“ถาวร” สวนกลับ “เรืองไกร” ยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความฮั้วการเลือกตั้ง ไม่ขัด รธน. ยัน กม.เปิดช่องให้คนตัดสิทธิแสดงความคิดเห็นทางการเมืองได้ เดือดแทน ปธ.สภาที่ปรึกษา ปชป.ถูกปาไข่เน่า ไล่จี้ถามการทำหน้าที่พ่อเมือง-ผู้การเชียงใหม่ นัดถก “สุเทพ-“เชาวรัตน์” จัดทีม รปภ.คุ้มกันคนในรัฐบาล
วันนี้ (6 ม.ค.) นายถาวร เสนเนียม รมช.มหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ส.ว.สรรหา ยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณายุบพรรคประชาธิปัตย์ เนื่องจากร่วมทำกิจกรรมทางการเมืองกับบุคคลที่ถูกตัดสิทธิทางการเมืองว่า กฎหมายไม่ได้ห้ามไม่ให้ผู้ที่ถูกตัดสิทธิทางการเมืองคบค้าหรือไม่ให้พูดจากับใคร หรือไม่ให้แสดงความเห็นทางการเมือง สิ่งเหล่านี้ถือเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานตามรัฐธรรมนูญ ฉะนั้น กรรมการบริหารพรรคการเมืองสามารถพูดคุยกับบุคคลเหล่านี้ได้ ทั้งในเรื่องส่วนตัวและเรื่องของบ้านเมือง โดยไม่ถือเป็นเหตุให้มีการยุบพรรคได้ ตนศึกษากฎหมายมาอย่างดีแล้วเห็นว่าการยื่นเรื่องดังกล่าวจะไม่มีผลกระทบใดๆ ต่อพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคก็ไม่ต้องเตรียมตัวหรือจัดทีมงานทางกฎหมายเพื่อรองรับเรื่องเหล่านี้
ส่วนข้อกล่าวหาที่ว่าพรรคประชาธิปัตย์ฮั้วเลือกตั้งซ่อมกับพรรคร่วมรัฐบาล นายถาวรกล่าวว่า ในการเลือกตั้งเมื่อปี 2549 ศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยไว้เป็นบรรทัดฐานแล้วว่าพรรคการเมืองสามารถส่งหรือไม่ส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้งก็ได้ ดังนั้น การกระทำของพรรคจึงไม่ได้เป็นการฮั้ว แต่เห็นว่าถ้าส่งผู้สมัครลงไปก็คงจะสู้ได้ยาก จะเปลืองค่าใช้จ่ายไปทำไม จึงถือว่าข้อกล่าวหาที่ว่ามีการฮั้วการเลือกตั้งเป็นการคิดกันเอาเอง
เมื่อถามถึงกรณีที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อไทย ขู่ว่ารัฐบาลอาจจะไม่รอดในการอภิปรายไม่ไว้วางใจเพราะมีเสียงปริ่มน้ำ นายถาวร กล่าวว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจไม่ใช่อยู่ที่ว่าเสียงของรัฐบาลจะน้อยกว่าฝ่ายค้านไม่ได้ แต่อยู่ที่ว่าเสียงของฝ่ายค้านจะต้องมีเสียงไม่ไว้วางใจเกินกึ่งหนึ่งของจำนวน ส.ส.ทั้งหมดที่มี ถ้าเป็นอย่างนั้นรัฐบาลจะต้องลาออก ดังนั้นจึงขอขอบคุณข้อห่วงใยของ ร.ต.อ.เฉลิม แต่รัฐบาลมั่นใจว่าไม่น่าจะมีปัญหา โดยรัฐบาลจะกำกับกันเองไม่ให้ ส.ส.ขาดประชุม ทุกคนต้องยึดถือวินัย แต่ก็ยอมรับว่าการที่รัฐบาลมีเสียงปริ่มน้ำ ประกอบกับมี ส.ส.ไปเป็นรัฐมนตรีเกือบ 30 คน อาจจะส่งผลเรื่องการพิจารณากฎหมายของสภา ดังนั้น ส.ส.ทุกคนจะต้องมีวินัยในการเข้าประชุมสภา
นายถาวรยังกล่าวถึงกรณีที่นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ถูกม็อบเสื้อแดงปาไข่เน่าที่ จ.เชียงใหม่ ว่ารู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ดังกล่าว เพราะนายชวนตั้งใจไปรณรงค์ให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งซ่อม ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวจะส่งผลต่อภาพลักษณ์ของคนเชียงใหม่ อยากให้ทุกคนคำนึงถึงความเหมาะสม และวัฒนธรรมของคนเหนือที่รักสันติและอ่อนโยน แต่ทั้งนี้ก็เคารพในสิทธิของประชาชน
เมื่อถามว่าจะมีการจัดทีมรักษาความปลอดภัยให้แก่คนในรัฐบาลและผู้ใหญ่ของพรรคในการลงพื้นที่ในต่างจังหวัดเพื่อไม่ให้เกิดการกระทบกระทั่งกับกลุ่มม็อบเสื้อแดงหรือไม่ นายถาวร กล่าวว่า เราต้องระวังเพิ่มขึ้นโดยถ้าคนในรัฐบาลจะเดินทางไปที่ใดแล้วมีการส่งสัญญาณอะไรขึ้นมา เราก็ต้องระวังมากขึ้น โดยจะให้เจ้าหน้าที่รัฐที่มีหน้าที่รักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินเป็นผู้ดูแล แต่เหตุการณ์ที่ จ.เชียงใหม่ ก็อยากถามไปยังผู้ว่าราชการ และผู้บังคับการจังหวัดว่าหย่อยยานในการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ หรือรู้เห็นเป็นใจ ถ้าปฏิบัติหน้าที่โดยไม่มีประสิทธิภาพก็ต้องทบทวนในการดำรงตำแหน่ง ส่วนการรักษาความปลอดภัยก็จะมีการหารือกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีที่กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย ที่ดูแลฝ่ายปกครองและผู้ว่าราชการจังหวัด
นายถาวร ยังกล่าวถึงการตั้งตำแหน่งที่ปรึกษาและเลขานุการรัฐมนตรีว่า ทางพรรคประชาธิปัตย์ยังไม่ได้เสนอรายชื่อเข้าที่ประชุม ครม. เพราะรัฐมนตรีทุกคนต้องการให้พรรคเป็นผู้กลั่นกรองและคัดสรรผู้ที่เหมาะสมมาดำรงตำแหน่งดังกล่าว ซึ่งการเสนอเรื่องล่าช้าไม่ได้เป็นเพราะมีปัญหาเรื่องต่างตอบแทนใคร ล่าสุดได้รับแจ้งจากเลขาธิการพรรคว่า กรรมการบริหารพรรคพิจารณาเกือบเสร็จแล้วคาดว่าจะนำเสนอที่ประชุม ครม.ได้ในวันอังคารที่ 13 ม.ค.นี้