญจนา เป็นที่ปรึกษา รมว.พาณิชย์ 9.นาย ประพล มิลินทจินดา เป็นเลขานุการร รมว.พาณิชย์ 10.นาย วีระชัย ถาวรนนท์ เป็นที่ปรึกษา รมว.แรงงาน 11.นายขภัช นิมมานเหมินท์ เป็นเลขานุการ รมว.แรงงาน กระทรวงมหาดไทย 12.นาย เกรียงยศ สุดลาภา เป็นที่ปรึกษารมช.มหาดไทย (นาย ถาวร เสนเนียม ) 13.นาย สุกิจ ก้องธรนินทร์ เป็นผู้ช่วยเลขานุการรมช.มหาดไทย(นาย ถาวร เสนเนียม )
14นาง ประนอม จันทรภักดี เป็นที่ปรึกษา รมส.สาธารณสุข 15.นาง ศิริวรรณ ปราศจากศัตรู เป็นเลขานุการ รมว.สาธารณสุข 16.นาย ประศาสตร์ ทองปากน้ำ เป็นผู้ช่วย รมช.สาธารณสุข ก 17.นาย บุณย์ธีร์ พานิชประไพ เป็นที่ปรึกษา รมว.ศึกษาธิการ18.นายสุธรรม นทีทอง เป็นเลขานุการ รมช.ศึกษาธิการ 19.นาย ศุรพงศ์ พงศ์เดชขจร เป็นผู้ช่วยเลขานุการ รมช.ศึกษาธิการ(นาย ชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ ) 20. นายวิชัย ศิริประเสริฐโชค เป็นผู้ช่วยเลขานุการ รมช.ศึกษาธิการ(น.ส.นริศรา ชวาลตันพิพัทธ์) เป็นต้น
สุริยะใสปัดนั่งบอร์ดโทรศัพย์
นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่าการแต่งตั้งผู้ที่มาขึ้นเวทีปราศรัยของพันธมิตรฯไปดำรงตำแหน่งทางการเมือง บางตำแหน่งนั้น ถ้าพิจารณาบุคคลที่ได้รับการแต่งตั้งไม่ว่าจะเป็นนายประพันธ์ คูณมี นายพิเชษฐ์ พัฒนโชติ นายสำราญรอดเพชร หรือแม้แต่นายกษิต ภิรมย์ ที่ไปเป็น รมว.ต่างประเทศก่อนหน้านี้ ถ้ามองผิวเผินอาจเหมือนเป็นการต่างตอบแทน แต่ทั้ง 4 ท่านที่ได้รับแต่งตั้งเป็นอดีตผู้สมัคร สส.พรรคประชาธิปัตย์ เฉพาะนายกษิตนั้น ก็เป็น สมาชิกพรรคและเป็นคณะทำงานของพรรคประชาธิปัตย์มาก่อนอยู่แล้ว ฉะนั้นไม่ใช่เรื่องผิดปกติหรือเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมแต่อย่างใด
นายสุริยะใส กล่าวว่าคนเหล่านี้มาขึ้นเวทีปราศรัยของพันธมิตรฯ ก็มาส่วนตัวไม่ได้มาพูดหรือมาเคลื่อนไหวในนามพรรคประชาธิปัตย์ และไม่ได้เป็นแกนนำพันธมิตรฯ เป็นแนวร่วมต่อสู้เท่านั้น เพราะอำนาจตัดสินใจการเคลื่อนไหวอยู่ที่ 5 แกนนำ ถ้า 1 ใน 5 แกนนำได้รับแต่งตั้งไปดำรงตำแหน่งทางการเมืองนั่นอาจเป็นเรื่อง ที่ผิดปกติหรือสมควรถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นการตอบแทนคุณพันธมิตรฯ หรือแม้แต่ ที่มีข่าวว่าตนถูกทาบทามไปเป็นบอร์ดองค์การโทรศัพท์ก็ไม่เป็นความจริง และแม้ถูกทาบทามมาไม่ว่าตำแหน่งใดก็จะปฏิเสธเช่นกัน
ถ้าพูดถึงความน่ารังเกียจคงเทียบกันไม่ได้กับการที่แกนนำ นปก.ได้รับตำแหน่งทางการเมืองในรัฐบาลสมัครอย่างพร้อมหน้าพร้อมตาแม้หลายคนจะโดนคดีและข้อหาร้ายแรงด้วยซ้ำก็ยังได้ตำแหน่งใหญ่โต
ยันเดินหน้ารณรงค์สร้างการเมืองใหม่
นายสุริยะใส กล่าวว่าวันนี้จุดยืนของ 5 แกนนำไม่มีวิ่งเต้นขอตำแหน่งแต่จะไป ห้ามคนที่มาขึ้นเวทีปราศรัยหรือมาต่อสู้กับพันธมิตรคงไม่ได้เพราะมีคนจำนวนมาก ที่มาร่วมเคลื่อนไหว 5 แกนนำยังมีความตั้งใจจะสร้างสมรรถนะและประสิทธิภาพให้กับการเคลื่อนไหวของพันธมิตรฯต่อไปเพื่อทำให้การเมืองภาคประชาชนเข้มแข็งและมีอำนาจต่อรองถ่วงดุลกับการเมืองในสภาอย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะการรณรงค์ เพื่อสร้างการเมืองใหม่นั้นเป็นแผนงานตลอดทั้งปี 52 ของพันธมิตรฯ ซึ่งเริ่มต้นสัมมนาและเปิดเวทีในหลายๆ จังหวัดแล้ว และจะเริ่มต้นอย่างเป็นทางการในวันเสาร์ที่ 17 ม.ค. ที่ จ.ชลบุรี
ก๊กเสื้อแดงอ้างเงื่อนไขชุมนุมใหญ่
นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย แถลงว่านอกจากการแต่งตั้งนายกษิต ภิรมย์ เป็นรมว.ต่างประเทศแล้ว วันนี้เท่ากับเป็นการสารภาพว่า กระบวนการยึดทำเนียบรัฐบาล สนามบินดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิ นั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้อง ดังนั้นวันนี้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จึงควรจะแต่งตั้งนายสนธิ ลิ้มทองกุล พล.ต.จำลอง ศรีเมือง นายสมศักดิ์ โกศัยสุข และนายภิภพ ธงไชย แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีด้วย เพราะการที่นายอภิสิทธิ์ อ้างว่าหากคดีที่มีการดำเนินกันอยู่นั้นผลออกมาว่าผิดก็ต้องออกจากตำแหน่งไปนั้น ถือว่าฟังไม่ขึ้น เพราะการแต่งตั้งในวันนี้เท่ากับเป็นการการันตีว่าการกระทำของกลุ่มพันธมิตรฯนั้นไม่มีความผิด อีกทั้งเมื่อได้รับการแต่งตั้งแบบนี้แล้วใครจะไปกล้าดำเนินคดี
นายจตุพร กล่าวว่า เมื่อนายอภิสิทธิ์เร่งสถานการณ์แบบนี้ คาดว่าจะมีการชุมนุมใหญ่ ของพี่น้อง นปช.และพี่น้องรายการความจริงวันนี้ภายในเดือนนี้ เพราะวันนี้ถือว่า เป็นการสารภาพให้เห็นว่าเป็นพวกเดียวกันในการโค่นล้มรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรนายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี โดยภายหลังจากที่มีสถานีโทรทัศน์ช่องใหม่ที่คาดว่าจะออกอากาศได้ภายในสัปดาห์หน้านั้น จะมีการสื่อสารกับประชาชน โดยเป้าหมายคือ รัฐบาลท้าทายความรู้สึก ของประชาชนจึงต้องหารือกับพี่น้อง นปช.และพี่น้องรายการความจริงวันนี้ว่า จะชุมนุมได้เร็วที่สุดเมื่อไหร่ เพราะลำพังการซื้อตัว ส.ส. การที่ทหารแทรกแซงการเมืองนั้น ก็ถือว่าเลวทรามที่สุดแล้วในระบอบประชาธิปไตย การที่มาตบรางวัลให้กับกลุ่มพันธมิตรฯยิ่งเป็นสิ่งที่ประชาชนรับไม่ได้ เหมือนถูกย่ำยีหัวใจ
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีการปิดล้อมสถานที่ต่างๆด้วยหรือไม่ นายจตุพร กล่าวว่า ่เราจะไม่ทำอย่างที่กลุ่มพันธมิตรฯทำคือ ยึดสถานที่ต่างๆ แต่กระทรวงการต่างประเทศและทำเนียบรัฐบาลนั้นถือว่าเป็นเป้าหมายใหญ่ เพราะเมื่อนายอภิสิทธิ์วันนี้ไม่มีอะไรต้องปิดบังอีกต่อไปแล้ว ตนก็ไม่มีอะไรต้องมาเหนียมอายอีกต่อไปเหมือนกัน
อ้างรัฐบาลเก่าตั้งปนช.ไม่เหมือนกัน
ด้าน นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำคนเสื้อแดงและผู้ดำเนินรายการความจริงวันนี้ กล่าวว่าการตั้งนายประพันธ์ ถือเป็นการออกใบเสร็จเพิ่มอีกใบของนายอภิสิทธิ์ ว่าต้องตอบแทนแกนนำพันธมิตรฯให้มีตำแหน่งใหญ่โตในแต่ละส่วนของรัฐบาล และเท่าที่ทราบมีอีกหลายคนที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่งเลขานุการ และที่ปรึกษารัฐมนตรีตลอดจนการเป็นบอร์ดรัฐวิสาหกิจหลายแห่ง
ผู้สื่อข่าวถามว่า สมัยรัฐบาล นายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกฯ ก็ได้แต่งตั้ง นายณัฐวูมิ ซึ่งเป็นแกนนำนปก.เข้ามามีตำแหน่งรองโฆษกรัฐบาล นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า เป็นคนละเรื่อง เพราะขณะนั้นทุกคนเคลื่อนไหวในนาม นปก.แล้วก็มีการเลือกตั้ง ซึ่งทุกคนก็เข้าสู่สนามเลือกตั้งแล้วก็ว่ากันตามขั้นตอน แต่การแต่งตั้งแกนนำพันธมิตรฯ ครั้งนี้นั้นผ่านการเลือกตั้งแล้วพรรคประชาธิปัตย์เป็นฝ่ายค้านและก็สอบตกกัน แล้วจากนั้นพันธมิตรก็ได้ยึดทำเนียบและสนามบิน จากนั้นก็เข้ามามีตำแหน่งในรัฐบาล ดังนั้นจึงเป็นคนละเรื่องกัน