ชัยชนะของการเลือกตั้งซ่อมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 29 เขตทั่วประเทศ และการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นชัยชนะที่บอกให้รู้ว่าประชาชนที่มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้ง ต้องการบอกนักการเมืองทั้งหลายทั้งฝ่ายรัฐบาล และฝ่ายค้านว่า “พอได้แล้ว” สำหรับการทำร้ายประเทศชาติและประชาชนในรอบ 1 ปีที่ผ่านมาของรัฐบาลหุ่น นายสมัคร สุนทรเวช และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์
ถึงเวลาที่จะต้องใส่ใจต่อปัญหาของประเทศชาติ และประชาชนเสียที การเคลื่อนไหวเพื่อคนคนเดียวคือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ตลอดเวลาที่ผ่านมานั้นพอได้แล้ว
ขณะเดียวกัน ผลของการเลือกตั้งก็เป็นสัญญาณเตือนให้พรรคประชาธิปัตย์พรรคซึ่งเป็นแกนนำของรัฐบาล ขณะนี้ได้ตระหนักว่า ประชาชนเข้าใจให้กับพรรคประชาธิปัตย์เพื่อให้พรรคประชาธิปัตย์ มาแก้ไขปัญหาของประเทศเอารัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช รัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นบทเรียนอันสำคัญโดยไม่เดินตามรอยของรัฐบาลเลวๆ ทั้งสองนั้นเป็นอันขาด นั่นก็คือ รับฟังเสียงของประชาชน ไม่ดูถูกดูแคลนประชาชน
ประชาชนบอกแล้วว่า อย่าแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อให้ตัวพ้นผิด คือ การถูกยุบพรรค ถูกตัดสิทธิทางการเมือง และอย่าแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และครอบครัวพ้นผิด
แล้วเป็นยังไง 1 ปีของรัฐบาลสมัคร รัฐบาลสมชาย จ้องแต่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อตัวเอง และเพื่อพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
ประชาชนเรือนหมื่นเรือนแสน จึงได้ออกมาต่อต้าน
รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ซึ่งมีพรรคประชาธิปัตย์เป็นแกนนำค่อนข้างจะโชคดี เพราะประชาชนเบื่อหน่าย เอือมระอารัฐบาลนายสมัคร นายสมชาย มาแล้ว จึงได้ทำใจให้โอกาสรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ดูบ้าง
ทั้งที่คณะรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หน้าตาก็ไม่ได้แตกต่างไปจากรัฐบาลสมัคร รัฐบาลสมชายแต่อย่างใด บางกระทรวงจะเลวร้ายกว่าเสียด้วยซ้ำ
บางคนร่ำรวยเพราะบรรพบุรุษทำธุรกิจค้าน้ำกามแล้วก็มาเล่นการเมือง อย่าว่าแต่จะเอามาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสำคัญๆ เลย แค่การคบค้าสมาคมหรือเอามาเป็นสมาชิกพรรคก็ไม่สมควรทำ บางคนต้องให้ตำแหน่งรัฐมนตรีเพราะเป็นเมียน้อยของบุคคลที่มีอิทธิพลพอที่จะสั่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรยกมือสนับสนุน ฯลฯ
นี่ก็เป็นเรื่องเหลือจะรับแล้ว แต่ก็ยอมรับด้วยคิดว่า บุคลิกท่วงท่าตลอดจนความเป็นผู้นำของคนที่เป็นนายกรัฐมนตรีอย่างนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะช่วยกลบปมด้อยอันอัปลักษณ์อัปภาคย์ของรัฐบาลนี้ได้
แต่ก็นั่นแหละครับ ความอดทนอดกลั้นของประชาชน ย่อมมีขีดจำกัด
รักมาก เทใจให้มาก ถ้าหากผิดหวัง ก็อาจจะเกลียดเอามากๆ และถ้าเป็นจังหวะของการเกลียดในช่วงที่มีการเลือกตั้งทั่วไป มิใช่ 20-30 เขตอย่างการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ พรรคประชาธิปัตย์ก็จะน้ำตาตกใน
อะไรที่จะทำให้ประชาชนผิดหวัง?
ไม่ต้องไปดูอื่นไกลหรอกครับ เอางานที่พรรคประชาธิปัตย์ทำมาตลอดเวลาของการเป็นฝ่ายค้านในช่วงที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีมาถึงนายสมัคร สุนทรเวช นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ก็พอ
ประชาชนทั้งหลายรู้ว่า มีการคอร์รัปชัน มีการแสวงหาประโยชน์กันอย่างมากมายมหาศาลในสนามบินแห่งใหม่คือ สนามบินสุวรรณภูมิ มิใช่หรือ การซื้อเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิดซีทีเอ็กซ์ 9000 ที่รัฐบาลจ่ายเงินไปเป็นพันล้าน โดยที่ยังไม่ได้เห็นแม้กระทั่งนอตสักตัวเดียว เป็นผลงานการอภิปรายไม่ไว้วางใจของพรรคประชาธิปัตย์ต่อรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณมิใช่หรือ
เป็นผลงานที่ทำให้นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ กระเด็นไปจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
เป็นผลงานที่ คตส.ทำเอาไว้เกือบจะสมบูรณ์แล้วสั่งให้ ป.ป.ช.สานต่อ แต่บังเอิญว่า กรรมการ ป.ป.ช.บางคนที่ คมช.แต่งตั้งเอาไว้มันเลว มันชั่ว มันเก็บเรื่อง มันประวิงเวลาเอาไว้ มิเช่นนั้นเรื่องก็ถึงศาลสถิตยุติธรรมไปแล้ว มิใช่หรือ
และถ้าเรื่องถึงศาล แน่นอนหนึ่งในจำนวนผู้ถูกกล่าวหาคือ นายศรีสุข จันทรางศุ อดีตปลัดกระทรวงคมนาคม ย่อมเป็นหนึ่งในจำนวนนั้น
เรื่องอย่างนี้เชื่อว่าพรรคประชาธิปัตย์ สมาชิกคนสำคัญๆ ของพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ว่าจะเป็นนายอาคม เอ่งฉ้วน นายถาวร เสนเนียม นายอลงกรณ์ พลบุตร นายเกียรติ สิทธิอมร นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ย่อมรู้ดี
แต่ไฉนมาวันนี้ กระทรวงคมนาคมโดยนายโสภณ ซารัมย์ สามล้อถูกหวยจึงได้แต่งตั้งเขามาเป็นประธานคณะทำงานพัฒนาการขนส่งทางอากาศ
พรรคประชาธิปัตย์ซึ่งเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ปล่อยให้เรื่องอย่างนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร
ความจริงแล้ว พรรคประชาธิปัตย์ไม่ควรปล่อยตั้งแต่ตอนที่นายโสภณ ซารัมย์ นั่งสามล้อหลงทางมานั่งเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเสียด้วยซ้ำ แต่ความที่อยากจะเป็นรัฐบาล อยากจะรับใช้ประเทศชาติ อยากจะรับใช้ประชาชน
ตรงนี้ก็พอจะเข้าใจพรรคประชาธิปัตย์แต่ดังได้กล่าวแล้วว่า ถ้าหากพรรคประชาธิปัตย์ยอมทุกเรื่อง ทุกประเด็น ประชาชนก็จะขาดความไว้วางใจพรรคประชาธิปัตย์
แน่นอนนายศรีสุข จันทรางศุ เก่งในด้านคมนาคม จะไม่เก่งอย่างไรเล่า นายศิริลักษณ์ จันทรางศุ ผู้พ่อซึ่งเป็นปลัดกระทรวงคมนาคม ปูทางเอาไว้ให้ลูกเดิน จนกระทั่งมาเป็นปลัดกระทรวงเช่นเดียวกับผู้เป็นพ่อ
เรื่องขนส่งทางอากาศหรือก็เคยเป็นอธิบดีกรมการบินพาณิชย์มาก่อนหนโน้น ศูนย์ฝึกบินพลเรือน ซื้อเครื่องฝึกบินจำลองมาใช้ (ที่หัวหิน) เจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบมีความเห็นว่า เครื่องฝึกบินที่ซื้อมาผิดสเปก จะไม่ยอมรับ
ก็ได้นายศรีสุข จันทรางศุ คนนี้นี่แหละ เซ็นคำสั่งให้รับเสียดีๆ
คนที่ทำงานตั้งแต่หัวหน้ากองขึ้นมาจนถึงปลัดกระทรวง ผ่านงานสำคัญๆ มามากมาย ไม่ว่าจะเป็นการสร้างสนามบินหนองงูเห่า (สุวรรณภูมิ) ซึ่งมีตำนานมากมายตั้งแต่การถมทรายจนกระทั่งสร้างอาคาร สร้างรันเวย์ ซื้อเครื่องตรวจวัตถุระเบิดซีทีเอ็กซ์ 9000 สร้างแอร์พอร์ตลิงค์ ฯลฯ
นายโสภณ บอกว่า ต้องเอาคนเก่ง ส่วนข้อครหาก่อนหน้าให้ดำเนินการไปตามกระบวนการ
กระบวนการอะไรครับ
กระบวนการ ป.ป.ช.ที่เอ้อระเหยลอยชายดองเรื่องไว้เป็นร้อยเป็นพันเรื่อง
กระบวนการที่มีอัยการสูงสุด เป็นหนึ่งในจำนวนผู้ถูกกล่าวหา แล้วก็หยุดอยู่แค่นี้
อย่างนี้ละหรือ?
ถึงเวลาที่จะต้องใส่ใจต่อปัญหาของประเทศชาติ และประชาชนเสียที การเคลื่อนไหวเพื่อคนคนเดียวคือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ตลอดเวลาที่ผ่านมานั้นพอได้แล้ว
ขณะเดียวกัน ผลของการเลือกตั้งก็เป็นสัญญาณเตือนให้พรรคประชาธิปัตย์พรรคซึ่งเป็นแกนนำของรัฐบาล ขณะนี้ได้ตระหนักว่า ประชาชนเข้าใจให้กับพรรคประชาธิปัตย์เพื่อให้พรรคประชาธิปัตย์ มาแก้ไขปัญหาของประเทศเอารัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช รัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นบทเรียนอันสำคัญโดยไม่เดินตามรอยของรัฐบาลเลวๆ ทั้งสองนั้นเป็นอันขาด นั่นก็คือ รับฟังเสียงของประชาชน ไม่ดูถูกดูแคลนประชาชน
ประชาชนบอกแล้วว่า อย่าแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อให้ตัวพ้นผิด คือ การถูกยุบพรรค ถูกตัดสิทธิทางการเมือง และอย่าแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และครอบครัวพ้นผิด
แล้วเป็นยังไง 1 ปีของรัฐบาลสมัคร รัฐบาลสมชาย จ้องแต่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อตัวเอง และเพื่อพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
ประชาชนเรือนหมื่นเรือนแสน จึงได้ออกมาต่อต้าน
รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ซึ่งมีพรรคประชาธิปัตย์เป็นแกนนำค่อนข้างจะโชคดี เพราะประชาชนเบื่อหน่าย เอือมระอารัฐบาลนายสมัคร นายสมชาย มาแล้ว จึงได้ทำใจให้โอกาสรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ดูบ้าง
ทั้งที่คณะรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หน้าตาก็ไม่ได้แตกต่างไปจากรัฐบาลสมัคร รัฐบาลสมชายแต่อย่างใด บางกระทรวงจะเลวร้ายกว่าเสียด้วยซ้ำ
บางคนร่ำรวยเพราะบรรพบุรุษทำธุรกิจค้าน้ำกามแล้วก็มาเล่นการเมือง อย่าว่าแต่จะเอามาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสำคัญๆ เลย แค่การคบค้าสมาคมหรือเอามาเป็นสมาชิกพรรคก็ไม่สมควรทำ บางคนต้องให้ตำแหน่งรัฐมนตรีเพราะเป็นเมียน้อยของบุคคลที่มีอิทธิพลพอที่จะสั่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรยกมือสนับสนุน ฯลฯ
นี่ก็เป็นเรื่องเหลือจะรับแล้ว แต่ก็ยอมรับด้วยคิดว่า บุคลิกท่วงท่าตลอดจนความเป็นผู้นำของคนที่เป็นนายกรัฐมนตรีอย่างนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะช่วยกลบปมด้อยอันอัปลักษณ์อัปภาคย์ของรัฐบาลนี้ได้
แต่ก็นั่นแหละครับ ความอดทนอดกลั้นของประชาชน ย่อมมีขีดจำกัด
รักมาก เทใจให้มาก ถ้าหากผิดหวัง ก็อาจจะเกลียดเอามากๆ และถ้าเป็นจังหวะของการเกลียดในช่วงที่มีการเลือกตั้งทั่วไป มิใช่ 20-30 เขตอย่างการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ พรรคประชาธิปัตย์ก็จะน้ำตาตกใน
อะไรที่จะทำให้ประชาชนผิดหวัง?
ไม่ต้องไปดูอื่นไกลหรอกครับ เอางานที่พรรคประชาธิปัตย์ทำมาตลอดเวลาของการเป็นฝ่ายค้านในช่วงที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีมาถึงนายสมัคร สุนทรเวช นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ก็พอ
ประชาชนทั้งหลายรู้ว่า มีการคอร์รัปชัน มีการแสวงหาประโยชน์กันอย่างมากมายมหาศาลในสนามบินแห่งใหม่คือ สนามบินสุวรรณภูมิ มิใช่หรือ การซื้อเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิดซีทีเอ็กซ์ 9000 ที่รัฐบาลจ่ายเงินไปเป็นพันล้าน โดยที่ยังไม่ได้เห็นแม้กระทั่งนอตสักตัวเดียว เป็นผลงานการอภิปรายไม่ไว้วางใจของพรรคประชาธิปัตย์ต่อรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณมิใช่หรือ
เป็นผลงานที่ทำให้นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ กระเด็นไปจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
เป็นผลงานที่ คตส.ทำเอาไว้เกือบจะสมบูรณ์แล้วสั่งให้ ป.ป.ช.สานต่อ แต่บังเอิญว่า กรรมการ ป.ป.ช.บางคนที่ คมช.แต่งตั้งเอาไว้มันเลว มันชั่ว มันเก็บเรื่อง มันประวิงเวลาเอาไว้ มิเช่นนั้นเรื่องก็ถึงศาลสถิตยุติธรรมไปแล้ว มิใช่หรือ
และถ้าเรื่องถึงศาล แน่นอนหนึ่งในจำนวนผู้ถูกกล่าวหาคือ นายศรีสุข จันทรางศุ อดีตปลัดกระทรวงคมนาคม ย่อมเป็นหนึ่งในจำนวนนั้น
เรื่องอย่างนี้เชื่อว่าพรรคประชาธิปัตย์ สมาชิกคนสำคัญๆ ของพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ว่าจะเป็นนายอาคม เอ่งฉ้วน นายถาวร เสนเนียม นายอลงกรณ์ พลบุตร นายเกียรติ สิทธิอมร นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ย่อมรู้ดี
แต่ไฉนมาวันนี้ กระทรวงคมนาคมโดยนายโสภณ ซารัมย์ สามล้อถูกหวยจึงได้แต่งตั้งเขามาเป็นประธานคณะทำงานพัฒนาการขนส่งทางอากาศ
พรรคประชาธิปัตย์ซึ่งเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ปล่อยให้เรื่องอย่างนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร
ความจริงแล้ว พรรคประชาธิปัตย์ไม่ควรปล่อยตั้งแต่ตอนที่นายโสภณ ซารัมย์ นั่งสามล้อหลงทางมานั่งเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเสียด้วยซ้ำ แต่ความที่อยากจะเป็นรัฐบาล อยากจะรับใช้ประเทศชาติ อยากจะรับใช้ประชาชน
ตรงนี้ก็พอจะเข้าใจพรรคประชาธิปัตย์แต่ดังได้กล่าวแล้วว่า ถ้าหากพรรคประชาธิปัตย์ยอมทุกเรื่อง ทุกประเด็น ประชาชนก็จะขาดความไว้วางใจพรรคประชาธิปัตย์
แน่นอนนายศรีสุข จันทรางศุ เก่งในด้านคมนาคม จะไม่เก่งอย่างไรเล่า นายศิริลักษณ์ จันทรางศุ ผู้พ่อซึ่งเป็นปลัดกระทรวงคมนาคม ปูทางเอาไว้ให้ลูกเดิน จนกระทั่งมาเป็นปลัดกระทรวงเช่นเดียวกับผู้เป็นพ่อ
เรื่องขนส่งทางอากาศหรือก็เคยเป็นอธิบดีกรมการบินพาณิชย์มาก่อนหนโน้น ศูนย์ฝึกบินพลเรือน ซื้อเครื่องฝึกบินจำลองมาใช้ (ที่หัวหิน) เจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบมีความเห็นว่า เครื่องฝึกบินที่ซื้อมาผิดสเปก จะไม่ยอมรับ
ก็ได้นายศรีสุข จันทรางศุ คนนี้นี่แหละ เซ็นคำสั่งให้รับเสียดีๆ
คนที่ทำงานตั้งแต่หัวหน้ากองขึ้นมาจนถึงปลัดกระทรวง ผ่านงานสำคัญๆ มามากมาย ไม่ว่าจะเป็นการสร้างสนามบินหนองงูเห่า (สุวรรณภูมิ) ซึ่งมีตำนานมากมายตั้งแต่การถมทรายจนกระทั่งสร้างอาคาร สร้างรันเวย์ ซื้อเครื่องตรวจวัตถุระเบิดซีทีเอ็กซ์ 9000 สร้างแอร์พอร์ตลิงค์ ฯลฯ
นายโสภณ บอกว่า ต้องเอาคนเก่ง ส่วนข้อครหาก่อนหน้าให้ดำเนินการไปตามกระบวนการ
กระบวนการอะไรครับ
กระบวนการ ป.ป.ช.ที่เอ้อระเหยลอยชายดองเรื่องไว้เป็นร้อยเป็นพันเรื่อง
กระบวนการที่มีอัยการสูงสุด เป็นหนึ่งในจำนวนผู้ถูกกล่าวหา แล้วก็หยุดอยู่แค่นี้
อย่างนี้ละหรือ?
