xs
xsm
sm
md
lg

พันธมิตรฯ แถลง “คำเตือนก่อนเข้าสู่อำนาจ”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online



แถลงการณ์ ฉบับที่ 29/2551
พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
เรื่อง
คำเตือนก่อนเข้าสู่อำนาจ

คลิกที่นี่ เพื่อฟัง แถลงการณ์พันธมิตรฯ ฉบับที่ 29/2551

ตามที่ได้มีประกาศพระบรมราชโองการเมื่อวันพฤหัสบดีวันที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2551 ให้เรียกประชุมสมัยวิสามัญแห่งรัฐสภา เพื่อให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรรับตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรี ในวันจันทร์ที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2551 นั้น

พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขอให้นักการเมืองทุกฝ่ายได้ตระหนักว่า การชุมนุมต่อเนื่องยาวนานด้วยความุ่งมั่น อดทน หาญกล้าของพี่น้องประชาชนถึง 193 วัน เป็นการเสียสละอย่างยิ่งใหญ่ที่แลกมาด้วยชีวิตและเลือดเนื้อของประชาชนจำนวนมาก จนสามารถคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญได้สำเร็จ ทำให้คดีการทุจริตคอร์รัปชันของนักการเมือง และคดีทุจริตการเลือกตั้งได้ถูกพิพากษาโดยกระบวนการยุติธรรม ส่งผลทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในวันนี้

การเสียสละอันยิ่งใหญ่ของพี่น้องประชาชนในช่วงเวลาที่ผ่านมา เรามิได้ต้องการแลกมาเพื่อให้นักการเมืองหุ่นเชิดในระบอบทักษิณกลับฟื้นคืนมาอีก และเราก็มิได้ต้องการเพียงแค่เปลี่ยนขั้วทางการเมืองเพื่อผลประโยชน์ของนักการเมืองกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง

พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย มีความปรารถนาที่จะสะสางปัญหาทางการเมืองในอดีต คืนความเป็นธรรมให้กับพี่น้องประชาชน และร่วมกับประชาชนปฏิรูปสร้างการเมืองใหม่เพื่อป้องกันไม่ให้วิกฤติทางการเมืองกลับคืนมาอีก

เราจึงขอประกาศจุดยืนต่อการเลือกนายกรัฐมนตรี ในการประชุมสมัยวิสามัญแห่งรัฐสภา ดังนี้

ประการแรก เราคัดค้านและต่อต้านนายกรัฐมนตรีหุ่นเชิดที่มาจากพรรคเพี่อไทย และคัดค้านนายกรัฐมนตรีทุกพรรคการเมืองที่มีรัฐบาลผสมของพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นพรรคการเมืองหุ่นเชิดของระบอบทักษิณซึ่งจัดตั้งขึ้นใหม่

ประการที่สอง เราขอประณามการข่มขู่ คุกคาม การต่อรองตำแหน่ง และการเสนออามิสสินจ้างให้นักการเมือง เพื่อให้นักการเมืองเหล่านั้นมาสนับสนุนให้พรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลต่อไป โดยไม่คำนึงถึงความเสียหายต่อประเทศชาติและความรู้สึกของประชาชน

ประการที่สาม พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจะเฝ้าติดตามการเปลี่ยนขั้วทางการเมืองในระบบการเมืองเก่าว่าจะสามารถฝ่าข้ามวิกฤตการณ์ทางการเมือง จัดการกับระบอบทักษิณและเข้าสู่การเมืองใหม่ได้หรือไม่ โดยพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขอเป็นตัวแทนพี่น้องประชาชนและวีรชน ยื่นข้อเรียกร้องต่อรัฐบาลชุดใหม่ 13 ประการ

1. เร่งรัดดำเนินคดีดูหมิ่นพระมหากษัตริย์ต่อ นายจักรภพ เพ็ญแข นายวีระ มุสิกพงศ์ เว็บไซต์ สื่อสิ่งพิมพ์ วิทยุชุมชน และปราบปรามขบวนการดูหมิ่นและล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ทั้งหมด โดยด่วนที่สุดเป็นลำดับแรก

2. ขอให้แสดงจุดยืนที่จะไม่แก้ไขรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 หรือกฎหมายอื่นใดที่จะฟอกความผิดให้กับนักการเมือง ไม่แก้ไขกฎหมายเพื่อการกระทำที่ขัดกันแห่งผลประโยชน์ของนักการเมือง และไม่แก้ไขกฎหมายเพื่อลดพระราชอำนาจหรือโครงสร้างของสถาบันพระมหากษัตริย์ในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

3. ต้องส่งเสริมให้คนดีมีความสามารถมาปกครองบ้านเมือง ป้องกันมิให้คนไม่ดีมีอำนาจ บริหารราชการแผ่นดินด้วยความโปร่งใส อย่าได้นำนักการเมืองหรือข้าราชการที่มีมลทิน ไม่เป็นที่ยอมรับของสังคม มีการขัดกันแห่งผลประโยชน์ในตำแหน่งหน้าที่ หรือมีพฤติกรรมที่จะแสวงหาประโยชน์ในทางมิชอบ มาร่วมบริหารราชการแผ่นดินเป็นอันขาด

4. ขอให้เร่งรัดคดีทุจริตคอร์รัปชันให้เข้าสู่กระบวนการในชั้นศาล โดยปราศจากการแทรกแซงทั้งทางตรงและทางอ้อม ทำการโยกย้ายข้าราชการที่รับใช้ระบอบทักษิณให้พ้นจากตำแหน่ง อาทิเช่น อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ เลขาธิการองค์การอาหารและยา ฯลฯ และยึดทรัพย์สินที่โกงชาติไปกลับมาเป็นของรัฐ

ทั้งนี้ เพื่อเห็นแก่ประโยชน์ของประเทศชาติเป็นที่ตั้ง ขอให้แสดงจุดยืนที่จะเร่งรัดดำเนินคดีบุกรุกและครอบครองที่ดินกรณีเขากระโดงของการรถไฟแห่งประเทศไทย และที่ดินสาธารณประโยชน์ในอำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์ ดำเนินการและยกเลิกการเช่าพื้นที่ขายสินค้าในสนามบินสุวรรณภูมิที่มิชอบ ยกเลิกและดำเนินคดีต่อเจ้าหน้าที่รัฐและเอกชนที่ให้เช่ารายการสถานีโทรทัศน์วิทยุแห่งประเทศไทย กรมประชาสัมพันธ์ ช่อง 11 อย่างไม่โปร่งใสโดยทันที

5. ขอให้ยกเลิกหนังสือเดินทางของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหนีอาญาแผ่นดินโดยทันที

6. ขอให้เร่งรัดดำเนินการเพื่อให้ส่งตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ผู้ร้ายหนีอาญาแผ่นดินมาดำเนินคดีในประเทศไทยโดยทันที

7.ขอให้ประกาศยกเลิกแถลงการณ์ร่วมระหว่างไทย-กัมพูชา ที่ยกปราสาทพระวิหาร และพื้นที่โดยรอบให้กับกัมพูชาแต่เพียงฝ่ายเดียว และรักษาอธิปไตยทั้งดินแดนและแหล่งพลังงานก๊าซธรรมชาติและน้ำมันในอ่าวไทยจนถึงที่สุด

8. ขอให้เร่งรัดสลายรัฐตำรวจ โยกย้ายข้าราชการตำรวจที่ใส่ความ กลั่นแกล้ง และคุกคามประชาชน ผู้เข้าร่วมการชุมนุม และผู้สนับสนุนการชุมนุม ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ที่มีความสำคัญหรือมีส่วนได้เสียต่อคดีความ ขอให้ลงโทษเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำร้ายสังหารประชาชนในเหตุการณ์วันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ.2551 ตลอดจนใส่ความประชาชนผู้ชุมนุมว่าเป็น กบฏ และผู้ก่อการร้าย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์, พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน พล.ต.ท.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง พ.ต.อ.ลือชัย สุดยอด ฯลฯ และขอให้คืนความเป็นธรรมให้กับตำรวจที่ทำหน้าที่อย่างสุจริตและกล้าหาญเพื่อประโยชน์ของประชาชนให้เจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน

9. ขอให้เร่งรัดดำเนินคดีความและลงโทษผู้ที่ถูกชี้มูลโดยคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติและคณะกรรมาธิการในวุฒิสภา ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเข่นฆ่าประชาชน เช่น นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์, พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ และเจ้าหน้าที่รัฐ และขอให้ดำเนินคดีเอาผิดกับอันธพาลการเมืองของรัฐบาลที่ทำร้ายและเข่นฆ่าผู้ชุมนุมจนถึงที่สุด

10. ยุติการใช้สื่อของรัฐโฆษณาชวนเชื่อ และโกหกหลอกลวงประชาชน เพื่อระบอบทักษิณโดยทันที โดยเฉพาะอย่างยิ่งรายการและผู้ดำเนินรายการความจริงวันนี้ที่สถานีโทรทัศน์เอ็นบีที และขอให้ปฏิรูปสื่อ เปิดพื้นที่ให้ประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้อย่างครบถ้วน เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชนอย่างแท้จริง

11. ขอให้ประกาศยกเลิกโครงการที่ใช้จ่ายเกินตัว และไม่โปร่งใส ที่จะทำให้ชาติล่มจม เช่น โครงการเช่ารถเมล์เอ็นจีวี 4,000 คัน โครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ฯลฯ โดยทันที

12. ยกเลิก พ.ร.บ.ทุนรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. 2542 และใช้การปฏิรูปและพัฒนารัฐวิสาหกิจแทนเพื่อประโยชน์สูงสุดของคนในชาติ และนำเอารัฐวิสาหกิจที่แปรรูปไปแล้วกลับคืนมาเป็นของรัฐดังเดิม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ปตท.

13. ขอให้แสดงจุดยืนที่จะส่งเสริม สนับสนุน ประชาชนในการสร้างการเมืองใหม่ ที่ประชาชนมีส่วนร่วมทางการเมืองเพื่อให้เป็นประชาธิปไตยทางการเมือง เศรษฐกิจ และสังคมอย่างแท้จริง ตามแนวทางของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เพื่อป้องกันมิให้เกิดวิกฤติทางการเมืองในอนาคตอีกต่อไป

พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขอเรียกร้องให้นักการเมืองที่กำลังจะจัดตั้งรัฐบาลได้ตระหนักและคำนึงถึงเจตนารมณ์ของประชาชนและวีรชนผู้เสียสละเพื่อประเทศชาติเป็นสำคัญ มากกว่าการต่อรองเพื่อแย่งชิงผลประโยชน์ระหว่างกลุ่มการเมือง โดยการแสดงจุดยืนและปฏิบัติตามข้อเรียกร้องข้างต้น เพื่อมิให้ประชาชนต้องผิดหวังและหมดศรัทธาการเมืองในระบบปัจจุบันไปมากกว่านี้

ถ้าข้อเรียกร้องและเจตนารมณ์ของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ถูกปฏิเสธ หรือเพิกเฉย เราพร้อมจะดำเนินการเคลื่อนไหวอย่างเหมาะสมกับสถานการณ์ต่อไป

ด้วยจิตคารวะ

พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
วันที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2551

แกนนำพันธมิตรฯ ให้ความเห็นเพิ่มเติม

สมศักดิ์ โกศัยสุข


นี่เป็นจุดยืนของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ทั้งรุ่นที่ 1 รุ่นที่ 2 อย่างเป็นทางการ ฉะนั้นการพูดของผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ที่ไปพูดผ่าน ASTV หรือว่าพูดผ่านสื่อต่างๆ เพื่อที่จะให้พี่น้องเครือข่ายพันธมิตรฯ ได้ทราบว่านี่คือคำแถลงที่เป็นทางการที่สุด ก็ขอให้ยึดถือคำแถลงอันนี้ ถ้ามีประเด็นข้อข้องใจหรือไม่เข้าใจอะไร ก็ได้ซักถาม และเรายืนยันว่า เรายังเดินหน้าที่จะตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐต่อไป เพราะเราเป็นประชาชน เราใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ และจุดยืน หลักการต่างๆ ก็ยังเดินหน้าปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาที่ได้ประกาศไว้ต่อสาธารณะ และต่อสื่อมวลชน เป้าหมายก็เพื่อที่ต้องการเห็นการเมืองใหม่ และก็ต้องการจะเห็นความสมานฉันท์ที่เกิดขึ้นบนพื้นฐานของความถูกต้องและเป็นธรรม ไม่ใช่การประนีประนอมระหว่างถูกกับผิด ชั่วกับดี ขายชาติการปกป้องชาติ อันนี้เป็นสิ่งที่สำคัญ
ดังนั้น ก็อยากจะให้พี่น้องประชาชน สื่อมวลชน และโดยเฉพาะเครือข่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยทุกท่าน ทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ ได้ทราบรายละเอียดอันนี้อย่างชัดเจนตามคำแถลงการณ์ฉบับนี้ครับ

พิภพ ธงไชย

พ่อแม่พี่น้องประชาชน และสื่อมวลชน จุดยืนของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยก็ยังเหมือนเดิม คือการตรวจสอบรัฐบาลที่จะมาบริหารประเทศ ในเรื่องการทุจริตคอร์รัปชั่น และในเรื่องการที่จะป้องกันไม่ให้ระบอบทักษิณกลับคืนมาในการเมืองไทย นอกจากนั้น จุดยืนเดิมก็คือ ในการนำคดีความต่างๆ เกี่ยวกับคุณทักษิณ และนักการเมืองเก่า ให้ดำเนินไปตามกระบวนการยุติธรรม อันนี้ยังเป็นจุดยืนเดิมอยู่ของเรา รวมทั้งการแก้รัฐธรรมนูญที่จะนำไปสู่ ทำให้ระบอบทักษิณกลับคืนมา และทำให้กระบวนการยุติธรรมทำไม่ได้ ปฏิบัติการไม่ได้ อันนี้ก็ยังเป็นจุดยืนเดิมที่ยืนยัน

จุดยืนอันที่ 2 ก็คือภารกิจของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยก็คือการสร้างการเมืองใหม่ ถึงแม้ว่าการเมืองในการเปลี่ยนขั้วครั้งนี้ยังไม่สามารถที่จะเชื่อมั่นได้ว่านำไปสู่การเมืองใหม่ แต่นี่เป็นภารกิจของเราที่จะต้องทำการเมืองให้สะอาดและบริสุทธิ์ ได้นักการเมืองที่สะอาด และมีการสร้างระบบเศรษฐกิจและธุรกิจที่สะอาดขึ้นมา นั่นก็คือการปฏิรูปการเมืองใหม่ จะต้องเป็นภารกิจของพ่อแม่พี่น้องพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย รวมทั้งพ่อแม่พี่น้องของประชาชนชาวไทยทั้งประเทศด้วยครับ

สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์

ผมอยากจะเรียนเป็นการเบื้องต้น 3 ข้อ ข้อแรก ที่มีรายการทางโทรทัศน์ของช่องใดก็ตาม รวมทั้ง ASTV ที่มีแนวร่วมของเราไปออกรายการนั้น เป็นการแสดงความเห็นส่วนตัวนะครับ ไม่ว่าจะเป็นการวิพากษ์วิจารณ์พรรคการเมืองใดทางบวกหรือลบก็ตาม แต่แถลงการณ์ของพันธมิตรฯ 13 ข้อวันนี้ เป็นแถลงการณ์ที่ผ่านการเห็นร่วมของแกนนำพันธมิตรฯ ทั้ง 2 รุ่นเรียบร้อยแล้ว รวมทั้งคุณสนธิ ลิ้มทองกุล ที่ไปต่างประเทศและมีข้อความสำคัญที่ทิ้งไว้ให้พิจารณา

ประการที่ 2 พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยถือว่าการออกแบบทางการเมืองของระบบรัฐสภาที่กำลังเกิดขึ้นในช่วง 5 วันที่ผ่านมา รวมทั้งวันนี้และอีกต่อไปจนถึงวันที่ 15 เป็นอาการดิ้นเฮือกสุดท้ายของการเมืองเก่า การเมืองเก่าที่พยายามตะเกียกตะกาย ชี้ให้สังคมเห็นว่าการเมืองเก่าสามารถดำรงอยู่ได้ แต่เราเห็นว่าการเมืองเก่ากำลังพังทลายลงไปทีละน้อยๆ ไม่ว่าจะมีการออกแบบทางการเมืองอย่างไรก็ตาม โดยเราเชื่ออย่างเต็มที่ว่า การเมืองเก่าจะไปไม่รอด แล้วการเมืองในขณะนี้ก็คือมายาการชั่วคราวของรัฐบาลใหม่ที่จะอยู่ท่ามกลางความไม่พอใจของประชาชน และความไม่พอใจของผู้ที่ดำรงความเป็นธรรม มีมโนธรรมสำนึก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคำนึงถึงระบบคุณค่าและการเสียสละของวีรชนอย่างน้อย 9 คน และคนบาดเจ็บสาหัส และไม่สาหัสอีก 700 กว่าคน เราจะละเลยเจตนารมณ์และอุดมการณ์อันสูงส่งของพี่น้องพันธมิตรฯ ไม่ได้ พันธมิตรฯ ไม่มีโอกาสคิดเป็นอย่างอื่นได้เลยว่า เราจะต่อต้านทุกรัฐบาลที่เข้ามาเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ และไม่คำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติ โดยไม่สังกัดว่าจะเป็นกลุ่มใด พรรคใด

และอันที่ 3 พันธมิตรฯ ส่งสัญญาณถึงพี่น้องประชาชนทั่วประเทศและทั่วโลกว่า การเคลื่อนไหวของเรายังดำรงอยู่นะครับ ไม่ใช่หมดภารกิจแล้ว ทั้ง 13 ข้อจึงเป็นคำเตือนก่อนขึ้นสู่อำนาจ เพราะฉะนั้นพี่น้องประชาชนอย่าได้เหงาหงอยนะครับ อย่าได้หมดอาลัยตายอยาก ยังมีภารกิจที่จะต้องทำอีกทันทีที่รัฐบาลใดก็ตาม ที่เราเรียกว่าดิ้นเฮือกสุดท้ายของพวกเขา ขึ้นมาแล้วกระทำการโดยยึดประโยชน์ส่วนตัวของตนเองและพรรคเป็นตัวตั้ง แล้วไม่จัดการกับระบอบทักษิณ การเคลื่อนไหวของประชาชนก็จะเกิดความชอบธรรมทันที ระบบการจองกฐินผ้าป่าจะเกิดขึ้นอย่างมากมาย ถ้ารัฐบาลชุดใหม่นี้ดำเนินการโดยยึดผลประโยชน์ส่วนตัวและไม่ชำระล้างระบอบทักษิณ

พล.ต.จำลอง ศรีเมือง

ขอแก้ไขข้อผิดพลาดเล็กน้อยครับในแถลงการณ์ที่อ่านไป คือ ข้อความแรกสุดเลย บอกว่า "ตามที่มีพระบรมราชโองการเมื่อวันจันทร์ที่ 11 ธันวาคม" ตัดคำว่า "จันทร์" ออกนะครับ วันที่ 11 ธันวาคม เฉยๆ ส่วนวันจันทร์ที่ 15 ธันวาคม นั้นถูกต้องแล้ว

แกนนำพันธมิตรฯ ตอบคำถาม

ถาม - แถลงเรืองจุดยืนเรื่องคัดค้านนายกฯ ที่เป็นหุ่นเชิด พรรคร่วมฯ แถลงหรือยัง ขอจุดยืนตรงนี้ชัดๆ ได้ไหม

พล.ต.จำลอง ศรีเมือง - หมายถึงว่าอะไรครับ ในนี้ชัดเจนแล้ว

ถาม - หมายถึงว่าทุกพรรคการเมือง หรือกลุ่ม เราจะเคลื่อนไหวอย่างไร หมายถึงว่าตอนนี้มีรวมกลุ่มเนวินด้วย เข้ากับประชาธิปไตย พันธมิตรฯ มีความเห็นอย่างไร รับได้หรือเปล่า

จำลอง - ในนี้บอกไว้ชัดเจนแล้วว่าจะต้องเป็นอย่างไร เราไม่ได้ระบุถึงเรื่องตัวบุคคล

ถาม - อ.สมเกียรติ ครับ ในฐานะที่อยู่พรรคประชาธิปัตย์ ตอนนี้ประชาธิปัตย์กำลังจับมือกับกลุ่มคนที่พันธมิตรฯ เคยกล่าวหาและโจมตีว่าเป็นนักการเมืองแบบเก่า ทุจริต คอร์รัปชั่น อ.สมเกียรติ จะแสดงจุดยืนด้วยการออกมาจากพรรคประชาธิปัตย์ไหม

สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ - เรื่องนี้เป็นเรื่องของประชาธิปัตย์ที่จะตอบคำถาม ผมมาแถลงข่าวในนามพันธมิตรฯ อย่าได้นำมาเจือปนกัน จุดยืนของพันธมิตรฯ ก็คือจุดยืนของพันธมิตรฯ ไม่ใช่พรรคประชาธิปัตย์ พันธมิตรฯ ไม่ใช่อยู่ในโครงครอบของพรรคการเมืองนะ เรามีอิสระพอ

ถาม - แต่ตัวอาจารย์มี 2 สถานภาพ จะเลือกให้ชัดเจนไหมว่าจะมาอยู่กับพันธมิตรฯ เต็มตัว

สมเกียรติ - ผมจะไม่ตอบคำถามแบบนี้นะครับ คำถามแบบนี้ผมรู้ว่าผมอยู่ตรงไหนประโยชน์ประเทศชาติได้มากกว่า ผมจะไม่หลงกลตอบคำถามแบบนี้ แล้วเร็วเกินไปที่ผมจะพูดเรื่องแบบนี้ โดยที่ยังไม่เห็นใครเป็นรัฐบาลเลย โปรดติดตามบทบาทผมต่อไปในรัฐสภา ไม่ใช่มาตอบคำถามง่ายๆ อย่างนี้ว่ายังไม่ทันจัดตั้งใครเป็นเลย มาตอบคำถามแล้ว เร็วเกินไปครับที่จะพูดเรื่องนี้ โปรดติดตามบทบาทผม ผมจะไม่ทรยศต่อประชาชนและประเทศชาติเด็ดขาด ผลประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติ เหนือกว่ากลุ่ม พรรค และนักการเมือง หลักการใหญ่มีแค่นี้ครับ

พล.ต.จำลอง - ทวนอีกทีนะครับสำหรับคำถามแรก คำตอบอยู่ในหน้า 2 ย่อหน้าที่ 3 ประการแรก เราคัดค้านและต่อต้าน ... ในนี้ชัดเจนอยู่แล้วครับ

ถาม - ในส่วนของโผที่ออกมา ทางพันธมิตรฯ มีการพูดคุยกันไหมว่ารับได้หรือไม่ โผ ครม.ชุดใหม่

พล.ต.จำลอง - อีกครั้งหนึ่ง เราไม่ได้คำนึงถึงตัวบุคคลเป็นหลักนะครับ เราคำนึงถึงหลักการ ว่าโดยตลอดมาเราคัดค้านอะไรก็ยังเป็นอย่างเดิม จุดหมายของเรายังไม่เปลี่ยนแปลงนะครับ ส่วนจะเป็นคนนั้นคนนี้ไหม ถ้าพูดไปแล้วจะยาวเกินไป แล้วอีกอย่างเรายังไม่รู้เลยว่าเขาจะลงตัวกันยังไง วันนี้ยังไม่ลงตัวเลย จนกว่าจะถึงวันที่ 15-16-17

ถาม - แต่ถ้าส่วนผสมของรัฐบาล ...

สมศักดิ์ โกศัยสุข - คือตอนนี้ยังไม่รู้ว่าใครจะจัดตั้งรัฐบาล หรือใครจะเป็นฝ่ายไหน กำลังแย่งกันอยู่ ซึ่งเป็นที่ทราบ ฉะนั้นเราพูดถึงหลักการของเราใน 13 ข้อ ส่วนที่พูดนั้นจะเป็นจริง/ไม่จริง เราไม่ใส่ใจ ฉะนั้นใครจะไปใครจะมา แต่ว่านี่คือหลักการที่เราประกาศล่วงหน้าสำหรับวันนี้ครับ

ถาม - ที่บอกว่าข้อเรียกร้อง ถ้าเกิดข้อเรียกร้องและเจตนารมณ์ของพันธมิตรฯ ถูกเพิกเฉย จะเคลื่อนไหวอย่างเหมาะสม การเคลื่อนไหวอย่างเหมาะสมพอจะบอกได้ไหมว่าเป็นยังไง

พล.ต.จำลอง - ได้ครับ ก็เป็นไปอย่างคำตอบเดิมครับ แล้วแต่สถานการณ์ ตอนนี้เราจะไปกำหนดสถานการณ์ไว้ล่วงหน้ามันก็คงจะเป็นเยอะแยะไปหมด พูดวันหนึ่งอาจจะยังไม่จบก็ได้ครับ

ถาม - จะมีการปิดทำเนียบเหมือนครั้งที่ผ่านมา

พล.ต.จำลอง - ก็บอกแล้ว แล้วแต่สถานการณ์นะ คุณจะไปบอกว่าจะอย่างนู้นไหม อย่างนี้ไหม มันไม่ได้หรอกครับ แล้วเรื่องนี้เราไม่ได้พูดกันครั้งแรกคงจำได้ว่าการทำงานของพันธมิตรฯ นั้นทำไปตามสถานการณ์ ทำไปตามความจำเป็น ไม่ใช่นึกอยากจะทำก็ทำ นึกอยากจะกำหนดก็กำหนด มันเลยกำหนดล่วงหน้าไว้ไม่ได้ เพราะสถานการณ์ยังไม่เกิด

ถาม - มีการประเมินไหมเรื่องการโฟนอินของอดีตนายกรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้

พล.ต.จำลอง - เราไม่ได้พูดคุยกันเรื่องนี้เลยครับ

สมศักดิ์ - คือ ไม่ได้ให้ความสำคัญเพราะไม่ใช่สาระสำคัญสำหรับพันธมิตรฯ เก่าๆ ก็เห็นกันอยู่ มันไม่มีอะไร แต่เราจะดูหลังจากที่เขาเสนอว่าใครเป็นนายกฯ แล้วอะไรจะเกิดขึ้น นั่นเป็นสิ่งที่ ให้เหตุการณ์เกิดขึ้นก่อนแล้วเราจึงจะว่าไปตามสถานการณ์ อย่างที่พี่จำลองได้แถลง

สมเกียรติ - ไม่มีการพูดแม้แต่ประโยคเดียวเลยนะโฟนอิน ไม่ให้ราคาเลย เพราะเราได้โค่นล้มไปแล้วระดับหนึ่ง ยืนยันว่าไม่มีใครเปล่งวาจาเรื่องนี้ออกมาเลย เรื่องโฟนอินขี้หมาอะไรเนี่ย ไม่มีใครพูดถึงเลย

ถาม - ถ้าการเมืองที่ได้ หมายถึงรัฐบาลใหม่เป็นแค่การเปลี่ยนขั้วทางการเมือง มันจะผิดกับเจตนารมณ์ที่เราเคลื่อนไหวไหม เราอยากให้มีการเมืองใหม่ พันธมิตรฯ คิดว่ารับได้มากน้อยแค่ไหน

สมศักดิ์ - ก็ต้องดูว่าเขาเปลี่ยนแล้วเขาทำอะไรหรือเปล่า นี่คือข้อเรียกร้อง เรายืนยันที่จะต้องทำเจตจำนงของวีรชนและพี่น้องทุกคนที่มาเสียสละชีวิตเลือดเนื้อเพื่อต่อสู้ เพื่อให้เกิดประโยชน์ในการปกป้องประเทศชาติ และไปสู่การเมืองใหม่ ฉะนั้นดูพฤติกรรมการกระทำของเขาก่อน ประเดี๋ยวจะบอกว่าเขายังไม่ทำอะไรเลยเริ่มพูดเสียแล้ว ให้ดูเขาได้ทำอะไรที่ไม่สอดคล้อง ไม่เหมาะสม มีเหตุผลเพียงพอหรือไม่ในการกระทำใดๆ ซึ่งเราจะใช้วิจารณญาณอย่างรอบคอบที่สุดในการจะเคลื่อนไหว จังหวะก้าว เพื่อให้สอดคล้องและมีเหตุมีผล มีความชอบธรรมอย่างยิ่งถึงจะมีการเคลื่อนไหว

พล.ต.จำลอง - ผมมีเรื่องเพิ่มเติมเล็กน้อยครับ เป็นเรื่องเล็กๆ คือทันทีที่เรายุติการชุมนุมทั้งหมดนั้น มันก็มีของที่เขาบริจาคมาเหลือเยอะแยะเลย ไม่ว่าจะเป็นน้ำดื่ม ไม่ว่าจะเป็นมาม่า ไม่ว่าจะเป็นผ้าห่ม เราต้องรีบขนย้ายทันทีเพื่อชำระสะสางคืนสถานที่โดยเร็ว ตรงไหนว่างเราก็เอาไปวางไว้ก่อน แต่สถานที่ที่เราขนไปนั้น เราไม่ได้เอาไปแจกเขานะครับ เราเอาไปแจกเท่าที่จำเป็นและแจกไปหมดเรียบร้อยแล้ว เราไม่ได้เอาไปกินไปใช้สำหรับตัวเราเองและพวกพ้องเลย ไม่ว่าจะเป็นน้ำดื่ม มาม่า หรือผ้าห่ม อย่างผ้าห่มก็เรากระจายกันไปแจกที่ๆ เขาหนาวมากๆ คือภาคเหนือ ภาคอีสาน หรือน้ำดื่ม เราก็บอกโรงเรียน กทม.ว่าเยอะแยะเหลือเกิน ขนเท่าไรขนไปเถอะ เอาไปแจกให้เด็กนักเรียน กทม. หรือมาม่าก็เช่นกันครับ เราก็ไปแจกให้เด็กยากจน แล้วก็บริเวณที่เขาถูกน้ำท่วม เลยต้องขอชี้แจง แม้จะเป็นเรื่องประเด็นปลีกย่อยก็ตาม เพราะหลายคนสงสัยว่าเอาไปไหนกัน

พิภพ ธงไชย - เพิ่มเติมจากท่าน พล.ต.จำลอง นิดหนึ่งว่า สิ่งของต่างๆ ที่ท่าน พล.ต.จำลอง ได้เอ่ยถึง เราได้ส่งไปยังมูลนิธิต่างๆ เช่น ผ้าห่ม ก็ส่งไปโรงเรียนหมู่บ้านเด็กส่วนหนึ่ง จากสันติอโศก กับมาม่าส่วนหนึ่งก็ส่งไปที่โรงเรียนหมู่บ้านเด็ก และยังจะมีมูลนิธิต่างๆ เราก็จะส่งต่อไปอีก ในจุดที่ขาดแคลน ก็รับรองว่า น้ำ สิ่งของ เครื่องใช้ต่างๆ ที่เราขนออกจากทำเนียบรัฐบาลที่มาจากการบริจาคของประชาชน เมื่อเสร็จภารกิจของการชุมนุมแล้ว เราก็จะบริจาคต่อไปยังผู้ที่ยากไร้ ผู้ที่เดือดร้อน ผู้ที่ยากจน ผ่านองค์กรต่างๆ ครับ

ถาม - ช่วงนี้มีพี่น้องประชาชนที่ร่วมสนับสนุนพันธมิตรฯ มาโดยตลอด อยากให้พันธมิตรฯ จัดตั้งพรรคการเมืองขึ้นมาเพื่อจะได้ผลักดันการเมืองใหม่ อันนี้พันธมิตรฯ ได้มีท่าทียังไงไหม

พล.ต.จำลอง - เราได้มีการประชุมปรึกษาหารือกันว่า ในชั้นนี้เราขอเป็นแต่เพียงแค่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เพราะว่าสามารถที่จะมีการแก้ไขปัญหาวิกฤตของชาติได้ แม้เป็นพรรคการเมืองใหญ่เท่าไรก็ยังไม่สามารถแก้ไขได้ ส่วนจะเป็นเรื่องพรรคการเมือง ใครจะตั้งอะไรขึ้นมานั้น เราขอพิจารณาดูไปอีกทีนะครับ ตัวของพวกเรานั้นเรายังไม่ได้มีอะไรที่ว่าเราจะต้องตั้งเป็นพรรคการเมืองในขณะนี้นะครับ

ถาม - หากว่าประชาธิปัตย์ขึ้นมาเป็นแกนนำ แล้วก็กลายเป็นรัฐบาล มีคุณอภิสิทธิ์เป็นนายกฯ คิดว่าจะมีส่วนช่วยประนีประนอมเรื่องคดีความที่จะมีพันธมิตรฯ ไหม

พล.ต.จำลอง - เรื่องคดีความเรายังไม่ได้เอามาพูดถึงว่าจะต้องมาช่วยเราในการประนีประนอมอะไรนะ เราพิจารณาได้ว่า ตอนนี้เรามีจุดยืนว่ายังไงบ้าง ก็อย่างที่บอกไปแล้ว แค่นี้ก็มีตั้ง 13 ข้อแล้วนะครับ

ถาม - การที่การเมืองเปลี่ยนขั้ว พันธมิตรฯ คิดว่าเครดิตส่วนใหญ่มาจากพันธมิตรฯ ไหม มาจากการชุมนุมของเรา ที่ในที่สุดแล้วช่วยผลักดันให้พรรคประชาธิปัตย์ขึ้นมาเป็นรัฐบาล

พล.ต.จำลอง - เราไม่ได้ตั้งพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยมาเพื่อสนับสนุนพรรคใด บอกมาตั้งแต่ต้นแล้วนะครับ และผลที่เกิดขึ้นในวันนี้ทุกคนก็ทราบนะครับว่า เป็นผลมาจากที่เราทำตามวัตถุประสงค์ของการชุมนุม ใช่หรือไม่ คือประการแรก คือการคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับปี 2550 ถ้าเราไม่ออกมาคัดค้านป่านนี้เสร็จไปเรียบร้อยแล้ว แล้วศาลที่ออกมาพิจารณาพิพากษาคดีต่างๆ ที่ทำให้นายกฯ 2 คนต้องออกไป ไม่มีโอกาสจะพิจารณาหรอก ถูกล้มไปแล้วโดยการแก้ไขรัฐธรรมนูญ อย่างนี้ก็เห็นชัดนะครับว่า ทั้งกระบวนการยุติธรรม และพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ไม่ได้จับมือกันเพื่อจะดำเนินการ แต่ต่างคนต่างทำหน้าที่ เราก็ทำหน้าที่ของเราในการคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ จากการที่เราคัดค้านเป็นผลสำเร็จ ทำให้ศาลยังคงอยู่ มิเช่นนั้นศาลก็ถูกล้มไปหมดแล้ว กระบวนการยุติธรรมต่างๆ และถ้าศาลไม่ออกมาพิพากษาพิจารณาคดีอย่างที่เป็นไปแล้ว นายกฯ เขาก็ยังไม่ออก เป็นการทำงานตามหน้าที่ของ 2 กระบวนการ ซึ่งไม่ได้ตกลง ไม่ได้ปรึกษาหารือกัน แต่ทำไปตามหน้าที่แล้วผลมันออกมา คือสามารถแก้ไขวิกฤตของชาติได้

สมศักดิ์ - ยืนยันนะครับว่าพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ไม่ใช่เป็นเครื่องมือของพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง แต่เราเป็นเครื่องมือของประเทศชาติ ในการที่จะเสียสละเพื่อทำหน้าที่พลเมืองตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 70 ที่บัญญัติว่าบุคคลมีหน้าที่พิทักษ์รักษาไว้ซึ่งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และเราก็ไม่ชอบ เกลียด คนที่โกง ทุจริต คอร์รัปชั่น ขายชาติ ฉะนั้นเราทำหน้าที่ของพลเมือง พันธมิตรฯ ทำหน้าที่ของพลเมืองของประเทศ ตามรัฐธรรมนูญ ส่วนผลที่มันออกมานั้นก็เป็นเรื่องของพรรคการเมืองในสภา ซึ่งเราก็ยังมองว่ามันเป็นแบบเก่าๆ แต่ว่านี่คือเป็นเหตุให้วันนี้ต้องออกมาแถลงการณ์ฉบับที่ 29 เพื่อยืนยันเจตนารมณ์ว่า ใครจะไป ใครจะมา เรายังทำหน้าที่ตรวจสอบกันต่อไป เพราะใน 2 ประเด็น รัฐธรรมนูญไม่แก้ หยุดไปชั่วคราว รัฐบาลที่เราขับไล่ได้ออกไป ดังนั้นช่วงต่อไปก็คือ ดูว่ารัฐบาลใหม่จะเป็นพรรคอะไรก็ตาม ที่ไม่ใช่พรรคหุ่นเชิดของระบบทักษิณนั้น คุณมาทำหน้าที่สอดคล้องตามเจตจำนงของประชาชนหรือไม่ รักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติและสถาบันที่สำคัญหรือไม่ ถ้าไม่ใช่ เราก็ต้องเคลื่อนไหวต่อสู้ต่อไปอย่างแน่นอน ฉะนั้นไม่เกี่ยวข้องกับพรรคการเมืองใดทั้งสิ้น

พล.ต.จำลอง - ที่เราสามารถทำหน้าที่ของเรามาได้ ส่วนหนึ่งต้องขอขอบคุณสื่อนะครับ ไม่ว่าจะเป็นโทรทัศน์ วิทยุ หนังสือพิมพ์ก็ตาม ที่ช่วยเผยแพร่ข่าวสารต่างๆ ให้ประชาชนได้ทราบ ทำให้ประชาชนมาร่วมมือกับเรา เราจึงสามารถทำหน้าที่นี้ได้

ถาม - เรื่องผู้เสียชีวิตที่ดอนเมือง ตกลงว่าเป็นการ์ดพันธมิตรฯ หรือเปล่า

สุริยะใส กตะศิลา - เรื่องนี้ผมประสานตำรวจอยู่ครับ ทั้งเรื่องคดีทั้งหมด ก็ปล่อยให้กระบวนการพิสูจน์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าไปก่อน แต่ว่าเท่าที่ผมตรวจสอบจากคนที่ดูแลที่ดอนเมืองในช่วงชุมนุม ไม่ทราบนะครับ แล้วก็ไม่รู้เรื่องนี้ ไม่รู้ว่ามาได้ยังไง แต่ก็ต้องรอชันสูตรศพและตรวจดีเอ็นเอผู้ตายว่าเป็นใคร แต่เท่าที่ตรวจสอบการ์ดอาสา น้องๆ ที่ดูแลความปลอดภัย ไม่มีคนของเราสูญหายไป อยู่ครบทุกคน

สมศักดิ์ - คือ ที่ดอนเมืองตอนเราเลิก เราก็มีจัดระบบเป็นหมวดเป็นหมู่ ในฐานะที่ผมดูอยู่ที่นั่น เราคิดว่าไม่ใช่แน่นอนนะครับ แล้วก็ไม่รู้ เพราะมันอยู่นอกออกไปจากเขตพื้นที่ แล้วการที่มารายงานเป็นกลุ่มเป็นก้อน การ์ดอาสาเราทั้งหมดประมาณพันกว่าคน ก็มาครบถ้วนทุกคนนะ

พล.ต.จำลอง - ตอนนี้มีหลายคนเสนอมาว่า เมื่อเรายุติแล้ว เราก็ไม่ได้เจอหน้าเจอตากันเลย ก็เลยมีการพูดกันว่า ถ้าอย่างนั้นเดือนหนึ่งเจอกันสักครั้งดีไหม ทางพวกเรากำลังวางแผนกันอยู่นะครับว่าจะเป็นที่ใหญ่ๆ ที่เราไปพบปะปรึกษาหารือกัน พูดจาบนเวที มีการบันเทิงแทรกมาบ้างเล็กน้อย ก็อาจจะเป็นไปได้นะครับ ตอนนี้เป็นเพียงข้อหารือ ข้อเสนอมา เป็นแนวคิดหนึ่ง

ถาม - ค่าเสียหาย ชี้แจงได้ไหมว่าชดใช้อย่างไร

พล.ต.จำลอง - ค่าเสียหายก็แล้วแต่ศาลท่านจะพิจารณาครับ เพราะว่าเราจะต้องเคารพศาล ศาลท่านพิจารณาตัดสินใจอย่างไรเราก็ต้องทำตามนั้นล่ะครับ นี่เป็นเรื่องของกระบวนการพิจารณาในศาลทั้งสิ้น และตอนนี้ตัวเราเองก็ไม่ทราบว่าที่อ้างๆ กันขึ้นมาน่ะ ส่วนใหญ่ยกเมฆกันทั้งนั้นล่ะครับ ทำให้ดูน่ากลัวว่าเราไปทำให้ตรงโน้นเสีย ทำให้ตรงนี้ต้องชำรุดทรุดโทรมไป ต้องเสียค่าเสียหายเป็นหมื่นๆ ล้าน

สมเกียรติ - แกนนำพันธมิตรฯ จะไม่หนีไปต่างประเทศครับ จะสู้ในศาล เชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม ไม่เป็นผู้นำตาขาวออกไป

สมศักดิ์ - ค่าเสียหายประเด็นอะไรครับ เรื่องสนามบินดอนเมือง เขาก็ปิดกันเอง เราไม่ได้ไปปิดเลยนะ เครื่องบินขึ้น-ลงได้ตลอดเวลา เราแค่ไปยืนอยู่ข้างนอก ซึ่งไม่เกี่ยวกับสัญญาณการบิน

ถาม - ที่ทำเนียบฯ ของหายเยอะ จะเยียวยาเขาอย่างไร

พล.ต.จำลอง - เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรมนะครับ เพราะว่าตอนที่เราจะออกเรามีคณะกรรมการของเราที่ไปตรวจพร้อมกับองค์กรกลาง ก็ตรวจไปแล้ว วันหลังมาก็มีไอ้โน่น ไอ้นี่ ถึงขนาดจ้าง ไม่ใช่จ้าง ถึงขนาดให้ประดาน้ำไปงมในคลอง ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องเพิ่มเติมขึ้นมา ซึ่งดูแล้วเป็นเรื่องน่าขำ ไม่ใช่เรื่องจริงจังอะไรเลย ดังนั้นทั้งหมดนี้คำตอบก็คือ แล้วแต่กระบวนการยุติธรรม เมื่อมีการฟ้องร้อง เมื่อมีการพิจารณาในศาล แล้วศาลท่านจะกรุณาตัดสินเป็นประการใดก็สุดแท้แต่ เราพร้อมที่จะรับคำตัดสินทั้งสิ้น เพราะเราไม่ได้ทำ

ถาม - เรื่องอาวุธร้ายแรง

พล.ต.จำลอง - ทั้งหมดครับ ทั้งหมดนี้อยู่ในกระบวนการยุติธรรมทั้งสิ้น

ถาม - มันขัดแย้งกับแนวทางการต่อสู้ของพันธมิตรฯ ไหม

พล.ต.จำลอง - ขัดแย้งแน่นอนครับ เพราะเราบอกไปแล้ว คุณก็ได้ยินนะครับ เราถึงขนาดบอกไว้ว่า ประชาชนที่มาชุมนุม คุณลองคิดดู วันนั้นคงจำได้นะครับที่ผมขึ้นเวทีแล้วผมตอบคำถามเขา ที่รู้สึกว่าเขาอึดอัดขัดเคืองมาก ผู้ที่มาชุมนุม ผมบอกว่า ลองคิดดูถ้าเรามีอาวุธแล้วอะไรมันจะเกิดขึ้น เราสามารถบอกไปได้ เดี๋ยวแม่ยกก็ซื้อปืนที่ถูกต้องตามกฎหมาย เช่น ปืนลูกซอง มาให้เรา เราก็มีคนละกระบอกแล้วเราก็ไปซัดกับตำรวจ ซัดกันไปซัดกันมาก็ตายกันทั้งสองฝ่าย ผมถามว่าแล้วอะไรมันดีขึ้น สู้เราทำอย่างที่เราทำไม่ดีกว่าหรือ ชุมนุมโดยไม่มีอาวุธ แล้วเราก็ยกตัวอย่างประวัติศาสตร์โลกว่า เขาได้มีการทำอย่างนี้มาแล้วเป็นผลสำเร็จ และคราวนี้ก็สำเร็จเพราะเรื่องนี้นะครับ เราไม่ได้ให้มีอาวุธนะครับ ส่วนใครจะมีอาวุธ ใครจะสะสมมาก็ว่ากันไปตามกระบวนการยุติธรรม ซึ่งเราไม่ได้มีการสนับสนุน ไม่ได้เป็นนโยบายของเราแต่อย่างใดเลยครับ

สมศักดิ์ - เราประกาศชัดเจนนะครับ ว่าทุกคนมีอาวุธไม่ได้ และต้องตรวจค้นกันอย่างเข้มงวด คณะกรรมการก็ตรวจสอบวันก่อนแล้ว แต่พอตำรวจเข้าไปก็มีอาวุธขึ้นมา ก็คงจะเป็นการไปขนมาเองหรือเปล่า เพราะเคยกลั่นแกล้งแม้กระทั่งน้องโบว์ยังบอกว่ามีอาวุธ พกระเบิด แล้วก็ตี๋ ขนาดขาขาดยังบอกว่าขว้างระเบิด เพราะพวกนี้ชอบบิดเบือนนะครับ ใส่ความผู้อื่น แม้กระทั่งกล่าวหาว่าเป็นผู้ก่อการร้าย ไปยึดสนามบิน ซึ่งเป็นเรื่องที่เหลวไหลนะ ไอ้พวกนี้เราก็จะดำเนินคดีฟ้องกลับอยู่เหมือนกัน ฉะนั้นเรื่องอาวุธเรายังยืนยันชัดเจนว่าชุมนุมของเราไม่มีอาวุธ ต้องไปถามคนที่เอา M79 มายิงพวกเรา อย่างนี้น่าจะถามเรื่องนี้มากๆ เลย ยิงไม่รู้กี่ครั้ง

ถาม - การปิดสนามบินสุวรรณภูมิทำให้เกิดปัญหาทางเศรษฐกิจสูง ได้ทบทวนบ้างไหมว่า

พล.ต.จำลอง - ทบทวนก็คือว่า ถ้าแม้มีการเสียหายจริง ยังน้อยกว่าปล่อยให้เหตุการณ์มันเกิดขึ้นแล้วเราไม่ไปชุมนุมกัน อันนี้ยืนยันเลยครับ เป็นตัวเลขก็ได้

ถาม - ขอถามคำถามให้จบหน่อยว่าเราจะทบทวนไหมว่าการเคลื่อนไหวในอนาคตเราจะใช้วิธีปิดสนามบินอยู่หรือเปล่า หรือคิดว่าเราจะไม่ทำแล้ว

พล.ต.จำลอง - เท่าที่เราทำมานี่บอกไปแล้วนะครับ เราทำตามเหตุผลนะครับ ไม่ใช่ทำตามใจ ทำตามความสะใจ สะใจที่ได้ทำอย่างนี้ก็ทำ ไม่ใช่ เราคิดหมดครับทุกแง่ทุกมุม มิฉะนั้นเราจะออกมาจากบ้านทำไม มานอนกลางดินกินกลางทรายตั้ง 193 วัน

สมศักดิ์ - เราไม่ได้ปิดสนามบินนะ ไปดูสิว่าใครปิดสนามบิน เราไม่มีสิทธิ์จะไปปิดสนามบิน อย่าไปใช้ว่าพันธมิตรฯ ปิดสนามบิน



  พล.ต.จำลอง ศรีเมือง
สมศักดิ์ โกศัยสุข
สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์
พิภพ ธงไชย
สุริยะใส กตะศิลา
กำลังโหลดความคิดเห็น